มกราคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
18 มกราคม 2550

ปอ - อา - ยอ = ปาย Ep.2 ตอน แต่เช้ามืด

หลังจาก ภาคแรก กวาดรายได้กันไปถล่ม ถลายฮวบๆ มาต่อกันที่ ภาค 2 กันเลยดีกว่า ก๊ากกกกก


จริงๆก็ไม่ได้กะทำหลายภาคหลอกครับ ตอนแรกผมพิมใส่ไปหมดเลย ปรากฏว่ามันบอก ยาวไปตัวอักษรเกิน อิอิ เลยต้องหั่นเป็นตอนๆ แบบท่านลอดเลย เอาน่ายังไงก็ติดตามอ่านกันหน่อยนะครับ ท่านผู้ชม





Ep.2 ตอน แต่เช้ามืด






หลังจากวันแรก เข้านอนซุกใต้ผ้าห่มแล้วหลับไป แต่ก่อนจะนอน ตั้งเป้าไว้ว่า จะตื่นแต่เช้าไปตลาดที่ปายนี่ เรื่องราวจะเป็นไงนั้น อ่านต่อเลยครับ




เช้าวันใหม่ วันนี้ตื่นแต่ตี 5 เลยครับ ฟิตๆ เพราะกะจะไปเดินตลาดแบบปูขายวางกะพื้นของชาวเหนือ ที่จะมีกันแทบทุกจะหมูบ้าน พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็ ขี่มอไซด์ออกลุยเลยครับ โอ้.. เจ้าจอร์ช ตอนออกไปนี่บรรยากาศหนาวมากครับ ตอนขี่มอไซด์ ยังกับคนเอาน้ำแข็งมาลูบหน้า เย็นสะท้านทรวงกันไปเลย ก็ขี่รถวนดูหาตลาด เอ๊ะ! ไม่มี นั่นก็ ไม่มี หายไปไหน ไม่มี ไม่มี ทำไมไม่มีตลาด อ้ากกก!! แล้วตูตื่นมาทำไมแต่เช้าฟะเนี่ย - -“

เลยลองขี่ไปดูที่ตลาดสดดู ว้า มันก็ไม่ต่างอะไรกันเลย เฮ้อออ.. เซ็ง ขี่รถวนกลับเข้ามาในเมืองต่อ ที่นี้เริ่มมีร้าน ขายน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ โจ๊ก เริ่มทยอยออกมาวางขายกันละ อ่า.. ค่อยยังชั่วหน่อย งั้นหาอะไรกินแถวนี้ดีกว่า

ระหว่างกินไปก็มีคนออกมาตั้งโต๊ะขายของที่จะใส่บาตรพระในตอนเช้า น่าสนใจไม่น้อยเลย ไหนๆก็ตื่นเช้าแล้ว งั้นใส่บาตรหน่อยละกัน ก็เลยไปจัดมา ซึ่งเค้าขายอยู่ชุดละ 30 บาทนั่นเอง แต่นั่งดูไปแล้ว นอกจากผมกับเพื่อน ก็ไม่เห็นมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆเค้าตื่นกันขึ้นมาเลย แล้วงี้ใครจะซื้อใส่บาตรล่ะเนี่ย นั่งนึกไป กินไปสักพัก พระก็มา ก็ได้ใส่บาตรสมใจนึก เสร็จสรรพ ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว อ่ะคิดในใจว่าอยากจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นตรงสะพานเก่านอกเมือง ก็เลยขี่มอไซด์ไป พอขี่ไปสักพักออกนอกเมืองไปได้หน่อยเดียว อ้ากกก!! ไม่ไหวหนาวโคตรๆๆ เสื้อผ้าที่ใส่อยู่รู้สึกว่า กันความหนาวเอาไว้ไม่ได้เลย หนาวจนขี่มอไซด์เหมือนเจ้าเข้าอคง์ลงยังไง ยังงั้น ไม่ไหวยอมแพ้ ไกลด้วย กลับดีกว่า อิอิ ก็กลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง

ที่นี่ มุ่งหน้าไปยังแม่น้ำปายแล้วกัน ไปยังสะพานไม้ไผ่ ก็ไปเดินเล่นที่นั่น บรรยากาศยามเช้าหมกลงหนาจัด มองอะไรไกลๆไม่เห็นเลย ถ้านึกภาพยังไม่ออก ลองนึกถึง เรื่อง ไซเรนฮิล เลยครับ(อีกรอบ) หมอกจัดประมาณนั้น แต่ว่าไม่น่ากลัวแบบนั้นนะ จะสดชื่นซะมากกว่า เดินเล่นที่สะพานเสร็จก็เดินไปดูที่พักแถวริมแม่น้ำ ก็น่าอยู่ดี ราคาไม่แพงด้วย เพียงคืนละ 350 – 500 บาทเองมีน้ำอุ่นให้อีกต่างหาก เห็นตั้งโต๊ะเลี้ยงอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ด้วย ไม่รู้ว่า กินไม่อั้นหรือปล่าว ว่าจะไปร่วมแจม อิอิ









































พอถ่ายรูปเสร็จก็กลับไปรับประทานอาหารเช้า ของที่พักดีกว่า ของฟรีไม่ควรพลาด แผล่บบบ :P เมื่อทานเสร็จก็กลับไปนอนพักในบ้านพักต่อ จากนั้นพอสายๆก็ออกมาถามพี่เค้าว่า มีที่เที่ยวที่ไหนอีกครับผม เค้าก็บอกว่าไปหมู่บ้านชาวจีนมายัง ผมก็ส่ายหน้าลูกเดียว งั้นเค้าบอกลองไปเที่ยวดูซิ มีร้านอาหารอร่อย แล้วแถวนั้นยังมีวัด น้ำฮู ที่มีน้ำออกมาจะเศียรพระอีกด้วย โอเค เมื่อรับป้อนข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าสู้จุดหมายกันเลย




การเดินทางไปวัดน้ำฮูนั้น ก็ไปไม่ยาก ขับรถตรงไปเรื่อยๆเช่นกัน สักพักก็จะเจอวัด ซึ่งค่อนข้างเด่นอยู่เหมือนกัน ก็นำรถจอดไว้ที่ปากทางเข้าวัดหลังจากนั้นก็เดินเข้าไป ทางด้านข้างก็จะมีห้องแถวไม้ ผมเดาว่า น่าจะเป็นโรงครัวของทางวัด หน้าห้องแถวก็จัดโต๊ะวางขายดอกไม้ ธูปเทียน และของที่ระลึก ผมก็ไปซื้อดอกไม้ธูปเทียน แล้วก็เข้าไปไหว้พระทางด้านใน เมื่อกราบไหว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินมาที่อ่างน้ำมนต์ เพื่อ กรอกน้ำมนต์ ซึ่งเอาน้ำที่ไหลออกมาจากเศียรพระมาทำน้ำมนต์นั่นเอง ที่นี่เค้าจะมีขวดไว้บริการให้เลย ไม่ต้องซื้อหาอยู่ที่ว่าเราจะบริจาคเท่าไหร่ ก็ตามแต่กำลังจะศรัทธา


















หลังจากนั้นก็เดินไปที่ศาลากลางน้ำ ซึ่งมีประวัติเก่าแก่อยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ผมจำไม่ค่อยได้เลยไม่ขอเล่าดีกว่า เดี๋ยวจะผิดเพี้ยนไป แต่เก็บภาพมาฝาก ไม่ต้องกลัวครับ


















เมื่อออกจากวัดแล้ว ก็มุ่งหน้าไปหมู่บ้าน จีน ซึ่งอยู่บนเขา แต่จริงๆที่ขี่มาถึงวัดนี่ก็เข้าเขตเขาแล้วนะเนี่ย
ระหว่างไปหมู่บ้านจีน วิวข้างทางนั้น จะมองเห็นภูเขาขนาบขางเราไปด้วย แต่ว่าสองข้างทางก็ยังมีบ้านคนเรียงรายอยู่ ไม่ได้เป็นป่าอ่ะ ป่าก็มองเห็นนะแต่จะอยู่ไกลออกไปโน่นนน อ่ะดูเอาเองแล้วกัน ถ่ายระหว่างขี่มารูปหนึ่ง แต่หยุดขี่แล้วค่อยถ่ายนะ ไม่ได้ ขี่ไปถ่ายไป อิอิ ยังไม่เซียนพอ ^ ^







พอขี่มาถึงหมู่บ้านจีนแล้ว แต่เรายังไม่แวะที่นี่ ผมยังอยากจะขี่รถต่อไปเรื่อยๆว่าจะขึ้นไปถึงไหน ยิ่งขี่ขึ้นไป ทางก็ยิ่งชันขึ้น และ ชันมากจนหน้ากลัว ไม่ไหว ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวลงไม่ได้ ล่ะแย่เลย ขนาดตอนลง เบรกสุดๆ ล้อยังมีลื่นเลย แฮะๆๆ แถมรถเป็นเกียร์ออโต้อีกต่างหาก ไม่เสี่ยงดีก่า

ระหว่างทางลงมา ก็สังเกตหมู่บ้านคนจีน ซึ่งค่อนข้างจะเป็นแบบเดิมๆชั้นเดียว บางบ้านยังเป็นบ้านแบบที่สร้างขึ้นจากดินเหนียว กับฟางอยู่เลยอ่ะ สุดยอด















พอกลับมาถึงหมู่บ้าน ถึงได้ทราบชื่อเต็ม ว่าที่แท้ก็คือ หมู่บ้านชาวจีนยูนนานนี่เอง ส่วนที่เรามานี่ก็คือ
ศูนย์วัฒนธรรมไทยจีนยูนนาน นั่นเอง ดูจากภายนอกแล้วคล้ายๆกับสถานที่ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเลย

ตอนมาถึงที่นี่จะเห็นก่อนอันดับแรกเลย ก็คือต้นไม้ครับ สูงจริงๆ สูงมากกก ไม่เชื่อลองดูในภาพซิ

พอเดินเข้าไป ก็จะมองเห็นตรงกลางมีก้อนหินขนาดใหญ่เขียนภาษาจีนวางอยู่ แล้วด้านบนมีมังกรพันเสา คาดว่าน่าจะเกี่ยวกับห้วงจุ้ยนะ เดาเอาอ่ะ ส่วนทางด้านซ้ายมือ ก็จะมีห้องแถวเป็นร้านขายของ แบบจีนๆซึ่งส่วนใหญ่เราก็อาจจะคุ้นตาหรือพบเจอได้ตามเยาวราช แต่พอมาอยู่ที่นี่ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ



















เดินเข้ามาหน่อย ก็จะเจอหุ่นใส่ชุด ชาวจีนยูนนาน ไว้คอยให้นักท่องเที่ยวไว้ถ่ายภาพที่ระลึก ส่วนด้านข้างก็จะมี ลาหรือ ม้าอ่ะเนี่ย ไว้คอยบริการให้นักท่องเที่ยว ขี่เดินวนขึ้นไปบนภูเขาดูสวนส้ม ดูอะไร แล้วก็กลับลงมา ด้วยราคา 300 บาท แต่ผมก็ไม่ได้ลองนะ กลัวม้าจะตายก่อนอะดิ ถ้าผมขี่ อิอิ


ผมนั่งถ่ายรูปอยู่ตรงนั้นซักพักก็เห็นวัยรุ่นมาประมาณ 4-5 คนเดินมาตรงแถวนี้พอดี แล้วชาวบ้านเค้าก็ชักชวนว่า ขี้ม้าขึ้นเขาไหม ชมสวนไร่ส้ม รอบเขาเลย วัยรุ่นเค้าก็ถามว่า เท่าไหร่ ชาวบ้านเค้าบอก 300 บาท วัยรุ่นก็ตอบกลับมาว่า อูย 300 บาทเดินเอาดีกว่า

ผมนั่งอยู่ตรงนั้นแล้วรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือนี่มันเป็นงานของชาวบ้านเค้า คือคุณไม่ใช้บริการเค้าก็ไม่ว่า แต่พูดแบบนี้แล้วผมว่ามันเหมือนเป็นการทำร้ายน้ำใจ ชาวบ้านนะ ไม่รู้ซิรู้สึกได้อย่างนั้น



จากจุดที่ผมนั่งพัก ผมก็ส่องกล้องไปรอบเลย เก็บภาพบรรยากาศได้มากมาย
ทั้งภาพแม่ ที่อุ้มลูก และกำลังป้อนข้าวลูก ส่วนลูกเองก็รู้สึกสนุกสนานไปกับการเห็นคนมาเที่ยวที่นี่ ผมดูภาพแล้วก็รู้สึกมีความสุขดีนะ ^ ^ และยังมีภาพ คนเล่นกังหันลักษณะเหมือนชิงช้าเลย แต่ก็ค่อนข้างหวาดเสียวอยู่พอควร ที่เหลือก็ถ่ายเรื่อยๆเปื่อยๆ อ่อเดี๋ยวมีภาพคุณลุงคนหนึ่งนั่งด้วย เชื่อป่ะว่าตั้งแต่ผมมา ที่นี่ตั้งนาน ลุงแกก็นั่งตากแดดอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมไปไหนเลย ทำไมหน๊อ ???












































หลังจากที่ถ่ายรูปจนพอละ เราก็เข้าไปทานอาหาร ที่นั่นเลย เป็นร้าน อาหารจีนยูนนาน ชื่อร้านก็คือ
ร้าน สันติชน นั่นเอง

บรรยากาศในร้าน ก็ค่อนข้างมีผู้คนเยอะ พอสมควร ผลัดเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ บรรยากาศร้านก็คล้ายๆโรงเตี๊ยมในหนังจีนเลย คือมีโต๊ะไม้แล้ว ก็พื้นร้านจะเป็นพื้นดิน ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เลือกอยู่พอสมควร ที่ขึ้นชื่อเลยก็จะมี ขาหมูยูนนาน แต่ว่าผมไม่ค่อยชอบกินขาหมูเท่าไหร่เลยไม่ได้สั่งมา

ที่สั่งมาก็คือ ลาบยูนนาน ไก่ดำตุ๋น ผัดผักรวมมิตร ไก่ดำมันเม็ดมะม่วง แล้วก็ หมั่นโถว ทอดกะนึ่งปนกัน รสชาติอาหารก็ถือว่าใช้ได้เลย ส่วนราคาก็ เช็คบิลแล้วประมาณ สี่ร้อยต้นๆ จำราคาตายตัวไม่ได้ ^ ^”













หลังจากทานเสร็จแล้ว ก็กลับที่พัก มานอนพักผ่อน นอนไป นอนมา ก็ยาวเลย ที่นี้ ตื่นมาอีกทีก็หัวค่ำแล้ว ได้เวลาออกร่อนยาม ราตรี อีกแล้ว คืนนี้ก็ไม่มีอะไรมาก บรรยากาศเหมือนเดิมเลย ผมกะจะหาซื้อ ของฝากซักหน่อย แต่ดูหลายร้านแล้ว ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรเป็นของฝากที เพราะว่า ดูแล้วไม่มีของอะไรซึ่งจะดูเป็นเอกลักษณ์ของเมืองปายเลย ของทุกอย่างก็เหมือนๆหรือคล้ายกับของที่มีขายใน กทม ของบางอย่างที่เปิดร้านขาย เห็นยี่ห้อแล้ว ยี่ห้อนี้ในสวนจตุจักรก็มีขาย อิอิ แบบว่าพี่แกคงรับมาขายที่ปายนี่อีกที


เมื่อไม่ได้ของฝากก็เดินเล่นหาของอร่อยกิน ที่นี้ลองกินร้านที่มีคนกินเยอะๆดูมั่งเผื่อแจ่ม ก็เลือกเข้าไปร้านหนึ่ง มีขายทั้งอาหารฝรั่ง ไทย

เข้าไปนั่งเปิดเมนูดู รายการสเต็ก อ่านชื่อแล้วค่อนข้างจะคุ้นเคย เพราะว่ารายการสเต็กคล้ายๆกับที่สามย่าน ข้างจุฬาเลย แต่ราคานี่ซิ ห่างไกลกันลิบลับ ลองเปรียบเทียบเทียบดูเล่นๆในใจ รายการสเต็กเดียวกันเลย ที่ร้านสามย่านอยู่ใจกลาง กทม เลยนะ ราคา 60 – 70 บาท ร้านนี้ จานละ 180 บาท โอ้วแม่เจ้า เนื้อไก่ที่นี่คงแพง แต่ว่าเข้าไปแล้วก็กินซักหน่อย สั่งอาหารไทยมากินแล้วกัน รสชาติก็ธรรมดาครับ กลางๆ ไม่มีอะไรมาก กินเสร็จก็กลับที่พักนอนดีกว่า


ตั้งแต่มาปายนี่ ร้านดังๆส่วนใหญ่ ที่คนนิยมถ่ายภาพมาแล้วมาโพสในกระทู้กัน ตามความรู้สึกของผม พอได้มาเจอจริงๆ ผมว่า มันก็งั้นๆนะ ไม่ค่อยมีอะไร แถมราคาจะแพงเวอร์กว่าชาวบ้านเสียอีก เลยไม่ถ่ายภาพมาดีกว่า ไม่ประทับใจร้านพวกนี้นี่นา คงไม่ว่ากันนะ ^ ^ \/


คืนที่ 2 ก็ผ่านพ้นไป ..




ติดตาม Ep.1 คลิกที่นี่


ติดตาม End.ep ตอนจบ.. ค้นพบ คลิกที่นี่







ขอบคุณ : น้าเตย์คับสำหรับ คำสั่งภาพ


Create Date : 18 มกราคม 2550
Last Update : 18 มกราคม 2550 21:55:41 น. 7 comments
Counter : 552 Pageviews.  

 
บรรยากาศดีจริงๆ
อยากไปปปป
อ่านไปอ่านมาแล้ว
รู้สึกหิวเฉยเลย
มีแต่ของกินง่ะ


โดย: prncess วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:22:04:49 น.  

 
เห็นภาพแล้วน่าไปเที่ยวมากเลยค่ะ


โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:23:23:27 น.  

 
โอโฮ เจ๋งอะ


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:23:34:55 น.  

 
บรรยากาศโรงเตี๊ยมน่านั่งมากเลยค่ะ เห็นแล้วก็แหม๊ .. ถ้าได้ไปแล้วสงสัยจินตนาการว่าเราเป็น "องค์หญิงเหา เหา "

น่าเที่ยว น่ากินจัง


โดย: JewNid วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:1:51:42 น.  

 
ปลื้มๆ คนเขียงข้างๆ ไม่ชอบร้านดังเหมือนกันเลย แต่ตอนไปพี่ก็แวะไปนะ


โดย: paper wing วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:0:46:28 น.  

 
อาหารน่ากินจังเยย


โดย: peeko วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:17:31:58 น.  

 
หิวๆ อาหารน่ากินที่สุด


โดย: รักบังใบ วันที่: 27 มกราคม 2550 เวลา:1:41:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Qooma
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พรุ่งนี้.. ต้องทำอย่างไร
[Add Qooma's blog to your web]