Bloggang.com : weblog for you and your gang
ลมหายใจของใบไม้
Group Blog
ลานอโศก
ห้องบริหารจิต
รอยอินทร์
ศิลปวัฒนธรรมไทย
วิ่งตามนาย
ข้อคิดคำเขียน
มองผ่านเลนส์
เพลงภูต
ร่ำไปในใบเรียว
ปลายทางที่โค้งฟ้า..ฯ
เรื่องสั้นหลายวันจบ
มีสุขร่วมเสพ..ฯ
เก็บรักมาเก็บไว้ที่ในรัก
อโรคยาปรมาลาภา
คลีนิคกายภาพ
วิทยายุทธ
แสนรักษ์
เพลงเพื่อแผ่นดิน
Music Box
เพลงเพื่อคุณ
MV Romance XL
MV น่ารัก
เพลงประกอบ
ฟังเพลงออนไลน์
รวมเพลงขิม
รวมเพลงขลุ่ย
เพลงลูกทุ่งไทย
ห้องภาพ
คนแถวหน้า
แดนสนธยา
มุมเตือนภัย
ถนนดวงดาว
บ้านและสวน
ตกแต่งสวน
ท่องไปในโลกกว้าง
คู่สร้าง-คู่สม
มุมซ่อมสวย
หยุดก่อนโลก..ฉันจะลง
ทัศนา-จร
เวทีดาว
ตลาดนัดงาน
เก็บออมรอมจ่าย
ซ่อมได้
ครัวไทย
ไทยน้ำทิพย์
บ้านเล็กในป่าใหญ่
ย่อโลก
หน้าต่างโลก
แฟชั่น
ชีวิตต้องสู้
คนรักรถ
กระฉ่อนเว็บ
งานสร้าง
กฏ+หมาย
สินทรัพย์
ศาสตร์แห่งตัวเลข
สมุนไพรไทย
อัญมณี
เทคนิคการถ่ายภาพ
รวมโค้ดแต่งบล็อก
มุมกีฬา
เรือนจำกลาง
สาวเอยจะบอกให้
ระเบียงรุ้ง
Lab
<<
พฤศจิกายน 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
6 พฤศจิกายน 2553
:::ปัญหาจากการใช้สัญญานไฟหน้าผิด:::
All Blogs
ความรู้เบื้องต้นสำหรับคนสนใจ LPG
:::ล้างหัวฉีดด้วยตัวเอง:::
:::พ่วง เปลี่ยนหรือจะเลือกเข็นกระตุกเครื่อง:::
:::ดูแลกันไว้ก่อนจะไม่ออโต้:::
:::Car Care:::
:::เทคนิค การขับขี่ รถยนต์ ให้ได้เปรียบ เชิงกล:::
:::เทคนิคการใช้เกียร์ออโตให้เท่าใจ:::
:::ขับรถฝ่าหมอก ควันไฟ อย่างไรให้ปลอดภัยที่สุด:::
:::ทางเลี่ยงรถติดทั่วไทย2554:::
:::จับกระแสค่ายรถยนต์ รับการแข่งขันปี 2011 :::
:::กำจัดกลิ่นอับในรถ:::
:::ใช้ของปลอมกันอยู่ทำไม:::
:::เปลี่ยนใช้น้ำมันก๊าดกันดีกว่า:::
:::ปิดประตูตีหัวโจร(ลักรถ):::
:::ขโมยรถเมียไปขายไม่ยาก:::
:::การดูแลเครื่องยนต์เพื่อลดมลพิษ:::
:::รู้ไว้ไม่ต้องจ่าย:::
:::รู้น้อยจ่ายหนัก:::
:::วิธีเลี่ยงตำรวจจราจร:::
:::ยางรถยนต์กับความปลอดภัย:::
:::ตารางการเฝ้าระวังรักษารถยนต์ของคุณ:::
:::ปฏิรูปรถยนต์ทั้งระบบ:::
:::การตรวจเช็คระบบเบรกและใบปัดน้ำฝน:::
:::การยืดอายุการใช้งานเกียร์ออโต้ :::
:::วิธีดูแลรักษาเบาะหนัง:::
:::ล้างหม้อน้ำรถยนต์เองเรื่องง่ายๆ :::
:::วิธีเอาตัวรอดจากตำรวจจราจร:::
:::คู่มือรถ เก็บไว้อ่านนานๆ:::
:::วิธีการดูแลรักษากระจกหลังการติดตั้งฟิล์มกรอง:::
:::ความรู้เรื่องกระจกนิรภัยและวิธีการรักษา:::
:::วิธีการดูแลรักษากระจกรถยนต์ :::
:::ตรวจสอบระบบระบายความร้อน:::
:::ความสำคัญของกรองแอร์รถยนต์:::
:::การดูแลรักษารถประจำวัน:::
:::การดูแลและบำรุงรักษายางรถยนต์:::
:::แก้ปัญหาเมื่อถูกรถร้องเรียน:::
:::ข้อควรปฏิบัติของคนรักรถ:::
:::ทำความสะอาดแอร์รถยนตร์เรื่องง่ายๆ:::
:::การดูแลรักษาระบบเบรก:::
:::การขับรถขึ้นเขา:::
:::ท่านั่งขับรถที่ถูกต้อง :::
:::การดูแลรักษาโช้คอัพ:::
:::มาใส่ใจกับการสูบลมยางให้ถูกวิธี:::
:::วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง:::
:::เกียร์ออโต้ ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี :::
:::เติมน้ำมันอย่างไรให้คุ้มค่า:::
::เที่ยวอย่างปลอดภัย:::
:::ทำไมต้องนิรภัย:::
:::ปัญหาจากการใช้สัญญานไฟหน้าผิด:::
:::บำรุงรักษารถหลังน้ำท่วม:::
:::คลัทซ์...ดาบสองคมของนักขับรถ:::
:::"ถอยหลัง"วิธีการขับรถที่ต้องฝึกฝน:::
:::หลายหลายเรื่องรถที่คุณยังไม่รู้:::
:::เช็คก่อนสตาร์ท เติมก่อนน็อค:::
:::ไล่ร้อน ตอน จอดรถ:::
:::หลอดไฟหน้าขาดไม่ต้องถึงมือช่างก็ได้:::
:::เปลี่ยนหลอดไฟ-เพิ่มกำลังไฟหน้า:::
:::วิธีง่าย ๆ รักษาพรมปูพื้นรถ:::
:::ความปลอดภัยในการขับขี่ยามค่ำคืน:::
:::กระจกมองหลัง 'ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา':::
:::ดูแลระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์เองกัน:::
:::สลับยางไม่ใช่เรื่องยาก:::
:::สารพัดวิธีดูแลรถ:::
:::วิธีการรักษาสีรถ:::
:::"เบรก" ให้ดีต้องมีเทคนิค :::
:::สัญญานเตือนจากรถของคุณ:::
:::9 วิธีดูแลรักษา รถยนต์ ให้ดูดีเสมอ:::
:::ประหยัดน้ำมันเรื่องง่ายๆ:::
:::ทำอย่างไรเมื่อต้องขับรถนานๆ:::
:::สำหรับมือใหม่:::
:::ขับรถอย่างปลอดภัยในสายฝน:::
:::วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ถูกต้อง:::
:::เมื่อถึงเวลาต้องซ่อมบำรุงรถ:::
:::จัมพ์แบตเตอรี่เองอย่างปลอดภัย:::
:::เคลือบเงารถด้วยตัวเอง:::
:::ล้างรถเองกันดีกว่า:::
:::ปัญหาจากการใช้สัญญานไฟหน้าผิด:::
ใช้ไฟหน้าอย่างไรให้ถูกวิธี
รถยนต์สมัยนี้มักจะติดไฟสัญญาณแปลกๆ ซึ่งบางทีกฎหมายจราจรที่ค่อนข้างจะโบราณ ก็ไม่ได้กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่าอนุญาตให้ใช้สัญญาณอะไรบ้าง ทำให้หลายคนเลือกติดและใช้กันตามอำเภอใจ จนกลายเป็นธรรมเนียมที่หลายคนปฏิบัติต่อๆ กันมา
ความจริงแล้ว ไฟต่างๆ เหล่านี้ เป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง และในเรื่องของความปลอดภัยบนท้องถนน ถือว่า "สัญญาณ" นั้นเป็นภาษาของถนน ซึ่งต้องเป็นสากล หมายความว่าไม่ว่าชนชาติใด พูดภาษาใด จะต้องฟังหรืออ่านภาษาของถนนอันเป็นสากลนี้เข้าใจแจ่มชัดเหมือนกันหมด เป็นภาษาเดียวกัน
ไฟหน้าเจ้าปัญหา-สื่อสารผิดๆ
ไฟสัญญาณอันดับแรกที่กลายเป็นธรรมเนียมอันไม่เป็นสากล และน่าจะเกิดอันตรายก็คือ ไฟหน้าใหญ่ ที่ผู้ขับขี่ยวดยานชอบเปิดกัน แว็บๆ ให้หลายคนสงสัยว่ามันหมายความว่าอะไรกันแน่ ในประเทศไทยเรานั้น แปลกันเองได้ความว่า "เอ็งอย่ามาข้าจะไป" หรือ "ผมไปก่อนนะ" หรือ "อั๊วใหญ่กว่าไปก่อน" อะไรทำนองนั้น ก็พอจะเข้าใจกันในประเทศไทยเราว่าหมายความว่าอย่างนั้น ธรรมเนียมนี้ก็ค่อยๆ วิวัฒนาการขึ้นไปเรื่อยๆ จนบัดนี้บนท้องถนนหลวงเข้าใจกันได้อีกความหมายหนึ่งว่า เมื่อ รถที่วิ่งสวนมาบนถนนหลวงให้สัญญาณไฟหน้า แว็บๆ ล่ะก็ ให้เตรียมระวังว่าอย่าขับเร็วเกินกฎหมายกำหนด อย่าเดินรถในช่องทางขวา อย่าแซงทางซ้าย ฯลฯ เพราะข้างหน้ามีหน่วยตำรวจทางหลวงคอยดักจับอยู่ สัญญาณนี้เลยกลายเป็นสัญญาณประสานสามัคคีกันในหมู่ผู้ใช้รถบนถนนหลวงไปอีก ความหมายหนึ่ง
ส่วนในต่างประเทศบางแห่ง เช่น ในยุโรปและประเทศอังกฤษ ไฟแว็บหน้าที่เปิดกันแว็บๆ นั้น สัญญาณนี้แปลได้ว่า "เชิญคุณไปได้ ผมให้ทางคุณ" ดังนั้น พวกฝรั่งพวกนี้มาขับรถในเมืองไทย เห็นพี่ไทยเปิดไฟไห้แว็บๆ ก็นึกว่าเหมือนบ้านตัวก็ออกพรวดไปเลย จึงมักจะถูกชนซี่โครงหักไปหลายราย นี่ก็คืออันตรายอีกอย่างหนึ่งที่เป็นภาษาสากล แต่อ่านแปลให้ผิดเพี้ยนไปตามวัฒนธรรมของแต่ท้องถิ่นแต่ละประเทศ
ไฟหน้านี้ใช้ทำอะไรและในภาษาสากลหมายความว่าอย่างไร
ไฟแว็บหน้าใหญ่นั้น จริงๆ แล้วแปลว่า "ระวัง" หรือ "ผมอยู่ตรงนี้" เพื่อเตือนให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ระมัดระวังว่ามีรถอีกคันอยู่ตรงนี้ หรืออีกนัยหนึ่งสัญญาณนี้ใช้แทนสัญญาณแตร ในกรณีที่ใช้แตรไม่ได้ เช่นในเวลากลางคืน กฎหมายห้ามใช้แตร หรือ ในสถานที่ที่มีเครื่องหมายห้ามใช้แตร เพราะจะรบกวนบุคคลอื่น เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ราชการ หรือกรณีที่เป็นกลางวัน จะใช้เตือนรถที่หันหน้าเข้าหา ใช้ไฟแว้บเตือนให้ระวังจะดีกว่าเสียงแตร เพราะแสงนั้นเดินทางได้เร็วกว่าเสียหลายเท่าตัวนัก
นอกจากนั้นยังมีสัญญาณไฟฉุกเฉินที่วัฒนธรรมผันแปร จนเกิดอุบัติถึงแก่ชีวิตในทางหลวงหลายรายแล้ว คือสัญญาณไฟฉุกเฉินนั้น รถสมัยนี้จะติดมาให้ทุกคัน เป็นสัญญาณไฟเหลืองกะพริบทั้งหน้าหลังซ้ายขวารวม 4 ด้าน ตามวัฒนธรรมบ้านเรา หาก รถถูกลากจูงก็จะเปิดไฟฉุกเฉินนี้ทันที หรือถ้าผ่านสี่แยกจะไปทางตรงส่วนใหญ่ก็จะเปิดไฟฉุกเฉินนี้ทันที จุดนี้สร้างอันตรายอย่างมากบนทางหลวง เพราะการให้สัญญาณที่ผิดและไม่เป็นสากล นั่น เพราะว่าผู้ที่สวนทาง หรือผู้ที่ตามหลัง คงจะเดาได้ว่ารถคันที่ให้สัญญาณนี้คงจะไปตรงแต่รถที่ผ่านสี่แยกทางด้านข้าง จะอ่านสัญญาณที่ผิดทันที เพราะจะเห็นสัญญาณเพียงด้านข้าง ข้างหนึ่งข้างใดแค่เพียงด้านเดียว ทำให้เข้าใจว่ารถคันที่ให้สัญญาณฉุกเฉินนี้จะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา แล้วแต่รถคู่กรณีจะอยู่ทางใด เมื่ออ่านผิด รถคันที่อ่านผิดก็จะออกรถไปในทางตรงทันที ก็เกิดชนกันกลางสี่แยกถึงบาดเจ็บล้มตายไปมากจึงขอให้นักขับรถทั้งหลาย พึงระวังในการใช้ไฟสัญญาณฉุกเฉินนี้ให้มาก
ไฟสัญญาณฉุกเฉินนี้ใช้อย่างไรจึงจะถูกต้อง
ชื่อก็บอกว่าเกิดเหตุฉุกเฉิน คือหมายความว่า รถคันเกิดเหตุนั้นไปไม่ได้เพื่อให้รถคันอื่นๆ ทราบว่ารถเราเสียไปไม่ได้ต้องจอดขวางทางอยู่ หรือต้องจอดอยู่เฉยๆ หรือรอความช่วยเหลือ หรือจอดเพื่อดูแลซ่อมแซมอยู่ก็เปิดไฟฉุกเฉินไว้เพื่อให้รถคันอื่นได้รับทราบ หรือขณะที่ขับอยู่บนถนนหลวงมีเหตุที่ต้องจอด เพราะมีสิ่งกีดขวางถนนอยู่จนไม่สามารถเคลื่อนรถได้ ก็ให้เปิดไฟฉุกเฉินนั้น เพื่อให้รถตามหลังมาทราบว่าขณะนี้รถเราจอดอยู่นิ่งๆ บนท้องถนน ความปลอดภัยก็จะเกิดขึ้นแก่ตัวเราผู้ขับขี่ และแก่บุคคลอื่นที่ตามเรามา จะได้อ่านสัญญาณนี้ออกเป็นภาษาเดียวกัน
กล่าวโดยสรุปก็คือ ไฟสัญญาณฉุกเฉินนี้ จะใช้ต่อเมื่อรถนั้นได้จอดอยู่กับที่เท่านั้น ห้ามไปใช้วิ่งบนท้องถนนแล้วเปิดไฟฉุกเฉิน บางกรณีที่เห็นบ่อยๆ ก็คือ เมื่อรับคนเจ็บป่วยต้องการรีบนำไปส่งโรงพยาบาล ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็เปิดไฟฉุกเฉินแล้ววิ่ง เพื่อจะได้ถึงโรงพยาบาลเร็วๆ แต่มักปรากฎว่าทั้งคนขับคนเจ็บและญาติ ไม่ค่อยจะถึงโรงพยาบาลส่วนมากจะถึงเพียงสี่แยกใดสี่แยกหนึ่งเท่านั้น
ขับรถหากระมัดระวัง ใช้กฎแห่งความปลอดภัยโดยถูกต้อง ทั้งเทคนิคการขับและสัญญาณให้เป็นสากลโดยแท้ ท่านก็จะเป็นผู้ขับรถอย่างปลอดภัยตลอดไป
ขอบคุณข้อมูลจาก //www.manager.co.th
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2553 6:16:53 น.
0 comments
Counter : 638 Pageviews.
Share
Tweet
Peakroong
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
?
]
"หากต้องตัดสินใครสักคน
เริ่มจาก "ทำไม"คงจะดีกว่า"อย่างไร"
เพราะสิ่งที่มองเห็นไม่แน่ว่ามีอยู่จริง
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่มี
สิ่งที่คิดว่าใช่อาจไม่ใช่
สิ่งที่ไม่คิดว่าใช่สำหรับคุณ
มันอาจใช่เลยสำหรับใครอีกคน"
"
๐ ให้ลมหายใจของใบไม้เป็นบันทึกคนกล่อง
คำเขียนของคนล้มลุกคลุกคลาน
แต่ยังมีลมหายใจเป็นของตัวเอง
แม้ไม่ใช่ทุกอย่างที่มีหากเป็นทุกอย่างที่เป็น
เก็บความว่างเปล่าไว้เติมเต็ม..
๐ ขอบคุณตัวละครทุกตัว
ทั้งที่มีอยู่จริงและที่ไม่มีตัวตน
ขอบคุณวันเวลา-ครูบา-อาจารย์
ที่สอนให้เก็บเกี่ยว ฝึกให้คิด สอนให้เขียน
๐ ขอบคุณเพื่อนเพื่อนชาวไซเบอร์
ที่กรุยทางให้สร้างสรรรค์บล็อคได้เท่าใจ
ขอบคุณทุกภาพงดงามจากบล็อกน้องญามี่
ขอบคุณ
https://www.thaipoem.com
ที่ให้เพลงประกอบเป็นอมตะนิรันดร์กาล
๐ ขอบคุณความเป็นเธอ..
ที่ส่งผ่านการ"ให้"มาเสมอฝัน
ขอบคุณความเป็นฉัน..
คนเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างวันมาถักทอ
'ปีฆรุ้ง
27 มกราคม 2553
Friends' blogs
Peakroong
Webmaster - BlogGang
[Add Peakroong's blog to your web]
Links
ร้านค้าออนไลน์
สโมสรสร้างสรรค์ทางเลือก
ทางด่วน
Facebook
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.