"ความเชื่อมั่นในตนเอง"และ"เชื่อข้อมูลได้อย่างไร"

ธรรมะวันอาทิตย์ช่อง ๗ สี

วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๒

มีคติธรรมที่สำคัญ ใน เรื่อง

สร้างความเชื่อมั่นในตนเอง



พระธรรมโกศาจารย์ (ศ.ดร.ประยูร ธมฺมจิตฺโต)

เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร,เจ้าคณะภาค 2

อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,

ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และ

คณะเลขานุการของคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช

...............................................

ในโอกาศเทศกาลขึ้นปีใหม่ ทางโลกจะมีการปิดงบบัญชี

ตัวเราเองก็ต้องปรับปรุงตนเองเพื่อรับศักราชใหม่ โดย

งด อบายมุข ๖ หรือ ทางสู่ความไม่ดี ได้แก่

ดื่มน้ำเมา ; เที่ยวกลางคืน ; เที่ยวดูการละเล่น ; เล่นการพนัน ;

คบคนชั่วเป็นมิตร และ เกียจคร้านการทำงาน

จะตัดสิ่งไม่ดีนี้ได้อย่างไร จะตัดได้ต้องมีความเชื่อมั่น

ในตนเอง ว่า ต้องทำได้

ถ้่้าขาด ก็จะเหมือนเดิม คือ ทำไม่ได้

ลูกช้างเมื่อเกิดมาควานช้างจะนำเชือกมาผูกที่ขาหลัง

ยึดไว้กับหมุด เพื่อไม่ให้เดินเผ่นผาน ไปไหน เมื่อช้างโตขึ้น

จะมีโปรแกรมไว้ในสมองตั้งแต่ยังเล็ก ว่าไม่สามารถไปไหน

เพียงเอาโซ่ไปผูกขาหลังไว้กับเสา ซึ่งถ้าช้างมีความเชื่อมั่น

ในตนเองว่าตนเองมีพลังในการลากซุงท่อนโต ๆ ได้ เพียง

เสาและโซ่ไม่สามารถต้านทานพลังตนเองได้

แต่เพราะช้างถูกโปรแกรมสมองตั้งแต่ยังตัวเล็ก ว่าถูก

ผูกกับหมุดแล้วจะไปไหนไม่ได้ เมื่อเป็นช้่างใหญ่แล้ว ถูกโซ่

รัดขาไว้กับเสา ก็จะยอมแพ้ คิดว่าไปไหนไม่ได้

มนุษย์เราก็เช่นกัน เพราะ ไม่มีความเชื่อมั่นในตนเอง

คิดว่า ทำดี ละความชั่ว ทำใจให้ผ่องใส เป็นเรื่องทำไม่ได้

ก็จะทำไม่ได้จริงๆ เหมือนช้างตัวใหญ่ถูกโซ่ผูกขาหลัง

แล้วยอมแพ้ไม่เดินไปไหน

จึงขอให้สาธุชนต้องเชื่อมั่นในตนเอง ต้องเชื่อว่าทำได้

ตั้งสัจจะ ว่าจะเริ่มชีวิตใหม่ด้วยการปรับปรุงตนเองสลัด

ความไม่ดี ออกไป ขอเป็นกำลังใจให้ทำความดีตลอดไป

ขอความสุขสวัสดี จงมีต่อสาธุชนทั้งหลาย



.........................................................................



"พระเทพวิสุทธิกวี"

ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาสวิหาร

และ

เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธ ศาสนาแห่งประเทศไทย

.........................................................................

มีคำถามจากทางบ้าน ว่า

ในโลกยุคข้อมูลไร้พรมแดนจะเชื่อข่าวสารที่ได้อย่างไร

ขอตอบคำถามว่า ข่าวสาร จะมีเท็จบ้างจริงบ้าง

ทางพุทธศาสนา มีสอนเรื่องการรับฟัง ไว้ ๒ แนวทาง คือ

๑.กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรง

วางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงาย

โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษก่อนเชื่อ

มีอยู่ ๑๐ ประการคือ

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา

อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา

อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ

อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา

อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา

อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา

อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล

อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน

อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้

อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน

เมื่อใด เห็นว่าเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล

เพื่อความสุข จึงเชื่อได้

๒.โพชฌงค์ ๗ คือ ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ คือ

สติ (สติสัมโพชฌงค์) มีสติรับฟังอย่างตั้งใจ

ธัมมวิจยะ (ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์) สืบค้นสิ่งที่ได้ฟังเพิ่มเติม

วิริยะ (วิริยสัมโพชฌงค์) ความพยายามสืบค้น

ปีติ (ปีติสัมโพชฌงค์) ความอิ่มใจในการสืบค้น

ปัสสัทธิ (ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์) ความสงบกายใจในการสืบค้น

สมาธิ (สมาธิสัมโพชฌงค์) ความมีใจตั้งมั่นในการสืบค้น

อุเบกขา (อุเบกขาสัมโพชฌงค์) ความมีใจเป็นกลาง

ตรวจไตร่ตรองด้วยใจเป็นธรรมเห็นตามเป็นจริง

โพชฌงค์ ๗ นี้ทำให้รู้จริงรู้ชัดตัดสินได้ไม่หลงกับ

กระแสข่าว

ประโยชน์ของโพชฌงค์ ยังมีประโยชน์ใช้ในการทำ

ให้หายจากป่วยไข้ได้

เมื่อพระพุทธองค์ทรงอาพาธ ก็ใช้การสวด โพชฌงค์นี้

ทำให้พระองค์หายจากอาพาธ

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทรงพระประชวร ทางศาสนา ก็ร่วมกันสวดโพชฌงค์ทั่ว

ประเทศเพื่อให้พระองค์ทรงหายจากประชวร

ในยุคโลกาภิวัฒน์ มีข้อมูลข่าวสารมากมายเข้ามาให้รับรู้

ต้องใช้กาลามสูตร และ โพชฌงค์ ๗ มาพิจารณาก่อนเชื่อ

จะได้ไม่หลงทาง โดยมีศึล ข้อ ๔ ไม่พูดเท็จร่วมด้วย

ขออนุโมทนา



หมายเหตุ ปัจจุบัน ช่อง ๗ สี งด การเปิดให้ดูย้อนหลังรายการได้

จึงต้องตื่นขึ้นมาดูฟังรายการสดเท่านั้น

ถ้าไม่สามารถตื่นได้ทัน ผมจะนำมาสรุปให้อ่านติดตามได้

Create Date : 20 ธันวาคม 2552		0 comments
Last Update : 20 ธันวาคม 2552 10:29:32 น.
Counter : 602 Pageviews.
Share Tweet