Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2549
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 พฤษภาคม 2549
 
All Blogs
 

เรื่องของผมของผม

เย็นวันก่อนผมไปตัดผม เป็นร้านตัดผมที่แบบว่าพอเข้าไปก็ต้องสระก่อนแล้วจะทำอะไรค่อยมาว่ากันทีหลัง ไม่ว่าจะสระไดร์อย่างเดียว สระ-ซอย อบไอน้ำ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งส่วนใหญ่ช่างตัดผมจะเป็นผู้หญิงซะส่วนใหญ่ ผมเข้าไปก็จะถูกถามว่ามาทำอะไร ผมจะมาตัดผมก็ต้องบอกว่าสระ-ซอย ถ้าเกิดบอกว่าตัดผมอาจจะไม่มีใครเข้าใจหรือถูกมองว่าเชยได้ หลังจากนั้นผมก็จะถูกผ่านการสระผม ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเอาน้ำยาบ้าบออะไรมาใส่ให้ผมของผมตั้งกี่รอบจริงๆผมก็อยากจะบอกน่ะครับว่าไม่ต้องยืดเยื้อนักหรอกครับรีบๆเหอะจะตัดก็ตัดซะทีแต่ก็ต้องทนยอมให้ใครที่ไหนไม่รู้มายีๆเกาๆหัวอยู่นานด้วยกลัวจะถูกมองว่าขวางโลก

เสร็จก็มานั่งรอหัวเปียกๆเตรียมตัวจะตัดก็จะถูกถามอีกว่ามีช่างประจำรึปล่าว ไอ้ตรงนี้ผมก็มาคิดดูแล้วมันเป็นเรื่องที่ไร้สาระจริงๆ เพราะผมเคยมีช่วงที่ตัดผมอยู่แล้วมีช่างประจำแต่ก็ไม่เคยรู้สึกเลยว่าไอ้ช่างประจำของผมเนี่ยมันจะตัดผมของผมได้เหมือนกันทุกครั้งอย่างที่ผมต้องการเลยซักครั้ง แล้วจะมีช่างประจำตัวไปทำไมฟ่ะ ถามจริงเหอะ ไอ้คุณช่างประจำเนี้ยมันจำผมได้รึเปล่าเถอะ ว่าแล้วผมก็ไม่เคยมีช่างประจำอีก จะตัดก็ตัดไปเหอะ

ไอ้ผมตอนนี้ไม่ค่อยจะซีเรียสกับทรงผมเท่าไรเพราะเริ่มคิดได้ตั้งแต่เมื่อไรจำไม่ได้ว่า เดี๋ยวมันก็ยาวแล้ว และยิ่งโตขึ้นก็ดูเหมือนยิ่งมีเรื่องมีราวบ้าบอห่าเหวอะไรไม่รู้ให้คิดอีกมากเกินกว่าจะมาคิดถึงไอ้เส้นดำๆบนหัวที่งอกเอางอกเอาไม่รู้จักเบื่อ

แล้วก็จะถูกถามว่าจะเอาทรงไหน หรือ เอาหนังสือเลือกแบบทรงผมมาให้ดูนี่ไปไกลๆเลย ผมก็ได้แต่บอกว่า

“เอาทรงเดิมครับแต่สั้นลงซักหน่อย”

และที่เหลือผมก็จะนั่งนิ่งๆให้พระคุณเจ้ามาตัด(หรือซอย)ไปเรื่อยๆไม่ได้มีการมาคอยสังเกตคอยกำกับว่าตรงนี้ยาวหน่อย ตรงนี้สั้นไป ตรงนี้สไลด์ หรืออะไรก็แล้วแต่ คือขี้เกียจจะคิดมากแล้วครับ เอ็งจะตัดก็ตัดไปเหอะยังไงก็ได้ให้มันเสร็จๆไปก็พอ

แล้วผมก็มานั่งคิดว่าเอ๋…นี่กูเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกันว่ะ


มาคิดย้อนกลับไปถึงอดีตตั้งแต่จำความได้ก็ตอนประถมตอนปลายๆนู้นแหนะ ไอ้เรื่องทรงผมนี่โครตจะเป็นปัญญากับชีวิตเลยตอนนั้นมันแบบว่าเป็นทรงเกรียนๆหรือที่เรียกว่าทรงนักเรียนน่ะแหละ ถ้าจะตัดก็ต้องไปร้านบาร์เบอร์หรือตัดผมชายซึ่งจะมีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับร้านที่ผมไปตัดสมัยนี้คือ ช่างตัดผมจะเป็นผู้ชายซะส่วนใหญ่ นานๆจะเห็นมีผู้หญิงซักคน และอาวุธประจำกายช่าง หลักๆจะเป็นปัตตาเลี่ยน คือจะซอกไหนมุมไหน ต้องล้วงต้องแหยมุมไหน ตัดยากเพียงไรพี่แกก็จะเอาปัตตาเลียนเข้าไปตัดได้เสมอ

เข้าเรื่อง ในตอนนี้ผมรู้สึกว่าไปตัดผมบ่อยมากเรียกได้ว่าหัวเขียวเมื่อไรไปตัดเมื่อนั้น (ก็เป็นกฎของโรงเรียนนี่หว่า ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันทำให้เด็กฉลาดขึ้นยังไงไอ้การที่นักเรียนต้องหัวเกรียนๆนี่) ไปตัดผมแต่ละครั้งไอ้คุณช่างก็ไม่มีทีท่าว่าจะถามหรอกครับว่าทรงอะไร มาถึงนั่งประจำที่ พี่แกก็ใส่เลยโดยหัวผู้ตัดจะบอกเองมันต้องการทรงอะไร ผมก็ไม่รู้จะไปบอกพี่แกยังไง ก็ยังเด็กนิหว่าไม่ค่อยกล้าก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย เสร็จก็ต้องมาเซ็งกับหัวเหม่งๆของตัวเอง ที่ว่าทรงผมมันเป็นปัญหาก็ไม่ใช่เพราะอยากจะหล่อจะเท่อะไรหรอกครับเหตุผมหลักๆก็กลัวเพื่อนมันจะล้อเอา วันรุ่งขึ้นหลังตัดผมเป็นวันที่ทรมานที่สุดเพราะช่างแกเหลือส่วนเส้นผมที่เห็นว่าเป็นดำๆไว้กระจุกนึงบนหัว สงสัยช่างแกจะไม่เคยเรียนวิชาศิลปะ แม่งไม่ได้มีการไล่สีเลย นึกจะขาวก็ขาว จะดำก็ดำ อายเพื่อนชิทหายเลย

ประถมปลายผ่านพ้นไป เข้าสู่มัธยมต้น

ช่วงนี้เริ่มจะโตขึ้นมาอีกหน่อยแต่บรรดากฎเกณท์ของโรงเรียนก็ยังคงเกรียนเหมือนเดิม แต่เด็กมันโตขึ้น มันเริ่มทีจะมีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มรู้จักอยากหล่อเพื่อโชว์สาวๆบ้าง มันก็ต้องมีแหกกฎเป็นธรรมดา ไหนจะทรงอเมริกัน ไหนจะรองหวี ไหนจะรองทรงสูงก็เริ่มเข้ามาในชีวิตของผม ก็แหมผมเห็นเพื่อนๆมันตัดแล้วก็อยากจะทำบ้าง ใครจะอยากหัวเกรียนทรงนักเรียนไปชั่วชีวิตล่ะ ไอ้พวกมาตรการฝ่ายปกครองทั้งหลายก็ต้องทำงานกันหนักมากขึ้น มีการตรวจตราลงโทษกับพวกผมยาวกันหลายรูปแบบต่างๆนาๆ ที่ผมจำได้แม่นที่สุดก็ดูเหมือนการที่เอาพวกนักเรียนที่ผมยาวมากร้อนด้วยกรรไกรให้เป็นรอยแหวงๆเป็นแถบๆและไอ้พวกนั้นก็จะต้องไปแก้มาเป็นทรงนักเรียนอย่างจำยอม แต่ใครจะรู้ล่ะครับว่าตอนนี้แหละไอ้ทรงผมที่มีรอยแหวงๆเป็นแถบๆนี่จะกลับมาฮิตระเบิดในในหมู่เด็กแนวยุคนี้ ต้นกำเนิดมันเป็นแบบนี้นี่เอง

ยังไงก็แล้วแต่ผมช่วงนี้เวลาถึงเวลาตัดผมก็เริ่มจะต้องมีปากเสียงกับช่างแกหน่อยแล้วว่าตรงนี้เอาออกไม่ต้องเยอะ ไว้ข้างหน้ายาวๆ กันจอนด้วย หรืออะไรก็ว่ากันไป แต่ตัดเสร็จออกมาแต่ละครั้งมันก็ไม่เห็นจะดูดีเหมือนที่ผมมองเพื่อนๆมันตัดมาเลย ยังไงมันก็ต้องเด๋ออยู่ทุกครั้งไป

พ่อผมพร่ำบอกเสมอว่าอย่าคิดอะไรมากเดี๋ยวมันก็ยาว ตอนนั้นผมไม่เคยคิดจะเชื่อพ่อผมเลย

แล้วตอนช่วงม.3 ผมก็ค้นพบผมทรงใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนรู้แบบหรือกรอบเดิมๆของการตัดผมไปเรียนอย่าสิ้นเชิง ผมทรงที่ว่าก็คือ สกินเฮด ทรงนี้ถูกใจผมมากคงเป็นเพราะมันเป็นทรงที่มีรูปแบบที่ตายตัวไม่ต้องกังวลว่ามันจะไถให้สูงไปหรือต่ำไป แถมข้างหลังยังไม่ต้องเกรียนอีกด้วย แต่จะดีหรือไม่ก็ไม่ใช่ว่าจะตัดกันง่ายๆเหมือนกัน แต่ก็ด้วยคำสั่งจากลูกค้านี่หว่า ลุงช่างตัดผมก็เลยต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่ว่ามาถึงนั่งใส่เลยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ต้องฟังคำสั่งคนตัดด้วย และก็ด้วยที่ว่าตอนนั้นผมดันเป็นนักบาสโรงเรียนฉะนั้นไม่มีทรงผมไหนเหมาะกับกีฬาบาสได้เท่านี้อีกแล้ว ตลอดเกือบจะช่วงม.3 ผมก็ตัด สกินเฮด มาตลอด ถามจริงเถอะครับฝ่ายปกครอง ผิดระเบียบตรงไหนมิทราบครับ ฮา ฮา จะกระทั่งเดี๋ยวนี้ผมมองเด็กม.ต้นม.ปลายมันตัดสินเฮดกันผมยังรู้สึกเลยว่าสำหรับนักเรียนรุ่นนี้แล้วไม่มีทรงไหนเหมาะไปกว่านี้อีกแล้ว

แล้วก็ถึงเวลาผลัดเจเนอเรชั่นอีกครั้ง ก้าวเข้าสู่มัธยมปลาย กลายเป็นเด็กกรุงเทพเต็มตัว รู้สึกว่าจะอนุญาติให้ไว้รองทรงสูงได้ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอยู่ดีนั่นก็คือ สูงแค่ไหนล่ะถึงจะถูกระเบียบ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ไม่ว่าจะฝืนกฎไว้ผมให้ยาวได้แค่ไหนก็ต้องมาโดนจำกัดด้วยการเรียนวิชาทหารหรือที่เรียกง่ายๆว่า รด.นั้นเอง แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ถึงขนาดเกรียนเหมือนทรงนักเรียนซักเท่าไร ข้างบนยาวได้นิดหน่อยแต่ข้างหลังก็ยังต้องเป็นรองทรงโครตสูง แต่ก็อย่างที่ว่าแม้ว่าคุณทหารจุดุโหดเหี้ยมซักแค่ไหนไอ้นักเรียนตัวดีมันก็ต้องกล้าท้าทายได้เหมือนกัน (เค้าเรียกยิ่งโตก็ยิ่งมีหัวคิด) ผมไม่เคยกลัวเลยครับไปเรียนรด. วันไหนรู้ว่าจะตรวจผมแค่ตัดรองหวีๆไม่ให้เกรียนสูงมากให้มันก้ำกึงๆแล้วก็ต้องไปรอเช็คผมลุ้นกันขึ้นกับว่าจ่าที่ตรวจผมจะใจดีรึเปล่า ถ้าใจดีรอดตัวก็อยู่ได้อีกไม่นานก็ต้องตัดอีก แต่ถ้าโดนเช็ดว่าผิดเท่านั้นแหละครับนรกชัดๆ ก็ที่เรียนรด.จะต้องมีร้านตัดผมอยู่เสมอๆแถมร้านนี้ยังตัดได้เร็วฉิบเป๋งเลย ยังไม่ต้องสั่งเลยว่าทรงอะไรก็ตัดเสร็จแล้ว เหมือนถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้เลยว่าต้องตัดยังไง เก่งจริงๆ

ช่วงม.5 มีนักร้องรูปหล่อชื่อดังคนหนึ่งทรงผมพี่แกไม่จำเป็นต้องยาวเหมือนคนอื่นๆแต่แกก็เท่เกินกว่าใครด้วยทรงสั้นๆแข็งๆที่ตั้งชี้โดชี้เด่ไปคนละทิศทางบนหัว เท่านั้นแหละไม่ต้องรอให้นาน แฟชั้นผมตั้งใส่เจลมันแผลบแข็งโปกก็ลุกลามเข้ามาในโรงเรียนอย่างรวดเร็ว ผมไม่ต้องยาวมากแต่ตั้งชี่ๆไว้ก่อนเป็นใช้ได้ ไอ้ผมก็ไม่ต้องพูดถึงครับตามๆเค้าไปทั้งนั้นแหละเดี๋ยวจะล่าสมัย ลงทุนซื้อแว๊กซื้อเยลมาไม่รู้ตั้งเท่าไร แต่แล้วไอ้ฝ่ายปกครองก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรทำ ก็ที่ว่าผมมันสั้นอยู่แล้วไม่ผิดระเบียบ ทางฝ่ายปกครองคงกลัวว่าจะตกงานก็เลยมาลงกับนักเรียนที่กำลังกินหน้าเกินตาชี้โด่ชี้เด่ โดยการออกกฎห้ามใส่เยล ก็คือถ้าเห็นนักเรียนตั้งๆเมื่อไรก็จับให้ล้างหัวทันที ไอ้พวกผมก็เลยต้องปรับตัวให้ทันมีเยลพกติดตัวไว้ แบบว่าเอ็งจับข้าล้างก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวใส่ใหม่ก็ได้ (ก็เด็กมันโตขึ้นมันก็ฉลาดขึ้นอีกมั้ยล่ะ)

ถัดมาอีกเป็นช่วงม.6 จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นให้ผมได้รู้จักคำว่า รากไทร แต่ก่อนทรงผมปกติข้างหลังจะต้องสั้นรองทรงสูง ใครจะไว้ผมให้ยาวต้องไว้ข้างหน้าข้างบนให้ยาวเข้าไว้ ยิ่งข้างหน้ายาวถึงปลายจมูก ข้างบนยาวปิดหูได้นี่ถือว่าไอ้นี่ไม่ธรรมดา แต่ถึงตอนนี้แล้วแบบนี้ถือว่าอ่อน สมัยนี้มันต้องเน้นข้างหลังยาวๆเข้าไว้ ส่วนข้างหน้าข้างบนจะสั้นยังไงกูไม่สนขอแค่ข้างหลังมีรากไทรเอาไว้อวดเพื่อนก็เป็นอันว่ากูเท่ กูคูล มันตรงข้ามกับเมื่อก่อนแบบหน้ามือหลังตีน แต่อย่างไรก็ตามฝ่ายปกครองของเราก็ยังมีงานต้องทำไม่หยุดหย่อน ไม่เคยตกงานเพราะเด็กอย่างเรา แต่คนที่ดูจะเงียบเหงาไปจากชีวิตผมก็ดูเหมือนจะเป็นร้านบาร์เบอร์ที่ตัดประจำ ซึ่งผมก็แทบจะไม่ได้เหยียบย่างเข้าอีกเลย มัวแต่ไปยอมเสียเงินที่มากกว่าเพื่อตัดผมที่น้อยกว่า เข้าร้านบิวตี้ซาลอนจนถึงปัจจุบัน ทีนี้ไม่รู้แล้วว่ายิ่งโตยิ่งฉลาดขึ้นหรือยิ่งโง่ลง

ขึ้นมหาลัยได้ก็เริ่มจะฟรีสไตล์ซะที รด.ก็จบแล้วใครมันจะมาบังคับได้ก็เลยไว้ผมยาวเต็มที่มันซะเลย แต่ชีวิตมันก็ไม่ได้ง่ายซะขนาดนั้น ถึงแม้จะไว้ยาวก็ใช่ว่าจะไม่ต้องตัดเลย คืออย่างน้อยมันก็ต้องไปซอยๆออกบ้างเข้าร้านตัดผมอยู่เป็นระยะเหมือนกันให้มันเข้ารูปเข้ารอย แต่พอไว้ยาวถึงจุดนึงผมก็เริ่มที่จะมามองตัวเองอีกครั้งนึงว่าจริงๆแล้วตัวเองเหมาะกับผมยาวๆแบบนี้แล้วหรือวะ สักแต่ว่าพอมีอิสระที่จะไว้ได้ก็ไว้ยาวเต็มที่โดยที่ไม่ได้ดูสังขาลตัวเอง ก็พบว่าก็จริงว่ะ ไม่เห็นต้องยาวซะขนาดนั้นเลยก็เลยก็เลยหมดยุคบ้าผมยาวไป

มาถึงช่วงกระแสหนุ่มๆญี่ปุ่น เกาหลี มันกำลังดูหล่อด้วยทรงผมที่หาได้ง่ายๆตามหนังสือทรงผมตามร้านตัดผมแถวๆสยาม เวลาไปตัดทีไรช่างแกก็จะเอามาให้ดูแล้วผมก็จะเลือกทรงที่ชอบ (แต่ไม่ได้ตระหนักถึงหน้าตาตัวเอง) แล้วก็บอกช่างตัดผมว่าเอาทรงนี้เลือกได้เลย แต่ก็อย่างที่เราๆท่านๆรู้ว่าช่างตัดผมมันรู้และรับปากน่ะแหละว่าเราจะเอาทรงอะไรแต่พอตอนตัดจริงๆ แม่งไม่เห็นจะมาดูรูปแล้วตัดตามรูปที่เราได้เลือกเอาไว้ซักที เห็นมันพยักหน้าแล้วก็ตัดของมันไปเรื่อยจนตัดเสร็จ มีการมาถามผมอีกว่าพอใจมั้ย ? ผมก็จะสบทในใจอย่างจำยอมว่า ห่า...ถ้ากูไม่พอใจมึงจะทำให้ผมกูยาวขึ้นได้มั้ยล่ะ

และผมก็ไม่เคยเชื่อในการไปเลือกทรงผมแล้วตัดอีกเลย

ไม่นานเกินคอยใกล้จะจบเตรียมตัวรับปริญญาก็เริ่มไม่ค่อยจะคิดอะไรมากกับทรงผมแล้วไหนๆเดี๋ยวก็ต้องออกหางานทำก็เลยเน้นตัดให้มันดูเรียบร้อยๆเข้าไว้ไม่ยาวเกินไม่สั้นเกิน ไม่ให้เด๋อเกินไป แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่หวือหว่า ไม่ต้องแหวกแนว ดูกลางๆไม่หนักหัว พ่อแม่ก็ไม่ว่า แฟนก็พอใจ แต่ก็ยังคงบ้าร้านตัดผมแถวๆสยามที่ราคาแพงๆอยู่คือยังโง่อยู่ว่าร้านตัดผมยิ่งแพงจะยิ่งตัดดี

มาถึงช่วงนี้หายบ้าแล้ว ก็เลยตัดแถวๆบ้านก็ได้ไม่ต้องถ่อเสียค่ารถเพื่อไปตัดไกลถึงสยามราคาก็ไม่เวอร์มาก แถมใกล้บ้านอีกต่างหาก

และที่สำคัญเดี๋ยวมันก็ยาว...คำพูดที่พ่อผมพร่ำบอกเสมอก็ได้ย้อนเข้ามาในหัวอีกครั้ง คราวนี้ผมเชื่อ


กลับมาในร้านตัดผม

เมื่อช่างตัดให้ผมเสร็จก็ล้างผมออกแล้วก็ให้พนักงานลูกน้องมาจัดการเตรียมอุปกรณ์ไดร์เป่าผมเตรียมตัวเข้าสู่ขั้นตอนไดร์ผม พอดีกับที่ผมดูนาฬิกาว่าเวลาได้ล่วงเลยมาเพียงพอแล้วสำหรับแค่มาตัดผมครั้งนึง ผมเลยบอกพนักงานไดร์ผมว่า

“เป่าให้แห้งเฉยๆก็พอแล้วครับ”

ไดร์เสร็จช่างตัดผมก็เตรียมตัวมาเช็คอีกครั้งแล้วก็ถามผมว่าโอเคมั้ย? ไอ้ผมก็ยิ้มแห้งๆแล้วตอบว่า

“โอเคครับและก็ไม่ใส่เยลหรือแว๊กนะครับ”

การตัดผมของผมก็สิ้นสุดลงที่การจ่ายเงิน ณ ตอนนี้เอง แล้วผมก็ปั่นจักรยานกลับบ้าน




 

Create Date : 09 พฤษภาคม 2549
1 comments
Last Update : 9 พฤษภาคม 2549 13:24:24 น.
Counter : 1237 Pageviews.

 

เมื่อก่อนก็เคยตัดผมกะผู้หญิงเหมือนกัน
แต่เวลาโกนหนวดทีไรพี่แกชอบทำให้เสียวทุกที

ลองนึกภาพดูนะ เรากำลังเอนนอนอยู่ โดยที่มีเจ๊หน้าอกดินระเบิดเอาแขนสองแขนคร่อมที่ตัวเรา และหน้าอกนุ่มๆของเจ๊นี่ติดกะหน้าอกเราเลย
แถมโกนๆอยู่ เด๊ยวเจ๊แกก็ค่อยๆลูบไล้ไปมา บางทีก็เป่าเศษผมที่ติดอยู่บ้าง

ซึ่งร้านผู้ชายอ่ะ เค้าจะใช้แต่แปรงปัด แล้วก็ไม่ลูบไล้ด้วย

โอ๊ย นึกถึงทีไรเสียวทุกที จริงๆก็ชอบนะ แต่มันเสียเซ้วไปเลยอ่ะ เด๊ยวนี้เลยเข้าแต่ร้านผู้ชาย พร้อมกับอาการสั่นเทาทุกครั้งที่ตัดผม

น่าเวทนาตัวเองจริงๆ

 

โดย: highfly (highfly ) 26 พฤษภาคม 2549 15:31:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


kimprite
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Everyone should have a reason to believe.So I still believe that LIGHTNING could STRIKES TWICE for me Yeah Yeah Yeah !!

LIGHTNING STRIKES TWICE
Saint Etienne
Friends' blogs
[Add kimprite's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.