ตอนที่แล้ว จขบ.เล่าถึง "วัดมหาโพธิ์" หนึ่งในโปรแกรมทัวร์รถรางเมืองน่านนคร มาตอนนี้ก็ไปเที่ยวกันต่อค่ะมาน่านต้องนั่งรถรางแล้วคุณจะหลงรักเมืองน่าน โปรแกรมต่อไปรถรางจะมาแวะที่พิพิธภัณฑ์ชุมชนบ้านพระเกิด เป็นชุมชนเข้มแข็งที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองน่าน คิดดูว่ามีรถรางเป็นของตัวเองด้วยถือว่าไม่ธรรมดานะ
จากตัวเมืองน่านเดินทางมายังชุมชนนี้ไม่ไกลมากนัก พอรถรางมาถึงก็มีคนมาต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี
พวกเราเดินเข้าไปด้านในพิพิธภัณฑ์มีคนคอยแนะนำและเล่าประวัติเกี่ยวกับสิ่งของที่อยู่ในพิพิธภัทณ์แห่งนี้ด้วยเป็นกันเองมากๆ
อุปกรณ์หลายๆ ชิ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แทบจะไม่เคยเห็นเลยก็ว่าได้ ถือว่าที่นี่เก็บรวบรวมเครื่องไม้เครื่องมือในอดีตไว้เป็นอย่างดี
ถ้าคนรุ่นเก่าไม่เก็บรวบรวมไว้ คนรุ่นใหม่อย่างเราๆ ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นสิ่งเหล่านี้
ของเก่าบอกเล่าเรื่องราวเนอะ เอาล่ะชมชั้นหนึ่งไปแล้วขึ้นไปชั้นบนกันค่ะ
บริเวณชั้นสองมีห้องจัดแสดงพระพุทธรูปหลายปรางค์ ถัดจากห้องพระพุทธรูปก็มีข้าวของหลายๆ ชิ้นที่หายาก
จขบ.เดินมาหยุดที่อักษรชาวล้านนา ตอนแรกคิดว่าเป็นภาษามอญพม่าเสียอีกเห็นตัวเขียนคล้ายคลึงกัน
อักษรธรรมล้านนา (ตั๋วเมือง)
คนไทยแต่ละภาคมีอักษรเป็นของตนเองคือภาคกลางและภาคใต้มีอักษรแบบไทยสุโขทัย ส่วนภาคเหนือมีอักษรใช้ถึง 3 ภาษาคืออักษรธรรมล้านนา อักษรฝักขามและอักษรไทยนิเทศหรือขอมเมือง คนล้านนาเรียกตนเองว่าคนเมือง
อักษรที่คนเมืองใช้สืบทอดกันมาจนกระทั่งทุกวันนี้คืออักษรธรรมล้านนา เรียกตัวอักษรที่คนเมืองใช้ว่าตั๋วเมือง อักษรธรรมล้านนาใช้เขียนพระธรรมคำสั่งสอนและพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา มีจารึกฐานพระพุทธรูป ประวัติศาสตร์ โหราศาสตร์ กฏหมายมังศาสตร์ กฏหมายอาณาจักรหลักคำนครน่าน สัพพะองค์ความรู้แห่งตำรายาสมุนไพร นิทานพื้นบ้านและวรรณกรรมอันทรงคุณค่าของนักปราชญ์ล้านนา เช่น กาพท์ กลอน ค่าว บทซอต่างๆ เป็นต้น
ที่นี่คนดูแลให้ข้อมูลได้ดีมากเรียกว่ามีเวลาแวะมาที่นี่ท่านจะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ของเมืองน่านนคร
ที่ถ่ายทอดโดยคนดูแลที่นี่คือเค้าตั้งใจบอกเล่ามาเหมือนเล่ารุ่นต่อรุ่นให้เราเข้าใจที่มาของข้าวของเครื่องใช้แต่ละชิ้น
ตอนนี้ด้วยความที่พวกเรามากับรถรางได้เวลาไปต่อกันแล้วค่ะ
จากพิพิธภัณฑ์ไม่ไกลนักก็จะพบกับที่ท่องเที่ยวอีกที่เป็นบ้านเก่าที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมได้
แต่เสียดายที่พวกเราเวลาไม่พอที่จะแวะแล้วเลยต้องข้ามไปก่อน
บริเวณนี้ถือเป็นอีกโซนหนึ่งที่น่านเค้าจะฝังเสาไฟฟ้าลงดินถือว่าเป็นโปรเจคที่ดีมาก
เพราะเสาไฟฟ้ามันบังทัศนียภาพเมืองเค้าจึงมีแผนฝังลงดินทั้งหมด ไฮโซเนอะตั้งแต่เที่ยวมาเมืองนี้บริหารจัดการได้ดีมาก
บริเวณโซนธนาคารกสิกรไทยน่านนครเป็นโซนที่ฝังเสาไฟฟ้าลงดินหมดแล้ว
จึงทำให้โซนนี้ดูสวยงามสะอาดตามาก คิดดูแล้วกันว่ากรุงเทพมหานครยังทำไม่ได้เลยที่นี่ที่ไหน "น่านสินะ"
ขนาดสมเด็จพระเทพรัตนสุดายังมีบัตรประชาชนเป็นคนน่านเลยล่ะ มิน่าใครมาก็หลงรัก
พวกเราก็ได้นั่งรถรางสมใจโชคดีนะที่มาจองไว้ก่อนเลยได้รอบเช้าตามที่ตั้งใจถือว่าคุ้มมาก
ดังนั้นหากท่านได้มีโอกาสแวะมาน่านควรจะนั่งรถรางนะคะรับรองว่าไม่ผิดหวัง
ไฮไลท์สำคัญตู้โทรศัพท์กระซิบรักอันนี้อยู่หน้าศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเลยจ๊ะ
อย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกันนะคะ
รถรางใช้เวลาไม่เกินสามชั่วโมงพอจบตามโปรแกรมรถรางก็จะมาจอดที่เดิมที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
เอาล่ะได้เวลาออกจากเมืองกันแล้วพวกเราจะไปหอศิลป์ริมน่านกัน ติดตามต่อตอนหน้านะจ๊ะ