|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
19 ธค หุ้นตก 100 กว่าจุดควรทำอย่างไร
ทำไมไม่เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส
ทำไมไม่เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส จากการที่ผมอ่านกระทู้ที่มีอยู่เยอะมากในตอนนี้เป็นเศษกระทู้ เป็นข้อความระบายอารมณ์ความไม่พอใจจากนโยบายของรัฐบาล ถ้ามัวแต่เกลียดกันไปจะได้อะไรครับ ผมว่าเราอย่าเสียเวลามาตั้งกระทู้ด่า เสียดสี อคติ จะดีไหมเสียเวลาเปล่าๆ(มันเหมือนเด็กไม่มีวุฒิทางอารมณ์)เรามามองว่าต่อไปจากนโยบายนี้มันจะทำให้เกิดอะไรขึ้นดีกว่า ด้วยความหวังดีครับ
จากคุณ : hotstock2323 [ 23 ธ.ค. 49 15:07:53 ] ความคิดเห็นที่ 4
ไหน ๆ ก็เข้ามาอ่าน นึกว่ามีอะไรเป็นเนื้อหนัง กลายเป็นน้ำเหลวเช่นกัน
เมื่อเราต้องการให้คนแก้ หากเป็นแค่คำถามก็ แล้วไป แต่ถ้าสอนมวยเขาก่อน แล้วดันมาตามด้วยคำถามในเรื่องเดียวกันก็กลายเป็นเรื่องตลก คนที่รู้จักก็แล้วไป คนไม่รู้จักเขาอาจสวนกลับได้ง่าย
ถูกต้องครับ เมื่อเกิดเหตุ และเหตุในเป็นวิกฤต รายใหญ่เขาคิดแล้วว่าไม่ดี แต่เขาไม่ใช่หน้าที่ (จำไว้ว่า เขาไม่ใช่หน้าที่) ดังนั้น ในวันที่เกิดวิกฤต หรือ ณ เวลาที่เกิดวิกฤต เขามองในสิ่งที่เป็นหน้าที่เป็นอาชีพของเขา (คือการเอากำไรในโอกาสวิกฤตนั้นๆ เดี๋ยวนั้น ทันที จำไว้ว่า เดี๋ยวนั้นทันที ไม่ใช่รอไปอีกหลายข้ามคืน) เพราะหน้าที่คนเล่นหุ้นคือ แสวงกำไรจากตลาด คนที่เล่นแบบอิงข่าวพื้นฐานจะลงมือช้ากว่าคนเล่นทางเทคนิค หรืออิงข่าวเพื่อเก็งกำไร ไม่ต้องมาเถียงกันว่า นโยบายนั้นดีหรือเลว ณ เวลานั้นๆ (ไว้พูดทีหลังไง ทีหลังคนก็พูดมาก พูดทุกคน จนหลายคนที่รู้เรื่องแล้วเขาอ่านแล้วก็เบื่อ) สิ่งสำคัญคือ เอาวิกฤตทันควันนั้นลงมือ จะลงมืออย่างไร บางคนเขาทำเป็นคู่มือไว้ติดกระเป๋าแล้ว ว่า หากเกิดราคาลง กี่เปอร์เซนต์ แบบรายตัว ต้องทำอย่างไร แบบทั้งตลาดต้องทำอย่างไร ทำ 1 ต่อ 2 ตาม 3 ข้าม 4 ไป 5 เลยหรือ ต่อ 4 ข้าม 5 6 ไป 7 อย่างงี้เรียกว่า ฉกเอาวิกฤตเป็นโอกาส ในเวลานั้นสมควรขายหมดหรือไม่ สมควรซื้อเต็มสูบหรือไม่ หากไม่แน่ใจแต่ราคาลงแบบนั้นๆ ต้องลงมือกี่เปอร์ บางเหตุการณืต่อเนื่องข้ามวัน แต่รายใหญ่จะไม่ลงมือต่อเนื่อง ทุก ๆ ๆ วันตามจากวันนั้น เพราะศัตรูคือ รายใหญ่อื่นๆ ที่รู้ตามมาจะลง ดังนั้น ตีเหล็กตอนร้อนจะได้เนื้อดีเข้ารูปดีกว่าตอนเย็น น้ำขึ้นไม่รีบตัก พอน้ำลงก็เหลือแต่เลนเหลว ไร้ค่าซะแล้ว
วันที่ 19 คนที่รู้ข่าวตอนเย็น 18 เขาเตรียมขายทุกราคา MP ให้มากสุดหมดใน 4 ไม้แรก จากนั้นรอ แล้วซ้ำเติมไม้เล็ก ๆ ตามไป แบบอัฟเตอร์ช๊อก เซอร์กิจแรกเข้า ก็ต้องรีบตัดสินใจว่า ลงมือรับหรือไม่ (แต่เป็นเซอร์กิตช่วงเช้า เขาอ่านเกมว่าบ่ายลงต่อ) ไม่รับ บ่ายลงต่อ ใกล้ 3 โมงครึ่งจะเจอ เซอร์กิต 2 นั้นอาจหมายความว่าต้องปิดตลาด หากซื้อเก็บวันรุ่งขึ้นเสี่ยงมาก(เพราะปิด 2 เซอร์กิจ) หากไม่ซื้อก็อาจพลาดโอกาสครั้งใหญ่ ดังนั้นต้องลงมือเข้ารับชิมลาง ก่อนเซอร์กิต 2 เวลาผ่านไป 10 -20 นาที ราคาค่อยๆดีดกลับ วอลุ่มรายใหญ่จะชัวร์ซื้อ ประมาณ 19% - 16% จากนั้นก็พวกเซียนตามมาแย่ง ดัชนีหวนกลับ 1 ใน 3 จากต่ำสุด+ เวลาตลาดใกล้หมด แปลวว่าอะไร ต้องรีบเปิดคู่มือตัดสินใจ เก็บข้ามคืนหรือทิ้งเมทปิด ถ้าข่าวไม่สามารถเคลีย์ ให้ทำอย่างละครึ่ง ปลอดภัยคือเก็บครึ่งและขายแมทปิดครึ่ง
พอข้ามวัน ทุกอย่างก็อย่างที่ทุกท่านเห็นๆ ใครใจกล้า ตัดสินใจถูก ในเวลา 1 วัน 10 - 20 % (โอกาสแบบนี้หายากมาก นานๆ ครั้ง) ได้กำไร ถือว่าเป็นนักเล่นหุ้น ระดับรายวัน ที่เก่งต้องยกนิ้วให้ ถ้าไปห้องค้าทุกวัน หรือเทรดผ่านเนตทุกวัน แต่วัน 19 ไม่ทำอะไร ก็ไม่รู้ว่าจะยกตำแหน่งนักเล่นแบบไหนให้ นักเก็งกำไรก็ดูไม่ใช่เอาเลย เพราะนักเก็งกำไรเขาคิดไวลงมือไวและคิดตัดสินแบบชาญฉลาด นักลงทุนก็ดูจะแปลก นักพนันก็ไม่ใช่เพราะไม่มีคุณสมบัติแห่งความกล้า
แต่คนที่ไม่มีประสบการณ์ การณ์ครั้งนี้ก็สอนให้รู้อะไรอีกมาก ว่า ตลาดหุ้นไม่มีความปลอดภัยทุกเมื่อ และหากเป็นนักลงทุน การณ์ครั้งนี้ก็สอนให้รู้ว่า เรื่องที่คำณวนผ่านจากตัวเลขทางบัญชีหรือคาดการณ์การค้าการตลาด มันอาจสะดุดง่ายด้วยเรื่องที่ไม่คาดฝัน
ตลาดหุ้นไม่มีของถูก มีแต่ของแพง และของที่ขายได้กำไรหรือไม่เท่านั้น ดังนั้น ต้องคิดใหม่ทำใหม่ ความคิดเก่าๆ การเล่นสไตล์เก่าๆอาจต้องลบออก แล้วเปลี่ยนมาใช้สไตล์ ผม คือผสมผสาน VIS ไม่ใช่ VI ไม่ใช่ VS และไม่ต้องมาหยิ่งทะนงในศักดิ์ว่า ข้าคือ VI หรือข้าคือเซียน VS ไม่ได้เรื่องทั้งน้าน 5566 5566
จกท คงพอจะรู้นะครับว่า ผมก็ไม่สามารถวิจารณ์ว่า ที่ผู้บริหารเขากระกาศนโยบายแบบนี้ (วันแรกๆก็ฉุนด่า แต่ตอนนี้มีข้อมูลมากขึ้นก็เฉยๆ ไม่ได้สนับสนุนแต่ก็ไม่ได้อยากด่า เพราะจริงๆมีเรื่องลึกกว่านี้ที่เราไม่รู้ แม้นายคนรู้ทุกเรื่องอย่าง สนธิ บู้ลิ้ม ก็ไม่รู้อีกมาก )ดีหรือไม่ดี เพราะวิจารณืไปเขาก็ไม่ได้เอาความคิดเราไปปฎิบัติ ด่าไปเขาก็ไม่รับรู้ สู้เราทำหน้าที่ของเราดีก่า คือ มีหน้าที่เล่นหุ้น เพื่อเอากำไรเลี้ยงชีพ โดยไม่ลืมหลักการทางเศรษฐศาสตร์ ว่า ใช้ทรัพยกรที่มีอยู่น้อยนิดนั้นให้เกิดประโยชน์มากสุดในเวลาสั้นสุด มีตัวแปร 3 ตัวเชียว ฝากไปคิดๆต่อเอาเอง ไปกินข้าวก่อน 18.15
จากคุณ : nowya - [ 23 ธ.ค. 49 18:12:56 A:202.57.175.167 X: TicketID:112031 ]
Create Date : 15 กันยายน 2551 |
Last Update : 15 กันยายน 2551 16:34:58 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2054 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|