พฤษภาคม 2550

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
21
22
24
25
26
27
29
30
 
 
31 พฤษภาคม 2550
7 Days in Sydney ... Part 5


วันที่ 15-04-2007

วันนี้พวกเราคลำทางไปเมือง Newcastle เพื่อไป Port Stephens แต่เช้า มีแอบแวะถามทางชาวออสซี่ด้วย เพราะรถที่เช่ามาลืมใส่หนังสือแผนที่มาให้ แถมต้องแวะเติมน้ำมันกันสักหน่อย ที่ออสเตรเลียไม่มีเด็กปั๊ม ต้องเติมเองค่ะ พอเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปจ่ายเงิน..




ถึงแล้วค่ะ Port Stephens พวกเราจองเรือของ Moonshadow เพื่อไปดูปลาโลมาตอน 10 โมงเช้า ดูรายละเอียดได้ที่ //www.moonshadow.com.au/




อีก 10 นาทีจะถึงเวลานัด เรารีบวิ่งไปซื้อ Fish&Chip รองท้องกัน อร่อยสุด ๆ หน้ามืดตาลายด้วยความหิวเลยลืมถ่ายรูปมาฝาก ปลาทอดตัวใหญ่มาก ๆ



เรือ MoonShadow Cruises ที่เราจะโดยสาร ผู้ใหญ่ราคา $21.00 มีน้ำชากาแฟให้ชงดื่มเองตามใจชอบ







เรือออกจากท่าแล้ว ชมบรรยากาศโดยรอบกันก่อนนะคะ



ทุกคนใจจดใจจ่อกับปลาวาฬหรือปลาโลมาที่อาจจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ณ มุมใดมุมหนึ่งของทะเล



เริ่มเห็นปลาโลมาแล้วค่ะ ตอนนี้กดชัตเตอร์ไปหลายสิบรูปเชียวค่ะกว่าจะได้รูปสวยๆสัก 2-3 รูป

วันนี้เจอปลาโลมาว่ายโต้คลื่นเล่น เกือบ 10 ตัว ใช้เวลาดูประมาณ 1 ชั่วโมง กัปตันเรือ MoonShadow Cruises ใจดี ขับวนตรงจุดที่พบปลาโลมาได้ง่ายให้เรา 2 รอบ ไม่อย่างนั้นคงเห็นไม่เกิน 3 ตัว







อันนี้ภาพเรือที่คนเหมามาดูโลมา ลอยอยู่ตรงจุดใกล้ๆกัน





ขากลับ ท้ายเรือมีเปิดให้เข้าไปนั่งเล่นน้ำกันด้วย (ไม่รู้เรียกว่าอะไรค่ะ) มีคนบอกว่าดีมาก คล้ายๆ จากุซซี่ -.-" เอ...หรือว่าล่อฉลามก็ไม่รู้แฮะ ... อิอิ







กลับถึงท่าเรือแล้ว แวะถ่ายรูปเรือลำเล็กลำน้อยที่จอดเทียบท่าเป็นร้อยๆ ลำ



บรรยากาศของท่าเรือ Port Stephens ตอนเที่ยงๆ แม้อากาศจะร้อน แต่นักท่องเที่ยวก็เยอะมากค่ะ แวะหา Lobster ทานแต่ทางร้านบอกว่า Lobster ยังเดินทางมาไม่ถึง



เราแวะทานกลางวันกันแถว Anna Bay ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ไม่ค่อยมีร้านอาหาร ตอนแรกตั้งใจหา Lobster ทาน แต่ร้านซีฟู้ดแถวนั้นดันปิด



เราเปลี่ยนเป้าหมายจาก Lobster ไปลองอาหารไทยที่ต่างแดนดู

ร้านนี้รสชาติอาหารหวานมากค่ะ หวานเกือบทุกอย่าง แต่ดีที่ขอน้ำปลากับมะนาวได้ สงสัยผ่านการดัดแปลงรสชาติให้คุ้นลิ้นฝรั่งมากไป คนไทยเลยไม่ค่อย Happy



ต่อจากนั้นเรามุ่งหน้าไป Sand Dune ซึ่งเป็นของแปลกของเรา อันนี้ก็จองรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อตะลุยทรายของ MoonShadow ไว้เช่นกัน

ถึงแล้ว Sand Dune ทะเลทรายของแปลกของเรา ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมที่พัดพาเอาทรายขึ้นมาบนชายฝั่ง แล้วสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนทะเลทราย








มุ่งหน้าหารถของ MoonShadow ที่จองไว้ เพื่อไปเล่น Sandboard



การเล่น Sandboard คือนั่งกระดาน surfboard แล้วสไลด์ตัวลงมาตามเนินทรายที่สูงชัน



เขาให้เล่นได้ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่เดินขึ้นแค่ 3-4 รอบก็บ๊ายบายแล้วค่ะ เหนื่อยมากแต่สนุกดี

ความชันของเนินทรายที่เราเล่นกัน



หลังจากทุกคนเหนื่อยกับ Sand Dune กันถ้วนหน้าแล้ว เราก็บ๊ายบาย Sand Dune




เวลายังพอมี...ขากลับพวกเราก็เลยแวะ Oakvale Farm ที่เห็นป้ายอยู่ข้างทางตอนขาไป เพื่อดูโคอาล่ากับจิงโจ้กัน (ตอนนั้นลุ้นมากว่าจะมีโคอาล่าใหดูจริงมั้ย)



Oakvale Farm ... เป็นฟาร์มเล็กๆ ที่มีสัตว์หาดูได้ยากหลายชนิด เราไปถึงเกือบ 4 โมงเย็น มีเวลาดูสัตว์อีก 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนที่ฟาร์มจะปิด



ค่าเข้าคนละ 15 เหรียญ แต่ไปหลายคน เขาก็เลยลดให้เหลือคนละ 12 เหรียญ แถมอาหารสัตว์พวกธัญพืชให้อีกคนละห่อ (ดีจังเลย ... )

พอพวกเราเดินเข้าไป พวกแพะก็กรูเข้ามาขออาหารกันเพียบ แถมเดินตามใกล้ชิดตลอดงานตั้งแต่ต้นจนจบ



เราแวะไปดูโคอาล่ากันก่อนเพราะมีเวลาน้อย เดี๋ยวอดดู

ที่ฟาร์มนี้มีโคอาล่า 3 ตัว จับได้ ใกล้ชิดสุดๆ แล้วคาดว่าอุ้มได้ แต่ไม่มีใครกล้าอุ้ม (555)







เมื่อได้ถ่ายรูปกับโคอาล่าจนจุใจแล้ว เราก็ออกไปเดินดูสัตว์ต่างๆ ในฟาร์ม โดยมีแพะเจ้าเดิมเดินคลอเคลียขออาหารและเรียกร้องความสนใจตลอดทางและตลอดเวลา



เมื่อเราเดินผ่านกรงวอมแบท(มั้ง) กับหมูป่า เราก็เข้ามาในส่วนที่เป็นฟาร์มด้านใน



เมื่อเข้ามาด้านในฟาร์ม






ตอนนี้เราสะดุดตาดองกี้ก่อนเลย....น่ารักมากๆ



บรรยากาศภายในฟาร์ม เขาปล่อยให้พวก จิงโจ้ ม้า แพะ แกะ เป็ด ฯลฯ อยู่ด้วยกันตามธรรมชาติไม่มีกรงขัง







จิงโจ้....ที่นี่มีเป็นสิบเลย มีจิงโจ้แม่ลูกอ่อนด้วยค่ะ แต่ดูดุกว่าตัวอื่นเลยไม่มีใครกล้าป้อนอาหารใกล้ๆ เลยมีบางคนวางอาหารให้กินเองทั้งห่อเลย อ้างว่าสงสารที่มันมีลูกแต่ที่จริงคงกลัวมากกว่า ถ้าต้องป้อนโดยให้มันกินบนมือเรา




จิงโจ้อยู่แบบตามธรรมชาติมากๆ เราเลยได้เล่นด้วยอย่างใกล้ชิด

ตอนแรกกลัวๆ จิงโจ้เหมือนกัน แต่พอลองให้อาหารก็รู้สึกว่ามันน่ารัก เวลาขออาหารก็คล้ายๆ แมว มองอ้อนตาละห้อยเชียว

แล้วเค้าต้องกินจากมือเราด้วยนะคะ ถ้าทิ้งลงพื้นหญ้าเมื่อไหร่...จิงโจ้ไม่กินค่ะ แต่จะมีพวกแพะกับเป็ดมากินแทน





สัตว์ที่นี่มีเยอะเหมือนกัน





นอกจากจิงโจ้กับอาล่าแล้ว ที่นี่ยังมี อูฐ, กวาง, ม้า, สุนัขจิ้งจอก, นกชนิดต่าง ๆ 2-3ชนิด, นกกระจอกเทศ ฯลฯ แยกอยู่ในกรง







บรรยากาศ Oakvale Farm ยามเย็น มีนกยูง 2 ตัว มานั่งรอลาพวกเรา (คิดเอาเอง)




ตอนนี้เรากำลังกลับ Sydney แล้วค่ะ




หลังจากกลับมาถึงที่พัก พวกเราก็ออกมาทานอาหารเย็นกันแถวนั้น

แวะข้างทาง ถ่ายรูปร้านขายของเก่าที่เล็งมานาน จนมีคนแซวว่าไม่กลัวมีอะไรติดภาพมาเหรอ



ร้าน Canton อาหารที่นี่ อร่อย ถูก แล้วปริมาณก็เยอะมากๆ ค่ะ ที่นี่มีเป็ดย่างเป็นตัวๆ ขายกับหมูแดง ราคาอาหารโดยเฉลี่ยประมาณ 7 - 12 เหรียญ

พวกเราสั่งอาหารกันเยอะมาก เพราะข้าวหน้าไก่จานเดียวก็ใส่ไก่เกือบครึ่งตัวแล้วกินได้ 2 คนเลย (ตอนแรกไม่รู้ เลยสั่งอาหารคนละจาน มีจานกลางอีก 2 ) ราคาประมาณ 8 เหรียญเองค่ะ

เราสั่งอาหารเต็มโต๊ะแถมกินหมดทุกอย่าง จนฝรั่งโต๊ะข้างๆ มองแล้วมองอีก (ทริปนี้...เน้นกิน)



จบการเที่ยววันนี้แล้วค่ะ หลังจากอิ่มจนพุงกาง แวะเดินเล่นแถวนั้นอีกนิด เห็นผับชื่อ "ปาญาญ่า" ของคนไทยฝรั่งแน่นร้านจนนึกอิจฉา (อยากเปิดมั่ง)

พอขึ้นที่พัก หนุ่มๆ ไปเล่น dotA (อีกแล้ว) ส่วนสาว ๆ อาบน้ำนอนจ้า






Create Date : 31 พฤษภาคม 2550
Last Update : 3 มกราคม 2552 22:59:26 น.
Counter : 1938 Pageviews.

1 comments
  
อิจฉาจังได้ไปเที่ยวด้วย
โดย: woottank (woottank ) วันที่: 3 มิถุนายน 2550 เวลา:21:55:50 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ภาษาดาว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



"ภาษาดาว" ... เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนึง ที่ อ่าน-ถาม-ตอบกระทู้ อยู่ใน Pantip มาสิบกว่าปี

ถ้าถามว่าอนาคตอยากเป็นอะไร? เมื่อก่อนคงอยากเป็นนักเขียน อยากทำงานอิสระและได้ท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ แต่ด้วยเวลาและอะไรหลายๆอย่าง ทำให้ค่อยๆ ห่างวงการนี้ไป แต่ทุกวันนี้ก็ยังขยันอ่าน ขยันหาความรู้รอบตัวต่างๆ ใส่สมองอันน้อยนิดอยู่เสมอ

หวังว่าสักวันหนึ่ง...ไม่ว่าตอนนั้น เราจะอยู่ตรงจุดไหนหรือทำอะไรก็ตาม...เราก็ยังคงมีความสุขในแบบของเราเอง ในแบบ...ภาษาดาว