Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
หมายเหตุ : คุยกันก่อน
[ฟัง-คิด-ถาม-เขียน]
อ่านมา แล้ว ตัดแปะ
พูดถึงหนังสือที่อ่าน
ดูหนัง แล้ว เล่าใหม่
เล่าเรื่องตลกขำขำ
ทำนองดนตรี กับ จังหวะชีวิต
ภาพ-เล่า-เรื่อง
The Plin, :-p Theater
เรื่อย ๆ เปื่อย ๆ
-{ ส า ร บั ญ }-
<<
กุมภาพันธ์ 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
26 กุมภาพันธ์ 2551
เวียดนาม (16) : ฮอยอัน (Hội An)
All Blogs
เสียงไก่ขันยามเช้า
เดินเล่น ชมเมือง ภูเก็ต
ซ้อนท้าย จักรยานยนต์
พระพุทธบารมีสยามบุรีพิทักษ์
ผานางคอย (ผาพระ) วัดเขาศาลา จังหวัดสุรินทร์
รอยพระพุทธบาท ที่ วัดเขาศาลาฯ อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์
แมววัด
เวียดนาม (20) : โฮจิมินห์ซิตี้วันสุดท้าย
เวียดนาม (19) : อุโมงค์กู๋จี (Địa đạo Củ Chi)
เวียดนาม (18) : War Remnants Museum - โฮจิมินห์ซิตี้
เวียดนาม (17) : พิพิธภัณฑ์ประติมากรรมจาม เมืองดานัง
เวียดนาม (16) : ฮอยอัน (Hội An)
เวียดนาม (15) : สุสานจักรพรรดิไคดิงห์ (Khải Định)
เวียดนาม (14) : พระราชวังต้องห้าม
พระเจดีย์มุตาว
เวียดนาม (13) : เจดีย์เทียนมู และ รถ Austin คันนั้น
เวียดนาม (12) : แม่น้ำหอม
เวียดนาม (11) : หุ่นกระบอกน้ำ
เวียดนาม (10) : สะพานเทฮุก วัดหง๊อกเซิน และ ทะเลสาบคืนดาบ
เวียดนาม (9) : พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ที่ฮานอย
เวียดนาม (8) : Chua Mot Cot - เจดีย์เสาเดี่ยว
เวียดนาม (7) : สุสานโฮจิมินห์ และ ทำเนียบประธานาธิบดี
เวียดนาม (6) : Văn Miếu - วัดในศาสนาขงจื้อ และ Quốc Tử Giám - มหาวิทยาลัยโบราณ
เวียดนาม (5) : The Kissing Cocks Island(s) ในอ่าวฮาลอง
เวียดนาม (4) : Thiên Cung Grotto - ถ้ำพระราชวังสวรรค์
พรุ่งนี้หวยออก วันนี้เลยมาใบ้หวย
เวียดนาม (3) : ล่องเรือที่อ่าวฮาลอง
เวียดนาม (2) : ระหว่างทางไปอ่าวฮาลอง
เวียดนาม (1) : รอ "เธอ" ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เททองหล่อพระ
รูปถ่ายเผยโฉม
เซ็งโว้ยยย.. ก็เลย.. หาอะไรทำแก้เซ็ง
[สุญญตา คือ ความว่าง] - [ตถตา คือ เช่นนั้นเอง]
หกผีอัปรีย์
"เจ้าผึ้งน้อย" กับ "ดอกตะขบ" (VDO พร้อมเรื่องประกอบ)
คำถามช่วยชีวิต
Diary ของ "น้องปั๋ม" I'm a Happy Pug. ค่ะ
อย่า แอบ มอง หนู -- อย่า ดู สิ คุณ
เสาอินทขีล : เสาแห่งปฏิญญาฟ้าเวียงพิงค์ : ความนัยของความร่มเย็น
ต้นยางใหญ่
กระจก ฉัน แมลง
Carica papaya
บริจาค
Artocarpus heterophyllus
อนาคตประเทศไทย
เทวดา นางฟ้า
ดอกไม้ริมทาง
ขอฃวดหน่อยคร๊าบ
ขอ "น้องปั๋ม" อ่านหนังสือบ้างสิคะ
เล่นซ่อนแอบ
แจกัน กับ วันเหงา ๆ
มองหน้าหาเรื่อง (เหรอไงวะ?)
หน้าบ้าน
เมฆดำ
"ควาย" เพื่อนบ้าน
หมดไปอีกวัน
พระอาทิตย์ และ พระจันทร์ (วันแรม 1 ค่ำ)
"มด" ที่ป้ายรถ
ศรีลังกา (14) : แล้วเราก็กลับมาโคลอมโบอีกครั้ง (เพื่อกลับประเทศไทย)
ศรีลังกา (13) : วัตดูวา
ศรีลังกา (12) : วันนี้วันพระ
ศรีลังกา (11) : The Bridge on the River Kwai !!
ศรีลังกา (10) : Nuwara Eliya และ Ceylon Tea
ศรีลังกา (9) : สวนพฤกษชาติ (Royal Botanical Garden, Peradeniya)
ศรีลังกา (8) : นมัสการพระเขี้ยวแก้ว
ศรีลังกา (7) : สีคิริยา เมืองปราการลอยฟ้า
ศรีลังกา (6) : ดัมบุลลา วัดถ้ำบนภูเขา
ศรีลังกา (5) : "ป่าต้นบุนนาค" "Pink Quartz Mountain" และ พระภิกษุนักอนุรักษ์
ศรีลังกา (4) : อนุราธปุระ นครหลวงแห่งแรกของศรีลังกา
ศรีลังกา (3) : ระหว่างทางไป อนุราธปุระ
ศรีลังกา (2) : เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเราก็ไปถวายพระพุทธรูปกัน
ศรีลังกา (1) : แล้วเราก็ไปกรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา
เวียดนาม (16) : ฮอยอัน (Hội An)
[ภาพ-เล่า-เรื่อง]
[อ่าน ท่องเที่ยว เวียดนาม ตอนอื่น ๆ]
<<
ตอนที่แล้ว
ตอนต่อไป
>>
(ตราสัญลักษณ์เมือง
ฮอยอัน
)
พวกเราออกจากเมืองเว้ แล้วมุ่งลงทางใต้ ผ่านเมืองดานังไปจนเข้าสู่เขตจังหวัดกว๋างนาม (Quảng Nam)
เป้าหมายต่อไปของเราก็คือเมืองฮอยอัน
(Hội An)
ชื่อ
ฮอยอัน
นี้ ตามสำเนียงภาษาเวียดนามจริง ๆ จะออกเสียงว่า
หอยอัน
สงสัยว่าคนไทยเราจะไม่กล้าเรียกกันกระมัง ก็เลยเป็น ฮอยอันแทน
ฮอยอัน
(เรียกว่าฮอยอันละกันนะ)
เป็นเมืองในเขตจังหวัดกว๋างนาม ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลจีนใต้ ในอดีต
(ประมาณคริสตศตวรรษที่ 16-17)
ถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เป็นศูนย์กลางทางการค้า มีชาวต่างชาติเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันมากมาย
ทั้งจาก จีน ญี่ปุ่น ดัทช์ และ อินเดีย แต่ต่อมา ความสำคัญก็ค่อย ๆ ลดลง กลายเป็นเพียงเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง
พอทราบเรื่องราวคร่าว ๆ แล้ว ข้าพเจ้าก็อยากจะไปให้ถึงที่หมายเร็ว ๆ แต่กว่าจะมาถึงนั้น ก็เป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว ดังนั้น.. รอไว้หลังจากจากรับประทานอาหาร และเข้าสู่โรงแรมที่พักให้เรียบร้อยก่อน เราจึงจะออกไปเที่ยวชมเมืองยามค่ำคืนกัน
ตัวเมืองฮอยอันค่อนข้างเล็กมาก เดินไปทางไหน ก็มีป้ายบอกชื่อถนนตั้งให้เห็นอย่างชัดเจน ดังนั้นถ้ามีแผนที่ติดมืออยู่ด้วย ก็ไม่ต้องกลัวหลงทางเลย สังเกตุที่ป้ายจะเห็นมีตราสัญลักษณ์มรดกโลกอยู่ด้วย
(ที่เป็นกลม ๆ แดง ๆ)
องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2542
ฮอยอันเคยเป็นเมืองที่เงียบสงบ ต่อมา หลังจากได้ยกขึ้นเป็นมรดกโลก เมืองนี้ก็เลยเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากชาติต่าง ๆ จึงมีทั้งร้านอาหาร บาร์ โรงแรม ร้านอินเตอร์เน็ต ผุดขึ้นมาเต็มไปหมด เพื่อรองรับผู้มาเยือน
ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่า ปกตินักท่องเที่ยวจะมากน้อยเพียงใด แต่ในวันที่ข้าพเจ้าไปฮอยอันนั้น นักท่องเที่ยวไม่มากนัก บรรยากาศค่อนข้างสงบดีทีเดียว
ปกติข้าพเจ้าไม่ใช่คนชอบซื้อของ จึงแนะนำการซื้อสินค้าไม่ได้ แต่ลองกวาดตามองแล้ว คิดว่าสินค้าที่ขายโดยส่วนใหญ่ไม่ได้ต่างจากที่มีในประเทศไทยมากนัก สิ่งที่แตกต่างชัดเจนคงมีแค่ประการเดียวคือ ราคาที่ถูกกว่าอย่างมาก
ร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดประมาณสี่ทุ่ม
เดินดูอะไร ๆ ไปเรื่อย ๆ ข้าพเจ้าก็ไปพบกับ
อนุสาวรีย์
ของท่านผู้หนึ่ง ชื่อ
Kazimierz Kwiatkowsky
(1944-1997)
หรือรู้จักกันในชื่อว่า
Kazik
ท่านผู้นี้เป็นสถาปนิกชาวโปแลนด์ เข้ามาเวียดนามในช่วงปี ค.ศ. 1980 และ มีส่วนสำคัญในการทำให้เมืองฮอยอันเป็นที่รู้จักของชาวโลก
ไกด์ชาวเวียดนามบอกกับข้าพเจ้าว่า
ชาวฮอยอันบางคนถือเอาคุณ Kazik นี่เป็นบิดาของเมืองฮอยอันเลยทีเดียว เพราะช่วยปูทางให้ฮอยอันได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ข้าพเจ้าเดินเล่นอยู่สักพัก ก็คิดว่ากลับเข้าที่พักดีกว่า เพราะเดิน ๆ ไปก็มีแต่นักท่องเที่ยว กับ ร้านขายของ ไม่ก็บาร์ ชาวบ้านจริง ๆ เค้าก็คงหลับกันหมดแล้ว
เช้าวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2550 อากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ท้องฟ้าครี้ม และฝนก็กำลังจะตก
ในราวคริสตศตวรรษที่ 16-17 ชาวญี่ปุ่นมาตั้งถิ่นฐานอยู่ในฮอยอันกันค่อนข้างมาก
มีเขตชุมชนญี่ปุ่นเกิดขึ้น แบ่งคั่นออกจากส่วนอื่นของฮอยอันด้วยคลองสายหนึ่ง
ประมาณ 300 ปีก่อน ชาวญี่ปุ่นสร้างสะพานข้ามลำคลองสายนี้ รูปทรงโค้ง หลังคามุงกระเบื้องสีเขียวเหลือง เรียกกันต่อ ๆ มาว่า
สะพานญึ่ปุ่น
บนหัวสะพานด้านหนึ่งมีไม้สลักเป็นรูปลิง และอีกด้านหนึ่งมีรูปสุนัข เพื่อแสดงว่า
สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นในปีวอก(ลิง) แล้วเสร็จในปีจอ(สุนัข)
บริเวณกลางสะพาน มี
ศาลเจ้า
ตั้งอยู่
ทุกวันนี้สะพานญี่ปุ่นก็ยังคงแข็งแรงดี ชาวฮอยอันยังใช้สัญจรข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งคลองได้
เมืองฮอยอันมีบ้านโบราณมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตาม
ถนนเหวียน ไท ฮ๊อก
บ้านหลายหลังไม่มีคนพักอาศัยแล้ว เพราะย้ายเข้าไปในเขตเมืองกันหมด แต่ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้
บ้านที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ บ้านเลขที่ 101
สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ก็ทรงเคยเสด็จมาที่บ้านเลขที่ 101 นี้เช่นกัน
บ้านส่วนใหญ่เหล่านี้ หน้าบ้านจะติดถนนสายหนึ่ง ส่วนหลังบ้านจะติดถนนอีกสายหนึ่ง ส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้ มีสองชั้น
ภายในบ้านจะมีลานเปิดให้เห็นท้องฟ้า
พอสายหน่อย ร้านค้าต่าง ๆ ก็เริ่มเปิดมากขึ้น
แต่อย่างว่า ข้าพเจ้าไม่ชอบซื้อของ ข้าพเจ้าชอบดูชีวิตผู้คนมากกว่า
ก่อนจะจากเมืองฮอยอัน พวกเราแวะไปเยือน
วัดของสมาคมจีนฮกเกี้ยน
กันก่อน
วิธีทำบุญคือ เขียนชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด ใส่ลงในแผ่นสีเหลือง แล้วมาแขวนไว้กลางธูปสีแดง ซึ่งขดเป็นทรงกรวย สวดมนต์ แล้วจุดธูป
เชื่อกันว่า คำอธิฐาน จะลอยขึ้นไปพร้อมกับควันธูป จนถึงสรวงสวรรค์
วันนี้ฝนตกปรอย ๆ ตลอด ถ้ามองในแง่ดี ก็คือ อากาศก็ไม่ร้อน แต่จะเดินเล่นไปมาไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ เห็นดั่งนี้ พวกเราก็รีบขึ้นรถแล้วเดินทางกันต่อ
ฮอยอันเคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่มากในอดีต แล้วจู่ ๆ ความสำคัญก็ค่อย ๆ ลดลงไป กลายเป็นเมืองที่เงียบสงบเมืองหนึ่ง แต่เพราะการประกาศเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมืองฮอยอันก็กลับมาคึกคักขึ้นอีกครั้ง นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศ ต่างอยากจะมาเยือนฮอยอันกันสักครั้ง
แม้ว่าตึกเก่า ๆ สถาปัตยกรรมโบราณเหล่านี้ จะยังคงถูกอนุรักษ์เอาไว้
(เพราะว่าเป็นมรดกโลก)
แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะว่า ถ้าข้าพเจ้ากลับมาเยือนอีกครั้ง "บรรยากาศ" ของเมืองฮอยอันจะเปลี่ยนไปขนาดไหน
Reference
Hoi An ใน Wikipedia
<<
ตอนที่แล้ว
ตอนต่อไป
>>
[อ่าน ท่องเที่ยว เวียดนาม ตอนอื่น ๆ]
[ภาพ-เล่า-เรื่อง]
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 1:57:56 น.
6 comments
Counter : 5336 Pageviews.
Share
Tweet
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนนะครับ
เก็บภาพจาก Bonanza เขาใหญ่มาฝากครับ (คลิกที่ภาพได้เลยนะครับ)
From มิสเตอร์ฮอง
โดย:
มิสเตอร์ฮอง
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:5:25:31 น.
ชอบตรอกแคบๆแล้วก็feeling ของ สีของอาคารเก่าๆ
เง้อ
โดย:
vodca
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:35:08 น.
ชอบภาพโคมไฟสีๆ ตอนกลางคืนจังค่ะ
พวกบ้านเก่าๆ แบบนี้ก็ชอบ
มีคนบอกว่า ให้ลองไปเที่ยวบานเมทวตอีกที่ บ้านเรือนแนวนี้เหมือนกัน
คิดว่าถ้ามีโอกาสไปฮอยอันคงไม่พลาดแน่ๆ ค่ะ
โดย:
แพนด้ามหาภัย
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:41:24 น.
น่าไปเที่ยว ดูสงบเงียบดี
โดย: meemie (
kanhompung
) วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:56:23 น.
ฮอยอันเป็นเมืองที่ดูศิลป์ ศิลป์ น่ารักนะคะ หลงเสน่ห์ฮอยอันเหมือนกับหลวงพระบาง สำหรับตัวเองแล้วชอบซื้อของมากเลยค่ะ โดยเฉพาะของที่เป็นงานศิลปะ มีดีไซน์น่ารัก ดูกิ๊บเก๋ เลยหลงรักฮอยอันแบบถอนตัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะร้านที่ขายโคมไฟผ้าเนี่ย จะยืนดื่มด่ำและถ่ายรูปนานเป็นพิเศษ ถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปอีกค่ะ เพราะครั้งที่แล้วมีเวลาอยู่ฮอยอันแค่หนึ่งคืนกับครึ่งวันเอง อยากอยู่ละเลียดชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นั่นมากกว่าที่ผ่านมา...
เอ...ตอนต่อไปของคุณ plin จะพาไปหมี่เซิน (My Son)หรือป่าวคะ
โดย: Maple IP: 202.129.59.2 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:36:46 น.
ไปฮอยอันแค่หนึ่งคืนกับครึ่งวันเช่นกันครับ แถมครึ่งวันนั้นฝนตกอีกต่างหาก
ส่วน my son นี่ ไม่ได้ไปครับผม ถัดจากที่นี่ ก็ไปพิพิธภัณฑ์จามปา อยู่แป๊บเดียว แล้วก็ไปสนามบิน เพื่อไปไซ่ง่อนต่อครับ
โดย: Plin, :-p (เจ้าของ blog ตัวจริง ไม่ได้ login) IP: 202.28.62.245 วันที่: 29 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:26:10 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Plin, :-p
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [
?
]
Tweets by @paul_lin
บันทึก ท่องเที่ยว เวียดนาม
e-mail :
rethinker@hotmail.com
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add Plin, :-p's blog to your web]
Links
มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน
Project Gutenberg
New England Journal of Medicine
พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เก็บภาพจาก Bonanza เขาใหญ่มาฝากครับ (คลิกที่ภาพได้เลยนะครับ)
From มิสเตอร์ฮอง