Bloggang.com : pabsi_pab : Autumn in Shanghai (Part 2)

Autumn in Shanghai (Part 2)

6 Dec '07
ช่วงเช้ายังเที่ยวอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เริ่มกันที่ไปนวดฝ่าเท้าในสวรพฤกษชาติ แล้วระหว่างนั้นก้อจะมีคนมาพูดขายยาสมุนไพรจีนไปด้วย พี่ที่ไปด้วยกันในกรุ๊ปเสียตังซื้อยาไปเป็นหมื่น เพราะมีหมอจีนเดินเข้ามาดูขาแว้บเดียวก้อบอกถูกเลยว่าเป็นเบาหวาน เค้าเลยอึ้งว่าอะไรจะแม่นปานนั้นเพราะพี่เค้าเป็นเบาหวานรุนแรงแบบต้องฉีดยาวันละ 5 เข็มเลยอ่ะ..

พอตอนออกมากะถ่ายรูปในสวนเต็มที่ฝนดันตก..เซ็งเลย ได้มาแค่ shot เดียว เป็นต้นแปะก้วยสีเหลืองอ๋อย

แล้วต่อกันที่ตลาดหลงผัว..เอ้ยยหลงหัว เป็นร้านค้าห้องๆ คล้ายแพลตทินัม ที่นี่ต่อกันแบบแหลกสุดๆ เพราะมันเล่นบอกราคากนซีซั้ว มันบอกมาเท่าไหร่ต้องต่อเหลือซัก 20% ถ้ามันไม่โอ เราก้อทำท่าจะเดินหนีเด๋วก่อจะโดนลากไว้เอง

แต่นับถือคนขายของที่นี่จิง alert ตลอดเวลา ใช้พลังเยอะมากในการเรียกลูกค้า ขนาดเดินหนีไปตั้งไกลแล้วยังวิ่งมาตามให้กลับไป..สุดยอด และที่นี่เองกรุ๊ปเราที่ว่าคนน้อยๆ ก็ยังต้องตามแล้วตามอีกตั้งหลายรอบกว่าจะมากันครบ แล้วแต่ละคนก้อหอบของกันกลับมาพะรุงพะรังซ้า

จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองหังโจว เป็นเมืองเก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีน มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 2200 ปี และเป็นเมืองที่มีความงามหลากสีสัน สมกับที่เป็น The Best Tourism City of China ไปถึงก้อเย็นแล้ว เลยต้องรีบทำเวลาไปที่ เมืองจำลองซ่ง ได้ไปสัมผัสบรรยากาศสิ่งก่อสร้างเลียนแบบสมัยราชวงศ์ซ่ง ที่ได้จำลองเอาวิถีชีวิตของชาวจีนในสมัยโบราณมาไว้..ถ้าใครนึกบรรยากาศไม่ออกก้อประมาณภูเก็ตแฟนตาซีของบ้านเราอย่างนั้นเลย คุงสิง ไกด์ฮาแตกประจำกรุ๊ป ก็เล่าให้ฟังว่าเจ้าของภูเก็ตแฟนฯเค้ามาที่นี่และบอกจะกลับไปทำบ้าง (เออ..เอาจิงเว้ย..ง่ายดี) ทั้งบรรยากาศแล้วก้อโชว์ด้วย แต่ของซ่งเค้าทำดี น่าตื่นเต้นกว่าเยอะ มีทั้งยิงปืนใหญ่ ฝนตก เขื่อนแตก น้ำท่วม สมจริงมาก ไม่เชื่อดูได้จากรูป

จบโชว์ด้วยความประทับใจที่ได้รุว่านักแสดงสุดหล่อคนนั้นเป็นเกย์แน่ๆ (ดูได้จากท่าโบกมือ..โคตรนางสาวไทยเลยอ่ะ

) ก่อนไปนอนที่โรงแรมชื่อเป่ยยุ่ย (เราเรียกกันว่าเปื่อยยุ่ย..จำง่ายดี) ก้อแวะเดินเล่น ไปเจอร้านขายเสื้อหนาวแบบหนาๆ น่ารักดีได้มาตัวนึงราคารับได้ แล้วก้อซื้อผลไม้ที่ร้านขายผลไม้

7 Dec '07
ตอนเช้ากินข้าวเสร็จก่อนเดินทางไปตามที่ท่องเที่ยวต่างๆของหังโจว ก้อต้องขอถ่ายรูปกะต้นแปะก้วยสีเหลืองสวยที่หน้าโรงแรมก่อน เพราะถ่ายออกมาได้บรรยากาศแบบฝรั่งมั่กมั่ก ไม่เชื่อดูจากรูป..ไม่บอกไม่รุเลยนะเนี่ยว่าเมืองจีน

ไปศาลเจ้าและสุสานของท่านงักฮุย วีรบุรุษแห่งชาติ และจอมทัพผู้เกรียงไกร และทำให้เกิดตำนาน ปาท่องโก๋ ที่เล่ากันว่าเกิดจากความเกลียดชังของชาวบ้านที่มีต่อกังฉินที่ใส่ร้ายท่านงักฮุยจนถูกประหาร แต่ชาวบ้านทำไรไม่ได้เลยสาปแช่งโดยทำแป้งคู่กัน (คือ ข้าราชการกังฉิน กะ เมีย) ทอดในน้ำมันเดือดแล้วเอามาฉีกกินให้หายแค้นใจ

เดินข้ามถนนจากศาลเจ้างักฮุย ไปล่องเรือชมความงามของทะเลสาบซีหู (West Lake) ทะเลสาปใหญ่อันสวยงามและเป็นสัญลักษณ์ของเมือง พร้อมกับฟังเรื่องราวตำนาน นางพญางูขาว ที่ถูกขังไว้ในเจดีย์ เพราะมีรักต้องห้ามกับมนุษย์ ฟังแล้วซึ้ง

ลืมบอกว่าไปดู โคมไฟสามดวงทับแสงจันทร์น้ำลึก มาด้วย แถมตอบคำถามไกด์สุดฮาถูก ได้รางวัลเป็นผ้าพันคอมาอีก..เหอๆดีใจ

แล้วเดินทางไปไร่ชาเขียว หลงจิ่งฉา เป็นชาที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างหนึ่งของจีน ก้อไปนั่งชิม แล้วก้อดูเค้าชงชานั่นแหละ แล้วก้อพูดขายของ ตอนแรกนึกว่าจะให้ไปชมสวนชาซะอีก..แง่ง

แต่ตอนกลับก้อขอแว๊บไกด์ไปถ่ายรูปกะปั๊กสองคน ลองดูละกันเด้อ

เดินทางสู่เมืองอู๋ซี นมัสการพระใหญ่หลิงซาน เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่สูง 88 เมตร สูงที่สุดในประเทศจีน พร้อมชมการแสดงน้ำพุอันตระการตา

มีรูปอาหารแปลกประหลาดของเมืองหังโจวมาให้ดูกันด้วย
รูปร่างคล้ายเปาสีน้ำตาล (น่าจะเกิดจากใบชานะ) เสิร์ฟพร้อมผัดคล้ายผัดกระเพราหมูใส่ถั่วฝักยาว แต่ไม่มีใบกระเพรานะ ถ้าเราพลิกก้นซาลาเปาขึ้นมามันจะเป็นหลุม สำหรับใส่ไส้ แปลกดี..ดูได้จากรูปนะ