Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
8 เมษายน 2556
 
All Blogs
 

การสอบป้องกันจบ ป.โท

หลังจากฝ่าฟันเรียนมาตั้งหลายปี จนในที่สุดก็สามารถขอขึ้นสอบป้องกันสารนิพนธ์ หรือบางคนจะเรียกว่าสอบ Defend ได้

สาขาที่เรียนอยู่ เป็น ป.โท ภาค ข. ต้องทำสารนิพนธ์จำนวน 6 หน่วยกิต แต่ตอนทำ ไม่ค่อยจะแตกต่างจากภาค ก. เลย มีดีแค่ไม่ต้องสอบก้าวหน้า

ก่อนสอบป้องกัน มีไปแอบอ่าน Blog ที่เขียนเกี่ยวกับการสอบป้องกันของคนในเนต แต่เท่าที่อ่านดูความโหดร้าย อาจจะเพราะเป็นของภาค ก. ที่ค่อนข้างเขี้ยวในการจบ

ในส่วนการสอบป้องกันของ จขบ. ก็ไม่ต่างกัน ก่อนจะขึ้นสอบ วิ่งเอาเอกสารที่ต้องยื่นบัณฑิตไปส่งที่ภาค

ต้องพรินท์เล่มจำนวน 3 ชุด ซึ่งเท่ากับกรรมการคุมสอบสามท่าน แล้วไปให้อาจารย์ก่อนสอบ 1 สัปดาห์

ในวันสอบ ต้องรีบไปแต่เช้า มีซื้อน้ำ ซื้อขนม สำหรับให้อาจารย์ ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะซื้อมั้ย แต่เท่าที่อ่าน ถามเพื่อน และสอบถามน้องสาวที่จบป.โท ไปแล้ว ก็บอกว่า ควรซื้อ

แต่เหตุการณ์วันสอบช่างเลวร้ายมาก เพราะวันนั้น มีเด็กมัธยมมาสอบอะไรซักอย่างที่มหาวิทยาลัยเยอะมาก เยอะจน 7-11 ในมหาวิทยาลัย ของขายเกือบหมด น้ำเปล่าหมด น้ำแร่หมด เหลือแต่น้ำชาหวาน ๆ ส่วนพวกขนมปังไม่เหลือเลย

สุดท้ายก็ได้ชาขวดไปให้อาจารย์ ส่วนขนมปัง ซื้อข้างนอกเอา เอาดี ๆ หน่อยเลยซื้อ UFM

ซื้อเสร็จ ขึ้นไปเตรียมห้องสอบ จัดวางขนม เตรียมสไลด์ เช็คคอมพิวเตอร์ และรออาจารย์ที่ปรึกษา

เนื่องจากอย่างที่บอก มีเด็กมาสอบเยอะมาก หน้ามหาวิทยาลัยรถติดแบบนรก จนอาจารย์ที่ปรึกษา โทรมาบอกว่า ขอเข้าสายหน่อย เราก็แจ้งกรรมการท่านอื่นไปก่อนว่า อาจารย์ที่ปรึกษาเรารถติด

พออาจารย์มาครบ เราก็เริ่มพรีเซนต์สไลด์

ในส่วนของเนื้อหาในสไดล์ มีการคุยกับที่ปรึกษา เค้าบอกว่า เค้าไม่อยากให้เราพรีเซนต์ตามหนังสือ อะไรที่ตัดได้ตัดออกไป ให้คิดว่า เราพรีเซนต์งานเอกชน หรือเหมือนกับเราจะไปขายโปรแกรม จะพรีเซนต์ยังไงให้คนฟังอยากซื้อ

ดังนั้นในสไลด์ของ จขบ. จึงค่อนข้างน้อย เกริ่นเนื้องานว่ามีงานประเภทไหน

ต่อมาก็เข้าไปถึงภาษาญี่ปุ่นที่เรามุ่งประเด็น

แล้วก็เข้าถึงวิธีการวิจัย (บทที่ 3) แล้วก็ลากยาวถึงสรุป

โดยในส่วนของงานวิจัยจะโดนถามมากที่สุด เราก็ต้องตอบให้เคลียร์มากที่สุดว่าทำไมเราทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้

ต่อมาเรื่องที่โดนถามก็คือ ทำไมเราใช้วิธีการตรวจสอบอย่างนี้ เอ่อ ตอบยากมาก แต่ยังดีที่ อ.ที่ปรึกษาช่วยอธิบายเหตุผล

เพราะตอนแรก เราตรวจสอบผลโดยใช้คนประเมิน แต่พอส่งไปงานวิชาการ โดนตีกลับและผู้คอมเมนท์ให้คำแนะนำว่า ควรใช้ระบบอัตโนมัติ ตัวเราก็ไปหาวิธีการ และศึกษา พร้อมทั้งเขียนโปรแกรมเพื่อทดสอบมันจนได้ผลลัพธ์อย่างนั้

ก็พูด ๆ พรีเซนต์ และตอบคำถาม ตอนแรก นึกว่าจะโดนหลายชั่วโมง แต่ปรากฎว่า สอบวันนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงเสร็จ

ซึ่งแตกต่างจากเพื่อนอีกคนที่สอบไปเทอมที่แล้ว เพื่อนบอกว่าโดนไปสามชั่วโมงครึ่ง ฟังแล้วเหนื่อยแทน

แต่ตอนสอบเสร็จ ก็ต้องแก้เล่ม แก้ชื่อเรื่อง และแก้บทคัดย่อ

ที่กล่าวมา การแก้บทคัดย่อหนักสุด เพราะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษใหม่หมดเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ต้องแก้ตามคำแนะนำจากกรรมการ (เพระาเดี๋ยวจะไม่จบ)

หลังจากแก้เสร็จ ให้อาจาย์ตรวจ ก็เอาไปเข้าเล่ม ไปเข้าเล่มที่ใต้ตึกวิศวะ เจอไปเล่มละ 170 บาท ก็กลาง ๆ

ส่งเล่มเสร็จก็รออย่างเดียว รอบัณฑิตอนุมัติ จะได้จบซักที




 

Create Date : 08 เมษายน 2556
0 comments
Last Update : 27 ตุลาคม 2557 22:02:56 น.
Counter : 11492 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


I^^
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




Friends' blogs
[Add I^^'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.