ใครคนนั้นที่ฉันเฝ้าฝันจะเจอ
เธอคนนั้นจะได้พบกันวันไหน
ช่วยปลดปล่อยความเหงาไปจากหัวใจ
หวังเพียงจะพบใคร ให้ใจได้ลืม ความเหงาซะที

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมนะค่ะ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 

คุ ณ ช า ย สุ ด ป ล า ย จ วั ก (๒)

บทที่ 1 เปิดเรียน

ในเช้าของการเปิดเรียน มีพี่ๆจากคณะต่างๆออกมายืนรอรับน้องๆอยู่ที่ประตูทางเข้าด้านต่างๆของมหาวิทยาลัยพร้อมทั้งชูป้ายคณะของตัวเอง บางคณะก็ทำเก๋โดยการปั่นจักรยานและประกาศให้น้องๆไปรวมตัวกันได้ที่ไหน และทางเข้าแต่ละทางก็มีการตั้งโต๊ะประชาสัมพันธ์อยู่ เพื่อว่าน้องใหม่คนไหนจะหลงทาง

“ดรีม ดรีม” เจ้ายารีส คันเล็กสีดำสนิท จอดลงข้างๆเจ้าของร่างท้วม

“อ้าว แพมนั่นเอง โอ้โห ไม่เจอไม่กี่วัน คุณหญิงแม่ถอยป้ายแดงมาให้เลยเหรอ”

“อ่ะแน่นอน วันนี้เปิดเรียนวันแรก แม่เลยให้เราเอามาลองขับก่อนหนะ”

“โอ้โห ต่อไปก็ไม่ต้องใช้บริการ นายยศ แล้วสิเนี่ย”

“มาๆ ขึ้นมาก่อน เดียวเราไปส่งที่คณะ เร็วๆน่า เนี่ยรถคันหลังไล่แล้ว”

ว่าแล้วสาวร่างท้วมก็เปิดขึ้นไปนั่งข้างคนขับ เจ้าของรถใช้ความเร็วไม่มาก ในการบังคับเจ้ายารีสป้ายแดง แล่นไปตามทางในมหาวิทยาลัย
เอี๊ยดดดดด................

“เฮ้ย แพม แกเป็นไรไป”

“ดรีม ผู้ชายคนนั้น”

ที่หน้าตึกคณะศิลปกรรม รถเบนซ์ E 200 Kompressor คันหรู จอดเทียบกับบันไดตึก ชายหนุ่มรูปร่างสูงมาดเซอแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษา ก้าวลงมาจากทางด้านหลัง
‘ผู้ชายคนนั้นหนิหน่า ว้าววันนี้ทำไม มาในมาดคุณชายจัง ดูสิเนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย ไม่มีคราบของเด็กศิลปกรรมเลย เฮ้ย เค้าเรียนคณะเดียวกับเราเหรอ????’

“แพม แพม แกเป็นไรไป เฮ้ย นี่ๆออกรถเร็ว คันหลังบีปแตรไล่แล้ว แพม”

“อะไรนะ ดรีมว่าไงนะ”

“ออกรถก่อนเร็ว คันหลังบีบแตรไล่แล้ว”

“อ่ะ จ้ะ” ว่าแล้วหญิงสาวเจ้าของรถก็ขับรถออกไป ด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กๆ ‘ต้องรู้ให้ได้เลยว่า เค้าคนนั้นเรียนอยู่ภาคไหน คอยดู ฉันจะต้องตามล่าหาความจริงให้ได้เลย’

“ดรีม แกลงตรงนี้ได้มะ เผอิญเราเพิ่งนึกได้ว่าต้องเข้าไปรายงานตัวตอนเช้าหนะ”

“อ้าว แล้วทำไมแกเพิ่งมาบอก โธ่ อุตส่าห์ดีใจที่มีราชรถไปเกยถึงหน้าคณะ”

“เอาเป็นว่าเราขอโทษแล้วกันนะ ยังไงดรีมลงตรงนี้นะ” ว่าพลางเอารถจอดลงข้างทาง

“อ่ะจ้ะๆ ยังไงก็ขอบใจนะแพม ไว้เจอกัน”

หลังจากทิ้งเพื่อนสาวลงกลางทางแล้ว หญิงสาวก็วนรถกลับไปทางคณะตัวเอง

‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าขา ภาวนานะเจ้าค่ะ อย่าให้พ่อหนุ่มรูปงาม คนนั้นรีบไปไหนเลยนะ’ ใช้เวลาไม่นานยารีสก็มาจอดที่ลานจอดรถที่คณะศิลปกรรม หญิงสาวพยายามหาที่จอดใกล้ๆกับทางเข้าตึก แต่เวลานี้ที่จอดก็เต็มไปด้วยรถ

‘เบนซ์ Kompressor คันนั้นอยู่ไหนแล้วนะ’ ขับวนอยู่นาน ก็ยังหาทั้งที่จอด และรถคันนั้นไม่เจอ หญิงสาวเริ่มท้อ

‘จะเข้าเรียนอยู่แล้วยังหาที่จอดไม่ได้เลย วันแรกก็สายซะแล้วเหรอเนี่ย’

และโชคก็เข้าข้าง เมื่อ มีรถ 1 คัน กำลังถอยออกจากที่จอด หญิงสาวพาเจ้ายารีสเข้าไปจอดแทนที หลังจากจอดเสร็จหญิงสาวก็รีบไปเรียน

‘704 ห้อง 704 ไปทางไหนเนี่ย โอ้ย จะบ้าตาย วันแรกก็สายซะงั้นอ่ะ’

หลังจากที่เสียเวลาหาห้องอยู่นาน หญิงสาวก็พาร่างตัวเองมาถึง 704 ‘ดีนะไม่เป็นลมไปซะก่อน โอ้ย หิวข้าวจริงๆเลย’

ภายในห้องเรียน มีนักศึกษาอยู่ไม่กี่สิบชีวิต อาจารย์ที่สอนอยู่ด้านหน้าก็กำลัง
แนะนำวิชาเรียน และ ก็เริ่มให้สั่งงานนักศึกษา

“แพม แพม ทางนี้” แจนซึ่งนั่งอยู่กลางห้องกวักมือเรียก
“เฮ้ยกว่าจะมาถึง เหนื่อยจริงๆเลย แจนมาถึงนานยัง”

“สักพักแล้วหละ อาจารย์สั่งให้ทำรายงานแล้วนะ นั่น
สั่งอยู่บนกระดาน แล้วก็กำหนดส่ง คราวหน้า”

“โอ้โห มาวันแรกก็สั่งงานเลยเหรอ ไม่ไหว ไม่ไหว”

“ไม่ยากหรอกแพม เนี่ย แพมก็แค่ไปหา รูปแล้วก็อธิบายด้วยว่าเป็นศิลปแบบไหน ใครเป็นคนวาด แล้วก็วาดเมื่อไหร่”

“เหรอ อืมก็ไม่ยากมากหนิเนอะ”


ที่คณะมนุษย์ศาสตร์

“ดรีม ดรีม เฮ้ย เดินเร็วจังเกือบเดินตามไม่ทันแล้ว”

“หวัดดีฝน เป็นไงบ้าง”

“เราอ่ะ เดินตามดรีมมาตั้งนาน จะเรียกก็ไม่กล้า
อายคนอื่นเค้า”

“เหอะๆ จะอายทำไม เรายังไม่เห็นอายเลย”

“อ้าวก็ดรีมไม่อาย แต่เราอายนะ”

ว่าแล้วสองสาวก็เดินก็ไปที่ห้องเรียน วันนี้วันแรก วิชาที่เรียนคือภาษาอังกฤษ อาจารย์ที่เข้าสอน เป็นผู้หญิงตัวเล็กผมซอยสั้น ก็เข้ามาสอนภาษาอังกฤษชนิดที่ว่าทั้งชั่วโมง พูดแต่ภาษาอังกฤษจนไฟแลบจนฝนที่นั่งเรียนอยู่เกิดความท้อใจ

“ดรีม ทำไมอาจารย์ไม่พูดภาษาไทยเลยก็ไม่รู้นะ ดูแล้วก็ดูเป็นคนไทยดีอยู่หรอก”

“ไม่รู้สิ เดี๋ยวคงพูดบ้างละ เชื่อสิ”

“เฮ้ยท้อใจ”

นั่งเรียนไปจนหมดคาบเรียน สองสาวก็พากันเดินทางไปทางโรงอาหารของตึกรวม วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก ทำให้มีคนจำนวนมากเต็มโรงอาหาร กว่าจะหาที่นั่งได้ก็เสียเวลาไปมากที่เดียว

“รู้งี้เรานัดกิ่งไว้ที่โรงอาหารคณะก็ดีหละ ดูสิกว่าจะหาที่นั่งได้”

“ดรีมเนี่ย บ่นเป็นยัยแก่ไปแล้ว ระวังจะแก่เร็วไม่รู้ด้วยนะ”

ที่โรงอาหารคณะศิลปกรรมศาสตร์

“แพม เป็นไรไป มองอะไรอยู่เหรอ”

“อ่ะ เปล่าหนิ”

“เปล่าอะไร เราเห็นแพม นั่งมองไปทางนั้นตั้งนานแล้วนะ”

“ไม่มีอะไรจริงๆนะ”

“ฉันว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆเลยไม่งั้นแกคงไม่นั่งมองไปอย่างงั้นหรอก” ว่าแล้วหญิงสาวก็หันไปมองทางที่เพื่อนสาวของตัวนั่งมอง

“อ๋อ กลุ่มเทพบุตรแฟชั่น นั้นเอง”

“อ่ะ อะไรคือเทพบุตรแฟชั่นเหรอ”

“อ้าว ก็กลุ่มที่แพมนั่งมองอยู่ไง ผู้ชายตรงกลางที่ดูไฮโซนะ ชื่อพี่โจ เรียนอยู่ภาคแฟชั่นสิ่งทอ บ้านพี่โจรวยมาก ขอบอก ส่วนทางด้านซ้ายมือ ชื่อพี่รุจน์ อีกคนด้านขาวมือที่ตัวดำๆชื่อพี่เก่ง พี่ๆเค้าเรียนภาคเดียวกันหมดเลย”

“โอ้โห ทำไมปิ่นรู้ข้อมูลของพวกพี่ๆเยอะจัง”

“อ้าว แพมยังไม่รู้อะไร ยัยปิ่นเนี่ย เค้าหูตากว้างไกล ถ้ามีลง อบต.คราวหน้า แจนจะจับยังปิ่นไปลง”

‘ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อและข้อมูลบางส่วนของเทพบุตรมาดเซอแล้ว ยังไงก็ขอให้ได้มองไปมากกว่านี้อีกสักนิดก็ยังดีนะ’

“แหม ยัยแจนเกินย่ะหล่อน ฉันก็แค่รู้พื้นๆเท่านั่นเอง ดรีม เอาอีกละ นั่งฝันอะไรอีก ฝันเข้าไปนะ”

“แหม คนเรา ของอย่างงี้มันก็ขอฝันสักหน่อยบ้างหละ จริงมะเจน”

“ระวังนะแพม เดี๋ยวฝันจะสลายเอาตรงหน้า”

“ทำไมหละ”

“ก็กลุ่มนี้เค้ามีแฟนคลับเป็นของตัวเองอยู่นะ ระวังพวกแฟนคลับเค้าจะมาหาเรื่องด้วยหละ”

“จริงดิ ทำเหมือนเอฟ4 เลยเนอะ นี่ถ้ามีอีกคนโผล่เข้ามา ฉันนึกว่าเป็นเหมือนให้เรื่อง เอฟ4 แล้วนะเนี่ย”

“ก็คล้ายๆอย่างนั้นนะ ตอนแรกกลุ่มนี้ก็มีกันอยู่ 4 คนหรอก แต่ว่าอีกคนย้ายไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสแล้วสิ ก็เลยเหลือแค่ 3”

“เออ แจนเราเห็นด้วยนะที่ว่าลงเลือก อบต.คราวหน้าจะเอายัยปิ่นลง นี่ขนาดเพิ่งมาเธอยังข้อมูลแน่นขนาดนี้เลย นี่ถ้าอยู่ๆไป ปิ่นมันคงรู้จักครอบครัวของพวกนักการหมดเลยมั้งเนี่ย”

“ไม่ถึงขนาดนั่นหรอก ฉันจะไล่ให้ฟังที่ละคนนะ พี่รุจน์เนี่ยตอนนี้กำลังจะคบกับเด็ก ปี1 ภาคเราอยู่ ได้ข่าวมาว่ารู้จักกันตอนรับน้อง แล้วพี่รุจน์แกก็ใช้อำนาจเล็กน้อย ให้ได้เป็นพี่รหัสน้องคนนี้ ส่วนพี่เก่ง อันนี้ไม่แน่ใจนะ แต่ก็ว่าคบๆกับสาวมนุษย์ศาสตร์ ภาคการโรงแรมอยู่ แต่พี่โจเนี่ย ข่าวคอนเฟิร์ม มาว่าโสด100%”

‘กรี๊ด อยากจะกรี๊ดดังๆ พี่โจยังโสดอยู่เหรอ อย่างงี้ฉันก็ยังมีสิทธิ์นะสิ ดีใจจริงๆเลย ^o^ ‘

“แพม แกนั่งฟังยัยปิ่นเพลินอีกละ สนใจพี่โจอยู่อ่ะดิ เรารู้นะ”

“เฮ้ย ไม่ใช่นะ”

“อย่าเลย แจนดูตาก็รู้แล้ว มาๆ เดี๋ยวเพื่อนๆจัดให้”

ก่อนที่แจนจะคิดทำอะไรไปมากกว่านี้ เสียงออดก็ดังขึ้น

“แจน ดรีม วันนี้มีประชุมเชียร์หนิ แล้วเดียวพี่เค้าจะบอกเรื่องพี่รหัสด้วยรีบๆไปกันเหอะ”

ว่าแล้วทั้งสามก็เดินไปยังอาคารกีฬาอเนกประสงค์ของคณะ ตัวตึกเป็นอาคารชั้นเดียว หลังคาเป็นมุม 8 เหลี่ยม เมื่อเดินเข้าไปด้านซ้ายเป็นห้องเรียนลีลาศ ด้านขวามือเป็นบันไดทางขึ้นไปยังที่นั่งดูกีฬา ด้านข้างทั้งสองด้าน เป็นแป้นบาสอัตโนมัติ บางทีตรงส่วนกลางนอกจากจะใช้เป็นสนามบาสแล้ว ก็ใช้เป็นที่สนามแข่งแบด ตอนนี้ น้องๆปี 1 ร้อยกว่าชีวิตก็ทยอยกันมาหาที่นั่ง หลังจากที่หาที่นั่งกันได้แล้ว พวกรุ่นพี่ก็ออกมายืนตรงกลาง บางก็อยู่คุมน้องๆอยู่รอบๆ

“สวัสดีครับน้องๆทุกคน ขอต้อนรับเข้าสู่การใช้ชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ นะครับ วันนี้วันแรกของการเรียน น้องๆมีอะไรติดขัดตรงไหน หรือเรียนๆไปแล้ว ไม่เข้าใจตรงไหน น้องๆก็สามารถมาปรึกษากับพี่ๆทุกคนได้นะครับ ก่อนที่เราจะเริ่มพิธีการในวันนี้ พี่ขอแนะนำน้องๆให้รู้จักกับท่านอาจารย์ในคณะเรานะครับ ถ้าน้องๆมีปัญหาอะไรที่คิดว่าพวกพี่ๆไม่สามารถให้คำปรึกษาได้ น้องๆก็ไปถามอาจารย์ได้นะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พี่ขอแนะนำอาจารย์ท่านแรกเลยนะครับ...” ว่าแล้วพี่ประธานคณะก็เริ่มแนะนำอาจารย์ ไป แล้วอาจารย์ก็ขึ้นมากล่าวต้อนรับนักศึกษา บางก็กล่าวถึงการเรียนในระดับอุดมศึกษา ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงก็เสร็จสิ้นพิธีแนะนำอาจารย์

“ต่อไปนะครับ เป็นการเริ่มพิธีหาพี่รหัสนะครับ กติกาของเราก็ง่ายๆครับ คือ พี่จะให้คำใบ้เกี่ยวกับพี่รหัสของน้องๆ แล้วให้น้องๆไปสืบหาพี่รหัสของตัวเอง เอง ด้วยวิธีการไหนก็ได้ เดียวพี่จะเรียกน้องๆตามรหัสนะครับ ให้น้องไปรับกระดาษคำใบ้ จากพี่นิดนะครับ พวกพี่ๆให้เวลา 5 วันในการหาพี่รหัสของตัวเอง ถ้าน้องๆคนไหนหาไม่เจอ เรามีการลงโทษนะครับ” หลังจากนั่น พี่ประธานคณะก็เริ่มประกาศรายชื่อ

“เฮ้ยแพม คำใบ้ฉันเหมือนไม่ได้บอกอะไรเลยว่ะดูสิ”

“อะไรเนี่ย ชอบกินอ้อย พี่รหัสแกเป็นช้างเหรอไงว่ะแจน”

“แล้วของแพมอ่ะได้อะไร”

“นี่ไงได้อันนี้หละ หล่อ + รวย ในคณะเราทั้งหล่อ ทั้งรวยก็มีเยอะเลยใช่มะปิ่น แล้วปิ่นหละได้อะไรมา ไหนๆขอพวกเราดูบ้างสิ”

“เออได้อันนี้มา สาวหล่อของภาควิชา”

“อะไรกัน สาวหล่อของภาควิชา ทั้งภาคเราก็มีสาวหล่อเยอะแยะไปหมดเลยนะ”

“ปิ่นค่อยๆคิดสิ เราว่า ปิ่นรู้จักคนออกจะเยอะนะ”

ว่าแล้วสามสาวก็ช่วยกันคิด หาคนที่น่าจะเป็นพี่รหัสของตัวเอง คิดกันยังไงก็คิดไม่ออก กัน จนเวลาผ่านไป

“ปิ่น แจน เราว่า กลับไปนอนคิดที่บ้านดีมะ”

“เออ เราก็ว่างั้นหละ ปิ่นไม่ต้องไปคิดมากนะ มีเวลาอีกตั้ง เป็นอาทิตย์”

“แจน เวลาแค่ 5 วันเองนะ”

“แกจะไปซีเรียสอะไรหนักหนา ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็แค่โดนทำโทษเท่านั่นเอง”

“ไม่คนอย่างฉัน ปิ่นเพชร ไม่มีวันยอมแพ้” พูดจบเจ้าตัวก็คว้าหนังสือ พร้อมกับ สัมพาระ เดินจากไป
“อ้าวเฮ้ย ปิ่น ฉันล้อเล่น ปิ่น ปิ่น”

“แจน ช่างเหอะ ปิ่นมันก็บ้าๆบอๆ อย่างนี้หละ กลับกันเหอะ เดี๋ยวเราไปส่ง”

แล้วสองสาวก็เดินกันไปที่ลานจอดรถ ด้วยความที่มันเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ทำให้ตอนนี้ทั้งลานเหลือรถอยู่ไม่กี่คัน เพียงไม่กี่นาทีจากที่คณะ หญิงสาวเจ้าของรถ ก็มาจอดที่หน้าหอพักของทางมหาวิทยาลัย

“ขอบใจนะแพม ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

“จ้ะ”


เช้าวันต่อมาที่โรงอาหาร ขณะที่สามสาวกำลังจัดการกับอาหารเช้าอยู่

“สวัสดีครับ น้องแพมคือคนไหนครับ” ชายหนุ่มร่างเล็กใส่แว่นเอ่ยขึ้น

“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ”

“นี่ครับ พี่รหัสน้องแพม ฝากมาให้นะครับ”

“อ่ะ ขอบคุณค่ะ”
หลังจากที่ยืนของให้แล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กก็จากไป

“อะไรหนะแพม”

“ไม่รู้สิ ระเบิดหรือเปล่าก็ไม่รู้เนอะ” แจนพูดพร้อมกับหยิบกล่องนั่นมาพิจรณา

“เราว่าเปิดเลยดีกว่า จะได้รู้กันว่าเป็นอะไร” ปิ่นเพชรพูดพร้อมกับ แย่งกล่องเจ้าปัญหา มาจากมือของแจน พร้อมกับแกะกล่องออก

“ว้าว ยัยแพม อาหารเช้า”

“นี่ๆดูสิ มีโน้ตแนบมาด้วยหละ”

“ไหนๆ อ่านสิ”

“นี่พวกเธอ ไม่คิดจะให้เจ้าของรับมาอ่าน หรือว่ามาชื่นชมหน่อยเหรอ” ว่าพลางเจ้าของกล่อง ก็ชักกระดาษโน้ตไปอ่าน พร้อมกับอมยิ้ม

“อะไรกัน มีความลับด้วย อย่างงี้ยิ่งทำให้อยากรู้ เอามาดูหน่อยนะ” ว่าแล้ว สองสาวก็ตั้งท่าจะยื้อกระดาษมาจากมือเจ้าของ แต่เสียงออดเข้าเรียนก็ดังขึ้นก่อนที่จะเกิดศึกแย่งกระดาษกัน

***************** โปรดติดตามตอนต่อไป *****************




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2549
0 comments
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2549 20:13:42 น.
Counter : 965 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


oreocream
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ไม่ได้ขอฟ้าได้โปรดหาใครสักคน หรือเหงาจนคิดไปรักใคร
ไม่ได้เพียงขาดความอบอุ่น หรือแค่อ่อนไหว
ไม่ใช่จะมีใครเพราะใกล้กัน

แต่เธอรู้มั้ยตั้งแต่ฉันได้พบเธอ
เพียงเจอไม่ถึงกับทุกวัน
เหมือนได้เจอกับคนพิเศษแสนสำคัญ
เป็นคนที่ฉันจะยอมให้ใจ

ไม่ใช่แค่ใครสักคน ไม่ใช่แค่ใครก็ได้
มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ตรงหัวใจคือเธอ

อยากให้รู้นะถ้าหากฉันไม่พบเธอ
ใจคงไม่คิดจะคบใคร ฉันพอใจอยู่แล้วทุกอย่าง
ไม่เดียวดาย จนมาวันนี้ มาเจอกับเธอ

ไม่ใช่แค่ใครสักคน ไม่ใช่แค่ใครก็ได้
มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ตรงหัวใจคือเธอ

บอกเธอแบบนั้นให้มั่นใจ ว่าฉันทำอะไรฉันคิดก่อน
จะบอกเธอว่ารักให้เธอเชื่อใจ
ฉันหมายความอย่างนั้นแน่นอน

ไม่ใช่แค่ใครสักคน ไม่ใช่แค่ใครก็ได้
มีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ตรงหัวใจคือเธอ

ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ที่ตรงหัวใจคือเธอ





'
Friends' blogs
[Add oreocream's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.