we only have 86400 second a day..then make it's count!!
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
23 เมษายน 2552

ประดังประเด..

หวัดดีทุกคนคับบบบบบ

ช่วงนี้ชีวิตผมหลายสิ่งมากๆๆเลย
เริ่มตั้งแต่ต้นเดือน...เงินเดือนออกมาก็ต้องจ่ายค่าตั๋วเมื่อตอนไปญี่ปุ่นนู่นนน
ไหนจะค่ารองเท้าที่เยินซะจนใส่ต่อไปไม่ไหว..
ถัดมาเป็นค่าหอพักที่เช่าอยู่อีก....แล้วก็เจียดเงินไปฝากเก็บไว้อีก
แล้วยังคิดจะไปเที่ยวต่างประเทศอีกนะดูมัน!!....พระเจ้าคงจะเห็นว่าผมเริ่มจะเยอะไปแล้วมั้ง
เลยดลบันดาลให้ช่วงที่ผมพักร้อน ไฟลท์เต็มแน่นทุกวันขึ้นมาซะงั้น...อือ ก็ดี จากเกาหลีไปหัวหินก็ได้วะ

..นิสัยเสียอย่างนึงของผมคือ เวลามีเงินเยอะๆแล้วจะเก็บไม่ค่อยอยู่ และจะมือเติบมากๆๆๆคือจะโล่งใจว่า เออซื้อๆกินๆไปเหอะ ยังเหลืออีกเยอะๆๆ
พอผ่านไปสัก10วัน.....เฮ้ยยย เงินกุหายไปไหนหมดเนี่ยยยย
ทุกๆเดือนพอเงินเดือนออกมา ผมจะใช้หมดไปประมาณวันที่12-13ของทุกเดือนเลยอ่ะ คิดแล้วก็ งง ตัวเอง
ส่วนชีวิตหลังจากนั้นก็คือรอค่าเดินทางออกมา แล้วเอาเงินส่วนนั้นมาใช้
(บริษัทที่ผมทำจะแยกค่าเดินทางออกมาต่างหาก..ไม่รวมเข้าไปในเงินเดือนคับ)

...คิดไปคิดมาก็ตลกนะ ต้นเดือนแรกๆประมาณ10กว่าวัน...มีอยู่เป็นหมื่นก็ใช้หมด แถมไม่พอ
แต่พออีก10-20วันที่เหลือ..มีแค่3พันก็สามารถอยู่ได้ 55+...ประหลาดแท้

...เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา...ผมกำลังเข้างานอยู่ตอนประมาณ2ทุ่ม..เพื่อนชื่อโกโทรมาหาผม คุยเรื่อยเปื่อย จิปาถะ
...สักพักโกบอกว่า..เพื่อน(บุรุษที่3)ตายแล้วนะ
ผมก็แบบ...ฮะ!!อะไรนะ!!..อีกทีๆๆๆ....
โกก็บอกมาเหมือนเดิมๆๆๆ...ผมก็ถามย้ำๆๆๆอยู่นั่นหละ...จนแน่ใจว่าหูไม่ฝาด และมันไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่น
ผมนิ่งไปสักแป๊ปนึงเหมือนกัน...ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนคนนี้ต้องคิดสั้นแบบนี้

ผมไม่ได้สนิทอะไรมากกับเพื่อนคนนี้ เรียกว่าเจอกันปีละ2ครั้งได้เองมั้ง...แต่เพื่อนคนนี้นิสัยดี ไม่เคยทำไม่ดีกับผม เป็นคนพูดจาดี ตลกสนุกสนาน...ผมนึกไม่ออกจริงๆๆว่าอะไรทำให้เขาตัดสินใจทำอย่างนั้น
....มารู้ทีหลังว่าเขากินเหล้า...แล้วทะเลาะกับที่บ้าน...แล้วก็น้อยใจตัว....อืมมม

ผมคุยกับโกว่าเขาไม่น่าคิดสั้นอะไรอย่างนี้เลย...ไม่เข้าใจมันจริงๆ...
โกบอกกับผมว่าคนเมาอ่ะ..อะไรก็เกิดขึ้นได้...ที่ว่าเมาแล้วขาดสติเนี่ยคงรวมไปถึงเรื่องนี้ด้วยหละมั้ง...ขาดสติจริงๆเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ

ผมเข้างานอีกวัน....พี่ที่ออฟฟิศกระซิบบอกผมว่าบริษัทจะลดเงินเดือน(อีก)..
ผมถอนหายใจ...อีกแล้วหรอวะ...คราวก่อนก็เพิ่งลดไป...ยังจะลดต่อเนื่องอีก ผมกะไว้ว่าคงลดสัก500หละมั้ง
...อืม....ถ้าลดสัก500รวมคราวก่อนก็เกือบพันและ เยอะเหมือนกันนะนี่เอาเงินกุไปนี่..ผมคิดในใจ

วันรุ่งขึ้นตื่นมา...เพื่อนที่ออฟฟิศโทรมาบอก....เขาจะลดเงินเดือน25%....อะไรนะ25หรือ5 ??...ผมทวนถาม
25%...อีกทีชัดๆ พร้อมเสียงหัวเราะแห้งๆของเพื่อน...

อืมมมมมม 1ใน4กุเลยนะเนี่ย25เปอร์เซ็นต์....ตอนนี้ทางหัวหน้าของผมก็เข้าไปประชุมกับบริษัทอยู่คับ ดูว่าจะเอายังไงกันต่อไป

หลายๆๆคนเริ่มพูดกันถึงการเปลี่ยนงานในสภาวะแบบนี้....ดีอย่างนึงที่ออฟฟิศเราสนิทกันมากก ทุกคนส่วนมากมองโลกในแง่ดีและมีความเห็นค่อนข้างตรงกันหลายๆเรื่อง...เวลามีปัญหาอย่างวน้อยเราก็รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนข้างๆนะ...
เกือบทุกคนบอกว่าสิ่งเดียวที่ดึงให้ทำงานอยู่ที่นี่ก็คือสังคมทำงานในนี้แหละ...ซึ่งผมเห็นด้วยจริงๆ

....ผมหวังว่าสิ้นเดือนนี้คงไม่มีอะไรประดังเข้ามาไปมากกว่านี้แล้วมั้ง
....เดือนหน้าก็จะพักร้อนและ
....ขอพักหัวจากการคิด พักหูจากการฟังเสียงบ่นๆด่าๆ พักปากจากการอธิบายเรื่องนู่นนี่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พักร่างกายที่ต้องแบกรับความผิดชอบต่างๆนานาที่เราไม่ได้ก่อ...

ดีจังที่มีบล็อกแกงค์....เป็นทุกอย่าง...เป็นถังขยะ กระดาน ห้องสมุด และสังคม

หวัดดีคับ




Create Date : 23 เมษายน 2552
Last Update : 23 เมษายน 2552 11:25:30 น. 5 comments
Counter : 1063 Pageviews.  

 
เอาเป็นว่า...

ขอให้เงินเดือนพอใช้ พอเก็บ ทุกๆ เดือนนะครับ

เสียใจด้วยเรื่องเพื่อน
เห็นได้ชัดเลยว่าสติสำคัญกว่าสตังค์ เพราะฉะนั้นรักษาไว้ด้วยนะครับ



โดย: badinblood วันที่: 23 เมษายน 2552 เวลา:21:53:12 น.  

 
+ พี่ขอเสนอแนะว่าคุณน้องป่อยยย สมควรจัดระเบียบการเงินของตัวเองใหม่ (อย่างแรง) อ่ะครับ อะไรที่คิดว่าไม่จำเป็น ให้ทำการคิดซักหลายๆ ตลบก่อนค่อยตัดสินใจจ่าย มะงั้นชีวิตนี้ก็จะไม่มีเงินเก็บซักที หรือไม่อีกทีก็อาจใช้มุก หัก 25% (ยกตัวอย่าง) ทุกเดือน เอาไปยัดไว้อีก บช. แล้วแข็งใจไม่ใช้ ไม่ถอนจาก บช. นั้น พอนานๆ ไป มันก็น่าจะเป็นเงินก้อนได้อ่ะครับ

+ เรื่องเพื่อน ... ช่างน่าเศร้าจริงๆ อายุยังน้อย ยังผ่านโลกมาไม่กี่ฝนเอง ... เคยอ่านมาเค้าบอกว่าคนที่ (มีแนวโน้มจะ) ฆ่าตัวตาย มักมีอาการของโรคซึมเศร้าอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่คนใกล้ชิดใครจะสังเกตเห็นรึเปล่าอ่ะครับ

+ ของพี่ ช่วงนี้ที่บริษัทก็กำลังตุปัดตุเป๋เหมือนกัน รอบที่แล้ว (ปี 40) โดนลดเงินเดือนไป 1 ปี แล้วแช่แข็งอีก 1 ปี (สรุปเหมือนหายไป 3 ปี) ... ส่วนรอบนี้ ยังไม่ลด แต่เลย์ (แบบสมัครใจ + ชี้นิ้วจิ้ม) ออฟไปแล้วหลายเปอร์เซ็นต์ อ่ะครับ กำลังหนาวๆ ร้อนๆ เก้าอี้ขาสั่นๆ อยู่เนี่ย

+ แต่ก็เอาน่ะ วิกฤติ ทำให้คนเราแกร่งขึ้นเสมอ ถ้าเราผ่านมันไปได้ สู้ๆ นะครับผม


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:0:26:38 น.  

 
คับกายอยู่ง่าย คับใจอยู่ยาก

สังคมทำงานมีความสุข หาได้ไม่ง่ายน่ะครับในยุคนี้

ว่าแต่เมื่ออาทืตย์ก่อนผมเดินทางไปด้วย สายการบินไทย
แปลกใจว่าทำไม แอร์ไทยแสนสวยของผม จึงทั้ง แก่ ทั้งอ้วนดำ เครียดจังครับ
(เห็นพี่ไกด์บอกว่า อยู่มานานเลยได้บินไฟล์ตไกลๆ ไม่ยอมเปลี่ยน ไม่ยอมลง )

จริงหรือนี่


โดย: เด็กผู้ชายที่ไม่เตะบอลตอนกลางวัน (kanapo ) วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:0:36:17 น.  

 
เศรษฐกิจแบบนี้ ต้องเตรียมรัดเข็มขัดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆครับ ไม่รู้ว่าจะยวบไปอีกนานแค่ไหน


ว่าแต่ว่า....


ว่าใครเป็นลุงฟระ


โดย: pilok วันที่: 28 เมษายน 2552 เวลา:1:16:18 น.  

 
สู้ๆ


โดย: สันดานเสีย วันที่: 7 พฤษภาคม 2552 เวลา:0:56:12 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

P_Poy
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




I wish nothing but the best to you..
[Add P_Poy's blog to your web]