หลังจากที่รอกันมาน๊าน... นาน 6220 Classic ก็วางขายซักกะทีครับ รุ่นนี้เป็นที่สนใจกันมากทีเดียว เพราะเป็นอีกรุ่นที่ฟังก์ชั่นครบต่อการใช้งานทั่วไป เช่นเดียวกับ 6120 Classic เเต่ !! 6220 Classic ได้พัฒนาฟังก์ชั่นให้ทัดเทียมกลุ่ม Nseries ยิ่งขึ้น เช่น กล้อง 5 ล้านพิคเซลพร้อมแฟลชซีนอน (ถือว่าเป็นรุ่นที่มีซีนอนตัวเเรก ที่ไม่ใช่ N) , สามารถใช้งาน GPS ได้ เเละด้วยราคาที่เปิดตัวไม่สูงมากนัก จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าดันให้ดังที่สุดเลยล่ะ

ต้องขอขอบคุณพรีวิวจากคุณ petitel ครับ สามารถเรียกกิเลสได้มากทีเดียว

หน้ากล่องครับ สีสันสดใส

เปิดกล่องมาก็เจอกับอุปกรณ์หลายอย่าง ทั้งตัวเครื่อง แบต สายชารจ์แบตแบบพกพา สายต่อเข้ากับ TV และ small talk (แบบถูก)

กล่องใส่โทรศัพท์รุ่นนี้จะเป็นกล่องบางแบบเดี่ยวกับ
NK 6500 slide หรือ NK 6500 Classic ครับ
ส่วนชั้นที่สองก็จะใส่คู่มือการใช้งาน แผ่น CD Nokia PC Suit
ใบประกันตัวเครื่อง ฯลฯ รวมถึงสายซิงค์ข้อมูลมาให้ด้วย

มาดูตัวเครื่องกันเลยดีกว่า
ด้านท้ายจะมีช่อง mini USB, ช่องเสียบสายชารจ์แบต และช่องเสียบหูฟังแบบ 2.5mm ครับ

ด้านข้างซ้ายด้านบนจะเป็นปุ่มกดเข้าเมนู GPS ถัดมาด้านล่างเป็นช่องใส่ micro SD card ซึ่งที่แถมมาให้ในชุดเป็นแบบ 1GB ครับ

ด้านบนก็จะมีปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง และลำโพงครับ ดังใช้ได้เลยทีเดียว

ลำโพงสำหรับใช้ในการสนทนา กับลำโพงเสียงเรียกเข้านี่ คนละตัวกันครับ ในรูปด้านบนนี่มองไม่เห็นลำโพงเสียงเรียกเข้าครับ

ส่วนด้านข้างขวาด้านบนเป็นปุ่มปรับระดับเสียงสนทนา และด้านล่างคือปุ่มกดชัตเตอร์ในโหมดกล้องถ่ายรูปครับ

ด้านหลังแกะฝาหลังออกก็จะพบกับที่ใส่แบตและซิมครับ

ใส่แบต ใส่ซิมเสร็จก็มาลองเปิดตัวเครื่องดูกัน

รูปร่างหน้าตาในเมนูหน้าปกติเป็นอย่างนี้ครับ

มาดูโหมดกล้องถ่ายรูปบ้างดีกว่า เมื่อเข้าโหมดนี้หน้าจอจะถูกปรับให้เป็นแนวนอนโดยอัตโนมัติครับ

นี่คือรูปตัวอย่าที่ถ่ายจาก Nokia 6220 ตัวนี้ รูปนี้ไม่ได้ใช้ flash ครับ

เมื่ออยู่ในที่มีแสงน้อย เจ้ากล้องตัวนี้ก็มีไฟช่วยหาโฟกัสด้วยเหมือนกัน

และสามารถใช้ Flash Xenon ได้เหมือนกันรุ่นพี่ N82 เช่นกันครับ

จับมาเปรียบเทียบให้เห็นถึงความสวยงาม และความแตกต่างระหว่าง NK 6220 และ NK N82 กันครับ

เนื่องจากใช้ Theme คนละอันกัน เลยวัดความสว่างหน้าจอไม่ได้มากนักว่าตัวไหนจอสว่างกว่ากัน แต่ดูท่าทางแล้ว NK 6220 จะสว่างกว่านะครับ

อีกรูปกับ NK 6220

รูปนี้ N82

สรุปผมว่าถ้าพูดถึงเรื่องงานการประกอบและวัสดุที่ใช้ในการผลิต
N82 เหนือกว่าครับ เลยทำให้ราคาสูงกว่าตามไปด้วย แต่ช่วงนี้ N82
ราคาลงมาเหลือแถวๆ 15,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่คุ้มค่าน่าซื้อครับ

Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 7 ตุลาคม 2551 21:32:26 น.		2 comments
Counter : 1498 Pageviews.
Share Tweet