Bloggang.com : pabsi_pab : My First EuroTrip (Finale)

My First EuroTrip (Finale)

28-06-07
วันนี้แล้วสินะที่ต้องกลับบ้าน แต่กว่าจะออกจากที่นี่ก็คง 6 โมงเย็นเพราะต้องไปเที่ยวในมิวนิคก่อน

เริ่มเช้าวันใหม่ตอน 6 โมง แล้วก็ลงไปกินข้าวเช้าซึ่งคนเยอะมากๆ อาหารก็ไม่ค่อยมีไรให้รัปทานเลยอ่ะ เลยกิน cornflake ใส่ cold milk ตามด้วยน้ำส้ม โดยไม่ทันได้ยั้งคิดว่ามันจะกระตุ้นลำไส้..จ๊าก!!

ซักพักเริ่มรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วน แต่ต้องออกเที่ยวตลอด แล้วชั้นจะได้นั่งสบายๆ มั้ยเนี่ย..เอาวะเก็บไว้มาออกที่บ้านก็ได้ น่าจะดีกว่า

จบเรื่องท้องไส้ไว้ก่อน..เราออกจากโรงแรม 9 โมง เพื่อเข้า Munchen (มิวนิค) แปลว่า monk เมืองของพระ ซึ่งเป็นผู้ปกครองเมืองในสมัยก่อน..ถึงตอน 10.30 ตัวเมืองและตึกดูทันสมัยกว่า Austria & Czech สมกะเป็นเมืองแห่ง technology ถึงจะสวยไม่เท่าก็เหอะ

ขอพูดถึงระหว่างทางจากออสเตรียเข้ามิวนิคนิดนึง ยายไกด์ (วันนี้พูดมากเป็นพิเศษ) บอกว่าวิว 2 ข้างทางที่เป็นบ้านตามไหล่เขาไล่ขึ้นไปถึงด้านบนยอดเขา จะเหมือนกะในสวิสเลย ยิ่งถ้าหน้าหนาวหิมะตกยิ่งสวย

กลับมาที่มิวนิคต่อ เรานั่งรถผ่านตึก BMW..The Ultimate Driving Machine..ด้วย รีบถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกทันที เค้ามี BMW museum ด้วย แต่คงต้องเสียเงินยายไกด์เลยไม่พาไป

So พวกเราเลยเดินเล่นที่บริเวณ Olympic Park ที่มิวนิคเป็นเจ้าภาพปี 1972 และก็แวะเข้าไปในร้านขายของที่ระลึกของบาร์เยิร์น

แพงสุดๆ เลยได้แต่หยิบๆจับๆ แล้วเดินออกมา

จากนั้นแวะไปถ่ายรูปที่ด้านนอก (ตามเคย) ของพระราชวัง "นิมเฟนเบิร์ก" ซึ่งเค้ากำลังก่อสร้าง..เซ็งจิง ไปไหนก็ต้องมีเติมนู่นแต่งนี่ เลยไม่ได้แบบสวยเต็มที่ซะที..จุดนี้ใช้เวลาไม่นานเพราะไม่ค่อยมีไร

ได้เวลาอาหารกลางวันที่ร้านอาหารจีน อาหารก็งั้นๆ กินไปนิดหน่อย แต่ melon หวานอร่อยมากๆ..ปกติไม่กินนะเนี่ย

ช่วงบ่ายไปเดินเล่นที่ "จตุรัสมาเรียน" เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการเก่าของมิวนิค และวิหารแม่พระที่มียอดโดมเป็นทรงหัวหอม สัญลักษณ์สำคัญของเมือง และยังเป็นย่าน shopping อีกด้วย..เริ่มเดินเล่นไปเรื่อย มี cherry ขายเต็มไปหมด เลยแวะซื้อกลับบ้านโลละ 5 ยูโร หร่อยดี แต่ที่ Salzberg หร่อยกว่า เพราะมันโลละตั้ง 12 ยูโร..ซื้อเส็จก็เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ เพื่อจะหาเบียร์ไปฝากไอ้เพื่อนก้อง เพื่อนล่า กะพี่โบ้ท แต่มันไม่มีแบบ can เลยอ่ะ มีแต่แบบขวด ซึ่งกลัวแตก..งั้นไม่ต้องเอาละกันนะ

ไป subway ถ่ายรูปดีกว่า..รถไฟเค้ามาต่อกัน แบบคันนี้ไปปั๊บอีกคันก็มาเลยอ่ะ น่ากลัวชนกัน..แต่ข้างล่างนี่เหม๊น อากาศไม่ระบาย..บ้านเราดีกว่าอีก

เดินเยอะแล้วอ่ะ..เหนื่อย

แวะกินไอติมกะ bakery ร้านที่คนเยอะๆตรงนั้นดีกว่า

ซื้อ chocolate cake มาฝากน้องรักด้วย ไม่รู้จะเละรึยังตอนนี้ เพราะหอบขึ้นเครื่องมาสมบุกสมบันมาก

นั่งพักได้ซักแป๊บก็ไปหาที่เดินต่อ ไปเจอตลาดสดขายพวกผักผลไม้ ไส้กรอก ชีส เดินถ่ายรูปไปเรื่อยก็ได้เวลานัดเพื่ออกเดินทางไปสนามบินมิวนิคและ

ระหว่างทางก็ผ่าน Alliance Arena ที่ใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006..เสียดาย อยากเข้าไปดู

check in ไรเสร็จเรีบร้อยก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ของฝากอีก 2 คน เลยแวะร้านของที่ระลึกใน airport นั่นแหละ ได้มาแล้วเป็นแก้วน้ำจะได้ใช้งานได้ด้วย

ซักพักก็ได้เวลาขึ้นเครื่อง 3 ทุ่มครึ่ง take off ที่นั่งเป็นรุ่นใหม่ มีหน้าจอส่วนตัวด้วย เลือกดูหนังฟังเพลงได้ตามใจชอบ เลยดูไปตั้ง 2 เรื่อง Night at the museum กะ Bridge to terabethia กว่าจะนอนเลยตั้งตี 2 นอนก็ไม่ค่อยหลับ อึดอัด

ส่วนเรื่องอาหาร flight นี้ ไม่ขอบรรยาย เพราะไม่อร่อยสุดยอด เราบอกว่า no beef แต่มันดันเอา vegetarian มาให้กิน ใครจะกินลงเนี่ยมีแต่ผัก

เลยตั้งใจไว้ว่ามื้อหน้าจะขอแบบธรรมดา ยัยแอร์ก็ทำหน้าไม่พอใจอีก...เซ็งพวกแอร์การบินไทยชะมัด ไม่ไหวจิงๆ กะคนไทยมันจะไม่ค่อยเต็มใจบริการ แต่ถ้าเป็นฝรั่งนี่ แม่งงแทบจะถวายให้เลย..รมเสียว่ะ

สรุปว่า trip นี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ คงหวังไว้มากไป วิวก็สวยดีชอบ อากาศก็หนาวแบบที่ต้องการ แต่ไม่รู้เพราะไรมันถึงไม่ค่อยหนุก เพราะไกด์อ่ะอย่างนึง อ้อ..คงเพราะเดินเยอะไปด้วยมั้ง เมื่อย สงสารน้องตาปลา

สรุปอีกทีว่าชอบ US มากที่สุด เพราะได้คลุกวงใน รู้ culture เค้าจิงๆ ไม่ใช่ผิวๆ รีบๆ แบบนี้

However, it's a memorable experiance..once in a lifetime.

---THE END ---

Create Date : 11 ธันวาคม 2550

Last Update : 11 ธันวาคม 2550 23:23:39 น.

0 comments

Counter : 703 Pageviews.