゚.:。゚☆ไม่เคยยอมแพ้ชีวิต...ไม่อยากคิดพึ่งพาใคร...สู้ไปด้วยตัวเอง☆゚.:。゚
Group Blog
 
 
มีนาคม 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 มีนาคม 2548
 
All Blogs
 

+++วันที่เติบโตมากับครอบครัว+++












การได้กลับมาอยู่กับครอบครัว เป็นความสุขที่ฉันรอคอยในช่วงนั้น แม้บ้านเราจะเล็กจิ๊ดเดียว ไม่ใช่บ้านตึกใหญ่โต เดินสักครึ่งนาทีก็กวาดพื้นที่ในบ้านได้หมด แต่มันเป็นบ้านเล็กที่ฉันอยากอยู่จริงๆ เพราะสิ่งที่ฉันคิดถึงที่สุดตอนนั้นคือ ความอบอุ่นที่ได้รับจากแม่แท้ๆของฉัน

บ้านที่ฉันอยู่มาตั้งกะเกิด เป็นบ้านไม้สองชั้น ติดคลองแคบๆ พวกเราเช่าเฉพาะชั้นล่างของบ้าน มีบันไดแยกตะหากของใครของมัน

บ้านเช่าตรงนั้นมันอบอุ่นตรงที่ บ้านหลังคาติดกันหลายๆหลัง มีเพื่อนบ้านอยู่ใกล้ๆ มาคุยเล่น ขึ้นลงบ้านของกันและกันได้ตลอดเวลา พึ่งพาอาศัยกัน เหมือนเป็นหมู่บ้านรวมญาติ แต่ก็น่ารำคาญในบางทีเหมือนกันแหละ

มีคลอง มีลานดิน เห็นธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เวลาฉันยังเล็กๆสักวัยอนุบาล น้ำคลองใสแจ๋ว เด็กกระโดดลงว่ายน้ำ...เล่นกันมาก จมน้ำตายโหงกันไปก็มี...ต้นไม้ริมน้ำ เรือพายขายก๋วยเตี๋ยว ขนมไทย โอเลี้ยง สารพัด พระพายเรือมารับบาตรตอนเช้า แม่เคยป้อนข้าวฉันกับพี่ ริมคลองตรงที่นั่งท่าน้ำ ทุกอย่างเป็นชีวิตง่ายๆที่ดูสงบ และฉันรักชีวิตแบบนั้น

โย้ว...กรูได้กลับมาอยู่กะพ่อแม่แล้วโว้ยยยย....ไม่ต้องอึดอัด เกรงใจลุงกับป้า เหมือนเวลาที่อยู่กับเค้าอีกต่อไปแล้ววว...

ตอนนี้รู้แล้ว...โตแล้ว...สามปีที่อยู่กะเค้าน่ะ...ไปๆมาๆเราไม่ใช่ลูกเค้าซะหน่อย...ไมต้องหลอกกันด้วยวะ...ยังติดใจไม่หาย...แต่ก็อ่ะนะ...ได้กลับมาบ้านแล้ว ช่างมันเหอะว่ะ...ลืมๆมันไปดีก่า

ตอนอยู่กะป้า บ้านป้ามีโทรศัพท์คุยกะเพื่อนได้ อยู่ที่นี่ต้องออกไปโทร.สาธารณะข้างนอกเวลาอยากเม้าท์...ต้องเสียกะตังค์ อยู่กะป้า วันหยุด บางทีโดนใช้ให้ไปซื้อข้าวให้นกที่เลี้ยงไว้ ที่สนามหลวง ได้ถเลถไลดูของที่ขายเยอะแยะ ไม่ก็นั่งจุ้มปุ๊กดูเค้าเล่นกล หลอกขายกุมารทองมั่ง ขายยาสารพัด อุ๊ย...มันก็สนุกไปคนละแบบเนอะ

ตอนอยู่ม.ศ 1-ม.ศ 3 เป็นชีวิตที่เป็นชีวิตจริงๆ พ่อเริ่มเช่าห้องที่อื่น ขยายธุรกิจหมอดูลายมือของแก แขกหมุนเวียนเปลี่ยนหน้ามากขึ้น แม่ทำอาหารขาย โดยมีฉันและพี่เป็นลูกมือ

ตีห้าครึ่ง พวกเราจะถูกปลุกให้แต่งตัว ออกไปซื้อเส้นขนมจีน เครื่องทำอาหารบางอย่างที่ซื้อได้เฉพาะตอนเช้าที่ตลาด ฉันกับพี่จะแวะกินโจ๊กเจ้าอร่อยหน้าวัดตะพานเกือบทุกเช้า ซื้อของเสร็จกลับมาช่วยแม่อีกนิดหน่อย ก็ขึ้นรถเมล์ไปโรงเรียน

บ้านฉันออกได้สองทางนี่ เดินไปทางหลังบ้านก็ไปขึ้นรถเมล์สาย 12 ที่หน้าโรงพักดินแดง ถ้าออกทางหน้าบ้าน ก็นั่งรถสองแถวฉึกนึง ไม่ก็เดินไปเรื่อยๆแล้วไปขึ้นรถเมล์สาย 72 ที่ตรงทางถนนพญาไท

เกิดมาอยู่บ้านกลางกรุง มีทางออกหลายทาง ทำให้ฉันได้เห็นอะไรต่ออะไรข้างทาง เยอะแยะไปหมด เพราะทางหน้าบ้านกับหลังบ้าน เป็นถนนคนละสายกัน รถเมล์วิ่งคนละเขตกันเลย แต่ฉันสามารถไปรร.ได้ที่ปลายทางเหมือนๆกัน

เพื่อนๆของฉันที่รร.นี้ ส่วนใหญ่เป็นพวกลูกคนรวย ลูกทหารในวัง คนดัง ไม่ก็พ่อแม่มีหน้าที่การงานดีๆ คนที่จะอยู่ในฐานะเดียวกับฉันมีน้อย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย

ฉันเรียนเสร็จ ต้องกลับมาบ้านเปลี่ยนมือกับแม่ที่ขายของ ให้แม่เข้ามานอนพักสักงีบ แล้วก็ไปซื้อกับข้าวตอนบ่ายสำหรับเตรียมของขายในวันรุ่งขึ้น ตอนเย็นๆก็เก็บร้าน ขนของใช้ที่ต้องกลับเอาไปล้างเข้าไปในบ้าน ตอนนั้นแม่เริ่มจ้างเด็กบ้านนอกมาช่วยงานด้วย แต่เวลาที่เด็กกลับบ้านไปทำนา พวกเราก็ต้องทำกันเองแบบเต็มที่

ฉันเริ่มเป็นสาวรุ่น เริ่มรู้จักอาย...จิ๊กโก๋ในซอยบ้านก็เยอะเหลือเกิน ไอ้ที่ดูเท่ห์ๆถูกตาถูกใจ แอบมองลอบชอบอยู่ในใจก็มี ทำไมฉันต้องมาเป็นแม่ค้าวะ...อายจิ๊บอ๋ายเรย...บางที

ตกกลางคืน เวลาที่แม่ทำกับข้าวเตรียมของขายสำหรับวันรุ่งขึ้น ฉันต้องทำหน้าที่ซักผ้าของคนในบ้านทั้งบ้าน ไม่มีเครื่องซักผ้าหรอกนะ...อย่าฝันไปเลย เพราะตอนนั้นน้องสาวยังเด็กเกินไปที่จะทำงานบ้านพวกนี้

พี่สาวฉันมันก็เอาแต่ดูหนังสือ ฟังวิทยุอยู่บนห้อง (เราขยับขยายเช่าบ้านชั้นสองด้วยแล้วตอนนั้น) บางทีมันขี้เกียจช่วยฉัน ฉันสงสารแม่ไม่อยากให้แม่ต้องเหนื่อยมาก ไหนจะทำอาหารงกๆ แล้วยังจะต้องมาปากเปียกปากแฉะบ่นเกี่ยวกับความขี้เกียจเรื่องทำงานบ้านของพี่สาวอีก ฉันเลยมักจะรับเป็นคนทำงานบ้านเอง มากกว่าที่พี่สาวฉันควรจะต้องเป็นคนทำ

สิ่งนี้ทำให้ฉันเป็นคนอดทน มาจนทุกวันนี้ ฉันเป็นคนไม่ค่อยกลัวความลำบาก เพราะตอนเด็กๆเราลำบากแล้วก็ไม่เห็นมันจะตาย ทำบ่อยๆเราก็เก่ง ทำเป็นมากกว่าคนอื่น ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน แต่ถ้าไม่ต้องทำ ได้อยู่สบายๆก็ดีกว่าแฮะ...อิอิ...

ฉันมานั่งนึกตอนนี้...ทำไมความทรงจำเกี่ยวกับน้องสาวของฉันไม่มีเลย ในช่วงนี้ ทั้งๆที่น้องสาวฉันก็อยู่ในบ้าน สงสัยจะเป็นเพราะมันไม่มีบทบาทอะไร กลางคืนก็นอนกับแม่ ในขณะที่ฉันกับพี่สาวนอนชั้นบน ฉันต้องยุ่งทั้งวัน ตั้งกะเช้าตรู่ยันดึก ฉันเลยคงจะไม่ได้มีเวลามานั่งเล่นคลุกคลีกับน้องสาวแน่ๆเลย

เรียนไปๆ...จนจบม.ศ 3 ฉันไม่คิดจะต่อม.ศ 4-ม.ศ 5 ฉันอยากเรียนจบเร็วๆ ทำงานเร็วๆ จึงเลือกเรียนสายอาชีวะและจบมาทางด้านบัญชี ส่วนพี่สาวฉัน น้องสาวฉันได้เรียนจบระดับปริญญาตรีทั้งคู่ พี่สาวฉันสอบเข้าธรรมศาสตร์ได้และเรียนจนสำเร็จ ให้พ่อแม่ได้ชื่นใจกับปริญญาใบแรกของลูกๆ ส่วนน้องสาวก็เรียนจบจากมหาวิทยาลัยหอการค้า มีโอกาสได้ไปเรียนต่อภาษาที่ออสเตรเลียอีก ในช่วงหนึ่งของชีวิตของเธอ

แม่ของฉันเลิกขายอาหารตอนที่ฉันเรียนจบม.ศ 3 แล้ว เพราะพ่อทำมาหากินกับอาชีพหมอดูได้อยู่ตัว มั่นคง และพัฒนาตัวเองด้วยการทำสำนักงานพยากรณ์ส่วนตัว มีกิจกรรมที่สมาคมมาเรื่อยๆจนกระทั่งถอนตัวออกมา เดี๋ยวนี้พ่อฉันมีสำนักงานของตัวเอง เป็นห้องเล็กๆ มีแขกประจำ มีลูกศิษย์ลูกหามาเรียนวิชากับพ่อ และพ่อยังเขียนหนังสือวิชาดูลายมือขายด้วยหลายรอบแล้ว ใครเคยรู้จักพ่อฉันบ้างไหม...เขาชื่อ...เสน่ห์ ชูกุล...ไงล่ะ

วัยเด็ก...วัยที่ฉันผ่านอะไรต่ออะไรมามากมาย ดูเหมือนเป็นนิยายชีวิตของฉัน จากบ้านไปอยู่อีกที่ แล้วได้กลับมาบ้านอีก ทำให้ความคิดและความทรงจำของฉันสับสนหลายครั้ง แต่สุดท้ายฉันก็ได้เติบโตมากับครอบครัวของฉัน เป็นสิ่งที่ฉันมีความสุขในชีวิตจริงๆ





 

Create Date : 05 มีนาคม 2548
6 comments
Last Update : 1 ตุลาคม 2548 22:23:42 น.
Counter : 2399 Pageviews.

 

ชอบสำนวนการเขียนของพี่อ่ะค่ะ

เขียนแล้วทำให้นึกภาพตามไปได้ด้วย

 

โดย: neaq 8 มีนาคม 2548 11:44:04 น.  

 

เข้ามาประทับใจครับ

 

โดย: Hiroki 31 กรกฎาคม 2548 19:37:43 น.  

 

โห สุดยอดเลยค่ะ ชีวิตพี่ปานเหรอคะเนี่ย sukoi ค่ะ

 

โดย: oliveoil (PoP eYe & OliVe ) 18 กันยายน 2548 0:26:43 น.  

 

พี่ปานเป็นนักเขียนได้เลยนะค่ะเนี่ย เขียนได้ดีมากๆ ประทับใจชีวิตพี่ปานค่ะ
บ้านพี่ปาน ต้องอยู่แถวโรงเรียนนู๋แน่เรย

 

โดย: MeTaBoLism 22 กันยายน 2548 10:08:15 น.  

 

 

โดย: มิ้น IP: 61.19.72.30 11 มิถุนายน 2550 12:09:40 น.  

 

มันยอดมาก

 

โดย: มิ้น IP: 61.19.72.30 11 มิถุนายน 2550 12:11:46 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปาน-Sapporo
Location :
Tokyo&Ibaraki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ฉันเคยแต่งงานกับคนญี่ปุ่น...สิบห้าปี...มีลูกที่แสนรักสองคน...มาบัดนี้...ฉันหย่าแล้ว...

ฉันยอมสละลูกๆไว้ให้เขา เพื่อเห็นแก่อนาคตอันมั่นคงของเด็กทั้งสอง แลกกับคำสบถและคำครหาต่างๆนานา ว่าฉันทิ้งลูก...ทิ้งครอบครัว...เพราะเราไม่สามารถใช้ชีวิตสามีภรรยาร่วมต่อกันไปได้...ในวิถีชีวิตอันแสนเก็บกด เคร่งเครียดของญี่ปุ่น...

บล็อกเก่าๆของฉันยังคงอยู่เหมือนเดิม เพื่อรำลึกถึงวันเก่าๆ...และจะเพิ่มเติมสิ่งใหม่ๆในชีวิตลงไป หากมีเวลา...สู้ต่อไป...กับชีวิตของฉัน...นี่แหละ...ปาน...ล่ะ...
Friends' blogs
[Add ปาน-Sapporo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.