Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
26 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 

ละครน้ำเน่า ก็ยังคง อยู่ ตามเคย

เขียนโดย : kamit

*ละครน้ำเน่า ยังอยู่ ก็เพราะมีคนดู
     นักการเมือง น้ำเน่า ก็ยังอยู่ เพราะยังมีคนเลือก กระนั้น หรือ ?
เวทีการเมืองไทย ก็ยังคงเหมือนเดิม
ความผันผวน ทางการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยของเมืองไทยที่ผ่านมา เกิดเพราะอะไร ?
ประชาชน ขาดจิตสำนึกทางการเมือง เห็นแก่ เงินที่นักการเมือง หยิบยื่น เศษเงิน เอามาให้ หรือ ?
นักการเมือง มีอุดมการณ์ แต่ไม่มีคุณภาพ หรือ ?
นักการเมืองไม่มีอุดมการณ์ หรือ ?
นักการเมือง มีความรู้ มีความสามารถ แต่ขาดจริยธรรม หรือ ?

     ไม่ต้อง พูดเรื่องอุดมการณ์เลย ใครๆก็พูดกันได้ อุดมการณ์ของนักการเมืองสร้างขึ้นมาได้เป็นรายวัน และมันก็สามารถ เปลี่ยนได้ทุกนาที

     วันๆก็คิดแต่เรื่อง ว่าจะผสมพันธุ์กับพรรคไหน ใครอยากเป็นนายกรัฐมนตรี ก็นั่งดีดลูกคิดรางแก้ว ว่าจะสามารถรวบรวม สรรหาอดีตสส.ให้อยู่ในมือได้สักกี่คน แล้วก็พยายามประมูลซื้อตัว ส่วนอดีต สส.ที่ต้องการเงินปลดหนี้ก็วิ่งหาพรรคที่ให้เงินสนับสนุนมากกว่า ขายตัวกันวุ่นวาย ส่วนผู้ที่จะเริ่มแจ้งเกิดทางการเมืองก็วิ่งเข้าพรรคเกิดใหม่ไปก่อน ส่วนนโยบายพรรค ก็ไม่ยาก อะไรที่เป็นเรื่องฮิตติดตลาด ก็ใส่เป็นนโยบายไว้ก่อน เช่น เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น ทั้งๆที่ ตนเองไม่ได้พอเพียงสักนิด และก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คืออะไร

ส่วนบางคนด้วยคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตน ที่กล้าท้าชนกับหนังสือพิมพ์ถูกอัญเชิญตัวมาเป็นหัวหน้าพรรค แม้จะขาดมารยาททางสังคมแต่ก็ยังมีลูกค้าชอบดูหนังน้ำเน่าอยู่ ทั้งๆที่ ไม่รู้นโยบายพรรค เคยขัดแย้ง ชิงชัยทางการเมืองกับกรรมการบริหารพรรค ความคิดทางการเมืองสวนทางกับคนในพรรคโดยสิ้นเชิง ก็ยังเอามาเป็นหัวหน้าพรรค ขัดตาทัพไว้ก่อน บทบาทเด่นคือเจ้าอารมย์ หงุดหงิดชอบทะเลาะชวนตี นักข่าว แสดงออกซึ่งความไม่เคารพ กฏ กติกา และมารยาททางสังคม เพียงเพราะตนเองไม่ถูกใจ ก็ลุกขึ้นมากล่าววาจา หยาบคาย นี่หรือนักการเมืองไทย?

     ลองนึกภาพดูว่า อนาคตเมืองไทยจะเป็นเช่นไร หากเราได้บุคลากรในการบริหารประเทศเยี่ยงนี้ บ้านเมืองก็คงจะเข้าสู่กลียุค และหากจะมีการอ้างเหตุน้ำเน่าทางการเมือง เพื่อปฎิวัติยึดอำนาจรัฐล้มรัฐธรรมนูญกันอีกก็คงมีคนเห็นด้วยกับการล้มกระดานอีก คงไม่น่าแปลกใจ หากการเมืองของเราก็จะเปรียบดัง นักมวยหากชกมวยบนเวทีชกกันไป ถ่มน้ำลายรดกัน ชกกันไปด่ากันไป ไม่เคารพ กฏกติกา หากใครจะเขวี้ยงขวดใส่หัวนักมวย คนดูอื่นๆ ก็คงต้องเขวี้ยงขวดตามกันทั้งสนาม พร้อมกับโห่ไล่ แน่นอน แล้วอย่ามาว่า ทำไมต้องโห่ไล่ ทำไมไม่ปล่อยให้ชกกันจนหมดยก

     ผมเสียดายระยะเวลาแห่งการต่อสู้เพื่อเรียกร้อง โหยหา เสรีภาพทางการเมือง การปกครอง เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ปลดแอกจากเผด็จการทหารที่ยึดกุมอำนาจรัฐ กดขี่ข่มเหง ปิดหู ปิดตาประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง ตัวแทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ แทนประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน แต่จนแล้วจนรอด เมืองไทยเราก็ยังไม่พ้นวงจรอุบาทว์จนได้

     ในคราว ดร.ทักษิณฯ เป็นนายกรัฐมนตรี หะแรกก็ทำท่าว่าจะดี ที่เราได้คนเก่ง คนฉลาด คนที่มีความรู้ความสามารถ เข้ามาเป็นผู้นำประเทศ นำพาเศรษฐกิจของชาติให้ก้าวล้ำหน้า แต่ในที่สุด ด้วยรัฐธรรมนูญ เอื้ออำนวยให้ผู้ที่เข้ามาจัดตั้งรัฐบาล มีเสถียรภาพทางการเมือง เนื่องจากบทเรียนของรัฐบาลยุคที่ผ่านมา สองสามสมัย พรรคที่เข้ามาจัดตั้งเป็นรัฐบาล กลายเป็นรัฐบาลที่ขาดเสถียรภาพทางการเมือง เพราะเป็นรัฐบาลผสม ต้องผสมผสานกับพรรคการเมืองอื่น และรัฐธรรมนูญ ปี 40 จึงได้สร้างภูมิคุ้มกันนายกรัฐมนตรี มิให้ถูกอภิปายได้ง่ายเกินไป ไม่ต้องมาอยู่ในวังวนของการถูกพรรคฝ่ายค้าน ปักหลักอภิปราย ลูกเดียว เพื่อให้รัฐจักมีเสถียรภาพ ในทางการเมืองการปกครอง การบริหารประเทศชาติ จักได้เข้มแข็งเด็ดขาด สามารถนำพาประเทศชาติเจริญรุดหน้ากับเขาสักที ไม่ต้องบริหารประเทศชาติทำอะไรกันสักที เพียงแค่ต้องถูกพรรคฝ่ายค้าน เสนอญัตติขอเปิด อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างเดียว ก็ไม่ต้องทำอะไร พอดีก็หมดสมัยแล้ว ( แต่ที่แน่ๆ ถ้าเราไม่ขึ้ลืมจนเกินไป นักการเมืองพวกที่เป็นดาวสภาจุดประเด็น อภิปรายสั่นคลอนฝ่ายรัฐบาลในสมัยนั้นๆ จนรัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศชาติได้อย่างมีเสถียรภาพ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็เป็นดาวสภาเจ้าเก่า ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่ เรียกว่าแทรกเป็นยาดำ สร้างความน้ำเน่า น้ำครำในวงการเมืองมาตลอดทุกยุคทุกสมัย )

*ทีนี้ พอ รัฐธรรมนูญ พยายามแก้จุดอ่อนของผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาล ไม่ให้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจง่ายๆ ก็กลายเป็นจุดอ่อนให้เกิดการดูด ซื้อ สส.ให้เข้ามาสังกัดมากขึ้น จึงทำให้เกิดเผด็จการในสภา พรรคฝ่ายค้านไม่สามารถเปิดอภิปรายนายกรัฐมนตรี และการอภิปรายรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลก็ทำไม่ได้ง่ายนัก พรรคพวกก็ใช้วิธีการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรี ทำให้ไม่สามารถอภิปรายได้เลย แบบนี้จะให้เรียกว่าอะไร?

     การบริหารประเทศชาติ เป็นเรื่อง ของการใช้อำนาจรัฐ เป็นเรื่องของการกระทำแทนประชาชนทั้งประเทศ เป็นเรื่องของ ผลประโยชน์มหาศาลหากว่าพรรคฝ่ายค้าน หรือประชาชน ไม่มีสิทธิ์สอบถาม ไม่สามารถตั้งประเด็น ซักไซร้ ไล่เรียงแบบนี้ ถามว่า บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร เรายังไม่ต้องพูด ว่า อะไรผิด อะไรถูก บริหารงานแบบไม่ฟังเสียงใคร สร้างศัตรูทางการเมือง สร้างความกดดันในภาคใต้ สร้างความกังขาในเรื่องของ ผลประโยชน์ และการใช้อำนาจ ชนิดที่ไม่สามารถซักฟอกกันได้เลย มิหนำซ้ำยังสร้างความกังขาในกระบวนการ ฯ.............ที่ แม้ไม่สามารถ ฟันธงชี้ชัดได้ว่า ผิด หรือ ทุจริต หรือ ไม่โปร่งใส .. ซะแล้ว ยิ่งจะทำให้กระแสสังคม เกิด แรงสะท้อนกลับ อย่างรุนแรง จนการยึดอำนาจกลายเป็นทางออกสุดท้ายที่สังคมส่วนใหญ่ให้การยอมรับจนได้ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่า ดร.ทักษิณฯ จะทำความผิดจริง หรือไม่อย่างใด?

     นี่แหละ คือ อุทธาหรณ์ แห่ง กระแสความไม่พอใจ ที่ทั้งประชาชน นักธุรกิจ นักการเมืองฝ่ายค้าน และทหาร ที่ได้เกิดขึ้นมากขึ้นทุกที จึงทำให้เกิดการล้มล้างอำนาจการปกครองแบบประชาธิปไตยเดิม แล้วแก้ไข กติกากันใหม่ เพื่อให้เกิดจากกระบวนการทางการเมืองที่เปิดโอกาส ให้มีการ “Check and Balance” ได้

     ตรงนี้ คืออุทธาหรณ์ เป็นพื้นฐานที่พวกเราประชาชน ซึ่งเป็นอำนาจที่สี่ทางการเมือง จำเป็นที่จะต้องช่วยกัน อย่าเห็นแก่พวกพ้อง อย่าเห็นแก่ อามิสสินจ้างเฉพาะตน เก่งอย่างเดียวไม่พอเสียแล้ว ควรคำนึงว่าจะเอา นักการเมืองคนไหน ที่มีอุดมการณ์ มีจริยธรรมทางการเมือง อยู่ในร่องในรอย ไม่กอบโกยโกงกิน ไม่สร้างความร่ำรวยให้แก่ตนเอง ญาติโยม และ พวกพ้อง ไม่เป็นนักการเมืองโสเภณี ที่เปลี่ยนพรรคเพราะเงิน เพราะอยากเป็นพรรครัฐบาลอย่างเดียว ไม่เป็นพรรคการเมืองสำส่อนผสมพันธุ์กันไม่เลือกหน้า จะเอาพรรคไหนที่จะมาช่วยทำให้เป็นผู้กำหนดชะตาทางการเมืองของประเทศชาติอย่างจริงจัง

     คำถาม ? ละครการเมืองที่กำลัง เริ่มขึ้น ณ ขณะนี้..มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น และเมื่อมันเป็นเช่นนี้แล้ว ต่อไปในอนาคต การเมือง บ้านเมืองเรา จะเป็นเช่นไรต่อไป ? และเรามีหนทางใดที่จะป้องกัน หรือแก้ไข มิให้วงจรอุบาทว์แห่งการยึดอำนาจมันเกิดขึ้นมาซ้ำซากขึ้นอีกได้อย่างไร?

     ขอประชาชนทุกสาขาอาชีพ สื่อสารมวลชนทุกแขนง นักวิชาการทุกคน ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสติ และปัญญา จงมองย้อนวิถีทางการเมืองของเราในอดีต อย่าเพียงมองปัญหาจากด้านเดียว มุมเดียว สักแต่ว่า จะวิจารณ์การยึดอำนาจของทหารด้วยกำลังอาวุธ แต่มิได้ต่อการการยึดอำนาจในสภาด้วยเงิน ( อย่างเช่น กระแสการหักด้ามไม้เรียว โดยกล่าวหาว่า ครูโหดร้าย แต่ไม่ได้ดูว่าเด็กเกเร หรือไม่ จนเดี๋ยวนี้เด็กไม่กลัวครู )อย่าสักแต่ด่าการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ เพียงอย่างเดียว จงมาช่วยกัน ต่อต้านการยึดอำนาจรัฐด้วยกำลังอาวุธ และ การยึดอำนาจด้วยเงิน อย่าสักแต่ว่าจะเขียนอะไรตามกระแส ซึ่งเป็นคนละเรื่องเดียวกันมาเปรียบเทียบ ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดกันมากยิ่งขึ้นไปอีกเลย

     อย่าสักแต่บอกว่า จงปล่อยให้ วิถีทางการเมือง ทางสภา ในวิถีทางทางการเมือง เป็นการแก้ปัญหาและเป็นตัวตัดสิน ในขณะที่เกิดเผด็จการในสภา ในขณะที่มีข่าว ทุจริต คอรัปชั่นเชิงนโยบาย ในขณะที่ กลไกของรัฐทุกอย่าง สื่อฯ เริ่มถูกซื้อด้วยเงินและอำนาจ จนประชาชน ไม่มีเครื่องมือในการช่วยตรวจสอบได้เลย จนทำให้ การยึดอำนาจของทหารที่ชูป้าย ว่าเป็นการยึดอำนาจ เพื่อผดุงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพระประมุข...เป็นทางออกอีกเลย

H O M E




 

Create Date : 26 ตุลาคม 2550
48 comments
Last Update : 22 กันยายน 2551 18:42:37 น.
Counter : 1680 Pageviews.

 


ผูกหัวเรือลำเล็กคู่ชีพกับหลักใต้สะพานไม้ข้างแพโกจ่ายเฒ่าอ่ำขึ้นไปนั่งเคี้ยวขนมครกแกล้มกาแฟร้อนควันหอม
กรุ่นอุ่นคุ้นคราบแก้วเก่าในมือ ริมท่าน้ำคลองร่องสวนผลหมากรากไม้ ชมพู่มะเหมี่ยวโปรยเกสรร่วงพรูราวพรมแพ
เกลอเฒ่าอัศวินโตะกลมแห่งสภากาแฟฯ จับกลุ่มวิพากษ์

ถ้าหากกกต.ยังออกกฏระเบียบหยุมหยิมควบคุมเลือกตั้ง
อย่างนี้ เห็นทีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรบ้านเราเดือนหน้า
จะเงียบเหงาราวกับป่าช้า ที่สำคัญก็คือ..เงินครับท่าน เงิน
เงินเงินเงิน ที่เคยปลิวว่อนแจกจ่ายหว่านกันไปทั่วพอๆกับ
แผ่นป้ายผู้สมัคร สส. พิมพ์อ๊อฟเซท ๔ สี่ ไล่ติดตามเสาไฟฟ้า ต้นมะพร้าว รั้วสังกะสี กำแพงวัด แพปลา กลางทุ่ง
เงินหลายสิบล้านสะพัดปลุกเศรษฐกิจชุมชน-รากหญ้าให้
พลอยฟ้าพลอยฝนตามกระแสลมหนาว ฤดูการเลือกตั้งฯ

ลำพงเครื่องขยายเสียงขับมโหรี ปี่พาท์แตรวง กลองยาว
วงเหล้ายาปลาปิ้ง ทำท่าจะเงียบเหงากลายเป็นของแสลง
งานนี้ กกต.ท่านพยายามตัดวงจรอุบาท-การใช้เงินหว่าน
ซื้อเสียงทุกรูปแบบก็เพื่อไม่ให้เกิดการซื้อสิทธิขายเสียง
ซึ่งชาวบ้านในชนบทต่างคุ้นเคยราวกับวัฒนธรรมท้องถิ่น
"คืนหมาหอน"ก่อนวันเลือกตั้ง ก็กลับกลายร่างเป็น ATM

ขนาดงานบวช งานแต่ง งานตาย ยังล้มวัวขายควายเลี้ยง
เหล้าสุราอาหารกันใหญ่โตเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เลือกตั้งผู้แทนราษฎรทั้งจังหวัด ทั้งประเทศทำขี้ตืดได้ไง
ยังไม่รวมบรรดาร้านค้าโรงพิมพ์ช่างไม้รับทำป้ายหาเสียง
งบทุ่มเวลาเช่าสถานีวิทยุโทรทัศน์ ทั้งการวิพากษ์วิจารณ์
ดีเบทของสปอนเซอร์เอเยนซีจะหดหายไปหลายพันล้าน
คนรถสามล้อซาเล้งเก็บของเก่า ชาวชุมชนแย่งกันขนไม้
อัดแผ่นป้ายฯ หลังคืนเลือกตั้งไปทำฝาเพิงพักในก้นซอย

หรือว่าจะเป็นฤดูกาล เลือกตั้งผู้แทนราษฎร แบบขอไปที
การหาเสียงแบบเก่าเคยคึกคักตื่นตัวตามกระแสเงินหว่าน
ซื้อสิทธิขายเสียงคู่มากับระบบหัวคะแนนและผู้มีอิทธิพล
ในชุมชนท้องถิ่นจังหวัด หยั่งฝังรากลึก ยากที่"สามัญชน"
ลูกบ้านธรรมดาหรือปราชญ์ชาวบ้านจะได้รับโอกาสอาสา
เข้ามารับใช้เป็นผู้แทนราษฎรในชุมชนท้องถิ่นของตัวเอง

แท้จริงแล้วคนคุ้นหน้าคุ้นตารู้เทือกเถาเหล่ากอเหล่านี้เอง
ที่ชาวบ้านรู้แก่ใจดีว่าใครซื่อสัตย์ ดี ชั่ว หรือใครเก่ง ขยันขันแข็ง มีจริยธรรม และเป็นปากเสียงตัวแทนของเขาได้
โดยไม่จำเป็นจะต้องเร่งโหมโฆษณาชวนเชื่อบนแผ่นป้าย
ปูพรมติดป้ายแนะนำตัวเองเกลื่อนเมืองแค่ ๓-๔ อาทิตย์

สังคมประชาธิปไตยประเทศนี้ ยังฝัน-อยากจะเห็นผู้แทน
ที่ดี นักกฎหมายหนุ่มน้อย นามนายชวน หลีกภัย อีกมาก
เช่นเดียวกับนักเทคโนแครตนักการทูต เช่น นายอานันท์
ปัญยารชุน หรือนักเศรษฐศาสตร์อย่าง ดร.ป๋วย อึ๊งภากรประเทศนี้ยังต้องการวิศวกร นักธุรกิจ นักการศึกษา ฯลฯ
บนความหลากหลายซึ่งไม่ใช้เงินหว่านซื้อสิทธิขายเสียง

การจะเปลี่ยนแปลง"วัฒนธรรมขยะ"ปลอมปนมากับแก่น
ประชาธิปไตย มุ่งเน้นจิตอาสา-การเสียสละเข้ามาทำงาน
เพื่อรักษาสิทธิ เสรีภาพ ผลประโยชน์ภาคสังคมส่วนรวม
จำเป็นต้องใช้ความกล้าหาญสร้างวัฒนธรรมงามง่ายใหม่
ให้ชัดเจนตรงไปตรงมาก็ต้องฝืนกระแสมอมเมาแบบเดิม

สังคมไทยคล้ายติดยาเสพติดการเมืองคอร์รัปชั่นมานาน
เป็นการเมืองที่คนนอกเข้ามาถอนทุนฯ ขมขื่นชำเราชาติ
ด้วยกลวิธีโกงดุจโจรเถื่อนทุกรูปแบบ ทั้งผู้เสพก็ยิ้มยินดี
ยอมอ่อนข้อก้มหัวให้เศษเงินอย่างนี้บานเมืองไปไม่รอด

"ข้าคนหนึ่งจะไม่ยอมกินเหล้าฟรีของไอ้เสี่ยคืนหมาหอน"
เสียงเฒ่าอ่ำตะโกนลั่นแพประกาศอิสระภาพลึกลึกในใจ
"ว่าแต่ คุณโกจ่ายผู้มีอุปการคุณ ช่วยกาติดมื้อเช้านี้ด้วย"
เรือลำน้อยถึงเก่า เล็กเรียวมีรูรั่ว มีดีชั่วบ้างแต่ไม่ล่มง่าย

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.120.190 26 ตุลาคม 2550 9:22:33 น.  

 


"ผมพร้อมแล้ว..สำหรับการเมือง" เสียงอันกระตือรือร้น
ของศ.ดร.ชัยอนันต์ สมุทวณิช นักวิชาการนักรัฐศาสตร์
ถูกกล่าวขานเข้าเปลี่ยนถ่ายแทนเลือดใหม่นักการเมือง
ให้เป็นหัวหน้าพรรค-พรรคมัชฌิมา เพื่อพัฒนาการเมือง
ให้ปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง-ถอนทุนคืนภายหลัง
เป็นการเมืองเคารพกฏกติกามารยาท โปร่งใสเป็นธรรม

เรื่องเศร้ายังไม่ทันจะไหว้ครูยังไม่ทันนกกระจอกกินน้ำ
ราชบัณฑิตย์ เช่น อาจารย์ชัยอนันต์ เผ่นแนบกลับบ้าน
แทบไม่ทัน ขนาดผ่านร้อนผ่านหนาว รู้เท่าทันการเมือง
พอมาเจอกระแสป่วนของการเมืองน้ำเน่าระบบอุปถัมภ์
พิการซ้ำซ้อนผีเข้าผีออก พระอาจารย์ดีที่ไหนก็เผ่นหนี
"น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ"ใครเล่าจะกล้าเสี่ยงยอมเปลืองตัว

จะต้องรอประชาธิปไตยบริสุทธิ์เอาชาติหน้าตอนบ่ายๆ
อีเที่ยวนี้คงต้องยอมรับความจริงฟาดปากฟันฟัดกับมัน
ก็เราเจือกเกิดมาจนเป็นคนหาเช้ากินค่ำหลังพิงกำแพง
จิตฝ่อเมื่อไหร่ ถ้าเราไม่สู้แล้วใครจะสู้เพื่อลูกหลานเรา

 

โดย: ซานโช ปานซ่า IP: 58.8.120.190 26 ตุลาคม 2550 11:49:38 น.  

 


ข่าวเที่ยงวันแย่งกันเปิดดูฟรี ทีวี.สถานี ช่อง๗ สี
เห็นหนูชมพูนุช ตัณฑเศรษฐี นางฟ้าเธอพาเที่ยว
"เทศกาลงานบุญบั่งไฟพญานาค"วันออกพรรษา
หนองคาย..สายลมสดชื่นราวกับยืนอยู่ริมฝั่งโขง

 

โดย: เป็น อยู่ คือ IP: 58.8.120.190 26 ตุลาคม 2550 12:24:21 น.  

 


บ่ายสามโมงเย็น แดดร่มลมตก..เห็นรูป"น้องเข็ม-ตีสิบ" ขึ้นปกหนังสือหรา ทั้งมติชนรายสัปดาห์ และเดอะเนชั่น
รายสัปดาห์ ก็รู้ว่า สวรรค์มีตา เออ ยิ่งถูกดาเหมือนยิ่งยุ
ข้าพเจ้าไม่โทษเด็ก แต่สังเวชใจปลงอนิจจังกับสื่อไทย
ไม่ทราบว่าคุณคุณท่านเอาหัวแม่โป้ง !? ข้างไหนตัดสิน

ถ้าไม่หลอกตัวเอง หรือมีอะไรงับปากสื่อสังกะบ๊วยนี้ไว้
ผู้หญิงที่คนไทยสังคมทั้งโลกโหวตให้คือ อองซาน ซูจี
สมาคม นสพ.สมาคมหุ่นไล่กาอะไรก็ไร้น้ำยาหมดแล้ว
เรียบร้อยโรงเรียนแม้วซิตี้ เอ๊ย..อะคาเดมี อ๊อฟ ลั้นดั้น

 

โดย: ซานโช ปานซ่า IP: 58.8.120.190 26 ตุลาคม 2550 17:35:10 น.  

 


คืนนี้เปิดชมข่าว ASTV ได้ความว่าคุณสนธิ ลิ้มทองกุล
จะอุปสมบท ณ วัดชนะสงคราม บางลำพู ขออนุโมทนา
บุญในความตั้งใจอันดีงามของท่าน ที่เคยกล่าวล่วงเกิน
วิพากษ์วิจารณ์ท่านไปด้วยความจงรักภักดีต่อบ้านเมือง
ทั้งสิ่งที่เห็นพ้องตรงกัน และบางสิ่งที่ยืนอยู่คนละฝั่งฝัน
ข้าพเจ้ากราบขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี่ ด้วยความนับถือ

แต่ที่คุณสนธิ ลิ้ม เธอทิ้งไพ่-ยื่นโนติสให้ต้องเลือกข้าง
ถึงกับตัดเป็นตัดตายจะไม่เผาผี ไม่ต้องเข้ามาดูดีกันนั้น
ขนาดจะไม่ให้เข้ามาเยี่ยมเยียนคุณแอนสาวสาว ASTV
ข้าพเจ้าก็เห็นว่าจะหนักหนาสาหัส ถึงตรอมใจตายเปล่า
จะเป็นบาปกรรมติดตัวคุณสนธิ ลิ้ม ขออย่าให้ถึงขั้นนั้น
ยังไงๆ เราก็คงจะตัดกันไม่ขาดยังคงเหลือเยื่อใยไมตรี
เอาเป็นว่างี้ ข้าพเจ้าจะขอแอบรัก ASTV ข้างเดียวก็พอ

ข้าพเจ้าไม่ชอบคนที่ยืนถางขาหรือเหยียบเรือสองแคม
แม้แต่ท่านทูต-น้องชายที่รักของข้าพเจ้า เรายังต่างมุม
เห็นไหมว่าการเมืองชั่ว-เพียงครั้งเดียวทำลายมิตรภาพ
ทำลายความเป็นพี่เป็นน้องความสามัคคีของคนในชาติ
การเมืองไม่มีมิตรแท้-ศัตรูถาวร จริงหรือที่ให้รู้เขารู้เรา

คงไม่ต้องถามซ้ำข้าพเจ้าอยู่ข้างประชาชน-ราชบัลลังค์
ผู้นำมาแล้วสาปสูญ ประชาชนนั้นต้องไพบูลย์ตลอดไป

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.124.246 27 ตุลาคม 2550 1:00:06 น.  

 


เมื่อปรัชญาของกลุ่มเผด็จการการเมืองเก่า+เผด็จการทุนนิยมสามานย์+เผด็จการทหาร+ข้าราชการมาร์เฟียตัวจริง
+อิทธิพลเจ้าพ่อสื่อสารมวลชนยักษ์ใหญ่รวมหัวข้ามชาติ
นั้นคงอำนาจครอบงำความคิดจิตวิญญาณปากท้องคนไท
ด้วยวงจรอุบาทว์ ให้คนตกเป็นทาสแรงงานทางเศรษฐกิจ
ควบคุมผูกขาดกลไกการบริโภค-การตลาด เป็นปลาใหญ่
กินปลาเล็ก สร้างอาณาจักรแห่งความหวาดกลัวไปทั่วทุก
หย่อมหญ้า ฯลฯ หากสันดานดิบเบื้องลึกของจิตใต้สำนึก
คนทุรชนเหล่านี้ไม่เคยเชื่อถือถือศรัทธาในสิทธิ เสรีภาพ
พื้นฐานของความเสมอภาคมนุษยชาติไม่เชื่อในหลักการ
การปกครองที่เคารพผลประโยชน์แนวทางประชาธิปไตย
เพื่อประชาคมภาคพื้นทวีป-อันเป็นพลเมืองส่วนใหญ่โลก
ไม่เชื่อในหลักการสีเขียวเรื่องรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชาติ
ลดละการใช้พลังงานก๊าซ น้ำมันเชื้อเพลิง..ฯ อย่างยั่งยืน

เอาเรื่องใกล้ตัว ทันสมัยที่สุดถ้าจะมองตามอย่างใจแคบ
ข้าพเจ้าเองนั้น..ชักจะเริ่มคล้อยตามและเห็นด้วยกับท่าน
ไม่มีเผด็จการฯ ที่ไหนหรอกที่อยากจะเห็นการเลือกตั้งฯ
บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่เขี้ยวลากดิน จึงประเมิณสถานการณ์
ว่าสุดท้ายแล้วจะไม่มีการเลือกตั้ง ด้วยเหตุจูงใจดังกล่าว
แต่เมื่อนายกฯพลเอกสุรยุทธ จุลานนท์และท่านประธาน
องคมนตรี ใช้ความถูกต้อง สงบนิ่งสยบความเคลื่อนไหว
เกาะกระแสเพราะรุ้ความจริงว่า พวกเวรนี่มันเล่นเกมส์กัน
เหมือนแชร์คาสิโนในบ่อน ทั้งคุณแฟรงค์ คุณลิ้ม คุณ..ฯ

ลักษณาการมาเหนือเมฆลอยตัวอยู่เหนือปัญหา จึงเบรอ
เอ๋อ อึ้ง เหมือนกับคนถูกลอยแพ แพแตก..ตัวใครตัวมัน
เมื่อจุดนัดพบอุบัติเหตุทางเกมส์การเมืองระหว่างประเทศ
การเลือกตั้งในปากีสถาน อาเจนตินา พม่า ฟิลิปินส์ ฯลฯ
ไม่ได้เป็นไปตามสคิปการสร้างกระแสของจอมเผด็จการโลกตัวจริง ในคราบประชาธิปไตย ผู้พิทักษ์ผลประโยชน์

 

โดย: White Nights IP: 58.8.117.24 29 ตุลาคม 2550 9:44:28 น.  

 


คิดถึงนวนิยายรักอมตะ"ข้างหลังภาพ"
ของ"ศรีบูรพา"(กุหลาบ สายประดิษฐ์)

เมื่อถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ โดย
ฝีมือของยอดผู้กำกับ คุณเชิด ทรงศรี
สร้างกระแสการตอบรับจากประชาชน
ผู้รักในนวนิยายเรื่องนี้ อย่างล้นหลาม

หากจะมีการนำมาสร้างเป็นละคร ทีวี.
เรื่องแรกคงต้องเฟ้นหาผู้กำกับฝีมือดี
ที่ประณีตละเอียดอ่อนละเมียดละไม
ทีมเขียนบท ตากล้อง ฝ่ายศิลปกรรม
ฉาก-สถานที่ เครื่องแต่งกาย ดนตรีฯ

ตัวดารานำท่านทูตฯ นั้นคงต้องอาศัย
พระเอกเจ้าบทบาท..นิรุตติ ศิริจรรยา
บท-นพพรหนุ่มน้อยนักเรียนทุนญี่ปุ่น
มอบให้สถาปนิกหนุ่ม"มาร์ท"กฤษฎา
พรเวโรจน์ จากละครเมื่อดอกรักบาน

หวนกลับคืนมาประชันบทอันซาบซึ้ง
กับหนู"แอ๊ฟ" ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ
นางเอก(ธรรมชาติ)แถวหน้าดวงใหม่
รับบทนางเอกเกรด A"คุณหญิงกีรติ"
(ความจริงชั่งใจไว้ ๒ คน แต่สุดท้าย
จังหวะฝีมือนาทีนี้ของแอ๊ฟ ทักษอร)

ขอเน้นว่าผู้อำนวยการสร้าง-ผู้กำกับ
ต้องได้คุณภาพไม่แพ้ครูเชิด ทรงศรี
แล้วเราอาจได้ชม"ละครน้ำดี"ปีหน้า

 

โดย: ดอกนพพร IP: 58.8.116.26 29 ตุลาคม 2550 21:37:23 น.  

 


๒-๓ วัน ก่อน- ข้าพเจ้าผ่านไปทางสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ป้อมมหากาฬ มองดูน้ำในคลอง-คูเมือง คลองแสนแสบ
ด้วยความคุ้นชินน้ำเคยเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นทิ้งรอยฟองระลอกคลื่นขณะที่เรือหางยาวรับส่งผู้โดยสารเบาเครื่อง
เข้าเทียบท่าฯ วันนี้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลสด-ใสสะอาดตา
สีอ่อนใกล้เคียงกับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะว่ามีการ
ปล่อยน้ำดีเข้ามาขับไล่ดันน้ำเน่าเสียระบายออกไปหมด

ดีใจกับชาวบ้านร้านตลาดตึกแถวที่เคยหันหลังให้คลอง
ผังเมืองชั้นในกรุงเทพมหานครจึงติดเครื่องฟอกอากาศ
ให้น้ำใสคืนสวนริมคลอง ฟื้นสิ่งแวดล้อมคืนสู่ธรรมชาติ
หลับตาครั้งใดแลเห็นภาพเรือลำเล็กผูกไว้ใต้ร่มเงาไทร
งามทิ้งรากอากาศเรี่ยระสายน้ำ มีกระถาง-สวนสมุนไพร
พริก ขิง ข่า โหระพา ขึ้นข้างหลังตึกแถวอาคารพาณิชย์

ข้าพเจ้าเชื่อว่าความสงบ งาม ง่าย สิ่งเล็กน้อยเช่นนี้เอง
ที่สามารถหาได้ใกล้ตัวทั้งองค์รวม-ผังแม่บทโครงสร้าง
ผสมผสานการเก็บรายละเอียดของการใช้ชีวิตประจำวัน
ก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของสังคมโดยรวม
เพราะทุกคนต่างได้รับทั้งผลประโยชน์คุณประโยชน์นั้น
ทั้งทางตรงและทางอ้อมเป็นตัวอย่างการวัฒนาอันยั่งยืน

การรถไฟหลวง มาถึงจุดเปลี่ยนใหม่เยี่ยงอารยประเทศ
แต่เช้าวันนี้พนักงานสหภาพการรถไฟแห่งประเทศไทย
นัดหยุดงานทั่วประเทศ สร้างความเดือดร้อนเสียหายยิ่ง
ที่น่าเสียใจยิ่งกว่าคือผู้เดือดร้อนเสียหายคือ"ประชาชน"
ชาวบ้านผู้ที่ไม่มีทางเลือกพึ่งพารถไฟ มาตลอดทั้งชีวิต
พ่อแม่ พี่น้องลูกหลาน คนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นผู้บริสุทธิ์
มักตกเป็นตัวประกันเป็นเหยื่อของสงครามความขัดแย้ง

บอร์ดของการรถไฟและสหภาพแรงงานพนักงานรถไฟ
กับกระทรวงคมนาคมรัฐบาล ควรเจรจาพูดคุยกันให้ดีดี
อะไรที่จะผูกมัดให้กระทำการไปโดยมีเงื่อนงำการเมือง
คืออะไร ที่ซ้อนเร้นแอบแฝงผลประโยชน์ภาคการเมือง
ขอให้ทุกฝ่าย-วางทิ้งไว้ข้างนอกอย่าเป็นร่างทรงให้ใคร
อย่าเป็นทาสรับใช้ทางการเมืองให้ใครทำเพื่อบ้านเมือง
ทำเพื่อส่วนรวมทำเพื่อประชาชนเพื่ออนาคตรถไฟไทย

สุภาพบุรุษลูกผู้ชายทั้งนั้น-รู้จักหันมอง รพ.ศิริราช บ้าง
พนักงานรถไฟท่านถูกลืม ถูกทอดทิ้งมานาน วันดีคืนดี
ถึงเวลาจะเกิดบ้างการรถไฟของเขาต้องเติบโตทันสมัย
ตามกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อลดพลังงานน้ำมัน

ส่วนปัญหาเฉพาะหน้านี้สหภาพการรถไฟต้องฉลาดพอ
ที่จะรู้เท่าทันว่าต้องยุติแผนประท้วงสั่งหยุดการเดินรถฯ
ให้พนักงานสหภาพฯจำนวนเพียงหยิบมือเข้าประจำการ
ปฏิบัติงานตามปกติ-โดยเร็วที่สุด อย่าตกเป็นเครื่องมือ
ทางการเมืองให้ผู้ไม่หวังดี ก่อนที่จะตกเป็นแพะรับบาป
เป็นจำเลยของสังคม เพราะเท่าที่ดูยุทธวิธียังแบบเดิมๆ
บางทั้งคันไถ ฆ้อนเคียว คือเอาประชาชนเป็นตัวประกัน
อย่างนี้มันตกยุคฝรั่งเศส ไทยเราก็ควรทำได้งามกว่านี้

พ่อตัวใหญ่เบ้งๆ ชักใยอยู่เบื้องหลัง ท่านเอาตัวรอดเก่ง
ตัวเล็กตัวน้อยตัวจะซวยซ้ำซาก อย่ามาบ่นว่าถูกหลอก
ให้ถึง-จุดเดือด จนเข้าทาง ผู้อยากเห็นบ้านเมืองกลียุค
ข้าพเจ้าขอย้ำเตือนว่ามีความพยามยามจะล้มเลือกตั้งฯ

ความยุ่งยากซับซ้อนจึงอยู่ที่มันจับภาพปัญหาเชิงโครง
สร้างของสังคม หลายๆ เลเยอร์(Layer)วางทับซ้อนกัน
หลายชั้นกลายเป็นภาพลวงตาใครจะหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ
เหมือนสถานการณ์ป่วนชายแดนใต้ มันมีทั้งยาเสพติด
แบ่งแยกดินแดน สินค้าเถื่อน พลังงานก๊าซ ธรรมชาติฯ

มันน่าแปลกมาก ที่ไม่มีใครต่อต้านการค้าเสรีไทย-จีน
ทั้งที่ทุกวันนี้เกษตรกรรากหญ้าหน้าแห้งเสียเปรียบดุล
การค้าทั้งในระบบนอกระบบ(สินค้าเถื่อน) เพราะอะไร
โอ.เค.อเมริกา ท่านรังเกียจเรา พอๆ กับเราก็ไม่สนมัน
บอกเราไม่เป็นประชาธิปไตยแต่ไม่ต่อว่าจีน เวียตนาม
การเมืองระหว่างประเทศนอกกรอบมันกะล่อน ๒ หน้า
หากินกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ กระทั่งทุกวันนี้

แต่กับญี่ปุ่น นี่ตลกร้ายมาก เราบอกไม่เอาไม่เอาญี่ปุ่น
แต่ก็ไปขอกู้เงินดอกเบี้ยต่ำแบบไม่มีเงื่อนไขจากญี่ปุ่น
ขอกู้เขาก็ให้ง่ายๆ มาตลอดพอจะกู้จีนซึ่งได้เปรียบเรา
ทุกประตูเรียกว่าขี่หลังแบกกระสอบข้าวเปลือก ลำใยฯ
จีนตั้งเงื่อนไขมากมายเช่นจะต้องซื้อวัสดุจากจีน ๕๐%
อย่างเรื่องรถไฟก็จุดไฟป่วนให้เป็นคนละเรื่องเดียวกัน
ยกเอาเรื่องต่อต้านการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น มาเป็นหัวเชื้อ
โยงเข้าง่ามการเมืองเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์

ไหนไหนเกิดบนผืนแผ่นดินไทย ให้มันมีศักดิ์ศรีหน่อย
ผิด-ถูก ยุติธรรม-น้ำมิตร ผลประโยชน์ชาติต้องมาก่อน
อย่าประพฤติตนเป็นคนไทยลูกผสมเป็นนกมีหูหนูมีปีก

บันวิด เฒ่าสุ่น ลุงศักดิ์โกสัย พ่อใหญ่ รีบกลับบ้านด่วน !

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.122.191 31 ตุลาคม 2550 23:38:45 น.  

 


คิดถึง เสรีไทย..เข้ม เย็นยิ่ง
คิดถึง ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
คิดถึงชีวิต และงานของท่าน

มีเรื่องเล่าว่าในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ ๒
ท่านอาสาสมัครเข้าเป็นเสรีไทย(อังกฤษ)
เมื่อโดดร่มลงเมืองไทยก็โดนจับได้เกือบ
ถูกคนไทยยิงตายเพราะคิดว่าท่านนั้นเป็น
สายลับจีนแดง ทั้งๆที่คอมมิวนิสต์สายจีน
ก็ไม่ชอบแนววิธีคิดเสรีนิยมตะวันตกท่าน
ทั้งที่ท่านขึ้นโครงธรรมรัฐสวัสดิการสังคม
ดังปรากฏ-จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
ต่อมาในยุคของรัฐบาลเผด็จการทหารยัง
กล่าวหาท่านเป็นพวกคอมมิวนิสต์หัวซ้าย

สุดท้ายแล้ว..คนเก่งคนดี กลับไม่มีที่อยู่
ข้าพเจ้านั้นโง่ ได้แต่ตั้งใจ-เดินตามทางนี้
แม้บากบั่นไปไม่ถึงครึ่งทางจะไม่หลงทิศ
ทั้งยังจะยึดถือว่าตัวเองนั้นเป็น"เสรีไทย

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.122.191 1 พฤศจิกายน 2550 1:01:08 น.  

 


ด้วยหอเกียรติยศ"ผู้ชายที่น่าค้นหา-จับตามากที่สุด"
ประจำเดือนพฤศจิกายน ๕๐ มีหลายท่านที่โดดเด่น

ท่านแรกมาจากสายการเมืองปากกา(หวาน)คอแร้ง
คือ ท่านอดีตนายกฯ พลเอกชวลิก ที่กำลังเดินสาย
"จิ่มก้อง-ตีกินเมืองขึ้น"เอ๊ย ! กำลังออกเยี่ยมเยียน
บรรดากัลยามิตร เพื่อนผอง น้อง พี่ ร่วมอุดมการณ์
พรรคการเมืองเกิดใหม่สลายขั้วอำนาจไทยรักไทย

พ่อใหญ่จิว ผู้ซึ่งพลาดหวังจากการฮั้ว-ประมูลพรรค
พลังประชาซน และพรรค-เพื่อแผ่นดินอิสาน เพราะ
ตั้งราคามูลค่าทรัพย์สินทางปัญญาล้นเกินความจริง
จนบอสใหญ่แม้วซิตี้ประเมินแล้วส่ายหน้าสู้ราคาไม่
ไหว จำตัดใจแยกเป็น ๒ กองกำลัง มอบให้น้าหมัก
กับเสี่ยสุวิทย์แยกกันเข้าตีเขตเมืองหลวงปริมณฑล
กับหัวเมืองฝ่ายเหนือ-อิสาน ก่อนดึงพรรคปลาไหล
พรรค-ชาติพัฒนา-มัชฌิมาฯ-ประชาราชร่วมรัฐบาล

ขณะนี้พลเอกชวลิด ก็ได้วางกำลังคนสนิทของท่าน
แทรกซึมคุมไว้ตามจุดยุทธศาสตร์ เช่นพลเอกวิชิด
พลตรีศรไช ทิดเปรมศักดิ์ กลฃุ่มวาดะ กับน้าเหลิม
เรียกว่ามองตาก็รู้ใจโดยไม่ต้องต่อสายกับป๋าเหนาะ

ขงเบ้งตั้งค่ายปีกกาล้อมกรอบขู่ พรรคประชาธิปัติย์
จนดูคล้ายจะถูกกันให้โดดเดี่ยวแถมโชว์-ตีซี้กับจีน
ชูผลประโยชน์โครงการณ์เมกกะโปรเจ็กโลจิสติกส์
รถไฟรางคู่-ความเร็วสูงเชื่อมอิสานทะเลตะวันออก
ทั่วประเทศ ตั้งโรงงานผลิตรางเหล็ก-เวณคืนที่ดินฯ

รวยครบวงจรสัมปทานท่าเรือ-สนามบิน-ทางรถไฟ
ทั้งที่กู้เงินกับพึ่งเทคโนโลยีรถไฟทันสมัยของญี่ปุ่น
แทนยุทธศาสตร์รักฝังใจขุดคอคอดกระคลองไทย
เพราะฐานเสียงคะแนนส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ปักษ์ใต้
จนสงสัยว่าใครเป็นอภิชาติบุตรของพระเจ้าเหี้ยนเต้

งานนี้พ่อผู้ใหญ่ ได้โชว์ฝีมือขาใหญ่จับเสือมือเปล่า
ยักขึ้น-ยักลง-ยักย้าย-จนนายทุนต้องยอมจ่ายแพง
กว่าที่คิดตอนแรก ถ้าอยากได้อำนาจกลับบ้านเร็วฯ
เป็นไปตามแผนลึก-ลับมากหลังจากที่แผนแรกประ
เมินสถานการณ์ผิดคิดว่ายังไงก็จะไม่มีการเลือกตั้ง
แต่สายลับสุ่นดันทิ้งดิ่งพสุธาผิดที่ผิดทาง จุดนัดพบ
เพราะประมาทนักรบหมวกแดง-ปิดทองหลังพระผิด

ผู้ชายขี้อายป๊อปปูล่าโหวต อีก ๒ ที่จี้ก้นมาแรงติดๆ
เสี่ยแบ็งค์กงเต็กชูวิทย์ ที่เล่นแรงจนพรรคชาติไทย
สั่นคลอนตอนใกล้ฤกษ์หาเสียงทั้งๆ ที่วิ่งดีมาตลอด
ทำท่าจะไปไม่รอดจะคายของเก่า หมดแรงเอาดื้อๆ
ไล่จี้หางม้าความดังมาห่างๆ ไม่ใช่ใครพี่เต๋า-สมชาย
วิ่งเบียด-ตีสีข้างม้ากรรชัย กลายเป็นม้านอกสายตา

ยังไงก็ระวังรักษาตัวด้วย เผลอเดินเปิดหน้ายั่ว ปชป.
รุกไล่จนมุม ระวังจังหวะบวก ปชป. แรงปลายทุกนัด

 

โดย: โค้งวัดเบญจฯ IP: 58.8.116.233 6 พฤศจิกายน 2550 11:25:23 น.  

 


บรรยากาศเช้าวันนี้ ของรับสมัครผู้แทนราษฎร สดใส
เป็นใจ สมกับฤกษ์งามยามดีเย็นสบาย รับแสงรุ่งอรุณ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านหัวหน้า"พรรคมัชฌิมาธิปไตย"
คุณประชัย เลียว มาพร้อมขบวนแห่สิงห์โต มังกรทอง
ปลุกเร้าสำนึกความรู้สึกประชาชนดูมีชีวิตชีวาครึกครื้น
มีแสงสีทองของอรุณรุ่งส่องกระทบใบหน้าคุณประชัย
ดูอวบอิ่ม มีโหงวเฮ้งดีมาก ขณะนักข่าว ทีวี.สัมภาษณ์

คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ปชป. มาพร้อมกับท่านอดีตนายกฯ ชวน หลีกภัย ถ้าเป็นม้าแข่งก็ฟิตเปรี๊ยะเตรียม
ตัวพร้อมน้ำเลี้ยงดี มีแม่พระธรณี-กุลสตรีเป็นเจ้าเรือน
สีเสื้อ-ประวัติก็ดี ได้หมายเลข ๔ ชาวจีนถือว่า"โชคดี"

ท่านอดีตนายกฯ บรรหาร มังกรชรานำพรรคชาติไทย
จับได้หมายเลข ๑๓ เลขลักกี้-นัมเบอร์ของฝรั่งอั้งม้อ
ทำเอาชาวบ้านร้านตลาดร้อยปีสงสัย-ไอ้ชูวับเล่นของ

พรรคเพื่อแผ่นดินอิสานเสี่ยสุวิทย์นำโชคหมายเลข ๑
มาแรงแน่ งานนี้รวมใจไทย-ชาติพัฒนาสุวัจน์-เหนื่อย
กับการป้องกันฐานเสียงเมืองหลวงพรรคนครราชสีมา
(เมืองย่าโม-ให้จับตานักการเมืองหนุ่ม สายเลือดใหม่
สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แอ๊กตี้วิทสังคม-สิ่งแวดล้อม)
เพราะระบบโลจิสติกส์ ขนส่งมวลชนรถไฟรางคู่ความ
เร็วสูง จะเริ่มต้นวางระบบศูนย์-เชื่อมโยงใหม่ ณ จุดนี้
โคราชจะเป็นศูนย์กลาง ประตูอิสานสู่ทะเลตะวันออก

"เหมาโหลถูกกว่า"หัวหน้าสมัคร-พรรคพลังประชาชน
ชูหมายเลข ๑๒ แยกขั้วความคิดชัดเจนทางการเมือง
ออกมาประกาศเป็นนายกฯ ทันทีที่เห็นเงาของขงเบ้ง
ปรากฏซ้อน ขณะทำพิธีจะเอาฤกษ์ชัยจนเสียอารมณ์

ชอบคำพูดสื่อ ทีวี.๗ ระดับตัวพ่อ-คุณพิษณุ นิลกลัด
พอกล้องซูม ไปยังหัวหน้าพรรคประชาราช ป๋าเหนาะ
เสือเฒ่าวังน้ำเย็นแรกเห็นสีหน้าค่อนข้างหนักใจแทน
ถึงกับออกปากเห็นใจ-ถ้าป๋าเป็นนักมวย-ก็ต้องลดทำ
น้ำหนักลงมา ก็เพราะว่าต้องเจออะไรหนักหนาสาหัส
ยืนระยะต้านพายุยาวนาน ปีนี้ป๋าเหนาะจึงยุบไปเยอะ

หากโลกนี้ในโชคดี-มีโชคร้าย ในอับโชคยังมีโชคชัย
เพราะป๋ายังมี"ป้าอุ"ศรีภรรยาเคียงข้างเป็น"เพื่อนแท้"
พอกล้องทีวี.จับภาพใบหน้าใจดีดีของป้าอุ-ที่ยิ้มออก
เมื่อเห็นป๋าอารมณ์ดีโชว์ลูกเก๋านำหมายเลข ๙ มงคล
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อะไรที่เป็นของเราก็ต้องเป็น
ของเราวันยังค่ำขนาดอยู่รั่งท้าย หัวเราะที่หลังดังกว่า

ข้าพเจ้าขออวยพรให้ทุกพรรคหาเสียง-เล่นการเมือง
กันในเกมส์ในกรอบของกฎ กติกา มารยาทฯ ยังไงๆ
เราเป็นคนไทยด้วยกัน..การแพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา
การเมืองไม่ใช่การบ้าน เรื่องกำหนดอนาคตของชาติ
ขอให้โชคดีมีชัยมีน้ำใจนักกีฬา โชคดีทุกๆ ท่านครับ

 

โดย: ห้วยเสือเฒ่า IP: 58.8.116.142 7 พฤศจิกายน 2550 10:28:38 น.  

 


ไชโย ! ไชโย ! ไชโย ! พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินออกจากศิริราชพยาบาลแล้ว ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ
ฉลองพระองค์พระสูทร สีคล้ายนมอมชมพูใส่น้ำหวานเย็น
พระองค์ทรงพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงอิ่มเอิบผ่องใส

ลูกของแผ่นดิน-บอกพ่อว่า"พ่อของแผ่นดิน" สมาร์ทที่สุด
ข้าพเจ้าก้มกราบ..ขอให้พระราชจักรีวงศ์ จงทรงพระเจริญ

 

โดย: นายพุ่ม IP: 58.8.116.142 7 พฤศจิกายน 2550 11:44:51 น.  

 


นาทีนี้ หัวใจคนไทยทั่วโลก ทั้งในและต่างประเทศ
หลอมรวมเป็นหนึ่งดวงใจภักดิ์ถวายพ่อของแผ่นดิน

ข้าพเจ้าเชื่อเวลาขณะนี้ไม่มีประชาธิปัติย์ ไม่มีพลังประชาชน ไม่มีชาติไทย ไม่มีมัชฌิมาธิปไตย ไม่มี
รวมใจไทยชาติพัฒนา ไม่มีเพื่อแผ่นดิน ไม่มีความ
หวังใหม่ และไม่มีประชาราช ฯลฯ ไม่มีเขาไม่มีเรา
ไม่มีเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก พุทธ คริสต์หรือ
อิสลาม ไม่มีเชื้อชาติ ศาสนา ฐานันดรใด มาปิดกั้น

มีแต่พสกนิกรชาวไทย ผู้กำเนิดบนผืนแผ่นดินไทย
มีแต่จะต้องสืบสานพระปณิธานของพ่อแห่งแผ่นดิน
เพื่อปกป้อง-ผืนแผ่นดินสุดท้ายไว้ให้ลูกหลานไทย

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.116.142 7 พฤศจิกายน 2550 12:01:09 น.  

 


เด็กตัวน้อย แก้มแดงเหมือนลูกไหนสุกคาต้น สวมหมวก
ใส่เสื้อถึงหัวเข่านั่งยองผิงไออุ่นจากกองไฟ-ลานหมู่บ้านข้างๆ ผู้ใหญ่จับกลุ่มล้อมวง รับแสงอรุณบนดอยสูงเทียมเมฆ ข้าพเจ้าเผลอตัวอดอมยิ้มไม่ได้ที่บังเอิญเหลือบเห็น
เด็กผู้ชายบางคน ไม่มีกางเกงสวมข้างในด้วยความเอ็นดู

ขนาดเราออกมานั่งดื่มกาแฟเป็นดอกทานตะวันยามสาย
ม้านั่งตัวเก่าคุยกับนกตัวเล็กโฉบมาดื่มเกสรดอกไม้สีส้มใกล้อ่างกาหลวงบนจุดสูงสุดยอดดอยอินทนนท์ยังหนาว
ทั้งๆ ที่พวกผู้ใหญ่สวมถุงเท้ากางเกงยีนส์-เสื้อสเวตเตอร์
อากาศบนดอยหนาวเย็นยิ่งขึ้นจนถึงปลายเดือนธันวาคม
กลายเป็นฤดูหนาวเริ่มปีการเฉลิมฉลองของนักท่องเที่ยว
แห่กันขึ้นมาดูเกล็ดหิมะจับดอกหญ้าแม่คนิ้งบนยอดดอย

บางคนบอกคล้ายจะต้อนรับการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ
ของบรรดากลุ่มนักท่องเที่ยวยุโรปที่หนีความหนาวเหน็บ
มาอาบแสงแดดอุ่นในอุณหภูมิกำลังสบาย ๑๐-๓๕องศา
ใกล้เส้นศูนย์สูตร ศูนย์กลางทะเลหมอกป่าเขา ลำธารใส
เล่นน้ำทะเลอันดามันใสมรกต และทะเลสีครามอ่าวไทย

หรือว่าเรานั้น ต่างก็เป็นทั้งผู้รับ และผู้ให้ในเวลาเดียวกัน
หรือภายในจิตกับกายของแต่ละสรรพสิ่งนั้น มีทั้งขั้วบวก
และลบ มีหยินหยางต่างพึ่งพาอาศัยปรับสมดุลกลมกลืน
พลันเห็นภาพของเจ้าหนูน้อยแก้มแดง เพราะความหนาว
ลอยวน หยอกเย้า ถามกวนต่อว่าเมื่อไหร่จะมีกางเกงใส่

เวลานี้ลองเอาไมค์ลอยไปจ่อปากถาม ส.ส.นักการเมือง
รับรองได้ไม่มีใครบอกว่าจะทุบแฟลตดินแดง-ห้วยขวาง
ทิ้งแล้วสร้างใหม่ ต่อให้ทรุดลงต่อหน้าก็พูดตาใสว่าซ่อมได้ซ่อมได้ตามใจประชานิยม เพราะใครขืนพูดความจริง
ว่าอาคารเหล่านี้ที่จริงถึงเวลาหมดอายุใช้งานไปนานแล้ว
รับรองได้ว่าไม่มีชาวแฟลตคนไหนไปเทคะแนนเสียงให้

อีกเรื่องที่อยากเตือนสติท่านผู้บริหารบริษัทการบินไทย
ไม่เห็นด้วยกับนโยบายของกระทรวงคมนาคมเจ้าสังกัด
ให้ทบทวน-สนับสนุนเที่ยวบินระหว่างประเทศกลับมาใช้
สนามบินดอนเมือง ให้เป็นสนามบินนานาชาติ-เพิ่มขึ้นคู่
กับ-สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เป็นศูนย์กลางการบิน
เช่นกัน คือไม่จำเป็นต้องมีแห่งเดียวในกรุงเทพมหานคร
เหมือนเมืองหลวงประเทศพัฒนาอื่นเช่น ลอนดอน ฯลฯ

สนามบินสุวรรณภูมิออกแบบขยายได้ เฉพาะเรื่องพื้นที่
รองรับ ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่เฉลี่ย
เวลาขึ้น-ลง Takeoff-Landing ด้วย ข้อจำกัด ๒๔ ชม.
เพื่อให้เฉลี่ยเที่ยวบิน ที่หนาแน่นแออัดมากช่วงเย็น-ค่ำ
เวลา ๒๔ ชม.ทำเงิน จึงเป็นข้อจำกัดช่วงเวลานาทีทอง
ในธุรกิจการบินระหว่างประเทศ ที่เป็นศูนย์กลางการบิน

นโยบายใช้ ๒ สนามบินคู่กันของเมืองหลวง คือคำตอบ
เพื่อเฉลี่ยความถี่ของจำนวนเที่ยวบินให้ปลอดภัยสมดุล
สะดวกรวดเร็ว ทันสมัยด้วยระบบโลจิสติกส์ ที่ครบวงจร
ในอนาคต ระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า(แอร์พอร์ตลิงค์)
เชื่อมโยง..สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เสร็จสมบูรณ์

ทำมาหากินเมืองไทยก็เร่งทำกำไรให้มากที่สุดเร็วที่สุด
ไม่ต้องคิดหรือรับผิดชอบสิ่งแวดล้อมเงินลงทุนก็เงินงบ
ประมาณแผ่นดิน หนี้สินยกให้เป็นของผู้คนในประเทศนี้
แต่ผู้ถือหุ้นฯพวกมหาเศรษฐีชาวต่างประเทศรับผลกำไร
โครงสร้างธุรกิจล้วนเอาเปรียบชาวบ้านเหมือนกับ ปตท.

คนพวกนี้ไม่ได้เดือดเนิ้อร้อนใจกับเสียงที่ดังแสบแก้วหูเครื่องฯ เผาไหม้เชื้อเพลิงเร่งความเร็วหนีแรงดึงดูดโลก
ไม่ต้องเป็นโรคประสาทสุขภาพจิตเสียตลอดชั่วอายุขัย

ดอนเมืองยังยิ้มยินดีพร้อมจะรองรับความเจริญก้าวหน้า การเจริญเติบโตของสายการบินไทย อย่างที่เคยเป็นมา
รังเกียจรังงอนอะไร กับการที่กลับมาใช้สนามบินถิ่นเก่า
ก็เคยจุดเทียนร้องไห้อำลาอาลัยดอนปานจะขาดใจตาย
บ่นพนักงานบุคคลากรไม่พอแต่กลับจะไล่ออกเพิ่มได้นี่
เริ่มต้นแค่หยิบมือ ไม่ถึง ๑๐๐๐ คนเดี๋ยวนี้..หมื่นกว่าคน

แล้วจะเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศ ได้อย่างไร งานขยายโครงข่ายรองรับเที่ยวบินเพิ่ม คนก็ควรจะเพิ่ม
มีบุคคลากรด้านการบิน การโรงแรมการท่องเที่ยวมากๆ
แสดงว่าประเทศนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเจริญมาก
เพราะต้องใช้ทั้งความรู้ ภาษา ความชำนาญ อีกขั้นหนึ่ง
ไม่ใช่นั่งภูมิใจกับตัวเลขแรงงานไต้หวันตะวันออกกลาง

ถ้าความคิดแบบตั้งรับเราก็ต้องลด-เชิงรุกเราต้องขยาย
(ที่ฉิบหายก็เพราะตัวใหญ่รับประทานแล้วมาไล่เบี้ยเด็ก)
สิงคโปร์เกาะนิดเดียว เป็นมหาอำนาจคุมฟ้า-มหาสมุทร
จนเวลานี้ เขาใช้นโยบาย-รุกสนามบินบ้านเราเป็นฐานฯ
เราก็บ้าจี้ ปิดสนามบินนานาชาติ"ดอนเมือง"อันมีเกียรติประวัติยาวนานของสนามบิน ที่คนรู้จักทั่วโลกมากที่สุด
(ถ้าดอนเมืองอยู่ในอังกฤษเขาส่งเสริมด้วยความภูมิใจ)

การบินไทย-สายการบินแห่งชาติ มีอายุยาวนาน ๔๘ ปี
ถึงปีนี้ ก่อตั้ง พ.ศ.๒๕๐๒-๒๕๕๐ ถือกำเนิดจากบริษัท
เดินอากาศไทย TAC(Thai Airways Company )ร่วมฯ
SAS(Scandinavian Airlines System)โดย ก.การคลัง
เป็นเจ้าของหุ้นใหญ่..ก.คมนาคมเป็นผู้บริหาร มีกองทัพอากาศเป็นพี่เลี้ยงผลิตบุคลากร นักบินกับวิศวกรการบิน
ทีมช่างเทคนิคการบิน เช่นเดียวกับการท่าอากาศยาน ฯ
และองค์กรวิทยุการบิน แม้แต่กรมการบินพลเรือน ฯลฯ

ทุกอย่างจึงล้วนมีต้นทุนมีที่มาใช้ทรัพยากรของแผ่นดิน
มีพ่อ-แม่ สร้างมรดกเริ่มต้นด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน
ไม่ใช่อยู่ๆ บริษัทการบินไทย จะผุดเกิดขึ้นมาอย่างสง่าด้วยฝีมือของคุณพ่อค้านายทุน-หุ้นต่างชาติอย่างที่เห็น
พวกนี้มาชุบมือเปิบที่หลังทั้งนั้นมาพร้อมกับพวกเล่นแร่แปรธาตุ เล่ห์เชิงนโยบายเทขายสมบัติชาติยุคต้มยำกุ้ง

สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นโครงการณ์เก่าแก่ที่ปัดฝุ่นใหม่
แต่กลับกลายเป็น-อภิมหาโครงการณ์ที่มีการคอร์รัปชั่น
สูญเสียเงินงบประมาณแผ่นดินเงินกู้จากญี่ปุ่นมากที่สุด
ใช้เวลาสร้างยาวนานที่สุด เป็นการฮั้วทุนนิยมสามานย์

คนรุ่นเก่าเขาสร้างสนามบินดอนเมืองสนองคุณแผ่นดิน
ผิดกับคนไทยทันสมัยยุคนี้ที่คิดอะไรสั้นๆขอเพียงเพื่อ
ให้เรื่องพ้นตัวทุกอย่างทำเพื่อเงิน ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม

รัฐบาล มีนโยบายให้-ดอนเมืองเป็นสนามบินนานาชาติ
พลิกฟื้นคืนชีวิตใหม่กลับมาเพิ่มคุณประโยชน์ต่อความ
มั่นคงก่อให้เกิดความสมดุลและความเจริญอย่างยั่งยืน
ไม่ใช่เฉพาะแต่ผลประโยชน์สายการบินใด สายการบินหนึ่งเท่านั้น หากจะเป็นผลดีต่อการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ
สายการบินระหว่างประเทศ และภูมิภาคฯ โดยภาพรวม

บริษัทการบินไทยควรทบทวนท่าทีบทบาทของตัวเอง
รากเหง้ามรดกทางการบินเป็นภารกิจที่ควรรับผิดชอบ
ของสายการบินแห่งชาติ เช่นแผนการสร้างบุคคลากร
การบินเพื่อขยายการท่องเที่ยว างระบบเครือข่ายงาน
สนามบินทั่วประเทศเชื่อมโยงภูมิภาค ระหว่างประเทศ
มากกว่าจะคิดแบบเอกชนหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว

เพราะถ้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือกองทัพอากาศ
จะขออกนอกระบบบ้างโดยอ้างความจริงแต่เพียงครึ่ง
เดียวเรื่องผลกำไร-ขาดทุน(ของท่านผู้ถือหุ้นต่างชาติ)
ถามว่าชอบธรรมจริง อาจเป็นเพียงเล่ห์กลการยักย้าย
ถ่ายเททรัพย์สมบัติย์ของชาติคัดเฉพาะเอาแต่เกรด A

ข้าพเจ้าเห็นความชุลมุนบรรดาพรรคการเมืองหมกมุ่น
อยู่แต่เพียงเรื่องเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะตัว
พวกพ้องแล้ว ก็คงรู้สึกซึ่งไม่ต่างประชาชนชาวแฟลต
คือประชาชน มักเป็นข้ออ้างของการริเริ่มโครงการณ์
แถมยังเป็นคำตอบสุดท้ายเวลาที่ใครจะหาแพะสักตัว

ถ้าถามว่าอยากจะได้ที่พักอาศัยที่ดีดีนอนตายตาหลับ
บ้างไหม โถใจใครจะไม่อยากได้แต่ทำไมจะต้องหวง
แหน ทนจนผนังห้องน้ำผุกร่อน จนเหล็กคอม้าตาบวม
ชื้นสนิมกินเนื้อเหล็กแดงกระดูกออกนอกผิวคอนกรีต

 

โดย: ซานโช ปานซ่า IP: 58.8.125.130 9 พฤศจิกายน 2550 16:57:11 น.  

 


ข้าพเจ้าใช้วิชาเลขคณิตคิดในใจผสมวิชาอ่านเอาเรื่อง
ก็ได้ความตามตำรายาผีบอกรายงานว่านอกจาก ปชป.
พรรคการเมืองส่วนใหญ่-แทงกั๊ก พูดความจริงไม่หมด
เพราะเท่าที่ตรวจสอบรายชื่อชั้นรายตัวบุคคลแล้วล้วน
เชื่อมโยงผูกสายสะดือเดียวกับพ่อใหญ่จิ๋ว-หวานเจี๊ยบ

มิน่าน้าหมักของผม ถึงปากคอร้ายไม่เข้าใครออกใคร
"ถ้าพ้มถามคุณบ้างว่า-เมื่อคืนคุณเสพเมถุน หรือเปล่า"
แน๊ะ !? ยิ่งแก่ยิ่งเปรี้ยวจี๊ด เผลอออกลูกทวายหลงฤดู
ชักเหมือนป้าหญิงใหญ่ วัยทองเจ้าอารมณ์-ขี้หงุดหงิด

สงสัยน้าหมัก พึ่งรู้ตัวว่าหมดบุญ จะเป็นนายกฯ ตั้งแต่
เจอกลุ่มนินจาจตุพรฯ เข้าเสียบเบียดกลุ่มเรืองสุวรรณ
แลเห็นเงาของพญาอินทรีบินเฉียดหน้าออกมาโชว์ตัว
เตือนเป็นนัย ให้มันรู้กันบ้างว่า ใครเป็นใคร คือตัวจริง
เสียงจริง สุดท้ายแล้วใครจะเป็น"โซ่ข้อกลางเชื่อมใจ"
พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรครวมใจ
ไทยชาติพัฒนา พรรคประชาราช(อาจมีฮาพรรค ชท.)

อย่างเสี่ยประไชและทีมงานหาเสียง ดูจะเข้าใจได้ง่าย
สมควรแล้วที่ป๋าเหนาะบอกกว่าอยู่ชั้นอนุบาลการเมือง
เพราะใครๆ ก็ดูออกว่าจำต้องมาคลุกฝุ่นเพราะต้องการ
สมบัติอันชอบธรรมของเขาคืนตามประสาเสี่ยนักธุรกิจ
ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น นโยบายอะไร๔๐-๕๐ ข้อ
หรือจะชูนโยบายเรื่อง"รัฐสวัสดิการ"ของ อาจารย์ป๋วย
มาสู้กับนโยบาย"ประชานิยม"ของพรรคพลังประชาชน
ดูโหงเฮ้งก็รู้ว่า หมอนี่ ปกติคงมองชาวบ้านเป็นหมูหมา

ขอเรียนตามตรงด้วยความปรารถนาดี หัดคิดอะไรเอง
บ้างไม่ใช่ไปตัดแปะตัดต่อความคิดของชาวบ้านเขามา
หรือเรื่องอภิมหาโปรเจ็กขุดคอคอดกระ คลองลิงอะไร
นั้นหลับตาเห็นแต่การ์ตูนอมยิ้มเผล่คล้ายพลเอกชวลิก
นโยบายสนองนี๊ดพ่อค้าน้ำมันจีนไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี

ต้องปรับทุกข์กันเพราะฟังมาหลายครั้งจนรู้สึกว่ากำลัง
โดนคนพวกนี้ดูถูกความคิดอ่านของคนไทยยังไงก็ได้
ไอ้ความรู้สึกเห็นอกเห็นใจประไชเคยถูกทักษิณรังแก
เลยลดน้อยลงเพราะปกติพวกนี้ไม่เคยเห็นหัวชาวบ้าน

มีอย่างที่ไหนบ้างในโลกนี้ ข้าวเปลือกหายไปเป็นหมื่น
ตัน ทุกคนเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงเวลาถลุงงบ
ข้าวเปลือกใส่กระสอบเต็มโกดังโรงสีข้าวอันตรธานไป
ขนาดคอมมิวนิสต์ใหญ่เช่น รัสเซีย-จีน ยังหนาวพ่อค้า
นายทุนเมืองไทย พี่อาศัยคราบพ่อค้าไทยทำมาหากิน
แค่เรื่องโจ๊กหากินกับตู้คอนเทนเนอร์เปล่าแต่เจ็บจริงๆ

ส่วนผู้นำรับผิดชอบเจ้ากระทรวง เจ้าหน้าที่ศาล-ตำรวจ
ไม่สามารถนำผู้กระทำผิดมหันโทษนี้มาลงโทษได้เลย
แค่รัฐบาลใหม่ได้ทีมคนดีคนเก่งซื่อสัตย์สุจริตโปร่งใส
อาสาเข้ามาบริหารประเทศ เสียสละ เพื่อชาติบ้านเมือง
เอาแค่นี้ก่อนรับรองเศรษฐกิจครัวเรือน มหภาคพุ่งปรู๊ด

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.125.130 9 พฤศจิกายน 2550 20:52:21 น.  

 


ไหนไหนเราพูดถึงสายการบินแห่งชาติ-การบินไทย
ยังไม่ต้องชวนไถลไปไกลเกินถึงเมืองตูลุส ฝรั่งเศส
ว่าไปแล้ว สายการบินนกใหญ่ ในฝัน-กึ่งรัฐวิสาหกิจ
ที่เป็นตัวเลือกในอาชีพแรกๆของหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่
ที่นี่ให้การสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมานาน
เช่น การปลุกป่า-หญ้าแฝก ที่ ห้วยทรายชะอำหัวหิน

โครงการณ์หมู่บ้านช้างที่สุรินทร์หรือแม้แต่ทีมอาสา
สมัครบรรเทาสาธาณภัยฯ ยามเมื่อเกิดภัยธรรมชาติ
เช่น สึนามิ รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางอากาศ

อย่างเรื่องถุงผ้าดิบถุงผ้าใบสำหรับใส่อาหารสิ่งของ
บ.การบินไทยก็เคยรณรงค์ส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อม
ยกตัวอย่างเราใช้พืชผักผลไม้วัตถุดิบปรุงอาหารไร้
สารพิษจากโครงการหลวง ของท้องถิ่นที่มีคุณภาพ
สนับสนุน อนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย

ข้าพเจ้าหยิบกล้องบรรจุภัณฑ์ สำหรับใส่อาหารว่าง
ซึ่งออกแบบสวยงามด้วยรูปดอกกล้วยไม้ของไทย
ข้างในมีแก้วน้ำส้มคั้นเย็นชื่นใจ..เสียดายถ้าเปลี่ยน
แผ่นพลาสติกใสที่ห่อหุ้มพายสัปปะรด กับขนมเคก
เป็นกระดาษแก้ว กระดาษฟางซับน้ำมันก็ยิ่งงดงาม

 

โดย: ID.xxxxsky IP: 58.8.121.177 11 พฤศจิกายน 2550 0:54:41 น.  

 


เช้าวันวันนี้ ติดตามชมรายการของคุณสุทธิชัย หยุ่น
มาตั้งแต่ภาคกลางคืน เฮียหยุ่นแกไปสำรวจเส้นทาง
สายไหมพาเจาะเวลาย้อนอดีตนับพันปีอาณาจักรจีน

ศิษย์เอกเดอะเนชั่นรุ่นสุดท้าย จอมขวัญ หลาวเพชร
เด็กผู้หญิงคนนี้ เก่งทั้งเศรษฐกิจการเมือง รอบจัดหา
ตัวจับยาก ทั้งสองท่านนี้สนทนาเหมือนอาจารย์ศิษย์
กำลังถ่ายทอดวิทยายุทธ-วิชาตัวเบา อย่างอารมณ์ดี
ไม่เคยฝันถึงกันยังฝันถึง ไม่รู้ว่าเธอ ตีฝากไปถึงใคร
"ถ้าไม่อยากให้สัมภาษณ์..ก็ควรอยู่กับบ้านคนเดียว"
ได้ใจ..ท้องฟ้ากว้างไกล เหยี่ยวสาวตาคมเจ้าโบยบิน

ที่นึกครื้มใจ ก็เพราะเมื่อสักครู่ เห็น"น้าหมัก"ของผม
ท่านแวะมานั่งคุยกับพิธีกรสนามคู่-ดรีมทีมช่อง ๗ สี
พิษณุ-กนกขั้นเวลาระหว่างรอผลจับฉลากหมายเลข
ของพรรคต่างๆ ที่อาคารศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง

น้าหมักของผมนี่ถ้าเปรียบนักมวยก็โมฮัมเหม็ด อาลี
รุ่นเฮฟวี่เวท แบบทิ้งหมัดแต่ละทีทั้งหนักทั้งเจ็บแบบ
ถูกผึ้งต่อยฝังเหล็กไน เพราะแกใส่ที่เป็นชุดแล้วฉาก
พลิ้วเหมือนผีเสื้อรู้จังหวะไหนควรเข้ามา"ปล่อยของ"
ชิงพูดหาเสียงชี้แจงนโยบายพรรคฮุคสั้น เน้นๆเนื้อๆ
ชวนคุยให้อยาก-แล้วจากไป (แบบไร้ร่องรอย ฮา :)

เหมือนมวยถูกคู่ทั้ง พิษณุ-กนก มองตาก็รู้ทางบอล
น้าหมักว่าปกติถ้าเสียเปรียบเวทีสนามไม่สมศักดิ์ศรี
ให้เอาเทียบเกยยังไง พระยาช้างไม่พลัดเข้าเพนียด
งานลำบากอึดอัดตัดบทเช่นนี้ เพราะพี่หนกแกขาโจ๋
จ้องเหน็บสีข้าง(ใต้เข็มขัด)น้าหมักในฐานะเนชั่นเก่า
ต้องมือถึงใจแข็งระดับเก๋าเกมส์อย่าง-ตัวพ่อเท่านั้น
ที่เจรจาแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น แถมทอดไมตรี
โอกาสหน้า ๗ สี คงได้รับเกียรติ จากหัวหน้าพรรคฯ

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.121.218 12 พฤศจิกายน 2550 10:17:05 น.  

 


*ค่ำแล้วในฤดูหนาว : ต้องขอตัวไปร้องไห้(ลูกปัด)*

ควันไฟกองสุมกาบมะพร้าวแห้ง-ตับจากลอยอ้อยอิ่ง
หอมกลิ่นรมควันอ่อนๆ คุ้นจมูกล้อสายหมอกยามเช้า
ตะวันพึ่งจะชิงลับดวงลาป่าชายเลน ท้องน้ำลำปะโดง
เสียงฝูงปลาดุกทะเลฮุบเหยื่อโผงกระชัง-แพปลาเก๋า
กระพงที่ผูกติดกันเป็นแพสี่เหลี่ยมเลียบขนาบชายน้ำ

เสียงเพลงรายการวิทยุ AM.แว่วลอยเข้าหูไพเราะจับ
ใจ เฒ่าอ่ำกำลังหน้าตึงหูแดง ด้วยฤทธิ์เหล้าโรงผสม
เชี่ยงชุนตบท้าย ที่เกลอเก่าผู้ใหญ่ก้อนยื่นให้ก่อนลา
กลับจาก..เรือนไทยหลังงาม ของบรรพบุรุษชาวสวน

..ทำใจเข้มแข็งมางานแต่งแฟนเก่า เจ้าสาวนั้นเพื่อน
เราเห็นเขาทั้งคู่ยืนรับแขกรอ กะมอบของขวัญพร้อม
คำว่าฉันยินดีด้วยหนอเมื่อเดินไปถึงไม่รู้เหตุใดฉันจึง
ใจสั่น เหมือนก้อนน้ำตาติดคอ..ต้องขอตัวไปร้องไห้
..................................................................

แก้วเสียงเพลงของ"ลูกปัด-พิมพ์ชนก"หวานเจือเศร้า
ราวกับระลอกริ้วคลื่นแม่น้ำยามเมื่อต้องสายลมหนาว
เฒ่าอ่ำค่อยจ้วงคัดฝีพายหักข้อมือตัดท้องคลื่นใต้น้ำ
พึ่งมาถึงบางอ้อ ว่าทำไมเมื่อคืน ออกเรืองมกุ้งแม่น้ำ
กับเจ้าปลิวสหายต่างวัย..มันขอติดเรือนั่งหน้าไปด้วย
เจ้านี่ อยู่ๆ ปักหัวพุ่งมุดน้ำราวกับเจอแม่กุ้งก้ามกราม
ถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ อ่อมๆ แอ่มๆ จะพุ่งหัวมุดน้ำ
ท่าเดียวไม่เห็นมันได้เรื่องได้ราว เฮ้อ อาการโรคทาง
ใจของหนุ่มสาว..อานุภาพมันช่างร้ายเหลือทานกำลัง

เมื่อย่างเข้าเขตหน้าหนาว ลมหนาวก็โชยพัดกระหน่ำ
สายลมโชยมาในเวลาค่ำ ฮื่อฮือฮื้อ ฮือ ทำให้ฉันเป็น
สุขใจ เสียงเพลงค่ำแล้ว ค่ำแล้วค่ำแล้ว ดังแว่วมาแต่
ไกล โอ้ใครหนอใคร ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำค่ำ ฮือ
เรือชีวิตล่องลำนำปลอบโยนใครบางคน ค่อยหายลับ

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.125.138 12 พฤศจิกายน 2550 19:23:14 น.  

 


เพลง : ขอตัวไปร้องไห้
ศิลปิน : ลูกปัด พิมพ์ชนก
อัลบั้ม : ขอตัวไปร้องไห้

ทำใจเข้มแข็ง มางานแต่งแฟนเก่า เจ้าสาวนั้นเพื่อนเรา เห็นเขาทั้งคู่ยืนรับแขกรอ กะมอบของขวัญพร้อมคำว่า
ฉัน ยินดีด้วยหนอ..เมื่อเดินไปถึง..ไม่รู้เหตุใด ฉันจึงใจเสาะ.."เหมือนก้อนน้ำตาติดคอ..ต้องขอตัวไปร้องไห้"*

ทำใจอีกครั้ง มานั่งปั้นยิ้มเก่ง เมื่อเขาขึ้นร้องเพลง เย้ยจันทร์แล้วจูบคนรักหยอกล้อ แขกเหรื่อฮาฮือพร้อมกัน
ปรบมือสะเทือนเรือนหอ ก็อยากปรบมือช่วยเขาแต่ฉัน
หรือก็ใจเสาะ "เหมือนก้อนน้ำตาติดคอ.. ต้องขอตัวไปร้องไห้"*

ไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา..เดี๋ยวคนที่มาในงานจะพากันเศร้า ต้องคอยอาศัยห้องน้ำระบายหัวใจปวดร้าว จะนานเพียงไหน.."บาดแผลแรกรัก" ก็ทำให้เศร้า เสียแฟนให้เพื่อนเรา เขาแต่งกัน..เราร้องไห้ 26

 

โดย: ซานโช ปานซ่า IP: 58.8.126.53 14 พฤศจิกายน 2550 14:31:32 น.  

 


หนุกหนานคร๊าบยามนี้ บรรดาพ่อสื่อแม่ชักใย
เหล่าพลพรรครักป๋าเสี้ยม-ท่าน สื่อฯ ทั้งหลาย
พยายามจะแซะ แงะเอาไมค์ฯ ง้างปากหัวหน้า
พรรคการเมืองพยายามเค้น-ให้คำพูดเป็นนาย

โดยเฉพาะน้าหมัก(ของผม)โดนแนะแหนน่าดู
ตั้งแต่ข้อกล่าวหา มโนสาเร่ ขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง
ถ้าใครเป็นกุนซือ เป็นสื่อฯ รุ่นลายครามจะเข้า
ใจดี ไอ้เรื่องให้นักข่าวหน้าละอ่อนล่อถาม-คิด
จะเคี้ยวน้าหมักเหมือนเป็น"นนทุกข์ชี้นิ้วเข้าตัว"
ปากพาจนกลางสมรภูมิเลือกตั้งฯเห็นที่จะยาก

ยิ่งสื่อตอแยยั่วยุก็ยิ่งเข้าทางอดีตคอร์ลัมนิสต์
สยามรัฐ ยุค มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช,อดีตบอส
น.ส.พ.เดลิมิเรอร์,อดีตเสนาบดี ก.มหาดไทย
การวิวาทะกับสื่อกลับจะยิ่งช่วยกระพือข่าวอยู่
ในกระแสรายวันกลบข่าวผู้นำพรรคอื่นๆ หมด

น้าหมัก(ของผม)จะเหงาปากถ้าไม่มีใครสนใจ
มีปากเป็นอาวุธ-ปากเป็นเอก ยิ่งต้องเก็บอาวุธ

แนวทางต่อสู้อันสุขุมลุ่มลึกของประชาธิปัตย์
ควรเดินตามแนวทางหาเสียงอย่างสร้างสรรค์
เลิกคิดไปตอแยหรือท้าดีเบธท้าดวลอะไรอีก
ปล่อยประชาชน ใช้วิจารณญาณตัดสินใจเอง

ผมละขำกลิ้งแทบตกเก้าอี้ ที่เห็นภาพน้าหมัก
ทำท่าหันหลังจนมุมนักข่าวรุมจิกขณะรอลิฟท์
ลิฟท์เจ้ากรรมก็ช้าเหลือเกิน ดูเหมือนถูกต้อน
เข้ามุมอับเสร็จแน่ๆ ฮี่ธ่อ ไม่รู้อารายซะแหล่ว
น้าหมักคงกลั่นหายใจอมยิ้มขำนักข่าวหน้าโง่
ความจริงต้องไปขึ้นลิฟท์อีกตัวแต่แกล้งเฉไฉ
ไปอีกทางรากไม้ร้ายมาก เก่งจริงนะ ตัวแค่นี้

ส่วนเรื่องที่ถูกสื่อฯ ตัดพ้อต่อว่า ไม่รับไหว้คน
อันนี้เป็นธรรมชาติของน้าหมักมักรับไหว้แบบ
ไม่มองหน้ามนุษย์มะนา ใครคิดมากก็ถอดใจ
มาดพระยาน้อยชมตลาด ชิมไปบ่นไป แม่ค้า
ไหว้ตลอดรายทาง น้าหมักเลยยกมือค้างยาว

ผิดกับเวลาเดินเคาะประตูบ้านหาเสียงฯชุมชน
แออัด ร้านโชวห่วย น้าหมัก-จ้องตาดูยิ้มแย้ม
อัธยาสัยดีเป็นพิเศษ เรื่องรับไหว้ติดเป็นนิสัย
ก็ไม่อยากให้เอาไปเป็นประเด็น จะบาปกรรม

 

โดย: บุหลันลอยเลื่อน IP: 58.8.129.161 14 พฤศจิกายน 2550 16:31:28 น.  

 


เสียงปี่กลองเริ่มเชิดฉิ่ง กันแล้วครับ เมื่อคืน
ประเดิมมวยก่อนเวลาไอ้แอ๊ด ศึกวันทรงชัย
เจาะใจ โดยยอดพิธีกร มือทอง สมองเพชร
(สว.)ดำรงค์ พุฒตาล จอมขวัญ หลาวเพชร

พลังประชาชน ส่ง ผอ. มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ
ลงมาแถลงนโยบายประชานิยมโกยคะแนน
โปรเจ็คขายฝันพันล้านคิดมองโลกทางบวก
หลับตาเคลิ้มตามก็เห็นเมืองไทยเป็นสีชมพู
หวานแหวว กิ๋วกิ๊ว ตามสไตล์เจ้าพ่ออิมเมจฯ
พูดน้ำไหลไฟดับ เวลา๑๐ นาที น้อยเกินไป

ต่างกับขุนพล ค่ายประชาธิปัตย์ กอร์ปศักดิ์
สภาวสุ ทีมเศรษฐกิจ-ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล
ดูเหมือนภูมิใจกับบทบาทของนักตรวจสอบ
แถลงนโยบายไป ทำท่าจะหันมาตรวจสอบ
ตั้งคำถาม"ถามกลับคุณ"พิธีกร ทั้งสองท่าน
เสียเอง จนน่าเสียดายเวลานาทีเลยผ่านไป

คนหนึ่งกระตือรื้อร้นที่จะพูดพุดพูด จนเวลา
ไม่พอให้พูด อีกคนพูดไป ก็คิดเรื่องเฉพาะ
หน้าทีละเรื่องๆ ทำลายเวลาทองให้หมดไป
คุณกอร์ปศักดิ์จึงเหมาะกับบท-ผู้ตรวจสอบ
มากว่าอธิบายความแถลงนโยบายชวนเชื่อ

ศึกวันทรงชัย-ศึกแห่งศักดิ์ศรี คู่มวยยกทีม
พปช.(ทรท.)แชมป์เก่า นัดล้างตากับ ปชป.
เริ่มขึ้นแล้ว คู่แรก รักใครชอบใครว่ากันไป
ให้จมเขี้ยวว่าแต่ว่าพอถึงมวยคู่เอกน้าหมัก
(มวยล่อเป้า)อย่าเบี้ยวก็เลี้ยวกังต้องดักคอ

 

โดย: เหมาะเชิงมวย IP: 58.8.115.86 16 พฤศจิกายน 2550 10:41:15 น.  

 


กลองศึกสนามหลวงกระหึ่ม..ขอเตือนห้ามกระพริบตา
(พิษณุ นิลกลัด)ถือว่าเป็นการสมนาคุณแฟนนานุแฟนบรรดาฮาร์ดคอร์การเมือง ๒ เด้งเด้ง ๑ เป็นครั้งแรกที่
โคจรมาร่วมคู่ดรีมทีมของขุนศึกฝั่งธนพบขุนพล กทม.
น้าเหลิม อยู่บำรุงกับลุงหมัก สุนทรเวช มวยไอคิวทั้งคู่
โมฮัมเหม็ด อาลีกับชูกา เรย์ เลียวนาร์ด ถอดด้ามจากทำเนียบฮอลอ๊อฟ เฟรมส์ บรมครูปู่แนต แฟลตเชอร์ฯ

เซียนมุมน้ำเงินเริ่มส่งซิกซูดซาดจับตาโฟกัสรองคู่เอก
ทำท่าจะเป็น"มวยถูกคู่" ระหว่าง ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด
นัดหยอดตากับโคตรมวยไฟลท์เตอร์ มาร์วิน เฮกเลอร์
ฉลามทะเลใต้เทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการพรรค ปชป
สุดยอดตำนานมวยเมืองใต้ ประเภทขวาตายซ้ายสลบ

บ้างเปรียบยอดเกจิมวย"ครูเฒ่า"จำใจยอมยกให้เป็นคู่
มวยในฝันตลอดกาล พุฒ ล้อเหล็ก เชิงฉลามทะเลใต้
ยอดฝีมือผุดผาดน้อย วรวุฒิ แข้งผีพรายกระซิบอิสาน
นาทีนี้ไม่ต้องหันไปมองที่ไหนนอกจาก ปชป.vs พปช.

ขนาดยอดมวยสำอางค์ ชกด้วยยากมีลูกจุกจิกกวนใจ ทำลายสมาธิคู่ต่อสู้ จนถอดใจเดินเข้ามุม-มุดเชือกลง
เวทีเฉยเลย อย่างสามารถ พยัครอรุณ เอ๊ย เสี่ยชูวิทย์
ยังต้องมานั่งยิ้มเผล่ทำเป็นอารมณ์ดี ขอดูข้างขอบเวที

 

โดย: ตังกวย แซ่ลี้ IP: 58.8.115.86 17 พฤศจิกายน 2550 0:02:25 น.  

 


คุณครูครับ นั่นตัวอะไรครับ
อ๋อเจ้านั้นเรียกว่าลิงหลับไง

เสียงเด็กหัวเราะกราวใหญ่
โรงไฟฟ้าถ่านหินบางปะกง

ฝูงโลมาสูญหายไปในที่สุด
ลานถ่านหินผุดมีสะพานส่ง

มวลร้อนสิ่งแวดล้อมเลวลง
ลุ่มแม่น้ำบางปะกง-ถึงกาล

 

โดย: จางวางหร่ำ IP: 58.8.124.135 17 พฤศจิกายน 2550 10:34:22 น.  

 


... เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สกศ.)
เปิดเผยว่าการติดตามแก้ไขปัญหาโลกร้อนของไทย
ขณะนี้แบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ที่กี่ยวข้องกับอนุสัญญา
ระหว่างประเทศ ได้แก่ในส่วนของความหลากหลาย
ทางชีวภาพ-ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อมดูแล..ขณะที่เรื่องความเปลี่ยนแปลงสภาพ
ภูมิอากาศ เป็นหน้าที่ของกรมอุตุนิยม ส่วนเรื่องการ
ต่อต้านภาวะการเป็นทะเลทราย ให้กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์รับผิดชอบโดยแต่ละหน่วยงานควรต้อง
ร่วมหารือกันอย่างจริงจังไม่ใช่ทำงานแบบแยกส่วน
เช่นที่เป็นอยู่ปัจจุบันแต่สิ่งที่ต้องเร่งทำมี ๓ ด้าน คือ

๑.เรื่องข้อมูลที่กระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆจะต้อง
ร่วมกันทำข้อมูลฯเกี่ยวกับภาวะโลกร้อนให้ครบถ้วน

๒.แนวทางการลดภาวะโลกร้อน-ทำได้อย่างไรบ้าง
ต้องกำหนดแนวทางให้ชัดเจน ทั้งต้องมีการติดตาม
อย่างใกล้ชิด-ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะ
ทุก ๑ องศาเซลเซียส-ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นจะมีผลต่อ
การระบาดของโรคและแมลง

๓.การสร้างความรู้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกๆ ฝ่าย ทั้ง
ในฝ่ายภาครัฐด้วยกันเองที่กำลังถกเถียงกันว่าโลก
กำลังร้อนขึ้นจริงหรือไม่ต้องเร่งพิสูจน์กันให้จบเพื่อ
เตรียมรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ทันท่วงที ปฏิทินการ
เพาะปลูกจะต้องจัดทำใหม่เพราะฤดูกาลผันแปรไป
(ขอขอบคุณ นสพ.ข่าวสด อังคาร ๑๓ พย.๒๕๕๐)

โลกความจริงนั้นปัญหาภาวะโลกร้อน(เรือนกระจก)
ควรเป็นวาระแห่งชาติของทุกๆ กระทรวงโดยเฉพาะ
กระทรวงพลังงาน ที่กำลังเร่งผลักดันสนับสนุนภาค
ธุธูรกิจเอกชนร่วมทุนต่างชาติเข้ามาตั้งโรงงานผลิต
กระแสไฟฟ้าโดยใช้พลังงานถ่านหินจาก จีน อินโด
ออสเตรเลีย..เป็นตัวเร่งทำลายระบบนิเวศน์ชายฝั่ง
ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแนวปราการอนุบาลรักษาสมดุล

ปัญหาโลกร้อนขึ้นเพราะน้ำมือมนุษย์เป็นความจริง
คือวาระระหว่างชาติกำลังพัฒนาและพัฒนาไปแล้ว

ข้าพเจ้าเชื่อว่า..การพัฒนาความเจริญของประเทศ
อย่างยั่งยืนและมีทิศทางที่สอดคล้องกับธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม ย่อมจะขัดเกลาวิธีคิดจิตใจมนุษย์

หลายครั้งที่ทำให้ดูเหมือนว่าบ้านเมืองนี้ มีเจ้าลัทธิ
นายทุน-เจ้าพ่อรวมหัวกันป้อนข้อมูลข่าวสาร สร้าง
อุปาทานหมู่กดหัวผู้คนในสังคมนี้ให้ตกอยู่ในวังวน
ของความหวาดกลัวอยู่อย่างย้ำคิดย้ำทำซ้ำๆซากๆ
ตัวอย่างเช่นกระพือปัญหาความรุนแรงชายแดนใต้
ปัญหาน้ำจะท่วมเมืองหลวงกรุงเทพฯ ในอีกไม่กี่ปี
หรือเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่อยู่รั้งท้ายที่โหล่สุด
ในเอเซีย ฯ แต่ละเรื่อง..ฟังแล้วช่างชวนหดหู่ดีจริง
ฟังแล้วอยากจะหิ้วไอ้ตัวที่พล่ามพรรณาไปโยนทิ้ง
ไว้แถวๆเมืองหน้าด่านซินเกียง ข้างถนนออร์ชาตฯ

ข้าพเจ้าเองแปลกใจอยู่ว่า แล้วทำไมประเทศไทย
ที่รักของเราจึงได้เป็นดินแดนทองเป็นที่หมายปอง
ของนักธุรกิจต่างชาติ นักท่องเที่ยวชาวโลก ขนาน
นามว่าเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้มสยาม นิยมเดินทาง
เข้ามาท่องเที่ยวรับแสงแดดอุ่น-โอโซนทะเลภูเขา
ป่าชายเลน อาหารกลิ่นเครื่องเทศสมุนไพร ผลไม้

จนต้องขยาย-เพิ่มสนามบินนานาชาติรองรับไม่ทัน
ทะเลอันดามันฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ทะเลอ่าวไทย
ฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิค ภูเก็ต-สมุย มี Land bridge
เชื่อมต่อถึงกันมีอากาศแถบศูนย์สูตร มีวัฒนธรรม
อันหลากหลายทั้งรากเหง้าศิลปวิทยา มีพุทธศานา
ผู้คนต่างล้วนเป็นมิตรใจดี รักหวงแหนแผ่นดินเกิด

 

โดย: จางวางหร่ำ IP: 58.8.124.49 18 พฤศจิกายน 2550 10:39:02 น.  

 


" พ่อ ! พ่อ ! ไม่เอา ! ไม่ขาย ! ไม่รับ !!!
ไม่รับเงิน-ซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้งนะ!"

"อ๋อเหรอ งั้นก็อย่าแดกมันเลยข้าวเย็นนี่"

เสียงโครม !ถ้วยแกงจานข้าวแตกกระเจิง

"หนูแค่เตือนพ่อตามที่วิทยุบอกแค่นั้นเอง
ไม่รู้ว่าพ่อไปโกรธใครมาลุกเตะถาดสำรับ
กับข้าวกระจายเกลื่อน-วงแตก อดกินข้าว
กันทั้งบ้าน ฮือ ฮือฮือ ฮะอืดฮะอืด อิ๋งอิ๋ง"

เฒ่าอ่ำ สัปเหร่อ(ขี้เมา)เจ้าเล่ห์ จอมคาถา
อาคมฟังเจ้าแกละลูกไอ้เกลี้ยงนักเลงสุรา
รุ่นลูก ทะลึ่งริเล่นของกัญชายาบ้ายาอีจน
กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ผอมโซนั่งอมโรค
นอนตายซากไม่ยอมทำมาหารับประทาน

"เวรของเอ็ง เอ้ากับข้าวกับปลาใส่ปิ่นโตนี่
ไปให้แม่กะน้องเอ็ง กิน เออ ตักไปเยอะๆ
เอาไปเผื่อ-ไอ้หมาเกลี้ยงพ่อของเอ็งด้วย
เดี๋ยวมันจะลงแดงตายลำบากข้าภายหลัง"

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.126.156 19 พฤศจิกายน 2550 11:15:23 น.  

 


ฝรั่งตาสีฟ้าสดใสดูอ่อนโยนชาวยุโรป สองคนตายาย
ค่อยๆ ก้าวลงรถสามล้อเครื่องหน้ากรมโยธาธิการเก่า
เดินเที่ยวงานวัดภูเขาทอง..วัดสระเกศฯ หนุ่มสาวชวน
กันขึ้นบันไดขึ้นไปกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุเจดีย์
ยืนชมทัศนียภาพ เส้นขอบฟ้ากว้าง กรุงเทพมหานคร

ข้าพเจ้าจำความตั้งแต่เด็ก เก่าแก่คู่กับงานพระสมุทร
เจดีย์กลางน้ำ ที่ปากน้ำเมืองสมุทรปราการ นั่งรถราง
มาลงแถวเชิงสะพานผ่านฟ้า ก่อนกิจการรถรางยุติลง
งานวัดภูเขาทองมีต่อเนื่องจนถึงเทศกาลลอยกระทง

น้ำในคลองคลองคูเมืองคลองแสนแสบและอีกหลาย
คูคลองในเขตรอบนอกของกรุงเทพมหานคร มีน้ำใส
สะอาดเต็มฝั่ง กลายเป็นพื้นที่ที่ว่างช่องลมเย็นสบาย
ระบายอากาศร้อนหมอกควันอึมครืม ปกคลุมท้องฟ้า

ต้องขอบคุณผู้บริหารและข้าราชการพนักงานที่เอาใจ
ใส่ดูแลควบคุม ปิดเปิดประตูระบาน้ำให้ไหลไล่น้ำเน่า
เสียตามคูคลอง เกิดเป็นผลดีทางกายภาพต่อวิถีชีวิต
จิตใจอย่างยิ่ง น้ำดีจากแม่น้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติ
คือสิทธิพื้นฐานที่พึงได้รับเช่นเดียวกับอากาศบริสุทธิ์
เป็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรมไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข

พูดถึง-เทศกาลลอยกระทงบ้านเราปีนี้จัดทั่วประเทศ
เพื่อต้อนรับฤดูกาลปีท่องเที่ยว..The Land of Smile
และอำนวยปลอดภัยสะดวกรวดเร็วแก่ท่านผู้โดยสาร
"Chiang Mai Shuttle by One To Go" .. BKK-CNX
ออกเดินทางจาก..ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
กรุงเทพฯ และท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทุก ๑ ชั่วโมง
เริ่มตารางบิน ตั้งแต่วันที่ ๓๐ พ.ย.๒๕๕๐ เป็นต้นไป

โดยส่วนตัวสะดวกและคุ้นเคยกับสนามบินดอนเมือง
ต้องขอชื่นชมและขอบคุณ.."One To Go" ซึ่งจริงใจ
เพราะเรารู้ว่าเวลามีค่าสำหรับคุณ..ไทยด้วยกัน สู้สู้ !

 

โดย: คนไม่อยู่ค้ำฟ้า IP: 58.8.121.242 19 พฤศจิกายน 2550 17:03:16 น.  

 


หลังจากสภาเหี่ยวห่อหอการค้า สมาคมส่งออก
ความระทมขมขื่น ตลาดหุ้น-ตราสาร นองน้ำตา
สำนักพยากรณ์เศรษฐกิจการค้าไขข่าวร้ายขาย
ข่าวกดราคา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ชี้นำทิศทาง
เศรษฐกิจไทยโตไม่เกิน ๔ % แม้เลือกตั้งแล้ว
เศรษฐกิจก็ยังจะตกต่ำต่อไปขณะที่เสี่ยประชัย
หัวหน้าพรรคมัชฌิมาฯ ซึ่งกำลังเร่งสตีมหาเสียง
โวถ้าได้เป็นรัฐบาลคุมด้านเศรษฐกิจ รับรองผม
จะทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยโตขึ้นถึง ๑๕ %

แสดงให้เห็นว่าส่วนสำคัญนี้มาจากความเชื่อมั่น
มีเสถียรภาพทางผลกำไร อาหรับ-ใครจะรบกัน
บ้านเมืองกลียุคอดอยากยังไงส่งออกน้ำมันได้
เป็นพอใจตัวเลขเศรษฐกิจประเทศมันก็เมคอัพ
ให้สวยหรูได้ ๘ % -๑๕ % ตราบที่ยังทำกำไร
รัฐบาลเอื้ออำนวยความสะดวกในการดูดทรัพย์

ตลาดหุ้นทั่วโลก ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า มีเครือข่ายโยง
เป็นปลาใหญ่กินปลาเล็กตัวอย่าง..หุ้นพลังงาน
บ่อน้ำมันดิบ-โรงกลั่นทั่วโลก..อยู่ในมือสหรัฐฯ

หุ้น ปตท. ฟันกำไรกระฉูดโชติช่วงชัชวาลจริงๆ
โชติช่วงชัชวาลกันเฉพาะผู้ถือหุ้นใหญ่ต่างชาติ
คนไทยเคยฝันลมๆแล้งๆแท่นขุดเจาะอ่าวไทย
จะได้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราคาถูกอย่างมาเลเซีย
บรูไน ถึงเวลาพ่อค้าคนกลางก็มาตำราเดียวกับ
พ่อคนกลางโรงสีข้าวเปลือก..สัมปทานส่งออก
คนไทยปลูกข้าว แต่ส่งออกในชื่อประเทศอื่นๆ
อันนี้มันติดพันมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้ง ๒

สินค้าเกษตรส่งออกสำคัญอย่างข้าว ยางพารา
ดีบุก (สูญพันธุ์ไปนานแล้ว) ฯลฯ ก็ถูกกดราคา
จะหันไปพึ่งพาโรงงาน-ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ
โรงงานก็ทะยอยไล่ปิด ย้ายฐานไปที่เวียตนาม
สินค้าอาหารทะเล เนื้อไก่ ของเอกชนไม่เดือด
ร้อนเพราะเขาเตรียมกระจายไปจีน ที่อื่นๆ แล้ว

ผสมโรงลีอบบี้ยิสบีบจากกลุ่ม EU สหรัฐ ญี่ปุ่น
ชะลอโครงการณ์เงินกู้ และย้ายฐานการลงทุน

ข้าพเจ้าจำได้ว่าวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำช่วง IMF
เปอร์เซียน-วอร์ ไล่มาจนถึงโรคพิษ"ต้มยำกุ้ง"
ตอนนั้นคนไทยกินเป็นแต่มาม่ารสต้มยำ ไวไว
ทั้งประเทศ ตลกคาเฟ่ ตกงานตลกไม่ออกเลย
มนุษย์เงินเดือนภาครัฐ ผู้จัดการสาขาธนาคาร
ขับแทกซี่เป็นแถว คนไทยโศกกันทั้งประเทศ

ทุกวันนี้ นักการเมืองที่เคยบริหารบ้านเมืองยุค
นั้นจนเหลวแหลกยังเชิดหน้าชูตาไม่มียางอาย
บางคนเคยเป็นถึงผู้นำ วันนี้มีหน้าทำโชว์เหนือ
ลืมหมดแล้วตราบาป-ครุกรรมทำกับประชาชน

ข้าพเจ้าเห็นคล้อยตามกับผู้รู้หลายท่านที่เสนอ
แนะให้หันกลับมามองดูตัวเอง ว่ามีจุดแข็งแรง
จุดขายอะไรบ้าง โดยไม่ต้องออกไปเร่ขายส่ง
แต่ตั้งหลักเอาบ้านเราเป็นภัตตาคารร้านอาหาร
เป็นโรงแรมชั้นดี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ
ทะเล เชิงนิเวศฯ เชิงศิลปะวัฒนธรรม ประเพณี

ขายบริการเที่ยวบินขนส่งคาร์โก้ นักท่องเที่ยว
ด้วยสายการบินแห่งชาติเป็นเรือธงนำผู้คนเข้า
ประเทศในฤดูการท่องเที่ยวที่กำลังมาถึง ต้อง
เร่งโหมงบลงทุนทำกันแต่เดี๋ยวนี้อย่างต่อเนื่อง

คนไทยจะท้อถอดใจไม่ได้การเมืองก็ว่ากันไป
ตามครรลองประชาธิปไตยแต่เรื่องทำมาหากิน
ต้องช่วยกัน ไม่ใช่คอยขัดขาเจาะลมยางเพื่อน
บ้านเมืองฉิบหายส่วนใหญ่ก็เพราะเจ้าตัวฉลาด

ส่วนพ่อคนโง่ทั้งหลายต้องช่วยเก็บซากกระดูก
ซ่อมไฟฟ้า น้ำประปา หลังคาบ้าน ล้างโรงรถ ฯ
แถมเงินออมที่ฝากไฟแนนซ์-แบงค์ ล้มละลาย
เยี่ยมจริงๆ พี่น้องร่วมชาติเอ๋ย ให้มันได้อย่างนี้

 

โดย: รักเธอประเทศไทย IP: 58.8.121.242 20 พฤศจิกายน 2550 0:56:46 น.  

 


เก็บตกอารมณ์จากออหมักชิมไปบ่นไป

*เมื่อคืนนี้..คุณเสพเมถุน ! แล้วหรือยัง ?
กลายเป็นคำพูดทักทายยอดฮิตติดปาก
Talk of the Town-Around The Cock

สำนวนหอมกลิ่นดอกกัญชายุคบุบผาชน
พ๊อกเก็ตบุ๊ครีไซฯรงค์ วงษ์สวรรค์(หนุ่ม)

๒๓ พย.คืนลอยกระทง สมัยพ้มเป็นผู้ว่า
กทม.พ้มต้องสนับสนุนให้ใช้กระทงโฟม
ทำไมก็พ้มมีเหตุผลของพ้ม พ้มไม่ใช่คน
ไม่มีที่มาที่ไปกระพ้มก็พอจะมีสติปัญญา

กระทงโฟมมันเก็บง่ายกว่ากระทงใบตอง
(แต่ไม่อธิบายต่อว่าโฟมย่อยสลายยาก)
ไม่ทำให้น้ำเน่าเสีย อย่าเห่อรักธรรมชาติ
ดัดจริตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกันหน่อยเลย

พ้มถาม ถ้างั้นทำไมคุณไม่กินข้าวห่อใบ
ตอง เอาน้ำถั่วเหลืองใส่กะโหลกกะลาละ
มันเป็นไงใช้กระทงโฟมทำจะเป็นจะตาย
(คนนี้เค๊าชอบโฟม..คนนี้เค๊าชอบโฟม ?)

อนุรักษ์ประเพณีที่ดีงาม รักษาธรรมชาติ
สิ่งแวดล้อม แม่น้ำลำคลองให้ใสสะอาด
โปรดใช้ใบตอง วัสดุธรรมชาติทำกระทง

 

โดย: ดวงจำปา IP: 58.8.120.114 20 พฤศจิกายน 2550 12:45:28 น.  

 


อันว่า พ่อหมอผู้หยั่งรู้ดินฟ้ามหาสมุทร น๊อตตาดามุส
ระบบดิจิตอล-พยากรณ์ล่วงหน้าว่า..กรุงเทพมหานคร
อาจจะเป็น ๑ ในหลาย ๑๐ เมืองหลวงทั่วโลกที่จมน้ำ

เท่านั้นละ ! บรรดาคุณพ่อสื่อแม่ชัก ป๋าเสี้ยม เต้าข่าว
น้ำยายหยัยยืดด โหมประโคมข่าวนี้ ราวกับกรุงเทพฯ
ติดอันดับ ๓ มหานครที่มีเสน่ห์น่าท่องเที่ยวมากที่สุด
(ผลโหวตนี้คัดเลือกจากเมืองท่องเที่ยวต่างๆทั่วโลก)

น่าแปลกมากภาครัฐ-เอกชน-ชาวบ้านไม่กระตือรือร้น
ชอบข่าวประเภท เมื่องไทยดีทุกอย่าง ยกเว้นคนไทย
อันตรรกะวิธีแมวคิดเช่นนี้เจอตัวเป็นๆต้องเหยียบหน้า

มีเด็กหญิงตัวน้อยฉลาดน่ารักนักเรียนประถมโรงเรียน
อำเภอ-จังหวัดชัยภูมิ ฝากมาถามว่า ทำไมคนสิงคโปร์
เกาะเล็กๆ มาเลเซีย เวียตนามซึ่งต้องจมอยู่ใต้บาดาล
ไปพร้อมกับกรุงเทพฯ เมืองไทย น่ากลัวจังไม่เห็นใคร
เขาจะวิตกกังวลเป็นกระต่ายข่าวตื่นตูมแบบคนบ้านเรา
เขาก็ยังทำมาหากินใช้ชีวิตเป็นปกติสุขเป็นเพราะอะไร

ทำไม คนไทยทุกวันนี้ ถึงได้อ่อนไหวอุปาทานหมู่ง่าย
จนใครจะฉวยโอกาสจะให้ยากล่อมประสาทยังไงก็ได้
หรือรู้สึกตัวช้ากว่ารู้ว่าถูกสิงคโปร์เทคโอเวอร์ก็สายไป
ที่พูดเตือนสตินี่ไม่ใช่ต่อว่าสิงคโปร์ แต่มันโมโหตัวเอง

 

โดย: จางวางหร่ำ IP: 58.8.120.114 20 พฤศจิกายน 2550 15:10:17 น.  

 


อ้าว !! เอาเข้าไป !! แค่เผลอบ่นดังๆ
เรื่องคาดว่าน้ำทะเลจะท่วมกรุงเทพฯ
อีกไม่เกิน ๑๐ ปี(แต่ถ้าเกินก็แล้วไป :)

ตลาดหุ้นฯ โทร.มาต่อว่า ทำให้หุ้นฯ
ดิ่งลง ๒๑ จุด มีเถียง-ลงต่อ ๓๖ จุด

 

โดย: จอร์จ โซ(จูเนียร์) IP: 58.8.120.114 20 พฤศจิกายน 2550 15:23:48 น.  

 


ข้าพเจ้าสนใจผลึกความคิดของนักวิชาการอาวุโส
ขออนุญาตเรียกอาจารย์ ดร.ปราโมท นาครทรรพ
ขณะที่เปรียบเทียบกับผลึกความคิดทางการเมือง
ของนักการเมืองอาวุโสอย่างคุณเสนาะเทียนทอง
อดีต รมต.กระทรวงมหาดไทย จากความหวังใหม่

ว่าตามหลักทฤษฎีการเมือง-ทั้งสองท่านมีมุมมอง
ผลึกความคิดทางการเมืองต่างกันอย่างขาวกับดำ
ท่านหนึ่ง..เดินตามแนวสังคมนิยม-ประชาธิปไตย
(เรียกว่ามาร์กซิสเก่า อดีตซ้ายสำเร็จรูปก็ย่อมได้
ผลึกความคิดมาร์กซิส บรรจุกล้องประชาธิปไตย)

เพราะถึงที่สุดแล้ว ก็ยังไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง
ตามครรลองประชาธิปไตย ที่อยู่ในโลกความจริง
ตรงนี้แหละ ที่เอาทฤษฎีประชาธิปไตยบริสุทธิ์จับ
จนทำให้เห็นช่องว่างเล็กแคบๆ ซุกซ่อนตัวตนอยู่
สังคมโลกในอุดมคติสมบูรณ์แบบไม่มีช่องว่างไง

สมมุติฐานของอาจารย์ ดร. ปราโมท นาครทรรพ
ย่อมถูกต้องที่สุด และยังเป็นทิศทางที่ควรจะเป็น
เพียงแต่จะหันมายอมรับว่ารัสเซีย จีน ก็หันมารับ
เอาความเป็นไปได้ก่อนของระบบทุนนิยม เวลานี้
เพราะจีนรู้จักผสมผสานประยุกต์ใช้ให้สอดคล้อง
กับโลกของความเป็นจริงอย่างระมัดระวัง และจีน
ทำได้ดีมากในฐานะส่วนหนึ่งเป็นประเทศทุนนิยม
อย่างชนิดก้าวกระโดด GDPเติบโตสูงสุดต่อเนื่อง
แมวดำหรือแมวขาว ไม่สำคัญ สำคัญที่จับหนูเก่ง
ลัทธิการปกครองใดไม่สำคัญสำคัญที่ผลสัมฤทธิ์

ข้าพเจ้าจึงนับถือยกมือไหว้ปูชนียบุคคลเช่นนี้ได้
สนิทใจหากจังหวะก้าวตัดสินใจต้องเคารพตัวเอง
โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยกับเหตุผลในการ
ที่จะพยายามยื้อลากวันเลือกตั้งออกไป โดยอ้าง
ประชาชนยังไม่พร้อม- นักการเมืองยังเห็นแก่ตัว

วิธีคิดแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยคณะราษฎร-อภิวัฒน์
เปลี่ยนแปลงการปกครองโดยอ้างประชาธิปไตย
ตั้งแต่ ๒๔ มิถุนา ๒๔๗๕ ขณะประชาชน นั้นยัง
ไม่พร้อมกับวิธีการเลือกตั้ง หน้าที่ สิทธิ เสรีภาพ

วิธีที่ดีที่สุดไม่ใช่อยู่ที่กรอบกรงขังประชาธิปไตย
ที่ใครๆจะถืออำนาจบงการบังคับสั่งสอนชาวบ้าน
ว่าต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ต้องเลือก-ต้องเลื่อน
แต่อยู่ที่เราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อย่างเสรีชน
พึงเคารพในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ด้วยกัน

ปลดปล่อยให้อิสระแก่รอยเท้าก้าวต่อไปยุคสมัย
ของเรา อาจช้าไม่ทันใจสหายบ้าง เร็วบ้าง ดีบ้าง
ชั่วบ้าง แต่มีจิตวิญญาณเสรี มีชีวิตเลือดเนื้อครบ
ถ้วน อาจไม่สมบูรณ์แบบดังเช่นอุดมการณ์ในฝัน

ยิ่งทราบว่า พลเอกชวลิต ยกมือ เห็นด้วยกับวิธีนี้
ยิ่งมองทะลุออกไปไกลถึงไหนสุดแต่จินตนาการ
ตัวท่านเองนั่นแหละตัวดี ลงสนามมากี่ครั้งไม่บ่น
ทำไมพึ่งจะมาปิ๊ง ! คิดจะล้างบ้านจัดระเบียบใหม่
ไม่อยากให้อาจารย์ปราโมท เป็นเครื่องมือคนอื่น

ส่วนท่านเสนาะ นักเลงวังน้ำเย็น อ่านเข้าง่ายกว่า
เว้ากันแบบลูกทุ่งตรงไปตรงมา อยากจะเลือกตั้ง
ก็เพราะเป็นนักการเมืองอาชีพจะเปลี่ยนจะแก้ไข
อะไรก็ไปว่ากันในสภา ต่อสู้กันในกรอบรัฐสภาฯ

เพราะประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศ"คอมมิวนิสต์"
จะได้ไม่สนใจประชาคมโลก เพราะยิ่งล่าช้าออก
ไป เศรษฐกิจ-การเมือง-สังคมภายในยิ่งอ่อนแอ
แตกแยกรบราฆ่าฟันกันเล่นกันนอกกรอบกติกา
คราวนี้ละอาจารย์ปราโมท(ของผม) จะอธิบายว่า
เพราะอย่างนั้น เพราะอย่างนี้ มันจึงเป็นเช่นนั้นฯ

เพราะชีวิตคนเรานั้นไม่ยืนยาวพอที่จะรับผิดชอบ
ความผิดพลาด ล่าช้า ความเสียหาย ซึ่งคิดไม่ถึง
หลายครั้งที่ทฤษฎี กับปฏิบัติ มักเดินสวนทางกัน
ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเชื่อหมด

เหมือนป๋าเหนาะ เป็นคนแรกที่ชวนตัวอัดทักษิณ
ขึ้นเวทีพันธมิตรล้มพรรค ทรท.จนสำเร็จทุกวันนี้
เมื่อเช้าให้สัมภาษณ์ เอ้าแล้ว บอกจะร่วมรัฐบาล
กับพลังประชาชนเฉยเลย หลังจากที่จะยกพรรค
ประชาราชทูลหัวให้พ่อใหญ่จิ๋ว จนเถ้าแก่ประชัย
บอกเลิกศาลา ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า เผ่นแนบ

ทั้งอาจารย์ปราโมท และ ป๋าเหนาะ จึงเป็นความ
ต่างบนความเหมือน คือ เลี้ยวลงรูปูเปรี้ยว-ลุงจิ๋ว
ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่พอเหลาลงไปเป็นบ้องกัญชา
เมื่อความสุภาพ ความเก๋า มาพบกับความหวาน

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.120.114 21 พฤศจิกายน 2550 0:17:19 น.  

 


จะปิ๊กอยู่แล้วเปิดรายการ"จับตาเลือกตั้ง ๕๐" ช่อง ๑๑
เจอพ่อนักการการเมืองเอกของโลก ชิงชัย มงคลธรรม
ตามตัวมานาน ได้ข่าวว่าฝีปากดีเหลือเกินเอาแบบจะจะ
สมัยก่อนนั้นโตขึ้นมารุ่นเดียวกับชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ ปชป.
ได้ข่าวว่าไปพูดปราศรัยหาเสียงที่ไหนน้าชิงชัยจะเลื่อน
เลือกตั้งลูกเดียว แล้วก็เล่นโวหารการเมืองเกรอะกรังฯ

เหมือนเดิมความหวังใหม่ที่ไม่มีอะไรใหม่เดินแนวเดียว
ส่อเจตนารมณ์ว่าอยากเห็นบ้านเมืองเป็นเช่นปากีสถาน
กับการเมืองภายในรัฐบาลเผด็จการกำลังกลียุควุ่นวาย
ก็เพราะว่าประธานาธิบดีพลเอกเปอร์เวซ มูชารัฟทำท่า
จะเบี้ยวจะเลื่อนเลือกตั้งด้วยข้ออ้างตะเภาเดียวกับท่าน
ชิงชัยและคณะสหายเก่าฯแต่เอาประชาธิปไตยบังหน้า

ความจริงโรคเลื่อนนี่พลเอกสนธิท่านทำท่าออกอาการ
จะเป็นอยู่เหมือนกันแรกๆก็เพราะมีพวกขุนพยักคอยยุ
บอกมูชารัฟยังมั่วนิ่มเหยียบเรือสองแคมยังเป็นได้เลย
คือคบทั้งฝ่ายมุสลิมหัวรุนแรง กับสหรัฐฯ และตะวันตก

โถพ่อคุณพ่อมหาจำเริญชิงชัย..มันเกรอะกรังมาตั้งแต่
ยุคไหนกระทั่งถึงยุคพรรคความหวังใหม่มาเป็นแกนนำรัฐบาลผสม(พลเอกชวลิตนายกฯ)ทำไมไม่แก้ถ้าจะหาเรื่องเป็นโรคเลื่อนฯมันน่าจะคิดออกตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว
ไม่ใช่พึ่งจะคิดได้เอาตอนนี้ทำไมไม่เป็นประชาธิปไตย
จัดการล้างบางการเมืองให้ใสสะอาดบริสุทธิ์ขจัดสิ่งชั่ว
ร้ายจับแก่นประชาธิปไตยแท้จริงจนเกรอะกรังเอาวันนี้

ชาวบ้านเขาอ่านเกมส์ออกว่าจริงๆพวกคุณยังไม่พร้อม
เป็นพรรครักษาการถึงเลือกตั้งก็มีสิทธิ์เป็นพรรคต่ำสิบ
อย่าทำเป็นอ้างหลักการตามหลักตัว อ้าปากเห็นลิ้นไก่

ต้องขอชมคุณอรอุมา เกษตรพืชผล พิธีกรสาวควบคุม
เกมส์อัดคุณชิงชัย มงคลธรรม อยู่หมัดเธอคงเหลืออด
ชาวบ้านเขาจะเลือกตั้งกันวันที่ ๒๓ ธค.นี้แล้วท่านนี่ยัง
เพ้อทำหูทวนลมไม่รับรู้กรูจะเลื่อนเลือกตั้งท่าเดียวแต่
พอยุ ควม.ไม่ต้องไปลงสมัครรับเลือกตั้งฯไม่เอาจะลง
สมัคร พอกันกับลูกพี่ไม่ลงเลือกตั้งแต่อยากเป็นนายก

สรุป..ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาต้องการเลือกตั้งเพราะเขา
รู้ทันว่าถ้ายังมัวเพี้ยนเสียเวลาตามหาประชาธิปไตยแท้
บริสุทธิ์อีกไม่รู้กี่สิบชาติก็คงต้องเป็นคอมมิวนิสต์เทียม
ลูกสมุนลูกพี่คอมมิวนิสต์แท้ไปตลอดชาติ..จนสิ้นชาติ
ก็แปลกดีที่รัสเซีย จีน ถึงเวลาค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจากคอมมิวนิสต์มาเป็นประชาธิปไตย เป็นประเทศทุนนิยม
แต่ผองไทยทำท่าจะฉลาดลงอยากจะเป็นคอมมิวนิสต์

ข้าพเจ้าละห่วงเป็นประชาธิปไตยก็ห่วยแล้วจะเสียคอม
พาลทำเอาลัทธิการปกครองที่ดีดีของเขาเสียของหมด
ก็บ้านเราคอมมิวนิสต์ฮ๋ำเทียมชอบสบายชี้นิ้วกันทั้งนั้น
ถ้ายังขืนตะแบงก็เป็นปากีสถานแล้วจะรู้สึกแบบเนปาล
เดินแนวประชาธิปไตยไปข้างหน้าช้าๆ แต่มั่นคงอยู่ดีดี
ยังไม่ถึง ๑๐๐ ปี จะเอาดีถึงไหนกับประชาธิปไตยไทย

 

โดย: ปลายบูรพาทิศ IP: 58.8.124.97 26 พฤศจิกายน 2550 23:46:36 น.  

 


ตามปกติธรรมชาติวิสัยของสหภาพแรงงานฯ กับบอร์ดบริหารองค์กรบริษัทมหาชนกึ่งรัฐวิสาหกิจมักไม่กินเส้น
ไม่ค่อยลงรอยกันเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรนัยว่าเพื่อ
คานอำนาจรักษาผลประโยชน์กันและกันอยู่ๆ วันดีคืนดีกรรมการสหภาพฝ่ายช่างฯ ก็ยกขบวนกันมาแสดงพลัง
ที่ลานต้นก้ามปู สำนักงานใหญ่ ชนะบ้างแพ้บ้างกลับไป
บางครั้งก็มีรายการเชือดไก่ให้ลิงดูพอหอมปากหอมคอ
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ต่างฝ่ายมักอิงกระแสพรรคการเมือง

ครั้งนี้ ทั้งบอร์ดบริหาร และสหภาพแรงงานการบินไทย
ทำท่าจะจับมือกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน เอ๊ย !
ผลประโยชน์ขององค์กรเดินหน้าโครงการณ์ส่วนที่สอง
สร้างอาคารที่พักผู้โดยสารการบินไทย-พร้อมลานจอด
เรียกว่าย้ายฐานการบินชนิดเต็มสูบ-ครบวงจร งบหลาย
หมื่นล้านยังไม่รวมฝูงบินประจำการฝูงใหม่เต็มอัตราศึก
เมื่อคิดฝากชีวิตไว้กับสนามบินสุวรรณภูมิอยู่กินกันยาว
ไม่มีเผื่อทางหนีทีไล่ยามเกิดศึกเหนือ-เสือใต้ อุบัติเหตุ
หรือภัยภิบัติยามฉุกเฉิน ลืมหันมองสนามบินดอนเมือง

มีคนบอกว่ามีสนามบินนานาชาติเหมือนเรามีประตูบ้าน
ถ้าประตูใหญ่ก็รับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นแปลกแต่จริง
พอจะมี ๒ สนามบินนานาชาติ เหมือนบ้านนี้มี ๒ ประตู
แบบประตู Main Entrance กับประตูด้านข้างแต่ไม่เอา
จะปิดตายเอาประตูใหญ่ประตูเดียวคิดไม่สมเหตุสมผล
นโยบายของรัฐฯ มี Vision ที่ใจกว้างมองไกลรอบด้านกว่านโยบายของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ มุ่งเน้นเฉพาะตัว
พนักงาน ผลประกอบการกำไร-ขาดทุนเงินงบประมาณ

สหภาพฯออกมาเปิดศึกขู่เป็นทัพหน้าให้กับฝ่ายบริหาร
ขอชนกับรัฐ-คมนาคม คัดค้านนโยบายเปิดใช้สนามบินดอนเมือง..เป็นสนามบินนานาชาติ ที่ ๒ ของกรุงเทพฯ
จึงเป็นเรื่องผิดปกติธรรมชาติของสหภาพแรงงานที่ควร
คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมประเทศชาติมากกว่า
ผลประโยชน์ส่วนตัว หรือองค์กรรัฐวิสาหกิจที่มีผู้ถือหุ้น

วงเงินงบประมาณฯที่จะต้องทุ่มลงไปอีกหลายแสนล้าน
กับสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อหวังจะสร้าง-มหานครในฝัน
เมืองมหาวิทยาลัยแพทย์-ศูนย์กลางการแพทย์ สำหรับ
มหาเศรษฐีตะวันออกกลาง เอนเตอร์เทนเมนท์-คาสิโน
เมือง IT-Logistics เมืองที่พักอาศัยริมทะเล-คลองด่าน

กับงบประมาณเพียง ๑ ใน ๑๐ ในการปรับปรุงสนามบินดอนเมืองสร้างระบบ Logistics-Airport Link เชื่อมโยง
กับสนามบินสุวรรณภูมิ-ทำให้เกิดการขยายเมืองวงรอบ
มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โตตลอดแนว Airport Link
เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเมืองเก่ากับใหม่อย่างกลมกลืน
เป็นการขยายเมืองอย่างเป็นธรรมชาติ ต่างจากการเติบ
โตเร่งกระทันหันเชิงเดี่ยว เพื่อเป็น"เขตเศรษฐกิจพิเศษ"

ถ้าการบินไทยไม่ใช่สายการบินแห่งชาติ มีพันธกิจร่วม
กับรัฐมีภาระต้องรับใช้สังคมส่วนรวมก็คงไม่มีใครสนใจ
ท่าทีปฏิกิริยาซึ่งแสดงออกว่าไม่ต้องการกลับดอนเมือง
เหมือนเช่นสายการบินระหว่างประเทศกลุ่มพันธมิตรอื่น
สนามบินดอนเมืองมีคุณประโยชน์มากกว่าผลประโยชน์
ทั้งในด้านความมั่นคง ความสะดวกปลอดภัย ประหยัดฯ
หลักคิดเยื่อใยสุดท้าย จึงไม่ใช่เรื่องเทคนิคหรือยุทธวิธี

 

โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.117.112 28 พฤศจิกายน 2550 0:17:11 น.  

 


โนโมโกะ :

เพราะฉันรักเมืองเก่าสุโขทัย
ขอฝากรอยเล็บไว้ในอุทยาน
ในทุกต้นหญ้าดอกไม้ป่าบาน
จักรยาน จอดคอย โนโมโกะ

 

โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.119.237 28 พฤศจิกายน 2550 8:14:27 น.  

 


๑๑๕ ปี ..ศรีสยามสมัย
มหาวิทยาลัย สามัญชน
ราชภัฏ บุญพระมากพ้น
พระนคร คนของพระราชา

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.116.7 28 พฤศจิกายน 2550 23:13:00 น.  

 


วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติ สิทธิยา สัพพะทุกขะ
วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติ สิทธิยา สัพพะภะยะ
วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติ สิทธิยา สัพพะโรคะ
วินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

เสียงพระสงฆ์ลงอุโบสถศีลสวดทำนองสรภัญญะถวาย
คำอาราธนาพระปริตรเพื่อป้องกันความวิบัติฉิบทั้งมวล
เพื่อยังสมบัติทั้งปวงให้สำเร็จ เพื่อให้ทุกขภัย โรคาภัย
พินาศหมดสิ้นไป ฯ

อ่ำ ชราชล นอนเอกเขนกบนเรือมาดคู่ชีพ มวนยาเส้น
ฟังพระสวดสบายอารมณ์ หลังจากฟาดดินเนอร์มื้อค่ำ
เมนูเด็ดผักบุ้งเทโพปลาช้อนแปดริ้วกับยำมะม่วงปูเค็ม
เครื่องปรุงง่ายๆ ซอยพริกขี้หนูกับหอมแดง น้ำตาลปีป
ล้างปากด้วยกล้วยหอมทองสุกคาเครือที่ห้อยไว้ใต้ถุน

เออ พวกพ่อคนดี พ่อประเสริฐศรี มือถือสากปากถือ
ศีลมันจะห้ามอะไรกันนักหนา ห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามสูบ
บุหรี่ ห้ามดื่มสุราเมรัย เหล้า เบียร์ ห้ามเล่นหวย ๒ ตัว
๓ ตัว บน-ล่าง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ไม่เห็นมันจะได้ผล
เหมือนโรคเอดส์สมัยก่อนมันมีเสียที่ไหนมันกลัวบาป

หวยใต้ดินบนดิน ชาวบ้านแค่เล่นพอหอมปากหอมคอ
จิบบาท ยี่จิบบาท กองสลากรัฐบาลท่านเอาไปพัฒนาประเทศทำรถไฟรางคู่ ขุดลอกคูคลองรักษาพยาบาล
มันจะห้ามให้มีชีวิตมีรสนิยมเหมือนมันทุกอย่างได้ไง

คนยากจนหาเช้ากินค่ำ กรรมกรก่อสร้าง ผู้ใช้แรงงาน
บางครั้งก็เร่ร่อนไม่เป็นหลักแหล่งต้องกินอยู่อย่างเลว
มันก็ต้องมีดื่มสุรายาดองของมึนเมาบ้าง ไม่ถึงกับเลว
เสียทั้งหมด พอเป็นกษัยแก้ปวดเมื่อย นอนหลับสนิท

ส่วนไอ้พวกที่รับประทานเผื่อสุนัข เมาแล้วเอะอะโวย
พวกพ่อมหาเศรษฐีมีการศึกษาหน้าที่การงานดีทั้งนั้น
เมาแล้วซิ่งประมาทขาดสติ อย่างนี้ต้องห้ามดื่มตลอด
อยู่ที่ว่าดื่มอย่างไรมากกว่า ไม่ใช่เล่นบังคับเหมาหมด
เหล้าสุราแค่กันเป็นพยานจะชั่วจะดี อยู่ที่คนแต่ละคน

ข้าวหมากทำจากข้าวเหนียว รสหอมหวานแอลกอฮอ
ดีกรีอ่อนกว่าน้ำขาว กระแช่ พรุ่งนี้เช้า จะเอาใส่บาตร
หลวงตาแม้นเห็นเป็นไม่ได้ต้องเทศเน้นตรงสุราเมรย
ได้ข่าวฯสำนักพุทธศาสนาจะกำจัดคนวัดขี้เมาเหมือน
สุนัขจรจัด ว่าใกล้วัดเสียเปล่า พวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก
พวกชูป้ายประท้วงเหล้าจะรู้ไหมทำข้าเป็นเสือลำบาก

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.116.7 29 พฤศจิกายน 2550 1:55:15 น.  

 


เพลงเลือดสุพรรณ*

คำร้อง-ทำนอง
พลเรือตรีหลวงวิจิตรวาทการ

เลือดสุพรรณเคยหาญในการศึก
เหี้ยมฮึกกล้าสู้ไม่รู้หนี
ไม่ครั่นคร้ามขามใจต่อไพรี
ผู้ใดมีมีดพร้าคว้ามารบ

มาด้วยกัน ไปด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย
เลือดสุพรรณเข้าประจัญ อย่าได้พลั่นเลย
อยู่ไม่สุขเขามารุกแดนกระหน่ำ
ให้ชอกช้ำแสนอนาถชาติไทยเอ๋ย
เขาเฆี่ยนฆ่าก็เพราะเห็นเป็นเชลย
จะนิ่งเฉยอยู่ทำไมพวกไทยเรา
(ซ้ำ)

อันเมืองไทยเป็นของไทยใช่ใครอื่น
มาต่อสู้กู้คืนเถิดเราเอ๋ย
ถึงตัวตายอย่าเสียดายชีวิตเลย
มาเถอะเหวยพวกเรามากล้าประจัญ
(ซ้ำ)

ขับร้องหมู่ ประสานโดยสมาชิกพรรคชาติไทย

เมื่อท่านหลงจู๊เมืองสุพรรณบรรหาร ศิลปอาชา
ถือฤกษ์ล่าง ฤกษ์เย็นชวนลูกพรรคข้ามสะพาน
ทานรับน้ำหนักไม่ไหว ค่อยๆยุบตัวลงไปแช่ใน
คูน้ำเน่าดำปี๋ครึ่งตัวเปียกแฉะเป็นลูกแมวตกน้ำ

อยากให้ท่านอดีตนายกบรรหาร(ของผม)ย้อน
กลับไปดูภาพของบรรดาช่างภาพสถานีทีวีช่อง
ต่างๆ ติดตามไปทำข่าวหาการเสียงช่วยคุณหนู
แบมเจณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์-นางฟ้าประจำพรรค
ชนิดทุ่มเทสปิริตสุดตัว ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย

เชื่อว่าหลายท่านซึ่งชมทีวี.ก็คงไม่มีใครสังเกตุ
นักการเมืองหนุ่มรูปหล่อที่เดินประกบตามหลัง
คล้ายยอดองครักษ์พิทักษ์ท่านหัวหน้าบรรหาร
เห็นแล้วชื่นสะดือหัวใจ กว่าเห็นเสี่ยชูวิทย์เยอะ

เหมือนฟ้าลิขิตทดสอบใจคนที่ไหนได้สิ้นเสียง
พื้นกระดานสะพานไม้เก่าข้ามคูน้ำ ลั่นดังเอี๊ยด
ค่อยๆ ทรุดตัวลง ท่ามกลางเสียงหวีดร้องกรี๊ด !
ของบรรดากองเชียร์ แม่ยกค้าที่มองดูอยู่ห่างๆ

พอหมอกควันความชุลมุนวุ่นวายจางลง ภาพที่
ปรากฏแก่สายตาสาธารณชน ผู้ชม ทางทีวี.ทั่ว
ประเทศ แทนที่จะเห็น-จั่นเจาสุดยอดองครักษ์
เอาแผ่นหลังเอาตัวบังโอบป้องกันหัวหน้าพรรค
ชาติไทยยิ่งชีวิต โหหมอนี่ ไวเป็นลิงเลือกข้าง
หันแว๊บกลับไปกอดหนูแบม(ของผม)แน่นเลย*

ให้เสร็จศึกเลือกตั้งครั้งนี้ รอพรรคชาติไทยได้
เป็นพรรคร่วมรัฐบาลฯ เรียบร้อยไอ้หมอนี่ต้อง
ให้ไปล้างคุกขี้ไก่ เอ๊ย หอคอยบรรหารแจ่มใส
โทษฐาน ทิ้งหัวหน้าพรรคกลางศึกสงคราม ฮา

แต่แหมลองคิดดู หากเป็นเราจะเลือกกอดใคร
พ่อเควิน คอสเนอร์ พระเอก "เดอะบอดี้ การ์ด"
จงรักซูปเปอร์สตาร์วิทนีย์ ฮุสตั้นแบมเจณิสตา

 

โดย: ซานโช ปานซ่า IP: 58.8.125.44 30 พฤศจิกายน 2550 23:11:02 น.  

 


Bridge Over Troubled Water*
Paul Simon & Art Garfunkel

When you're weary, feeling small,
When tears are in your eyes, I will dry them all;
I'm on your side. when times get rough
And friends just can't be found,
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.

When you're down and out,
When you're on the street,
When evening falls so hard
I will comfort you.
I'll take your part.
When darkness comes
And pain is all around,
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.
Like a bridge over troubled water
I will lay me down.

Sail on silvergirl,
Sail on by.
Youre time has come to shine.
All your dremes are on their ways.
See how they shine.
If you need a friend
I'm sailing right behind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.
Like a bridge over troubled water
I will ease your mind.

 

โดย: Maria IP: 58.8.125.44 1 ธันวาคม 2550 0:13:13 น.  

 


นานนานข้าพเจ้าจึงมีโอกาสผ่านแถวอาคาร
สำนักงานใหญ่ บริษัท"นานมี"สีชมพูอมส้ม
ย่านถนนสุขุมวิท เข้าไปร้านหนังสือ" มีนาน"

ในซอยเก่าแก่ยังมีร่มเงาไม้ร่มคลึ้มปกคลุม
ทางเดินเท้า บ้านเก่าส่วนใหญ่อยู่กันมานาน
ก่อนที่จะค่อยๆ ถูกอาคารคอนโดมิเนียมหรู
อาคารสำนักงาน ร้านอาหาร ร้านกาแฟสวย
ร้านเบเกอร์รี่ และร้าน"ช๊อกโกแลต"อร่อยๆ
นั้นเข้ามาแทนที่ว่างของความเปลี่ยนแปลง

บ่ายแล้ว ข้าพเจ้าถือโอกาสหลบพักเหนื่อย
อาศัยฝากท้องกับรถเข็นขายก๊วยเตี๋ยวข้าง
ทาง เพราะชอบบรรยากาศเอ้าท์ดอร์ที่สงบ
รถในซอยไม่พลุกพล่าน ผู้คนกลับอ๊อฟฟิส

นั่งรอก๊วยเตี๋ยวชิ้น สด ตับ คิดทบทวนอะไร
เรื่อยเปื่อยภาพที่พึ่งผ่านพบแว๊บเข้ามากวน
อารมณ์ขำ พึ่งเดินจากซอยร่วมมิตรผ่านตึก
มีสุนัขสีดำตัวแรก นอนตะแคงอาบแดดอุ่น
อยู่หน้าร้านขายของช่างไม่สนใจผู้คนรถรา

เดินถัดมาอีกสองห้องเจอกับเจ้าด่างตัวที่ ๒
สงสัยสบายเกิน ทำนอนโชว์อย่างที่เรียกว่า
หงายเก๋งนอนกาง ๔ แขนขาหน้าหลัง-ชี้ฟ้า

เดินมาอีกหน่อย โอโห พ่อตัวที่สามนี่สีขาว
นวล แหม มันโดนใจ สอนคนอย่างเราได้ดี
นั่งหมอบเอาขาหน้าประสานกันคอตรงหูตั้ง
นั่งหลับตามีท่วงท่าสง่างามราวพญาราชสีห์
(แสดงว่าเจ้าของเขาฝึกมาดีจริงขอชมเชย)
เฝ้าหน้าตึกแถวเหมือนกัน การเดินยังทำให้
ยังได้เห็นรายละเอียดของชีวิตสอนใจเราดี

ทำไมถึงจะไม่สอนใจข้าพเจ้าเล่าก็เมื่อเช้า
วันนี้ไปนั่งรอ ม๊อกอัพ-ต้นฉบับหนังสือเด็ก
ที่โรงพิมพ์-กระดาษใหญ่แถวสาธุประดิษฐ์
เผลอไปนั่งงีบสัปหงกหลับตรงเก้าอี้โซฟาร์
หมดสภาพ(เพราะพิษไข้หวัดจนเสียงแหบ)

เดินมาเกือบกลางซอย ยังเจอจนได้อีกตัว
นอนหมอบหลับเอาหน้าแนบชิดพื้นซิเมนต์
แต่ลักษณะเด่นที่สังเกตุจำได้แม่นคือสวม
ตะกร้อปากหนังน้ำสีตาลเข้มสงสัยคงดุนัก

ว่าจะพูดเรื่องทั่วๆ ไป มโนสาเร่บรรยากาศ
การหาเสียงเลือกตั้งฯเรื่องปัญหาปากท้อง
ของชาวบ้าน กับปัญหาเศรษฐกิจมหภาคฯ
ไถลไปคุยเรื่อง ท่านอนของสุนัขที่พบเห็น

เอาสาระหน่อย เห็นกลุ่มสายการบิน สตาร์
อลีอันท์นักธุรกิจการบินพันธมิตรทั้งหลาย
กับแลสหภาพแรงงานสายการบินแห่งชาติ
ล้วนเคยตั้งป้อมไม่ยากย้ายมาอยู่สนามบิน
สุวรรณภูมิตั้งแต่แรกจนอดีตนายกทักษิณ
ต้องใช้ไม่แข็งเร่งเปิดสนามบินใหม่แล้วสั่ง
ปิดสนามบินเก่าเพราะไม่งั้นจะไม่ปิดเกมส์
ตอนนั้นสหภาพฯนี่แหละคัดค้านบอร์ด DD

ความจริงแล้ว นอกจากชาวบ้านแถวนั้นซึ่ง
เดือดร้อนจากมลภาวะทางเสียงจนคิดขาย
บ้านทิ้ง(ในราคาสูงแพงมหาโหดแบบรู้กัน)
คงไม่มีนักการเมืองใครๆเขาสนใจมากนัก
สื่อฯ ก็ชักขี้เกียจรื้อฟื้นฝอยหาตะเข็บ เล่น
ข่าวดารา หมูหมากาไก่ตามกระแสมันกว่า

เอาแค่เบาะๆ ประเด็นเดียวก่อนใครก็ช่วย
ใครไม่ได้ทั้งนั้น เบื่อคุยมากจนน้ำลายบูด
เรื่องที่ฝืนธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำหนองงูเห่า
ดันทุรังจนเอามาสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ
ที่มีทางน้ำใต้ดิน ชั้นดินโคลนอ่อนทรุดตัว
เพลง"ถมเท่าไหร่(คอร์รัปชั่น)ไม่รู้จักเต็ม"

นักธรณีวิทยา-สิ่งแวดล้อม ก็เตือนตลอด
ว่าอีกไม่กี่ปี ต่อจากนี้ น้ำทะเลจะท่วมกรุง
เทพฯ โอโห สื่อฯประโคมข่าวราวดาวหาง
อุกาบาตกำลังพุ่งเข้าหาโลก ในอีกไม่กี่ปี
จะเป็นจะตายขณะชาติอื่นเขาทำมาหากิน

เออที่ยังงี้ไม่ยักมีใครคิดไกลกลัวน้ำท่วม
ขังเอ่อล้น สนามบินสุวรรณภูมิจนเสียการ
ตามเหตุผล คำพยากรณ์-ของนักวิชาการ
จะดันทุรังสร้างให้ได้ สร้างเมกกะโปรเจ็ก
พันล้านหมื่นล้านทั้งที่ของใหม่ยังซ่อมอยู่
ถามกลับว่าถ้าน้ำท่วมสนามบินหนองงูเห่า
น้ำท่วมตามธรรมชาติของพื้นที่ลุ่ม-ชุ่มน้ำ

แล้วเราจะมีชีวิตอยู่กับการตั้งงบแก้ปัญหา
ขุดลอกคูคลอง สูบน้ำใต้ดิน-รักษาสมดุล
ป้องกันโรคน้ำท่วมปากกันอีกนานแค่ไหน
รู้รู้อยู่เต็มอกว่าดอนเมือง สูงกว่าระดับน้ำ
ทะเลมาก คนโบราณท่านถึงสร้างบนดอน

แปลกคน มีของเก่าดีดีแทนที่จะรักษาไว้
ใช้งานนานที่สุด- ความผิดเสียหายสักนิด
ก็ไม่เคยมีนักบินฝรั่งต่างชาติคุ้นเคยแทบ
หลับตานำเครื่องฯ ลงจอดนุ่มนวลราวเส้น
ไหมไทยอันมีชื่อเสียงของสยามประเทศ

อย่าพยายามสานต่อเมกกะโปรเจ็กเบี้ยว
บิดผิดพลาดดันทุรังสร้งต่อไปให้เสียหาย
ถลุงงบประมาณแผ่นดินเห็นแก่ตัวอีกเลย
เล่นการเมืองรุกคืบหน้า-สานต่อโครงการ
เร่งทำมาหากิน ถลุงงบประมาณแผ่นดินฯ
เราจะถูกเทคโอเวอร์-สนามบินนานาชาติ

ช่วยตอบให้ชื่นสะดือหัวใจหน่วยเรื่องแก้
ปัญหาน้ำท่วมหนอง-สนามบินสุวรรณภูมิ
กับคุณประโยชน์ของสนามบินดอนเมือง
แบ่งเบาภาระแออัด-สนามบินสุวรรณภูมิ
ทำไม ยากเย็นจนมองไม่เห็นแสงสว่าง ?

 

โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.120.102 1 ธันวาคม 2550 10:17:21 น.  

 


เอาละทีนี้พูดถึงข้อกล่าวหาเรื่องขำ-อุจจาระเปียกปอน
บรรดาลิ่วล้อลูกอาเป๋งลูกอาเหลียง-เม็ดมะม่วงหิมพาน
เอาแบบมองโลกให้มันเลวร้ายสุดฤทธิ์ให้จิตตกไปเลย

ถามขอความรู้-วิชามารตรงหน้าเอากับท่านปรมาจารย์
คุณ(พ่อ)จอร์จ โซรอจของบรรดาลูกๆ ทั้ง ๗ เทพธิดา
เกาะสิงคโปร์ ไม่ว่า ลี กา ชิง หรือคุณพี่แฟรงค์ของผม

ถามว่า ระหว่างฮะหนามบินสุวรรณภูมิ กับ ฮะหนามบิน
ดอนเมือง ฮะหนามไหนนะมันน่ารับประทานหอมหวาน
มากกว่ากัน ระหว่างโครงการเมกกะโปรเจคแสนๆล้าน
สร้างมหานครใหม่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแผน

กับการหันกลับมามองความเป็นจริงอย่างพอเพียงปรับ
ปรุงระบบโลจิสติกส์ให้สนามบินดอนเมือง จิ๋วแต่แจ๋ว*
เชื่อมโยงแอร์พอร์ตลิงค์เข้ากับสนามบินสุวรรณภูมิให้
สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพราะปรัชญาจุดยืนของสนามบิน
ดอนเมือง นั้นชัดเจน คือเป็นสนามบินระหว่างประเทศ
แห่งที่ ๒ เพื่อสนับสนุน-แก้ไขจุดวิกฤติของสุวรรณภูมิ

ดอนเมืองไม่ใช่คู่แข่งอย่างหลายท่านตั้งการ์ดรังเกียจ
ปฏิเสธไว้ก่อน โดยไม่ยอมฟังเหตุผลความปรารถนาดี
ของผู้อื่นที่เขาก็รักบ้านห่วงเมืองเช่นเดียวกันกับท่านๆ
ไม่มีใครรังเกียจเดียดฉันท์สนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน
มองภาพรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสิ่งแวดล้อมฯ
ไม่ใช่คิดแต่จะหาผลกำไรให้มากที่สุดระยะสั้นเท่านั้น

 

โดย: จ่านวล หวนละห้อย IP: 58.8.120.102 1 ธันวาคม 2550 11:47:18 น.  

 


คิ้วหนาโนบิตะ ตั้งเวทีประชันวิสัยทัศน์ผู้สมัคร
เขตุดินแดง ห้วยขวาง..ฯ หลับตาก็เดาออกว่า
โต้กันเรื่องอะไร ใครจะกล้าทุบแฟลตดินแดง
มักถูกหยิบยกขึ้นมาหาเสียงกับประชาชนชาว
แฟลตดินแดง จนกลายเป็นชุมชนของตายสำ
หรับนักการเมืองเก๋าเกมส์ทั้งพรรคใหม่เก่าแก่

พอนักการเมืองหน้าใหม่ไฟแรง เด็กดินแดงที่
วิ่งเล่นเตะฟุตบอลและเติบโตจากสิ่งแวดล้อม
ปัญหาซึ่งพบเห็นจนเข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิด
พรรค ปชป.และ พปช.(ทรท.) มัวแต่เถียงกัน
เรื่องว่าเป็นคนของบประมาณซ่อมแซมแฟลต
ดินแดงก่อนกันหรือครั้งล่าสุด ไม่ต้องการทุบ
แฟลตดินแดงเพราะรู้อยู่ว่าจะเสียฐานคะแนน

แต่ผู้สมัครพรรคชาติไทยผู้เรียกตัวเองเด็กดิน
แดง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขตดินแดงห้วยขวาง
ข้าพเจ้าจึงชอบใจพ่อหนุ่มใหญ่ใจถึงคนที่กล้า
ประกาศสวนกระแสว่าเห็นด้วยกับความจำเป็น
ต้องจำนนต่อกฏของกฏธรรมชาติทุบตึกเสื่อม
หมดสภาพตามอายุการใช้งานนาน ๓๐-๔๐ ปี
ดีกว่ายังดันทุรังร้องเพลงซ้ำ ซ่อมได้ ซ่อมได้

ทำให้ข้าพเจ้ามองย้อนไปค้นหาแรงบันดาลใจ
เรื่องอะไรจะไปรื้อโครงสร้างฯ ฐานหัวคะแนน
พรรคที่อุปถัมภ์ วางกำลังกันไว้ตามแฟลตเล่า
สู้เก็บแฟลตดินแดงเอาไว้อย่างนี้ ก็ดีแล้วอย่า
กวนน้ำให้ขุ่น เอ้าไม่ทุบก็ไม่ทุบ เข้าทางพอดี

องค์ประกอบ ๓ ส่วนใหญ่ๆของแฟลตดินแดง

๑. เจ้าของที่ดินคือเป็นที่ดินของราชภัศดุท่าน
๒. การเคหะแห่งชาติเป็นเจ้าของตึกโครงการ
๓. ประชาชนชาวแฟลตดินแดงผู้เช่าพักอาศัย

ทั้ง ๓ ส่วนนี้จะควรปรึกษาหารือกันอย่างสร้าง
สรรค์ คำนึงถึงผลประโยชน์และคุณประโยชน์
อย่างยั่งยืนร่วมกัน ไม่ใช่พี่น้องชาวแฟลตเอะ
เอะอะไรก็จะหลับหูหลับตาต่อต้านการเปลี่ยน
แปลง ต้องรู้สถานะของเราเองด้วย..เราไม่ใช่
เจ้าของที่ดินจะได้เอาแต่ใจตัวเองหรือหลงคำ
ยุยงปลุกปั่นของบรรดาขาใหญ่สิทธิมนุษยชน
ผสมกับขาประจำผู้มีเอี่ยวอิทธิพลทำมาหากิน

เมื่อวันเวลาผ่านมาถึง ๓๐-๔๐ ปีเป็นไปไม่ได้
ที่ราคาที่ดินจะจมปลักอยู่กับสิ่งแวดล้อมเดิมๆ
ที่ราชพัศดุการเคหะแห่งชาติพี่น้องชาวแฟลต
ก็ต้องมาคุยกันหาทางออกที่ดีกว่าร่วมกันเพื่อ
อนาคตของลูกหลานเราจะได้อยู่ในที่พักใหม่

เจ้าของที่ดินก็ได้พัฒนาที่ดินตามมูลค่าความ
เป็นจริง จะสร้างคอมเพล็ก มันจะแปลกอะไร
กับเงื่อนไขทียอมรับได้ถ้าเราเป็นสมาชิกหนึ่ง

คนจน รวย เศรษฐี คนดีดีได้มาด้วยกันมันผิด
แปลกแยกตรงไหนถึงจะต้องอยู่แบบแออัดที่
ตึกทรงเดิมซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่รู้จะทรุดวันใด
อย่างนี้หรือที่เราต้องการมันที่เรานอนตาหลับ

มันไม่ใช่ ! มันไม่ใช่งะ อย่ากลัวความเปลี่ยน
แปลง ที่มีผู้พยายามเขียนเสือให้วัวกลัวเพียง
เพื่อหวังเก็บกักพวกท่านเอาไว้เป็นเสบียงกรัง

ให้ชาวแฟลตดินแดงรู้คิดเองบ้าง อย่างที่ควร
เป็นเพราะทุกคนมีศักยภาพ วันหนึ่งลูกหลาน
ออกไปเป็นข้าราชการ นักธุรกิจ วิศวกร ฯลฯ
มีบ้านมีครอบครัว ตามความฝันของแต่ละคน
บางคนอาจดี-เก่งกลายเป็นนักการเมืองใหญ่

การมีอิสระทางความคิด จึงสำคัญกว่าการถูก
บีบ-คับที่อยู่อาศัย..ไม่ว่าอัครสถานปานสรวง
ถ้าจุดประกายความคิดเสรีเป็นอิสรชนเมื่อใด
การคิดเห็นแก่ตัวเห็นแต่ผลได้ผลเสียของตน
ก็เป็นเรื่องเล็กน้อยถ้ามองเห็นอนาคตร่วมกัน

ประกาศเลือกข้างชัดเจนใช้วิกฤติเป็นโอกาส
ประกาศนโยบายทุบตึกเสื่อมสภาพเพื่อสร้าง
กลุ่มอาคารสูงพักอาศัย รวมสิ่งแวดล้อมใหม่
เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าเพื่อลูกหลานเรา

 

โดย: มนัส รักประชา IP: 58.8.123.110 1 ธันวาคม 2550 14:14:18 น.  

 


โอยปวดท้องยิ่งใกล้เข้าโค้งวัดเบญจฯ การเมืองเวลานี้
ต้องวัดกันเป็นนาทีต่อนาทีเชียว(หัวเราะจนน้ำตาไหล :) ถูกหลงจู๊ บรรหาร"ขโมยซีน"แย่งชิงพื้นที่สื่อ ทีวี.นสพ.
ตั้งแต่เย็นวันศุกร์ติดช๊าทสูงสุดฮอตเวบคะแนนสงสารตี
ตื้นเทใจให้น้องแบม เจณิสตา หมดตลาดดอนเมืองเริ่ม
ส่อแววม้าสาวฝีเท้าดีมีน้ำอดน้ำทนมีลูกมานะแรงปลาย
ทิ้งลูกพรรคของออหมัก เสี่ยประชัยมัชฌิมา และ ปชป

ผู้สันทัดกรณีสำนักการเมืองเสนอทฤษฎีที่เป็นไปไม่ได้
ออกมาโต้แย้งสำนักการเมือง-ทฤษฎีแห่งความบังเอิญ

จากการตรวจสอบ ทิศทาง-ลักษณะของการพังทะลาย
ลงมาเป็นแผงค่อยๆยุบตัวช้าๆ เทลาดเอียงรอยหักของ
ไม้คานตอม่อใต้สะพานคล้ายมีรอยฟันของมนุษย์แทะ
รับรองไม่ใช่ตัวบีเวอร์แน่..แต่เป็น รอยฟันเลื่อยของคน

เจ้าหน้าที่จะเชิญคุณหมอพรทิพย์มาตรจสอบพิสูจน์ทำ
การกดพิมพ์รอยฟันกดผิวคานไม้ตอม่อใต้สะพานด้วยยางพารา ก่อนจะนำไปเทพิมพ์ด้วยปูนปลาสเตอร์แล้ว
เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาอ้าปากงับ ประกบรอยพิมพ์ซี่ฟัน

เจ้าหน้าที่ตำหนวดคาดว่าจะควานหาตัวเจ้าของรอยฟัน
เลื่อยแหลมไม่เป็นระเบียบผู้หวังดีรายนี้ได้โดยละม่อม

 

โดย: จ่านวล หวนละห้อย IP: 58.8.123.110 1 ธันวาคม 2550 18:00:56 น.  

 


อาโหล อาโหล .. วีสอง ตอง เอ เรียก..นกนางนวลน้อย

ทราบแล้วเปลี่ยน .. ล่าสุดพบเส้นขนคล้ายหนวดแมวน้ำ

ติดอยู่ เหนือรอยพิมพ์ยางขอบ-ฟันเลื่อย ทราบแล้วป่วน

 

โดย: สาย(สืบ)สะดือบวม IP: 58.8.123.110 1 ธันวาคม 2550 19:00:50 น.  

 


* ๕ ธันวา .. มหาราช

กษัตริย์ปราชญ์ศาสตร์ศิลป์
๘๐ ชันษา ทหารกล้าอัศวิน
พระปิ่นไทย ธงชัยเฉลิมพล

 

โดย: พุ่มสกี้ IP: 58.8.115.217 4 ธันวาคม 2550 14:41:04 น.  

 


มรสุมชีวิตจากสถานการณ์รายรอบตัวช่างดูมืดมน
อับจนสิ้นหนทางไปเสียทั้งหมด แม้ว่าจะพยายาม
ขยับตัวมองหาทางออก ดูเหมือนประตูถูกปิดตาย

แม้ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อดีตนักเรียนเรียนเก่งติด
บอร์ดอันดับ ๑ สายวิทย์ฯ หนุ่มนักเรียนนอกวิศกร
ในตระกูลมหาเศรษฐีโรงสีข้าวส่งออก ปิโตรเลี่ยม
กำลังไล่แก้ฯ ปัญหาโลกแตกไร้สาระอย่างอดทน

วันนี้สถานภาพของหัวหน้าพรรคการเมือง(จำเป็น)
ต้องสู้หลังพิงกำแพงทั้งศึกภายในทั้งศึกภายนอก
คุณประชัยจึงกลายเป็น-หมูทองคำไม่กลัวน้ำร้อน
ใจเย็นๆ อย่าถอดใจชกกับมวยแทนยังไงก้ไม่แพ้

ข้าพเจ้า-ชื่นชม คุณอรพินธุ์ เลี่ยวไพรัตน์ ภรรยา
คุณประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ที่เคียงข้างเป็นกำลังใจ
ให้คุณประชัย มีดวงตาเห็นโลกธรรมไม่วิตกเศร้า
หมองอีกต่อไปเมื่อคุณประชัยเอาใจเป็นประธาน
ใจจึงใหญ่เบิกบานในการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อความเห็นแก่ตัว ความอาฆาตแค้น

มีคนบอกว่าสนามกรุงเทพ เป็นสนามปราบเซียน
สงครามความรักระหว่างรบเริ่มต้นอย่าพึ่งถอดใจ
เสียงระฆัง-นกหวีด สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับ
ศพทหาร รู้แต่เทศกาลงานนี้ รับรองไม่เสียเที่ยว
มีเสียวแน่ พวกของตายที่ว่าแน่แน่นอนมา มี ฮา
โค้งสุดท้ายและเส้นชัย มีไว้สำหรับนักสู้ของจริง

กับแค่คลื่นลมพายุฝนโหมกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา
ไม่ต้องสนภาพลวงตาน่ากลัวเมื่อไม่ใช่หมูกระทะ
ให้พวกพี่เขี้ยวเถือ-หลอกรับประทานเป็นตัวตลก

จุดแตกหักปราการด่านสุดท้ายอยู่ที่การตัดสินใจ
ของพ่อแม่พี่น้องประชาชน เลือกคน-เลือกพรรค*
กา-เลือกเป็นคนๆ "คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไม่ไหม้"
สนามใหญ่ให้โอกาส-ประชัย ได้แก้ไขเศรษฐกิจ
เพราะยังไงๆ ประเทศไทยต้องได้รัฐบาลผสมแน่
การเมืองนิ่ง เศรษฐกิจบ้านเมืองก็เดินไปข้างหน้า

พรรคการเมืองแกนนำนั้นจึงสมควรสอดคลองกับ
พรรคแกนนำรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ (เดโมแครต) จีน
EU ญี่ปุ่น อาเซี่ยนฯ ประชาคมโลกประชาธิปไตย
ยังไงๆพี่ไทยอย่าแทงหวยผิดเดินขัดขาตัวเองล้ม

 

โดย: แม่จ๋า ช่วยลูกล่วย :) IP: 58.8.115.217 4 ธันวาคม 2550 16:13:29 น.  

 


อ้า ภูติพรายสาว ขาว หมวยรวยอารมณ์ขัน
ต่อไวด์เลสตะแลบแก๊ปมาขณะนี้สุภาพสตรี
นักธุรกิจหญิงหย่อมน้อยๆ คุณเธอกำลังก่อ
หวอด ก่อตัวอย่างเงียบๆ เพื่อเป็นพลังเงียบ
เป็น"ชมรม..รักเพื่อน-อรพินธุ์ เลี่ยวไพรัตน์"

บอกแล้วว่า อย่าทำให้ผู้หญิงลงมาเล่นด้วย
อะไรมันย่อมเกิดขึ้นได้ ที่นี้ละตัวใครตัวมัน

อืม บอกไต๋มาก เดี๋ยวชมรมต้นตระกูลไทย
เจ้าลูกชาย-เสี่ยชูวิทย์ มาลุยสวน เผ่นดีกว่า

 

โดย: ดอน กีโฮเต้ IP: 58.8.115.217 4 ธันวาคม 2550 16:44:40 น.  

 


เอ กกดต. ดูท่าชักโอเวอร์แอคชั่นมากไปแล้ว
ตั้งแต่ไปเสียรู้ หลงประเด็น ดันไปรับรองแผ่น
กระดาษถุงกล้วยแขกลับของออหมักฆ่า คชม
ซึ่งจะมีผลผูกพันให้ฝ่ายกฏหมายฯ พลัง ปซซ.
ขุดขึ้นมาอ้างย้อนเกล็ดภายหลังถ้าผลเลือกตั้ง
ไม่เป็นอย่างที่ฝ่ายตนต้องการเพราะโดนใบสั่ง

บริษัทรักษาความปลอดภัยประชาธิปไตยโลก
ของบูช(จูเนียร์)แอนด์เชนีย์ยิ่งจ้องไม่รับรองฯ

วันนี้มาอีกแว้วแทนที่จะมุ่งเดินหน้าจัดเลือกตั้ง
ซึ่งตัวเองก็ถูกโดดเดี่ยวจากทั้งมหาดไทยและ
องค์กรสิทธิมนุษยชน ยังมีเวลาเรื่องหยุมหยิม
เล่นไม่เลิก จะให้คุณประชัยไปขอโทษ กกตต
ที่กล่าวหาแบบเลื่อนลอย ขอถามหน่อยเมื่อไร

เราถึงจะไปขอโทษ องค์กรพีเนต-พีแนตอะไร
ที่ไปกล่าวหาว่าเขารับเงินรับทองกี่สิบล้านบ้าง
ตัวเองยังเข้าใจผิดเผลอพลาดหลุดได้ อย่าไล่
คนที่เขาออกมาสู้บนเวทีที่สว่างให้มันจนตรอก
เดี๋ยวบ้านเมืองจะลุกเป็นไฟก็เพราะไร้เดียงสา
บทบาทขององค์กรอิสระ จึงต่างจากคณะศาล

เป้าหมายหลักเป้าหมายรองอะไรที่มันไร้สาระ
อย่าพยายามเก็บขุดขึ้นมาเป็นอารมณ์ทุกเรื่อง
ความเป็นกลางหมายถึงเราต้องระวังไม่ตกเป็น
มือทางการเมืองให้พวกเสือ สิงหื กระทิง แรด

 

โดย: รักเธอประเทศไทย IP: 58.8.115.217 4 ธันวาคม 2550 18:06:18 น.  

 


ท่ามกลางทางอันมืดหม่น
เงาทึบเทาจนเกินทนทาน
พ่อฯจุดเพลิงชมพูสีหวาน
โลกพลันสราญปานสรวง

 

โดย: เข่ง IP: 58.8.123.249 5 ธันวาคม 2550 8:15:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


jenifaae
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Editor
บทความ ความคิดเห็นที่นำลง"สนามหลวงแก็งค์" ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพียงเราเห็นว่าน่าสนใจและเป็นประโยชน์ในทางข้อมูล ข่าวสาร
หากท่านมีข้อคิดเห็นประการใด โปรดแจ้งให้เราทราบ จักขอบคุณยิ่ง
"สนามหลวงแก็งค์"
kunkorn : Facebook



"Sanamluang's Gang"
"สนามหลวงแก๊งค์"

kunkorn : Facebook

     เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ เผยแพร่ ส่งเสริม สนับสนุน รวบรวมข้อมูล ข่าวสาร อนุรักษ์ รักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชนชาติไทย วิถีชีวิต และปรัชญา คุณค่าจิตวิญญาณที่งดงาม สืบสานต่อยอดกันมานานนับพันๆปี และกำลังถูกทำลายด้วยอิทธิพลจากแนวคิดเชิงวัตถุนิยมแบบตะวันตก

● เพื่อการศึกษาหาความรู้ ส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการศึกษา เรียนรู้ สิ่งที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และนำมาเผยแพร่แก่มวลมนุษยชาติ อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่แท้จริง มิใช่เพียงวิทยาศาสตร์เชิงวัตถุเพียงอย่างเดียว เพราะถือว่าพระพุทธเจ้า ทรงค้นพบความจริงของธรรมชาติ ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่มนุษย์ธรรมดาสามัญอย่างเราๆ ท่านๆ ยังเป็นเพียงผู้รู้ แค่หางอึ่งที่ยังอยู่ในกะลาครอบ แต่บังอาจด่วนสรุป ขัดแย้งกับ สิ่งที่องค์ศาสดาทรงค้นพบมากว่าสองพันปี จนทำให้บังเกิดความสับสน ลดความน่าเชื่อในสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ

● สนามหลวงแก๊งค์ ต้องขออนุญาตและขอขอบคุณท่านเจ้าของข่าวสาร ข้อมูล ที่เราได้นำลงในสนามหลวงแก๊งค์ ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยจิตคารวะ ทั้งนี้และทั้งนั้น ก็เพื่อให้สนามหลวงแก๊งค์ เป็นแหล่งในการเผยแพร่ ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นประโยชน์และเพื่อเป็นวิทยาทานแก่สาธารณชน แต่หากท่านเจ้าของข้อมูล ข่าวสารที่ สนามหลวงแก๊งค์ นำลงไม่มีความประสงค์ให้นำลง ขอได้โปรดแจ้งความประสงค์ เรายินดีที่จะถอดออกต่อไป

ด้วยจิตคารวะ
www.sanamluang.bloggang.com
kunkorn : Facebook


ดาวหาง
     เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นในห้วงมหาจักรวาลอันยิ่งใหญ่ ลี้ลับไร้ขอบเขต ทุกครั้งที่ดาวหางปรากฏ มันจะส่งสัญญาณแห่งความพินาศ มหันตภัย ธรรมชาติ ความตาย ความเจ็บป่วย สงคราม ความขัดแย้ง การกดขี่ การเอารัดเอาเปรียบ การคดโกง การเบียดเบียนของมนุษย์บนพื้นพิภพใบนี้

     มันคือสัญญาณเตือนภัยที่มนุษย์ไม่อาจจะควบคุมได้ ทั้งภัยทางธรรมชาติและภัยที่เกิดขึ้นจากมนุษย์สร้างกันขึ้นมาเองในทุกรอบพันปี

     ไม่ว่ามนุษย์จะคิดว่าตัวเองเก่งกาจสามารถ ฉลาดสักเพียงไหน ก็ไม่อาจหลีกพ้นมหันตภัยเหล่านี้ไปได้
     ดังนั้น จงเชื่อและปฎิบัติตามอย่างไม่ลังเลต่อคำสอนของศาสดาของเราอย่างจริงจังเถิด

     แม้จอมจักรพรรดิ จอมราชันย์ หรือจอมทรราชที่ยิ่งใหญ่ในอดีต ก็ต้องตายร่างกายเน่าเปื่อยเป็นผุยผง และในที่สุดวิญญาณของเขาก็ต้องชดใช้กรรม ด้วยการถูกไฟนรกเผาผลาญโดยไม่มีข้อยกเว้นทั้งทั้งสิ้น

     จงอย่าอหังการ์ว่าตัวเองเก่ง ฉลาด และยิ่งใหญ่กว่าคำสอนของพระศาสดา ไม่มีมนุษย์ตนใดที่จะพ้นจากกฎแห่งธรรมชาติได้ มนุษย์ที่เก่งกว่าเรา เขาได้ตายร่างกายทับถมปฐพีแห่งนี้นับไม่ถ้วนแล้ว


     ● ขออนุญาตนำภาพวาด "วีระชนบนพานรัฐธรรมนูญ" ของ คุณสถาพร ไชยเศรษฐ ศิลปินอิสระ อดีตแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทย ซึ่งวาดเนื่องในโอกาส 2 ปี 14 ตุลา มาเป็นส่วนหนึ่งของหัว "สนามหลวงบล็อก"                


บริการดูดวง



"สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" มีความภาคภูมิใจในความสำเร็จตามอุดมการณ์ของเรา ที่ได้ตั้งเอาไว้ว่า "เราจะใช้วิชาความรู้ในด้านการพยากรณ์เพื่อให้เป็นประโยชน์สำหรับการให้การปรึกษาของผู้คนที่กำลังประสบปัญหา ความเดือดเนื้อร้อนใจ หรือการเผชิญกับปัญหานั้นๆได้อย่างไรดี

มนุษย์เกิดแต่กรรม มนุษย์มีกรรมเป็นเหตุ เมื่อเราประสบเคราะห์กรรม ปัญหาอยู่ที่ว่าหากเราทราบเสียก่อน ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่ทราบ อย่างน้อยก็ทำให้เราระมัดระวังตัว อย่างน้อยก็ทำให้เราหลีกเลี่ยงเพื่อทำให้เราเผชิญกับกรรมน้อยลงไป อย่างน้อยก้ทำให้เรารู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันมีที่มา มันมีที่ไปของมัน

มีนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์วัตถุจิตนิยม มักโจมตีอยู่เสมอว่า การดูดวง เป็นเรื่องของความงมงาย หมอดูคู่กับหมอเดา หมายถึงว่า เขาไม่เชื่อในเรื่องของวิชาโหราศาสตร์เพราะคิดไปว่ามันเป็นเรื่องเดียรัจฉานวิชาบ้าง เป็นการคาดเดาเอาเองบ้าง คิดว่ามันเป็นวิชาที่ใช้สถิติสุ่มเอาบ้าง ไม่เชื่อว่าวิชาโหราศาสตร์จะสามารถไขปริศนาแห่งรหัสลับของดวงดาว จักรวาล และธรรมชาติรอบตัว

แสดงว่าเขาลืมไปว่า อัลเบิร์ต ไอสไตน์ และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า ทุกสรรพสิ่งในโลกรอบตัวเรา ตั้งแต่เล็กเท่าอะตอม (จุลจักรวาล)จนถึงมหาจักรวาล ล้วนมีความผูกพัน ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งแยกกันไม่ออก เพียงแต่ว่า กับอะไร เมื่อไร อย่างไร เท่านั้น

กรรมเป็นผลจากการกระทำของเราในอดีตชาติ จะดีหรือจะร้ายก็เพราะเราทำ เป็นสิ่งที่เราจะต้องได้รับผลแห่งการกระทำเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โหรฯเป็นเพียงผู้แปลรหัสของดวงดาวและธรรมชาติรอบตัว เพื่อเผยแผนที่ชีวิตของเรา และสามารถมองเห็นช่องทางที่จะเลี่ยงหลบสิ่งเลวร้าย ให้ลดน้อยถอยลงหรือพบพานแต่สิ่งที่ดีดี

การสะเดาะเคราะห์ หรือพิธีการตัดกรรมที่กำลังกล่าวขานถึงก็คือการขออโหสิกรรม ลดการอาฆาตจองเวรกับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังจ้องจองเวรด้วยความอาฆาตพยาบาทที่ถูกเรากระทำในอดีตชาติ ไม่ใช่เป็นการตัดทอนผลกรรมที่เราทำให้หมดไปหรือให้ลดลง เพราะกรรมที่เรากระทำไม่สามารถตัดทอนลงไปได้



สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์พยากรณ์เที่ยงตรง แม่นยำเชื่อถือได้ วิเคราะห์พยากรณ์อย่างเป็นระบบ ไม่เลื่อนลอย ยึดมั่นในอุดมการณ์ของครูที่ท่านได้กำชับให้นำเอาวิชาการพยากรณ์มาช่วยเหลือแนะนำ บรรเทาทุกข์ของผู้คนมากกว่าการพยากรณ์เพื่อการค้า

ต้องยอมรับว่า ไม่ว่าประเทศใด? ชาติใด ภาษาใด? สมัยไหน? ชนชั้นวรรณะใด? ไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว นักธุรกิจ นักการค้า แม่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือไม่เว้นแต่นายพล นายพัน รัฐมนตรี หรือระดับผู้นำประเทศ ล้วนแต่เคยดูดวงด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ว่า เราจะเชื่ออย่างงมงายหรือจะเชื่อโดยใช้เหตุผลอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ โดยนำเอาคำพยากรณ์มาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินชีวิต หรือทำธุรกิจ การค้า หรือเพื่อการทำสงครามฯ

"สนามหลวงแก็งค์" ไม่สนับสนุนให้เชื่อเรื่อง "ดวง" อย่างงมงาย แต่เราสนับสนุนให้ใช้คำ "พยากรณ์"อย่างมีวิจารณญาณประกอบการตัดสินใจอย่างมีสติ ใช้ "ปัญญา"อย่างมี "เหตุผล"

หลังจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จนต้องมีการเข้าจองคิวดูดวงเป็นจำนวนมาก ณ ขณะนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะคนไทยในประเทศที่เข้ามาใช้บริการจาก "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"เท่านั้น

แต่ยังมีคนไทยที่อยู่หลายประเทศทั่วโลกเข้ามาดูดวง ตรวจสอบชื่อ นามสกุลมากมาย ทั้งนี้คงเป็นเพราะผู้ที่เข้ามา"ดูดวง" กับ "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์" ได้รับความพอใจในคำพยากรณ์ที่ถูกต้อง แม่นยำ แนะนำแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักโหราศาสตร์ จึงได้มีการบอกเล่า แนะนำชักชวนกันปากต่อปากเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันนี้ มีผู้เข้ามาเยี่ยมชมwww.sanamluang.bloggang.com มีจำนวนถึง 118 ประเทศ โดยเข้ามาเปิดดูหน้า "สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์"คิดเป็นร้อยละ 80 ของ pageviews ต่างๆใน www.sanamluang.bloggang.comจัดทำบล็อกครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2550 มีผู้เข้าชมจำนวนทั้งสิ้น 579,020 ครั้ง จากจำนวน 262,960 visitors (ข้อมูล ณ เวลา 12.00 น.ของวันพุธที่ 6 ตุลาคม 2553)

ส่วนใหญ่ลูกค้าที่โทรเข้ามาเกือบ 98% เมื่อโทรฯ เข้ามาดูดวงแล้ว จะสามารถนัดวัน เวลาดูดวงได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด อาจจะมีอยู่บ้างเพียงไม่กี่รายที่โทรฯเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อาจจะเนื่องมาจากไม่คุ้นเคยการทำธุรกิจแบบออนไลน์ โดยมีการโอนเงินก่อน ไม่ไว้ใจ หรือไม่กล้า ซึ่งมีจำนวนน้อยมาก ประมาณ 2%

สำหรับที่เมลฯมาถามและเงียบไป ไม่สามารถทราบจำนวนได้ อาจเนื่องจากเป็นรายที่โทรเข้ามานัดอีกทางหนึ่งก็เป็นได้

สนามหลวงพยากรณ์ออนไลน์ ยังมีอาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ ผ่านประสบการณ์ในการดูดวงหลายปีคิดเป็นจำนวนหลายพันดวง

แน่นอน แม่นยำกระชับ ชัดเจน หากไม่ทราบเวลาตกฟากท่านก็ยังสามารถดูได้ รายที่กำลังประสบเคราะห์หามยามร้าย ท่านก็จะช่วยแนะนำและแก้ไขเรื่องเลวร้ายให้กลายเป็นดีด้วยศาสตร์แห่งความลี้ลับของโหราศาสตร์ โดยไม่ต้องเสียเงินสะเดาะเคราะห์ สามารถดูได้ถึงขนาดปัญหาเรื่องคู่ครอง เรื่องเคราะห์ เรื่องหน้าที่การงาน โดยใช้ "วิชาโหราศาสตร์ดวงไทย"อันเป็นสุดยอดของวิชาโหราศาตร์โบราณของไทย

นอกจากนั้น เรายังมี ซินแส ที่เชี่ยวชาญเรื่องการดูฮวงจุ้ย ทำเลปลูกบ้าน อาคารสำนักงาน ดูฤกษ์ยาม แต่งงาน คลอดบุตร ขึ้นบ้านใหม่ เปิดกิจการต่างๆโดยใช้วิชาโหราศาสตร์จีนโบราณผสานตำราดวงไทย ซึ่งซินแสท่านมีประสบการณ์การดูดวงมาไม่น้อยกว่า 45 ปี ผ่านการดูให้กับนักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย และนักธุรกิจชั้นนำจากฮ่องกงหลายราย

ติดต่อ 081-4834367 หรือ workingmailhome@hotmail.com
--------------------------------------------
● ปรึกษาปัญหากฏหมาย
ละเมิด,สัญญา,อายัดทรัพย์ ยึดทรัพย์
--------------------------------------------
● ปัญหาติดต่อราชการ
บริการปรีกษาเรื่อง ภาษีป้าย ภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน ค่าธรรมเนียมต่างๆ และการติดต่อราชการต่างๆ ของสำนักงานเขต
--------------------------------------------
● พิมพ์รายงาน,ค้นหาข้อมูล,

● งานพิมพ์ Lay-Out,Art Work
--------------------------------------------
สำนักพิมพ์ดาวหาง
www.sanamluang.bloggang.com




รับวาดรูปเหมือน และสอนวาดรูป
โดยอาจารย์ ผู้ชำนาญ

ราคาย่อมเยา

















หลังเกิดเหตการณ์ 14 ตุลา 2516 นิสิต นักศึกษา ปัญญาชน ต่างหลั่งไหลดั่งสายน้ำ ล้นขอบ ออกจากเมือง เข้าสู่ ชนบท เหตุเกิดเมื่อ กลางปี พ.ศ.2516 จนถึง พ.ศ.2519 นักศึกษากลุ่มหนึ่ง ได้ พบกันโดยบังเอิญ และ ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับชาวบ้าน ณ หมู่บ้าน แม่ตะมาน ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้ ชื่อโครงการว่า "โครงการหมู่บ้านสหกรณ์แม่ตะมาน"
เชิญ พบ และติดตาม กับเรื่องราว และบทสรุป อันควรเป็นจุดเริ่มต้น ต่อไปใน

     เมล็ดพันธุ์ประชาธิปไตย ที่ถูกหว่านทั่วท้องทุ่งแห่งประชาไทย มาบัดเดี๋ยวนี้ เมื่อต้องฝน ต้องลม แห่งกาลเวลาพัดผ่าน จาก 2516 , 2519 2535,จน 2540 ถึง 2550บางเมล็ดพันธุ์ก็ยังขาวพิสุทธิ์สดใส บ้างเมล็ดพันธุ์เปลี่ยนสี บ้างก็ดอกสีเหลือง บ้างก็ดอกสีแดง บ้างก็ดอกสีม่วงก้มี สีเขียว สีน้ำเงิน หรือบ้างก็อาจเฉาโรยรา หรือบ้าง ผสมผสานกลายพันธุ์ ก็มีไม่น้อย
มาบัดเดี๋ยวนี้ มันไม่ใช่ จิต วิญญาณ แห่ง 14 ตุลา เดิมเสียแล้ว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกัน อย่าได้ เอ่ยอ้างเลย ว่า วิญญาณ 14 ตุลา ยังคง...มันประชาธิปไตย ที่ไม่ บริสุทธิ์ผุดผ่องเหมือนอย่างเดิมเสียแล้ว.....
..แต่มันเป็น.ประชาธิปไตย...เพื่อใคร..??


“ทุกวันนี้ เราจะรับรู้ ได้เห็น ได้ยินแต่เรื่องเลวร้าย ในสังคม
เราจึงขอบันทึกสิ่งที่ดีๆ ต่างๆ เหล่านี้ ด้วยจิตคารวะ และขอเป็นกำลังใจให้เกิดสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ต่อไป”>>>



อ่านงานเขียนเกี่ยวกับภาพยนตร์หลากหลายประเทศทั่วโลก ที่นี่ >>>





*จำนวนผู้ชมทั้งสิ้น* สถาปนาบล็อค 21 ก.ค.2550
Friends' blogs
[Add jenifaae's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.