:::ความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน:::
การขับขี่ในยามค่ำคืน
กับการขับขี่ในขณะที่ไร้แสงอาทิตย์ของยามค่ำคืนนั้น บางคนก็อาจจะไม่ชอบเอาเสียเลย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีสาเหตุจากการที่สายตาไม่ค่อยจะสู้แสงไฟนัก หรือไม่ก็กลัวสภาพเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ในขณะที่บางคนกลับชอบซะงั้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางไกลซะมากกว่าโดยให้เหตุผลว่ามันสบายตากว่าขับตอนกลางวัน, ถนนโล่งกว่า และไม่ร้อนนั่นเอง สำหรับการใช้งานในเมืองคงไม่เท่าไหร่ เพราะระบบส่องสว่างข้างทางค่อนข้างคับคั่ง แต่กับการที่เดินทางไกลในยามค่ำคืน ก็จะต้องเตรียมความพร้อมเพิ่มขึ้นอีกนิด
อันดับแรกเลยก็คือระบบส่องสว่างที่จะต้องติดครบ โดยเฉพาะกับไฟคู่หน้าที่ห้ามขาดห้ามเสียเด็ดขาดเลย ที่เหลือก็แค่ไม่ฝืนขับ หากง่วงหรือเพลีย หากรู้สึกว่าง่วงหรือเพลียก็ควรที่จะแวะหาตัวช่วย อย่างกาแฟเพื่อให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้น ตามมาด้วยการเปิดเพลงให้ดังขึ้นอีกนิด พร้อมกับแง้มกระจกลงเล็กน้อย เพื่อให้อากาศภายนอกได้พัดผ่าน ซึ่งก็พอจะช่วยลดอาการง่วงหงาวหาวนอนได้บ้าง แต่ในกรณีที่รู้ตัวว่าไม่ไหวจริงๆ (ในกรณีที่อยู่กลางทางแล้ว) ก็ควรจอดพักในบริเวณที่ที่ปลอดภัย (แนะนำสถานีตำรวจ) เพื่องีบเล็กๆ ซักครู่ จนร่างกายได้พักผ่อนพอประมาณแล้วค่อยขับเคลื่อนต่อ แต่วิธีที่ดีที่สุด ก็คือพักผ่อนให้เต็มที่ หากรู้ว่าต้องเดินทางในยามค่ำคืน มารยาทในการใช้ไฟสูง ในกรณีที่ไม่มีเพื่อนร่วมทางอยู่ด้านหน้าหรือวิ่งสวนมา การเปิดไฟสูงจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้เราได้เห็นไกลขึ้น แต่เมื่อใดที่เริ่มมองเห็นรถคันหน้าหรือจากรถที่กำลังจะสวนมาล่ะก็ ต้องเปลี่ยนเป็นไฟต่ำในทันที เพราะลำแสงของไฟสูงนั้นก็จะไปรบกวนการมองเห็นของรถคันอื่นนั่นเอง ก็ทีคุณยังไม่ชอบให้ใครมาเปิดไฟสูงใส่เลย คนอื่นเค้าก็เป็นเหมือนกัน ขับให้ช้ากว่าความเร็วที่ขับในตอนกลางวัน หากเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยก็ควร ที่จะใช้ความเร็วไม่เกินไปจากความเร็วที่ระบุไว้ตามป้ายจำกัดความเร็ว ณ บริเวณนั้นๆ รวมไปถึงการหมั่นสังเกตุที่ป้ายเตือนต่างๆ ตลอดการเดินทาง โดยเฉพาะกับป้ายระบุเส้นทางรูปแบบต่างๆ ทั้งโค้ง, ถนนต่างระดับ, ทางเบี่ยง ฯลฯ เพื่อที่จะให้สามารถรับมือกับทุกรูปแบบของเส้นทางเบื้องหน้าได้อย่างทันท่วงที เบนสายตาจากแสงไฟจากรถคันอื่น เพราะแสงไฟที่จะตกกระทบยังกระจกมอง ข้างหรือแม้แต่กระจกมองหลัง จะทำให้ตาคุณพร่าไปชั่วขณะ ให้มองไปที่เส้นทางเบื้องหน้าหรือเส้นแบ่งช่องจราจรเป็นหลัก เพื่อทำให้สามารถประคองรถอยู่ในช่องทางได้ตลอดเวลา รวมถึงพยายามเคลื่อนย้ายสายตา จากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านเพื่อป้องกันอาการ Highwat Hypnosis (อาการหลับใน) นั่นเอง รู้จุดหมาย ถ้าเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ให้พยายามเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ตอนกลางวัน เพราะอย่างน้อยๆ ทัศนวิสัยในการมองยังไงก็ดีกว่า ซึ่งก็จะช่วยป้องกันในการหลงทางได้บ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าไปงมตอนค่ำ มั่นใจแล้วหรือยังว่ารถนั้นพร้อมสำหรับทริปไกลๆ ที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้ เครื่องยนต์และระบบอื่นๆ ก็คือกระจกบังลมหน้า - หลังและบานข้าง (ทั้งด้านนอกและใน) เพราะในยามที่ค่อนข้างอับแสงนั้น คราบสกปรกที่ดูเล็กน้อยในตอนกลางวันจะมีผลต่อการมองเห็นมากขึ้นในตอนกลางคืน ซึ่งก็รวมไปถึงความสะอาดของโคมไฟหน้าด้วย
ไม่ว่าจะตอนกลางวันหรือกลางคืน ที่ต้องระลึกไว้เสมอก็คือ ตั้งอยู่ในความไม่้ประมาท ยิ่งกับเส้นทางที่ต่างจังหวัดยามค่ำคืนของบ้านเราด้วยแล้ว หูตาต้องไวเป็นพิเศษเลยเพราะมีทั้งวิ่งสวนทาง, ไฟหน้า-ท้ายไม่มี และที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรนี่ยังมีให้เห็นอยู่เลย อันนี้ก็ไม่ได้ว่าทุกคน เพียงแต่ออกต่างจังหวัดกี่รอบก็จะเจอมันทุกรอบเลย เพราะฉะนั้นนอกจากต้องระวังรถของตนเองแล้ว ต้องหูตาไวสำหรับเพื่อนร่วมทางด้วย
ขอบคุณ : //www.phithan-toyota.com
Create Date : 27 ตุลาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 27 ตุลาคม 2553 5:55:13 น. |
Counter : 593 Pageviews. |
|
|
|