Bloggang.com : Plin, :-p : เวียดนาม (12) : แม่น้ำหอม

เวียดนาม (12) : แม่น้ำหอม

[ภาพ-เล่า-เรื่อง]

วันที่ 5 มีนาคม 2550 นี้ เราตื่นเช้ากันสักหน่อย เพื่อย้อนไปสนามบิน Noi Bai กันอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่ใช่กลับประเทศไทย

แต่เรากำลังจะไปเที่ยวต่อที่เมืองเว้ โดยสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ VN241

ชื่อเมืองเว้ เขียนแบบนี้ Huế ตอนแรกข้าพเจ้านึกว่าเขียนว่า Hue ก็นึกไม่ออกว่าเรากำลังจะไปเมืองเว้กัน นึกว่าชื่อเมือง ฮิ้ว ๆ อะไร

ประมาณเจ็ดนาฬิกากว่า ๆ พวกเราก็มาถึงสนามบิน Phú Bài ซึ่งเป็นสนามบินภายในประเทศ ประจำเมืองเว้

จากสนามบินเราก็มาที่ท่าเรือริมแม่น้ำหอม หรือ Sông Hương เพื่อล่องเรือกัน (อีกแล้ว) โดยจุดหมายต่อไปก็คือ วัดเทียนหมู่

เรือที่พวกเรานั่งกันก็หน้าตาเต็ม ๆ ลำ ก็จะประมาณแบบนี้ เป็นเรือหัวมังกร (สองหัว บางลำมีหัวเดียว) เหมือนกันกับเรือที่อ่าวฮาลอง แต่เป็นคนละแบบกัน

ของที่อ่าวฮาลองเป็นหัวไม้ ของที่แม่น้ำหอมนี้เหมือนทำจากเหล็กสังกะสี

เมื่อขึ้นมาบนเรือ สิ่งที่เราคาดหวังก็คือ การได้ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสองฟากฝั่งแม่น้ำ แต่ว่าวันนี้ฝนตกปรอย ๆ แดดก็ไม่มี (อีกแล้ว) ก็เลยไม่เห็นอะไรน่าตื่นตาเท่าไหร่ จะมีก็แต่ลมที่พัดผ่านเข้ามา

ไกด์ของเราบอกว่า แต่ก่อน บริเวณภูเขารอบ ๆ นี้จะมีป่าค่อนข้างสมบูรณ์ ลมที่พัดเข้ามาจะพาจะเอากลิ่นหอมของมวลดอกไม้ป่ามาด้วย ก็เลยเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำหอม (ภาษาอังกฤษก็ยังเรียกว่า Perfume river)

แต่ข้าพเจ้าไม่ได้กลิ่นหอมที่ว่านั้นเลย

ล่องเรือนาน วิวก็ไม่เห็นอะไร แม่ค้าแม่ขายกลัวว่าจะเหงากระมัง การค้าบนเรือก็เริ่มขึ้น (อันที่จริงตอนล่องเรือที่อ่าวฮาลองก็มีการขายของบนเรือด้วยเช่นกัน)

อันที่จริงราคาของก็ไม่ได้แพงมากนัก แต่เหมือนกับว่านิสัยคนไทยเราจะรู้สึกสนุกและสะใจที่ได้ต่อราคาสินค้ากัน

ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าร่วมสงครามต่อราคาสินค้าในครั้งนี้ด้วย ก็เลยหลบมานั่งข้าง ๆ คนขับ ที่บริเวณด้านหน้าของเรือ (แล้วแอบเอาใจช่วย) แทน

อันที่จริงในแม่น้ำหอมสายนี้ ไม่ได้มีแต่เรือโดยสารนำเที่ยว (และขายของ) เท่านั้น แต่ยังมีเรือขนทรายแล่นสวนทางมาอีกด้วย

ซึ่งเมื่อล่องเรือไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นว่าสองฟากฝั่งแม่น้ำหอมมีกองทรายตั้งอยู่เป็นระยะ ๆ ก็ไม่ทราบว่าจะขนทรายไปที่ไหนกัน

เราล่องเรือในแม่น้ำหอมกันประมาณ 50 นาทีแล้ว สงครามต่อรองราคาก็ยังไม่ทราบผลแพ้ชนะ แต่ในที่สุด พอเมื่อเรือใกล้จะเทียบท่าที่หน้าวัดเทียนหมู่ แม่ค้าก็ตัดใจยอมลดราคาให้ พร้อมก้บเสียงเฮสะใจกับชัยชนะของลูกค้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อขึ้นฝั่งแล้วเราก็พบว่า สินค้าแบบเดียวกันที่ขายอยู่บริเวณหน้าวัดนั้น ราคาถูกกว่าบนเรือ

<< ตอนที่แล้ว

ตอนต่อไป >>

[อ่าน ท่องเที่ยว เวียดนาม ตอนอื่น ๆ]

[ภาพ-เล่า-เรื่อง]

Create Date : 30 ธันวาคม 2550

Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 2:07:57 น.

8 comments

Counter : 4616 Pageviews.

ว้าว สวยงามมากๆเลยนะครับ อยากไปเที่ยวเวียดนามมานานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเลยครับ วันนี้ขอตามไปเที่ยวด้วยคนก่อนนะครับ

โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์

) วันที่: 30 ธันวาคม 2550 เวลา:23:37:41 น.

ขอบคุณสำหรับการแชร์รูปสวยๆคับ..ยังไม่เคยไปเวียดนามเรย

//www.tourlok.com/cgi-bin/forum/Blah.pl?b=review,m=1197231188

โดย: เคเค IP: 58.8.194.11 วันที่: 31 ธันวาคม 2550 เวลา:17:07:09 น.

555
โว๊วเย
้happy new year นะฮะ

โดย: vodca

วันที่: 1 มกราคม 2551 เวลา:16:14:56 น.

โดย: nadear_ku

วันที่: 3 มกราคม 2551 เวลา:21:47:48 น.

ตลกดีนะ....เรื่องต่อราคาของ

โดย: จอย IP: 58.181.143.189 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:1:39:17 น.

ใน vdo อันบนสุด จะได้ยินเสียงว่า
"ชั้นจะเป็นลม"

ก็คือ ตอนที่รู้ว่า บนฝั่งถูกกว่านั่นแหละ

โดย: Plin, :-p

วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:15:24:01 น.

++ ฮืม.....กลับไปดูอีกรอบแล้วค่ะ ได้ยินชัดเจนเลย ... ชั้นจะเป็นลม
++ ว่าแต่ราคามันต่างกันเยอะมากหรือค่ะ
หรือแค่เสียความรู้สึก ที่ต่อมาตั้งนานแต่ยังแพงกว่าบนฝั่ง

โดย: จอย IP: 58.181.143.189 วันที่: 7 เมษายน 2551 เวลา:22:35:17 น.

ไม่ทราบครับ ผมไม่ได้ต่อราคาด้วย

โดย: Plin, :-p

วันที่: 8 เมษายน 2551 เวลา:3:30:58 น.