~~# สำหรับนาย...นายถังขยะ..เพื่อนของฉัน #~~
*************************************

บทนำ : เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกที่แต่งยาวแบบนี้ค่ะ....
เนื่องด้วยเป็นเรื่องจริงเชิญทัศนา และติชมเจ้า....

****************************************************

เพื่อนของฉัน.... "นายถังขยะ" กี่ปีแล้วนะที่เรากะนายรู้จักกันมา ฉันว่ามันนานนานพอดู เพราะมันทำให้ฉันจำไม่ได้ นายคิดดูเอาเองละกัน แต่..ฉันว่าบางทีฉันอาจจะขี้ลืมเองก็ได้นะเนี่ย! ฮี่ๆ..

ย้อนหลังไปเมื่อหลายปีก่อน พวกเราเจอกันครั้งแรกที่สถานีรถไฟ ตอนที่เราจะไปดอยขุนตาล ที่ลำปางด้วยกัน หกหญิงสาว กะ ห้าชายหนุ่มที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย แต่ด้วยความหนึ่งแห่งมุ่งหมายเดียวกัน คือขุนเขานี้ ที่ทำให้เราได้พบกัน....

นายจำวันแรกที่พวกเราเจอกันได้ไหม.. ฉันยังจำได้ดี(แม้ขี้ลืม) เพราะมีผู้ชายคนหนึ่งไว้ผมยาวสลวย ซึ่งไม่ใช่นายแน่นอน ถือกีตาร์อยู่ เหมือนพวกฮิปปี้เลย กับเพื่อนอีกสี่คน ที่ดูยังไงก็ไม่ใช่แบบที่จินตนาการไว้ ถึงแม้บางคนอาจจะหน้าตาดูดีก็เถอะ และแน่นอนคนนั้นก็ไม่ใช่นายอีกเหมือนกัน..ฮี่ๆๆ ยังคิดภาวนาในใจอยู่เลยว่า สาธุ! อย่าให้เป็นกลุ่มนี้เลย.. สวรรค์ช่างเมตตา สิ่งใดอยากได้ท่านไม่เคยให้เสมอ สิ่งใดไม่อยากพบเจอท่านประทาน..

พอเพื่อนฉันมาแล้วแนะนำให้รู้จักกันเท่านั้นแหละ .. เฮ้อ! (แอบถอนหายใจผิดหวังนะ..ฮ่าๆๆ) แต่คนเราก็อย่างว่านั่นแหละเนาะ.. สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ สิ่งที่ใช่อาจไม่เห็น... ซึ่งก็ใช้ได้กับกลุ่มพวกนายจริงๆ เพราะหลังจากที่เราร้องเพลงเล่นกีตาร์บนรถไฟด้วยกันจนถึงดอยขุนตาล ความคุ้นเคยก็เริ่มก่อตัวขึ้น และแง่มุมของพวกนายที่แสดงออกก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นตามมา..

จนกระทั่งเราขึ้นดอยฯ กันนั่นแหละเนื้อแท้ของพวกนายก็เผยออกมา ซึ่งสิ่งนี้แหละที่ทำให้ฉันผูกพันกับพวกนายมาก.. ในกลุ่ม ณ ตอนนั้น ฉันจำนายได้คนแรกเลย เพราะนายเป็นคนตลกมาก หัวเราะก็ตลก และเวลาชอบใจ นายก็จะกระทืบเท้าด้วยหัวเราะด้วย ตาที่ไม่ค่อยจะเปิดเห็นโลกภายนอกอยู่แล้ว ก็ยิ่งเป็นเส้นตรงไปใหญ่.. ฉันกำลังคิดว่านายขี้เกียจเดินหรือเปล่า ทำเป็นกระทืบเท้ากระโดดเอาตอนขึ้นดอย..ฮ่าๆๆ

นายจำได้ไหม..เรื่องนมกล่อง ถ้าฉันจำไม่ผิดคิดว่าเป็นนายนี่แหละ.. มีน้ำใจมากเดินกันยังไม่ถึงจุดหมายเลย ครึ่งทางได้มั้ง ทำเป็นเอานมกล่องมาแจก.. ตอนกล่องแรกพวกเราซาบซึ้งในน้ำใจของนายมาก

แต่พอกล่องที่สองเริ่มมา ชักเอะใจ! ทำไมให้บ่อยนักนะ.. และแล้วความก็แตก เพราะนายขี้เกียจถือมันหนัก เหนื่อยก็เหนื่อยแถมยังแบกแต่ของหนักๆ ทั้งนั้นเลย เช่น นมสารพัดชนิด ปลากระป๋อง และอื่นๆ อีก .. พอไม่มีใครเอาก็ยัดเยียดให้ทานกัน มีแอบทิ้งด้วยนะฉันเห็น..

จนสุดท้ายนายเปิดกระเป๋าเลย อะไรที่คิดว่าไม่น่าทาน หรือเป็นประโยชน์น้อยที่สุด แต่หนักที่สุด เช่นนมข้นหวาน นายก็ทิ้ง แยม นายก็ทิ้ง อะไรอีกน้อ คิดไม่ออก.. แต่ทิ้งกันจนวันสุดท้ายที่เราลงจากดอยฯ จำได้ไหม ? ตรงน้ำตกอันแสนชุ่มฉ่ำ กับ ขนมปังหน้าปลากระป๋อง.. โฮะๆๆ ฉันคิดว่านายยังคงจำรสชาดของมันได้ดีแน่นอน..เอิ๊กส์..
เราเดินขึ้นดอยฯ กันไปเกือบ ยอ.(คิดว่ายอดดอยนะ แต่ที่ขุนตาลเขาเรียกเป็น ยอ 1-4 ) สุดท้าย เริ่มมีปัญหาเพราะเป็นทางแยก ถ้าไปตามแผนที่ก็ไกลอักโข แต่ถ้าไปทางลัดอาจใช้เวลาน้อยกว่า.. พวกเราเลยตัดสินใจใช้ทางลัดกัน.. มีพี่คนหนึ่งเคยขึ้นมาแต่เขาไม่แน่ใจในเส้นทางบอกให้ไปอีกทาง ส่วนฉันซึ่งไม่เคยมาที่นี่เลยบอกว่าความน่าจะเป็นต้องไปอีกทาง...

สรุปทุกคนเลือกเชื่อฉัน..ฮ่าๆๆ แล้วผลสุดท้ายก็อย่างที่นายรู้อยู่ "บ้านทุ่งหมาเมิน" นายคิดดูเองละกัน ขนาดหมายังเมิน ทำไมคนถึงดั้นด้นมากันละเนี่ย.. ยังเป็นที่นิยมเผาฉันในทุกกาลต่อมา..แฮะๆๆ

จนเราถึงที่หมายกัน พวกผู้ชายรวมทั้งนายด้วยก็จัดการทำหน้าที่ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานผู้ชาย เช่น กางเต้นท์ หาฟืน หรืองานผู้หญิง เช่น หุงข้าว ทำกับข้าว.. ส่วนพวกเรา รีบตะเกียกตะกายขึ้นไปสุดยอดของดอยขุนตาล.. ไปดูพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายรูปกัน ดูความมีน้ำใจของผู้หญิงเช่นพวกเรา..

และมีเรื่องขำอีกเรื่องที่จะกล่าวถึง ณ ที่นี้ไม่ได้ เรื่องอ้ายเรศไง.. บนดอยหนาวจะตายอยู่แล้ว พี่แก่ยังอยากอาบน้ำ คิดทีไรขำทุกที แถมนายก็รู้ทางเดินไปอาบน้ำมันใกล้ซะที่ไหน ไกลมากถึงมากที่สุด แล้วกลางคืนเดือนมืด กับ ความหนาวเหน็บและเย็นยะเยือก พี่แกไม่สน.. ขอให้ได้อาบน้ำ.. ห้ามปรามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง.. อ๊ะ! ตามสบาย..ฮ่าๆๆ

ที่ขำสุดๆ ก็ตอนที่แกนอน นอนที่ไหนไม่นอนอยากนอนในศาลา.. แล้วเป็นไง ? อุตส่าห์หอบสังขารไปอาบน้ำ กลิ่นหอมฉุยมา ม้านั่งที่แกนอนดันหักลงมาได้ ทำให้แกกลิ้งคลุกฝุ่นหลายตลบเลย..ฮ่าๆๆ โธ่เอ้ย! คนเรา.. ความแน่นอนคือสิ่งไม่แน่นอนจริงๆ..

นี่คือ จุดเริ่มต้น ที่ทำให้พวกเราได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุดจนถึงทุกวันนี้....และแน่นอนเมื่อเวลาเปลี่ยนอะไรๆ หลายอย่างก็เปลี่ยนแปรตามกาลเวลา ทุกคนเริ่มมีครอบครัวกัน นายจำได้ไหมในกลุ่มเรา ทุกคนบอกว่าฉันจะต้องได้แต่งงานก่อนเพื่อนแน่นอน.. จนถึงทุกวันนี้ก็อย่างที่นายรู้ฉันยังไม่มีแฟนเลย.. ฉันจะถือว่าเป็นความผิดของพวกนายที่สาปแช่งตัวฉันไว้..ฮึ่มๆๆ ..เพราะทุกคนแต่งงงานกันเกือบหมดแย้ววว...

และวันนี้ก็ถึงคิวของนายที่ต้อง "แต่งงาน" มีครอบครัวตัวเองซะที.. ตอนแรกที่นายโทรศัพท์มาบอก.. ฉันตื่นเต้นปนตกใจเล็กน้อยแถมใจหายด้วยหน่อย.. อะไรกันเนี่ย! ทิ้งฉันไปอีกคนละ แล้วต่อไปใครจะพาฉันตะลอนทัวร์ละเนี่ย..(ไม่ได้ห่วงนายเลย..อิ)

และถ้ากลุ่มเราจัดเที่ยวกันอีก ทุกคนก็จะพาครอบครัวของแต่ละคนไป เพราะเราสัญญากันไว้อย่างนั้น และเราก็ทำกันมาตลอด ต่อไปก็เป็นคิวทองของนายแล้วแหละที่จะได้พาครอบครัวนายไป จะได้ไม่ต้องมานั่งบ่นอิจฉาเพื่อนๆ ให้ฉันฟังอีก..ส่วนฉันสิ..เฮ้อ!~..ฮ่าๆๆ สบายมากฉันไม่มีขี้อิจฉาหรอก ถึงมีก็ไม่แสดงออกหรอกจะบอกให้...เหอๆๆ

ท้ายสุดสุดท้ายนี้.. ฉันขอให้นายเริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัวใหม่ของนายด้วยความผาสุข นิจนิรันดร์ ตลอดกาล ตลอดไป ถ้อยทีถ้อยอาศัย ใส่ใจให้กัน อย่าร้างลาความห่วงหาอาทรที่เคยมอบให้ต่อกัน ผิดนิดผิดหน่อยต้องปล่อยไป อย่าให้ใครมาทำลายความรู้สึกดีๆ ที่นายและแฟนนายได้ร่วมก่อ..เพราะนี่.."คือคนที่นายได้เลือกแล้ว"....

จาก..ฉันเพื่อนนาย..นายถังขยะ...(ตัวจิรง)


จากคุณ : pee_lee - [ 21 ส.ค. 45



Create Date : 21 มิถุนายน 2552
Last Update : 21 มิถุนายน 2552 2:02:49 น.
Counter : 497 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จิตเดิม
Location :
เชียงราย  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
30