|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Next project : นิยายเรื่องต่อไป
วะฮะฮ่า...มารตนนี้เรียนจบแล้ว
ความดีใจมันหายไปไหนหมดเลย วันที่จบ ส่งใบเสร็จค่าทำเล่มดำพร้อมเอกสารสองสามอย่าง เจ้าหน้าที่บอกว่า "เรียบร้อยแล้ว ทีนี้น้องก็ไม่ต้องเดินทางขึ้น ๆ ลง ๆ เหน็ดเหนื่อยอีกแล้วนะ" (ย่องไปหาพี่แกเรื่อย เลยคุ้นเคยกัน)
แปลก...เคยประกาศไว้ว่าวันที่ฉันจบ ฉันจะไปร้องตะโกนโห่ฮาป่าที่เขื่อน แต่เอาเข้าจริง กลับมานอนกลางวันที่หอพัก พอตกเย็นเพื่อน ๆ อีก 2 คนในคลาสที่จบพร้อมกัน ก็โทรชวนกินหมูกระทะ เป็นการฉลองเล็ก ๆ น้อย ๆ เสร็จแล้วล่ำลาแยกย้ายกัน เรากลับมาเก็บของ ตอนเช้าก็ออกเดินทางจากเชียงใหม่กลับอุทัยฯ บ้านเกิด ท้องเสีย 2 ครั้งเพราะกินเยอะ กลับบ้านในสภาพอ่อนเพลีย ช่วงเวลาที่รู้ตัวว่าจบแล้ว จนถึงบัดนี้ ไม่รู้สึกดีใจหรือภูมิใจอะไร เหมือนนิยายเรื่องกามเทพฯ ที่นานเสียจนลืมเลือนความตื่นเต้นดีใจไปแล้ว
แต่สิ่งที่เฝ้ารอ เริ่มมองเห็นชัดเจนเป็นรูปร่าง คืออนาคต
ตอนที่ปิดประตูห้องพัก ก็ฉุกคิดได้ว่า ต่อไปนี้คงไม่ได้ขึ้นมาเชียงใหม่บ่อย ๆ อีกแล้ว เคยขี่รถไปนั่นมานี่อย่างร่าเริง ทั้งไปเที่ยวดอยสุเทพ เซนทรัลแอร์พอร์ต กาดธานินทร์ กาดหลวง กาดต้นพยอม กาดสวนแก้ว เคยขี่รถไปซื้อสบู่ให้แม่ถึงห้างริมปิงนอกเมือง เคยขี่รถมาหาเพื่อนแถววัดเจ็ดยอด ตกดึกหิวบะหมี่ก็ออกมาซื้อหมี่เกี๊ยวกุ้งริมคูเมืองร้านโปรด น้องชายตัวอ้วนใหญ่ที่ท่าทางทันสมัยจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นคนขายเกี๊ยวกุ้ง ก็เพิ่งล่ำลากัน
ถนนนิมมานเหมินทร์ที่เคยขี่รถผ่านและแอบมองบาร์ ร้านเหล้า ร้านหรู ๆ มากมายที่ไม่เคยแวะ และร้านเช่าหนังสือเจ้าประจำ แถวหลังมอที่คุ้นเคย ทางไปวัดอุโมงค์ หอพักแสนสบายแห่งแรกข้างสุสาน เจ้าโตโรสุนัขพูเดิ้ลของร้านซักรีด ที่เราเคยเอาซ้อนท้ายรถขี่เที่ยวในมอชอ และนุ่มนิ่ม โกล์ดเด้นรีทรีฟเวอร์ของเจ้าของหอพักที่เคยเข้ามานอนในห้องเรา
ตอนนี้ก็เช่าหอแห่งที่สองทิ้งไว้ก่อน อาจเช่ายาวถึง summer หน้า
คิดแล้วใจหายนิดหน่อย เชียงใหม่เป็นเมืองที่ไกลเกินไปที่จะเดินทางไปเที่ยวได้บ่อย ๆ ไม่เหมือนนครสวรรค์ที่ใกล้ เป็นหมือนบ้านที่สอง แต่กลิ่นอายเมืองเหนือจะไม่มีวันจางไปจากความทรงจำ
ปลายเดือนอาจขึ้นไปเที่ยวพร้อมเพื่อนรัก จะขับอีแก่ไป เพราะขากลับคงมี order มากมายจากญาติ ๆ รอก่อนนะเชียงใหม่...บ้านหลังที่สามของโรบิ้น
คิดแล้วน้ำลายจะไหล ไม่สิ น้ำตาจะไหล เอาละมาเข้าเรื่อง
นิยายที่มีคิวรีไรต์ต่อไปคือเรื่อง The Milky Way จะรีไรต์เดือนพ.ย.นี้แหละฮะ ใครรอเรื่องนี้ก็ลุ้นปีหน้า ไม่รู้ว่าคิววางแผงเมื่อไร ถ้ามีข่าวความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ อย่ากังวล
อย่างที่เคยบอก นิยายเก่าเก็บค้างปี จะทยอยรีไรต์ให้บก. ถ้าไม่นับ Missed Call ก็ถือว่าหมดสต็อกแล้วฮะ มี 5 เรื่องเท่านั้น เพราะภาระงานและเรียน เลยไม่สามารถตะบี้ตะบันเขียนออกมาหลาย ๆ เรื่องได้ และเนิ่นนานจนเริ่มรู้สึกว่า นี่มันคืองานอดิเรกต่างหาก เวลามีอารมณ์ก็ทำ เมื่อก่อนชอบ รักที่จะแต่งเรื่องราวออกมา แต่พอมันกลายเป็นงานอีกอย่าง เลยรู้สึกเหนื่อย มองคนอื่นเขาขยันเขียนขยันพิมพ์ออกมาขาย แล้วย้อนถามตัวเอง ว่าเราทำไปทำไม ในเมื่อมันเป็นแค่การระบายอารมณ์ยามว่าง แถมตอนนี้เรียนจบแล้ว ยิ่งตระหนักว่า นี่ต่างหากคือชีวิตของเรา เรียนจบ ได้ทำงานประจำที่ชอบ และเรื่องอื่น ๆ เป็นเรื่องรอง
ศิลปินที่แท้จริง สร้างสรรค์ผลงานด้วยใจรัก นาน ๆ ครั้งจึงจะมีแรงบันดาลใจให้สร้างงาน เนื้องานประณีตจับใจ และไม่ได้มีบ่อย เลยเอามาเปรียบเทียบกับตัวเอง เราอยากเป็นแบบนั้นหรือเปล่า ถ้าอยากเป็นแบบนั้น ก็ focus ที่เนื้องาน ไม่ใช่ปริมาณ อย่าให้เสียแรงที่คนใกล้ตัวเยินยอแบบประชดว่า นักเขียนไส้แห้ง คนอารมณ์ศิลป์ ฯลฯ
ขี้เกียจแต่งก็หยุด ไป worry อะไรกับมัน ความคิดนี้เกิดขึ้นเมื่อมั่นใจว่าเรียนจบแน่แล้ว สิ่งสำคัญคือวิถีชีวิตรูปแบบเดิม ๆ ที่มีความสุขสงบ ทุ่มเทกับงานประจำ มีงานพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่งนิยายเมื่อมีอารมณ์และมีเวลาเท่านั้น นี่ต่างหากคือชีวิตเรา ย้อนกลับไปสู่เมื่อตอนก่อนนิยายได้พิมพ์
เอาชีวิตแบบนั้นคืนมา และมีแต่เราที่ทำได้
เพราะคิดแบบนี้ คนอ่านบางคนเลยเคืองหรือเปล่า? ก็บอกแต่แรกแล้วว่าไม่ได้แต่งนิยายตามใจคนอ่าน ทั้งพล็อต ตัวละคร และความสม่ำเสมอ คนเขียนไม่อยากสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง เห็นเพื่อนร่วมวงการตกถนนไปหลายต่อหลายคนเพราะแคร์ความนิยม ชื่อเสียงเงินทอง เราเองก็เอียงแล้วเอียงอีก กระโดดลงเสียเลยจะดีกว่า เดินเนิบ ๆ ช้า ๆ ลมเย็นสบาย แวะดูวัวควาย ดูเป็ดไล่ทุ่ง และผืนนาเขียวขจี ชื่นอกชื่นใจ
ให้เรื่องนิยาย มันเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเถอะ ดังนั้น มีงานต้องปั่นเป็นเล่ม ก็ทยอยทำ มีนิยายค้างที่ต้องแต่งให้จบ ก็ทยอยทำ มีพล็อตนิยายใหม่ ๆ ในไห ก็ทยอยเขียน แต่จะเมื่อไร อย่างไร ตามใจฉัน
แปลกแฮะ เล่าเรื่องนิยาย แต่ใจกระหวัดถึงค่ำคืนในเชียงใหม่ ยามดึกลมหนาวบาดจิต หอพักอยู่ในหมู่บ้านชานเมือง บรรยากาศเย็นยะเยือกและเงียบสงัด เปิดไฟที่หัวเตียง นอนขดตัวใต้ผ้านวม อ่านการ์ตูนโดราเอมอน ไม่สิ...เราซื้อนิยายกึ่งสารคดีเกี่ยวกับสะพานข้ามแม่น้ำแควไว้ ยังไม่ได้อ่านเลย...
นี่เป็นครั้งแรก...ที่คิดถึงเมืองเหนือ...
Create Date : 29 กันยายน 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 29 กันยายน 2551 0:33:15 น. |
Counter : 709 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: อัย (Airis_Ai ) 29 กันยายน 2551 6:43:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: ^@^ IP: 118.172.170.130 1 ตุลาคม 2551 20:50:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: พรทิพย์ IP: 58.8.69.61 4 ตุลาคม 2551 12:38:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูนีโอ IP: 114.128.46.8 4 ตุลาคม 2551 19:29:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: Kwanita IP: 58.8.150.252 9 ตุลาคม 2551 10:53:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: มลุลี IP: 202.149.24.129 29 ตุลาคม 2551 23:15:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะกับการเรียนและเอาใจช่วยให้คุณโรบิ้นเอาวิถีชีวิตสงบสุขแบบเดิมกลับมา มีความสุขกับการสร้างสรรค์ผลงานที่รักนะคะ สู้ๆค่ะสู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะคะ(^^)V