EU เสือกไม่เข้าเรื่อง ไปจัดการบ้านเมืองแกโน่นไป
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพ วันนี้ (28 ส.ค.) ว่า ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่า กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) จะขอเข้ามาตรวจสอบการเลือกตั้งในประเทศไทย ที่จะมีขึ้นในเดือน ธ.ค. และจะขอทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ด้วย โดยจะส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยในปลายเดือน ก.ย.นี้
ประธาน กกต. กล่าวต่อว่า ประเด็นนี้ กกต.ยอมไม่ได้ เพราะจะทำให้ประเทศไทยเป็นเหมือนเมืองขึ้น อย่างไรก็ตาม ยินยอมที่จะให้เข้ามาสังเกตการณ์ได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายประเทศไทยเท่านั้น และจะไม่มีการทำเอ็มโอยูอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ว่า ใครจะมาอยู่เหนือกฎหมายของเรา หากทำเช่นนั้นก็เท่ากับว่าเราต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของเขา และการเข้าไปตรวจสอบที่ผ่านมา ขออียูก็ไม่ได้มีการทำเอ็มโอยูกับทุกประเทศ
"อยู่ ๆ จะเข้าไปในหน่วย ไปชะโงกดูในคูหาคงไม่ได้ ก่อนหน้านี้ กลุ่มอียูก็เคยทำอย่างนี้ในอินโดนีเซีย ตอนแรกบอกว่าจะเข้ามาไม่กี่สิบคน แต่สุดท้ายเข้ามา 250 คน ทำให้ทำงานลำบาก ส่วนของเรา เขาแจ้งว่า ต้องการเข้ามาถึง 250 คน ผมขอย้ำว่า หากจะมีคนมาตรวจสอบการเลือกตั้ง ก็ขอให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกด้วย แต่คนที่จะเข้ามาตรวจสอบ จะต้องอยู่ในขอบเขต" ประธาน กกต. กล่าว
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวเรื่องเดียวกันว่า ประธาน กกต. ได้หารือกับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ด้วย โดยนายกรัฐมนตรีไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำเอ็มโอยู เพราะหากไปทำสัญญาผูกมัด จะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก รวมทั้งอียูจะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทยด้วย
"เอ็มโอยูที่ทำ ตามปกติจะมี 2 ประเภท ประเภทแรก คือ เอ็มโอยูกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนประเภทที่ 2 ที่เลือกใช้กับไทย เป็นประเภทที่เรียกว่า ใช้กับประเทศที่ล้มเหลว (Fail State) เช่นเดียวกับที่ทำกับติมอร์ฯ" เลขาธิการ กกต. กล่าวและว่า เอ็มโอยูที่อียูจะทำ จะทำให้เจ้าหน้าที่ของอียูมีอำนาจอย่างมาก เช่น เข้าไปในหน่วยเลือกตั้งได้ ทั้งๆ ที่กฎหมายไทย ห้ามคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป สามารถติดต่อขอข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ทุกคน แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง สามารถแถลงข่าวในนามของตัวเองได้ เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ที่อียูจะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศไทย หากประเทศไทยให้สิทธิเช่นนี้กับกลุ่มอียูแล้ว ต้องให้สิทธิเช่นเดียวกันนี้กับประเทศอื่นด้วย
เลขาธิการ กกต. กล่าวด้วยว่า ได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลเรื่องบุคคลที่จะมาตรวจสอบการเลือกตั้ง เนื่องจากไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร เช่น การลงประชามติที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ อ้างว่ามาจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ติดต่อตรงไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัดสุรินทร์ เพื่อขอตรวจสอบการลงประชามติ ไม่ทราบว่ามีความต้องการอะไร เพราะหากต้องการตรวจสอบ ควรทำเรื่องผ่านมาที่ กกต. เพื่อให้เป็นไปตามระบบ ไม่ใช่ดำเนินการในลักษณะเช่นนี้
จากข่าวที่ได้ทราบความเสือกส่วนตัวของ EU กำลังดูถูกคนไทยอย่างรุนแรง มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเหล่าถึงได้ต้องการมาตรวจสอบ หน้าที่ตามกลุ่มของเขาคือ เรื่องการค้าในระหว่างภูมิภาคยุโรปของเขา แล้วมายุ่งอะไรกับ เอเซียและที่เมืองไทย มากไปแล้วมั่ง อย่าคิดว่าคนไทยจะยอมและตกเป็นเบื้องล่างพวกแก แค่นำระบบทุนนิยม เข้ามาเมืองไทยให้คนไทยได้ซิบหายกันไปแล้วกี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง เนี้ยเหรอ ที่บอกว่าหวังดีจะช่วยแต่สุดท้ายก็ขนเงินออกกลับไปบ้านมันอย่างหน้าไม่อาย จงกลับไปคิดใหม่เถอะนะ ว่าสิ่งที่ควรทำคืออะไร อย่ามายุ่งกับเมืองไทยให้มาก เราคนหนึ่งละจะไม่ยอมเด็ดขาด มันจะมากเกินไปละ มันคนละเรื่องกันจะค้าจะขายก็เข้ามา แต่อย่ามายุ่งเรื่องการเมือง อย่ามาชี้นำ นี้มันบ้านฉันไม่ใช่บ้านพวกแก
*** ความรู้เพิ่มเติม EU ประกอบไปด้วยประเทศในทวีปยุโรป 27 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี กรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ โปรตุเกส สเปน สวีเดน สหราชอาณาจักร ไซปรัส เช็ก เอสโตเนีย ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลตา โปแลนด์ สโลวีเนีย สโลวาเกีย โรมาเนียและบัลแกเรีย
Create Date : 28 สิงหาคม 2550 |
|
6 comments |
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 17:33:38 น. |
Counter : 556 Pageviews. |
|
|
|
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=tikamygdala&month=07-2007&date=24&group=10&gblog=82
ไม่รู้ว่าไอ้กลุ่มประเทศเวรนี่เคยขอเข้าไปสังเกตการณ์เลือกตั้งในจีนมั่งหรือเปล่า เสร่อจริงๆ ขอร่วมด้วยช่วยกัน
เราจำเป็นต้องค้าขายกับไอ้พวกเวรนี้ก็จริง แต่จะซื้อของก็ดูหน้าร้านกับสต็อก ไม่จำเป็นต้องเข้ามาดูของในห้องนอน ยิ่งอ่านข่าวอัพเดทนี้ ยิ่งโมโหโกรธา จ๊ากกกกกก....