Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

สู้ต่อไป...อาลัยไอ้ปืนใหญ่

หลังจากอาร์เซนอลได้พ่ายแพ้ต่อบาเซโลน่าไปอย่างฉิวเฉียด 2 ต่อ 1 เด็กปืนอย่างผมก็เกิดอาการเศร้าขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ยอมรับเลยครับว่าเศร้าจริงๆ เพราะสำหรับแชมป์เปียนลีกฤดูการนี้ ผมแหกขี้ตาติดตามดูไอ้ปืนใหญ่ของผมมาตลอดทุกนัดที่มีการถ่ายทอดทางช่อง 3 ถือว่าเป็นโชคดีของผมหน่อยก็ว่าได้เพราะที่บ้านไม่มียูบีซีเหมือนคนอื่นไม่งั้นก็คงได้ดูทั้งในพรีเมียร์ชิพทุกสัปดาห์แน่นอน (ต้องอดนอนอีกเยอะเลย)

ผมเชียร์อาเซนอลหรือเรียกได้ว่าเข้ามาเป็นเด็กปืนใหญ่มาได้ประมาณ 6-7 ปีแล้ว ตอนนั้นสปอนเซอร์เสื้อทีมยังเป็น SEGA อยู่เลย เริ่มดูบอลก็มาพร้อมๆจากการเริ่มเล่นพนันตามเพื่อนๆน่ะแหละ เริ่มดูเพราะเล่นพนัน (เล่นพนันลุ้น เลยต้องดู) พอดูบ่อยเข้าก็เริ่มที่จะรู้จักนักเตะเพิ่มขึ้น (ตอนนี้เลิกเล่นพนันแล้วมาเชียร์อย่างเดียวสบายใจกว่า) และบวกกับเล่นวินนิ้ง11 ด้วยแล้วยิ่งรู้จักนักเตะมากขึ้นอีกเยอะเลย แล้วอีท่าไหนจำไม่ได้ก็เชียร์ไอ้ปืนโตมาตลอดอาจเป็นเพราะทางบอลที่บุกแหลกและเล่นบอลบนพื้นได้สวยงาม ดูสนุกตื่นเต้นละมั้ง จำได้ตอนนู้น ลุงเบิร์กยังเฮี้ยวๆหัวแดงแจ๋เป็นนกหัวขวาน(ตอนนี้หัวสกินเฮ็ดซะงั้น) เบิร์กแค้มยังลีลาเหลือร้ายเฉียบขาด(ตอนนี้กลายเป็นเสือเฒ่าไปแล้ว) ยังมีไอ้จรวดทางเรียบ มาร์ก โอเวอร์มาร์ส วิ่งป่วนกองหลังคู่ต่อสู้ได้ตลอด กองหลังก็มีพวกที่ตอนนี้กลายเป็นคุณลุงกันหมดแล้วอย่างมาติน คีโอว์น, โทนี่ อดัม รวมถึงเดวิด ซีแมน ผู้รักษาประตู ซึ่งตอนนี้ก็อยู่บ้านเลี้ยงหลานแล้วมั้ง กองหน้ายังเป็นจอมลีลาเอนวานโก้ คานู ส่วน อองรียังเพิ่งจะย้ายเข้ามาใหม่ๆเป็นกองหน้าที่ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดเลยว่าตอนนี้จะกลายเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกคนนึงไปแล้ว

เวลาก็ผ่านไปเรื่อยผู้เล่นเก่าๆก็ถูกผลัดเปลี่ยนเจเนอเรชั่น ตามกาลเวลา การทำทีมของอาร์เซนอลจะใช้วิธีเน้นให้เด็กใหม่ๆถูกปั้นขึ้นมาแทนที่จะใช้เงินจำนวนมหาศาลซื้อนักเตะระดับโลกเข้ามาเหมือนทีมยักษ์ใหญ่อื่นๆ ผู้เล่นอย่าง ปาทริก วิเอร่า, เธียร์รี่ อองรี, โรแบร์ ปิแรส กลายเป็นหัวใจหลักๆของทีมที่ขาดไม่ได้ เด็กที่ถูกปั้นขึ้นมาใหม่อย่าง เชส ฟราเบกาส, ฟลามินี่, ฟาน เพอร์ซี่ กลายเป็นพวกยังบลัดสดใหม่ที่ใช้การได้ดีเสมอๆและเป็นกำลังหลักให้ปืนใหญ่ยุคใหม่

เมื่อติดตามดูมาตลอดถึงจะไม่ได้เป็นถึงขั้นแฟนพันธ์แท้ ถึงจะไม่มีเคเบิลทีวีดูได้บ่อยๆ แต่ถ้ามีฟรีทีวีฉายเมื่อไรก็เป็นอันได้ดูอยู่ทุกครั้ง ติดตามมานานเข้ามันก็เริ่มรู้สึกผูกพันน่ะสิครับ เหมือนเรากลายเป็นคนรู้จักคนนึงของผู้เล่นในทีมยังไงหยั่งงั้น เวลาชนะก็ดีใจด้วยกัน เมื่อแพ้ก็เซ็งไปตามๆกันมันแบบว่าได้ใจไปแล้วน่ะครับ

หลายปีที่ผ่านมาที่ผมเริ่มตามเชียร์ ไอ้ปืนโตได้แชมป์มาพอสมควร ทั้งพรีเมียร์ชิพ และ เอฟเอคัพ บางปีได้ดับเบิลแชมป์ซะด้วยซ้ำ บางปีเป็นแชมป์เหนือแชมป์ (เป็นแชมป์ลีกโดยไม่แพ้เลยตลอดฤดูกาล) แต่สำหรับแชมป์เปียนลีกแล้ว ไอ้ปืนโตกลับไม่เคยได้เฉียดเข้าไปใกล้เลย แม้ว่าจะได้แข่งรายการนี้อยู่ทุกปีก็เถอะ รายการนี้ปืนโตมักจะเล่นไม่ค่อยออกเสมอส่วนใหญ่ลากๆถูๆมาก็โดนเขี่ยตกรอบอยู่ทุกครั้ง

จนกระทั้งฤดูกาลนี้

ถึงแม้ว่าผลงานในพรีเมียร์ชิพจะไม่ค่อยจะน่าดูซักเท่าไร อาจเป็นเพราะการสูญเสียหัวใจของแดนกลางตัวสำคัญอย่างวิเอร่าให้กับยูเวนตุส และอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวสำคัญหลายคนทำให้จบฤดูกาลมาอย่างหืดขึ้นคอด้วยอันดับที่ 4

แต่ในแชมป์เปียนลีกซึ่งปีก่อนๆไอ้ปืนใหญ่ไม่เคยที่จะเข้าถึงรอบชิงซักกะที แค่เข้ารอบลึกๆยังไม่เคยเลย แต่มาคราวนี้กลับทะลุเข้ามาถึงรอบชิงได้ถือว่าเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าสุดยอดเลยก็ว่าได้ ที่ว่าสุดยอดนั้นก็คือ สามารถผ่านทั้งของแข็งเป๊กอย่างยูเวนตุสแห่งอิตาลี และ ยักษ์ใหญ่รีลมาดริดแห่งสเปน มาจนได้ชิงกับเจ้าบุญทุ่ม ซึ่งนับว่าผ่านทางลำบากมาได้เช่นเดียวกันทั้ง เชลซี และเอซีมิลาน

คู่นี้ดูจากภาษีแล้วไงๆเจ้าบุญทุ่มบาร์ซ่าก็ดูดีกว่าไม่ว่าจะเป็นสถิติ ผลงานในลีก รวมไปถึงตัวผู้เล่น เรียกได้ว่าเป็นต่อเกือบจะทุกด้าน ไอ้ปืนใหญ่เป็นแค่ม้ามืดที่โฉบเข้ามาชิงได้เท่านั้นไม่มีใครคาดคิดว่าจะผ่านมาได้ไกลขนาดนี้ ผมก็เลยไม่ได้ตั้งความหวังไว้กับแมต์นี้มากนักคือทำใจไว้แล้วว่าถ้าแพ้ขึ้นมาจะได้ไม่เสียใจมาก

และเมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงนาทีที่ 18 ทุกอย่างมันรวดเร็วปานสายฟ้าแล็บ รู้ตัวอีกทีไอ้ปืนใหญ่ของผมก็ต้องเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน วินาทีนี้ผมมีแต่ทำใจแล้วว่าไม่น่ารอด ที่เซ็งยิ่งกว่าคือเหตุการณ์นี้มันจะพาให้เกมหมดสนุก แต่แล้วอีก 20 นาทีต่อมาไอ้ปืนโตกลับได้ประตูแรกขึ้นนำ 1-0 ทั้งๆที่คนน้อยกว่า จนต้นครึ่งหลังรูปเกมของบาร์ซ่าดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้มากนัก ไอ้ผมก็คิดไปไกลแล้วครับว่า...มีโอกาสชนะ...ชนะแน่ๆ ขอเพียงแค่ให้เวลาหมดไปเท่านั้น นึกภาพผู้เล่นเสื้อเหลืองรวมกลุ่มกอดกันดีใจในชัยชนะชูถ้วยใบโตอย่างมีความสุข


แต่แล้วภาพแห่งความฝันก็ถูกกระชากขาดสะบั้นด้วยประตูตีเสมอที่เฉียบขาดของ ซามูเอล เอโต้ นาทีที่ 76 ทำให้ภาพความจริงที่โหดร้ายมันย้อนกลับเข้ามาใหม่ ความโหดร้ายคือนี่เรากำลังเจอก็บาร์เซโลน่าทีมที่ดีที่สุดในยุโรบตอนนี้ด้วยผู้เล่นที่เหลือน้อยกว่างั้นหรือ กระนั้นความหวังยังไม่สูญสิ้นเพราะเกมยังไม่จบ ผมยังหวังเล็กๆว่าจะมีปาฏิหาริย์ แต่ก็หวังได้ไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วยจังหวะเพียงไม่กี่วินาทีหรือเสี้ยววินาทีซะด้วยซ้ำ บาร์ซ่าก็ขึ้นนำจนได้ 2-1 แล้วก็เป็นสกอร์ที่ทำให้ผมต้องยอมรับชะตากรรมอันโหดร้ายนี้ร่วมกับแฟนปืนโตอีกหลายคนในสนาม

ผมไม่กังขาเลยว่าบาร์ซ่าเป็นฝ่ายชนะได้อย่างไร ไม่อ้างด้วยว่าเพราะเหลือแค่ 10 คนเลยสู้ไม่ได้ ผมยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่าบาร์ซ่าสมควรจะเป็นแชมป์จริง ประตูที่ได้ 2 ลูกก็มาจากการประสานงานกันเป็นทีมอย่างลงตัวและจบสกอร์ได้เฉียบขาด กองหลังอาร์เซนอลมาเจอความเหนือชั้นแบบนี้ต้องยอมรับครับว่าเจ้าบุญทุ่มเหนือกว่าจริงๆ

เป็นภาพที่ดูแล้วเจ็บใจมานะครับที่ผู้แพ้ขึ้นมารับเหรีญอันดับสองโดยที่ต้องเดินผ่านถ้วยแชมป์ที่ไม่มีวันได้สัมผัส ซึ่งตั้งเอาไว้ให้ผู้แพ้ได้เจ็บใจเล่นหรือไงไม่ทราบ และผู้พากย์ก็ดูเหมือนจะมัวสนใจอยู่แต่อนาคตของ เธียร์รี่ อองรี ว่าจะจบลงกับอาร์เซนอลไปอยู่กับบาร์ซ่าหลังจบฤดูกาลนี้หรือจะอย่างไรก็ตาม มันทำให้ผมมองอองรี ซึ่งเป็นนักบอลที่ผมชอบมากที่สุดหลังจบเกมว่าดูเหมือนแกจะไม่เสียใจซักเท่าไรเลย เหมือนไม่มีใจให้กับสโมสรแห่งนี้แล้วยังไงหยั่งงั้นเลย


ถ้าอองรี ไปจริงๆ ที่เสียดายมากที่สุดก็คือผมจะไม่ได้ดูแกเล่นอีกแล้วน่ะสิ คนที่เคยเห็นอองรีเล่นน่าจะรู้ดีว่าหมอนี่มันสุดยอดคนจริงๆ ทั้งลีลา เทคนิก ความเร็ว การจ่ายบอล การยิงประตู ทุกอย่างอยู่ในระดับสุดยอดและที่สำคัญ ยังมีลูกล่อลูกชน ยียวนกวนประสาทคู่ต่อสู่ อีกด้วย (คนที่ไม่ใช้แฟนปืนคงเหม็นขี้หน้า) สำหรับผมแล้วเศร้าจริงๆ

มาถึงตอนนี้แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ สนามไฮบิวรี่ ก็ได้กลายเป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าอองรีจะอยู่หรือไป อาร์เซนอลกำลังจะเริ่มต้นใหม่ สนามใหม่ กำลังจะฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ด้วยขุมกำลังรุ่นใหม่หลายคนที่มีแววว่าจะเป็นผู้เล่นระดับโลกได้ในอนาคต หรืออาจจะใช้เวลาอีกนานแค่ไหนไม่มีใครรู้



ผมจะเฝ้าคอยว่าซักวันนึงว่า ไอ้ปืนใหญ่อาร์เซนอลจะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง

แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องนอนดึกอีกแล้วฤดูกาลนี้




 

Create Date : 18 พฤษภาคม 2549
2 comments
Last Update : 18 พฤษภาคม 2549 14:28:36 น.
Counter : 1454 Pageviews.

 

จำได้เหมือนกันว่าสมัยก่อนชอบ มาร์ค โอเว่อมาร์ มากๆ เท่ห์มากๆ

เอาใจช่วยนะค่ะ โอกาสหน้ายังมี ยังไงก็ได้ไปแชมป์เปี้ยนลีคปีหน้านะค่ะ

 

โดย: เป่าจิน 18 พฤษภาคม 2549 12:59:48 น.  

 

รักนะปืนใหญ่

 

โดย: 1 IP: 222.123.239.209 7 เมษายน 2551 12:18:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kimprite
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Everyone should have a reason to believe.So I still believe that LIGHTNING could STRIKES TWICE for me Yeah Yeah Yeah !!

LIGHTNING STRIKES TWICE
Saint Etienne
Friends' blogs
[Add kimprite's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.