|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
Final Fantasy VII : The Maiden who travel the planet (หญิงสาวผู้ท่องไปในดวงดาว) บทสุดท้าย
Music Theme : Aerith's Theme
บทสุดท้าย
คลาวด์และพรรคพวกกำจัดเซฟิรอธลงได้
หลังจากซ่อนตัวอยู่ในหลุมอุกาบาตและรวบรวมพลังงานมาโคมาไว้ ออริจินัลเซฟิรอธก็ฟื้นคืนชีพ หลังจากนั้นการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น เซฟิรอธมีความปรารถนาที่รับมาจากเจโนวา ความทะเยอทะยานของตัวเอง สร้างพลังไร้ขีดจำกัดให้กับตัวเอง แต่..มนุษย์กลุ่มหนึ่งก็สามารถล้มเขาลงได้ในที่สุด ร่างของเซฟิรอธถูกทำลายลง และเขาได้หลบหนีไป
มีเพียงคลาวด์ที่รู้สึกได้ว่าเซฟิรอธหนีไป เซลล์ของเจโนวาในตัวของคลาวด์มีสัมปชัญญะของเซฟิรอธหลงเหลืออยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกได้ว่าเซฟิรอธยังมีตัวตนอยู่ซักที่หนึ่งของไลฟ์สตรีม และยังคงขัดขวางโฮลี่ไว้

สัมปชัญญะของคลาวด์ลงไปในทะเลแห่งมาโค เผชิญหน้ากับเซฟิรอธ ศัตรูเก่าแก่ที่กำลังรอเขาอยู่ สัมปชัญญะของเซฟิรอธยังคงสมบูรณ์ และยังคงทำร้ายดวงดาวอยู่ตลอด
ท่ามกลางโลกแห่งสัมปชัญญะ ดาบของพวกเขาทั้งสองปะทะฟาดฟันใส่กันและกัน เซฟิรอธ ทหารที่แข็งแกร่งที่สุด และบุคคลที่ถูกชื่นชมมากที่สุด เหวี่ยงดาบใส่คลาวด์ราวลำแสงแล่บแปลบปลาบ แต่คลาวด์ไม่ได้กลัว เขาเชื่อว่าเขาจะชนะ เซฟิรอธเงื้อดาบยาวขึ้นเพื่อเตรียมจะฟัน ในตอนนั้นเอง คลาวด์ทุ่มพลังที่มีอยู่ออกไป ดาบใหญ่ของเขาฟันถูกเซฟิรอธจนชะงัก และตามมาด้วยพายุดาบ การฟันต่อเนื่อง 15 ครั้งโดยที่เซฟิรอธไม่สามารถป้องกันได้เลย เซฟิรอธถูกทำลาย

เทวทูตปีกเดียวยิ้มบางๆ ความเสียหายที่ได้รับมากเกินกว่าจะทำให้เขาคงร่างวิญญาณเอาไว้ได้ ลำแสงสาดส่องออกมาจากภายในร่างและแยกร่างของเขาออกเป็นส่วนๆ เซฟิรอธสลายไป ฝันร้ายของคลาวด์ที่ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ 5 ปีก่อนจบสิ้นลงแล้ว
โฮลีซึ่งไม่ถูกอะไรขัดขวางอีกต่อไป พุ่งออกไปเบื้องบน

เวลานั้น สัมปชัญญะของคลาวด์ออกจากร่าง และกำลังจะหลงทาง แต่ในแกนกลางของทะเลมาโค คลาวด์เห็นมือหนึ่งยื่นเข้ามา มือสีขาวนุ่มนวลนั้น ทำให้เขานึกถึงมือหนึ่งที่ยื่นดอกไม้ให้เขาในเมืองมิดการ์ เขายื่นมือออกไปจับไว้อย่างลืมตัว
สติของคลาวด์กลับคืนมา มือของทีฟากำลังดึงเขาไว้จากพื้นที่กำลังถล่มลงไปสู่เบื้องล่าง
ถ้ามือนั้นไม่นำเขากลับมา เขาคงจะตกลงไปในหลุมมืดดำไร้ที่สิ้นสุด ในเวลานั้น คลาวด์รู้ว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว
โฮลี่มาช้าเกินไป

มิดการ์เป็นจุดที่เมเทโอตกลงมา และมันมาถึงใกล้มากเกินไป แรงดึงดูดของโลกกับเมเทโอก่อให้เกิดพายุหมุนจำนวนมากทำลายเพลทชั้นบนของเมือง โฮลีที่เข้ามาขวางกลางระหว่างดวงดาวทั้งสองกลับทำให้พลังทำลายล้างรุนแรงมากยิ่งขึ้น



ตอนนี้ไม่เพียงแต่ชาวเมืองมิดการ์ที่อพยพลงไปที่สลัมเท่านั้น แต่ดวงดาวกำลังจะเสียหายอย่างร้ายแรงเกินกว่าจะรักษาได้อีก แม้ว่าแผนการของเซฟิรอธจะถูกทำลายลงแล้ว แต่ทุกคนรู้ดีว่าสิ่งเลวร้ายที่สุดกำลังจะเกิดขึ้น
ดวงดาวใกล้จะถึงจุดจบ
ขอฉันยืมพลังด้วย ทุกๆคน!
แอริธตะโกนขึ้น ความคิดของเธอแผ่ขยายออกไปในทะเลมาโค ผ่านไลฟ์สตรีม ดังก้องไปทั่วทั้งโลก
ฉันทำด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ พวกเราต้องช่วยกันปกป้องดาวดวงนี้!
เสียงตะโกนของเผ่าเซตร้าคนสุดท้ายกระตุ้นให้สัมปชัญญะจำนวนนับไม่ถ้วนที่เธอพบและปลุกขึ้นในระหว่างการเดินทางอยู่ในทะเลมาโคตื่นขึ้นมา สัมปชัญญะของดวงดาวทั้งดวงกำลังตื่นขึ้น แน่นอน ในจำนวนนั้นมีพวกที่รอการชดเชยความผิดบาปอยู่ด้วย ความปรารถนาที่รุนแรงทำให้พวกเขารวมตัวเข้าด้วยกัน พวกเขากำลังควบคุมพลังมหาศาลที่สุดบนพื้นพิภพ


ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว รวมพลังเข้าด้วยกันแล้วเป่าเมเทโอให้กระจุยไปเลย!
ที่นี่คือ กลุ่มอวาแลนซ์ หน่วยไลฟ์สตรีม! แบร์เร็ตไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันจะเป็นผู้นำเอง!
ม่าย! ฉันอยากจะลองเป็นคนนำด้วยเหมือนกัน ไม่ยุติธรรมเลยนะ คุณเวดจ์!
พวกเธอหัดจริงจังซะบ้างได้ไม๊ ให้ตายสิ หัดจริงจังซะหน่อย แล้วตั้งใจทำเพื่อมาร์รีนเถอะ

ภายใต้การนำของพวกเขา ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นบนพื้นผิว บิดเกลียวขมวดเข้าหากันกลายเป็นไลฟ์สตรีม ครอบคลุมดวงดาวทั้งดวงราวกับตาข่าย มันพุ่งเข้าแทรกเมเทโอแล้วผลักออกไปให้ห่างจากดวงดาว การเคลื่อนไหวของลำแสงเหล่านั้นดูราวกับวาลคีรีที่ชี้นำกองทัพอมตะกำลังแล่นข้ามสรวงสวรรค์

เฮ้ แอริธ เธอเห็นท่าไม้ตายของคลาวด์รึเปล่า?
แซ็คที่กำลังนำพลังงานระลอกที่สองไปยังเมเทโอ ตะโกนทักแอริธ
นั่นเคยเป็นท่าไม้ตายหนึ่งของฉันนะ คงไม่ทำให้เธอหลงไหลอีกนะ?
เมื่อมีระยะห่างเพียงพอ โฮลี่สามารถทำงานได้เต็มที่ คล้ายกำแพงป้องกันภัย บางส่วนของเมเทโอที่หลุดออกตกลงสู่ดวงดาวถูกทำลายกลายเป็นฝุ่นกระจายกลับไปในอวกาศ

ดวงดาวรอดพ้นมหันตภัยครั้งนี้
ความคิดของแอริธถูกปลดปล่อยออกมาชั่วขณะหนึ่ง
บนไฮวินด์ คลาวด์มองเห็น ทีฟาเห็น แบร์เร็ตและคนอื่นๆ ก็เห็น พวกเขาเห็นรอยยิ้มของแอริธที่พวกเขาไม่เคยลืมปรากฏอยู่ในไลฟ์สตรีมและหายเลือนไปอย่างช้าๆ

ราวกับเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ ความเศร้าที่พวกเขามีหายไปเล็กน้อย
และเช่นกันกับ บันทึกของชีวิตที่ดวงดาวสร้างขึ้นได้ดำเนินต่อไป
และจะดำเนินต่อไปอีกนานเท่านาน.....
Create Date : 07 กันยายน 2549 |
Last Update : 7 กันยายน 2549 20:36:27 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1117 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|