Welcome to my planet, and enjoy taking a wonderful journey

<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 สิงหาคม 2554
 

วิชาเศรษฐี

ชายคนหนึ่งเป็นคนเรียนมาก รู้มากและคุยเก่ง
เขาเลยไม่เป็นโล้เป็นพาย เพราะคุยสนุกไปวันๆ

วันหนึ่งคิดอยากจะรวยกะเขาบ้าง จึงไปที่บ้านกำนัน
ซึ่งเป็นคนมีอันจะกินในเมืองนั้น
เขาได้พบลุงกำนัน ดูอายุ ห้าสิบกว่าๆ เห็นจะได้
แต่แขนขารูปร่างใหญ่ดูเป้นคนเคยทำงาน
และเขาก็ขอสมัครเป็นลูกศิษย์ เรียน วิชาเศรษฐี

กำนันเห็นหน่วยก้านเด็กหนุ่มเข้าที จึงรับเป็นลูกศิษย์
โดยตกลงกันว่า เรียนวิชานี้ ๓ ปีจบ และต้องเรียนตลอดไม่มีวันหยุด
และยังต้องทำงานชดใช้ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารและที่พักด้วย

เขาตอบ "ตกลง"
แล้วถามกำนันว่า "จะเรียนได้เมื่อไร"
กำนันตอบว่า "เรียนวันนี้แหละ"

เขาดีใจมากที่จะได้เรียนวิชาเศรษฐี
ทั้งคู่คุยกันถูกคอจนเย็น กำนันก็สั่งให้แม่ครัวยกกับข้าวมาเลี้ยง
อาหารมากมายเต็มโต๊ะ ไก่ย่าง หมูหัน แกงต่างๆ น้ำพริกและผักต่างๆ
และยังมีเหล้ายากับแกล้มด้วย
พอตั้งโต๊ะเสร็จ กำนันก็เชิญนั่งโต๊ะเพื่อรับประทานอาหาร
ทันทีที่กำนันอนุญาต เขาก็ยื่นมือคว้าขวดเหล้า รินใส่แก้วแล้วรีบยกขึ้นดื่ม

กำนันรีบจับมือเขาไว้แล้วถามว่า
"เหล้านี่ กินแล้วมันทำให้บ้าได้ใช่ไหม?"
"แล้วถ้าไม่ดื่มเหล้าแล้ว มันจะตายไหม?"

"ถ้าไม่ดื่มก็ไม่ตายครับท่าน"
"ถ้าดื่มมากก็บ้าได้ครับท่าน" เด็กหนุ่มตอบ

"เมื่อคนไม่กินเหล้าแล้วไม่ตาย ก็ไม่ควรกินมัน" แล้วกำนันก็ให้คนมายกไปเสีย
เด็กหนุ่ม ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่มองด้วยความเสียดาย
จึงตักข้าวใส่จานแล้วเตรียมลงมือรับประทานอาหาร

กำนันก็ถามอีกว่า "อาหารตั้งเต็มโต๊ะ เราสองคนกินหมดไหม?"
"ไม่หมดครับท่าน"

"เออ ถ้าไม่หมดก็เก็บไว้กินวันหลังได้" ว่าแล้วกำนันก็สั่งให้เก็บอาหารแห้งๆไปก่อน
แล้วก็ถามเขาอีกว่า "สองสามอย่างนี่ เราสองคนทานหมดไหม?"
เขาตอบว่า "ท่าจะไม่หมดครับ"

"ทานไม่หมดแล้ว มันจะเสียไหม"

"เสียครับ"

"เอ้า!งั้นแบ่งครึ่งกิน อีกครึ่งเก็บเอาไว้ให้คนอื่นทาน"

พอทานเสร็จ ก็ชวนเขามานั่งคุยต่อ คุยพลางสานกระบุงพลาง แล้วชวนให้เขาสานตะกร้า
เขาถามกำนันว่า "เมื่อไรจะให้ผมเรียน วิชาเศรษฐีสักทีครับท่าน"
กำนันบอก "ก็เรียนแล้วไง"
เขาถามว่า "ไหน เรียนที่ไหน"
กำนันตอบ "ก็เรียนที่โต๊ะอาหารนั่นแหละ"
"คนจะรวยได้ มันต้องเริ่มที่การกินก่อน" "ถ้าไม่รู้จักกินมันก็รวยไม่ได้"
"บุหรี่ เหล้า หรือแม้แต่หนังสือพิมพ์ มันแพงขึ้นราคา ถ้าเราไม่ได้ใช้มัน มันก็ไม่แพงสำหรับเรา"
"เราใช้แต่ของจำเป็นหมายถึง ไม่ใช้ก็ดำรงชีวิตอยู่ไม่ได้คือ ปัจจัย๔ก็พอ และใช้อย่างพอดี"

เขาก็ว่า "อ้อ! ผมเข้าใจแล้วครับ"
"ว่าแต่ กำนันจะสานตะกร้า กระบุง ไปทำไมเต็มบ้าน ยังไม่เหลือพอใช้อีกหรือ"

กำนันตอบว่า "นั่งคุย ก็มือมันว่างทำไม จักสานไปก็ขายได้ เราทำไว้ขายเอาเงินมาเป็นค่ากับข้าวในภายหน้าก็ได้นี่ มีรายได้พิเศษทุกวันไม่จนหรอก เขาเรียกว่า ทำมาหาเก็บ ไม่ใช่ ทำมาหากินพอกินไปวันๆ มันต้องมีเหลือ เหลือแล้วก็เก็บไว้ส่วนหนึ่งใช้คราวหน้า"

เขารับว่าเข้าใจเหมือนเคย
ทั้งคู่คุยกันดึกแล้ว จึงเข้าห้องนอน
ก่อนนอนเด็กหนุ่มเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาสักครู่กำนันก็เดินตามเข้าไป

เขาถามว่ากำนันเดินตามไปหลังบ้านทำไม
กำนันตอบว่า "เดินไปดูประตูบ้านว่าปิดหรือยัง เดินไปดูครัวว่าดับไฟหรือยัง และเดินไปดูว่ามีใครเปิดน้ำทิ้งไว้หรือไม่"
กำนันพูดแล้วก็เข้ามุ้ง แล้วรีบดับไฟทันที
เด็กหนุ่มขอให้เปิดไฟ เพราะอยากจะคุยต่อ
กำนันบอก "นอนคุยกันใกล้ๆแค่นี้ ปิดไฟก็คุยได้ ไม่จำเป็นต้องเปิดให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ"
เขาเสริมว่า "จะเป็นเศรษฐีได้ ต้องประหยัด มัธยัสถ์ ทุกอย่าง ใช่ไหมครับ"
กำนันตอบ "ใช่สิ เอ็งนี่ หหหัวไวแฮะ"
ว่าแล้วต่างคนก็ต่างนอน
สักครู่กำนันได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก จึงถามว่าเอ็งทำอะไร
เขาตอบว่า "ผมกำลังถอดเสื้อครับ"
กำนันตอบว่า "ถอดทำไม"
เขาตอบว่า "กลางคืนไม่มีใครมาเห็น ก็ไม่น่าเสียหายอะไร แล้วเสื้อผ้าจะได้ไม่เก่า ไม่ขาดง่าย
ไม่ยับย่น เป็นการประหยัดเสื้อผ้าไม่ให้เก่าขาดง่าย"
กำนันหัวเราะแล้วตอบว่า "เธอรู้มากกว่าฉันเสียอีก"

เช้าวันรุ่งขึ้น กำนันบอกว่า "เธอเรียนวิชาเศรษฐีจบแล้วไปได้ และฉันยังได้เรียนรู้จากเธออีก"
"เธอทำได้แล้ว ไปได้"
ตอนนี้ขาดแต่เพียงอย่างเดียว เคล็ดลับนั้น คือ
"เมื่อรู้แล้ว ต้องทำตามวิชาที่รู้ มีเท่านี้แหละ"
ว่าแล้วกำนันก็ยื่นกระดาษให้หนึ่งแผ่นในนั้นเขียนว่า ปริญญาบัตร รวยได้ต้องลงมือทำ

...จบ...
เรื่องนี้ออกจะยืดยาว และฟุ่มเฟือยเปลืองหน้ากระดาษ
แต่ก็เป็นคติสอนใจที่ดี เล่าสู่กันฟังมา
"เพราะคนอยากรวยมีมาก แต่คนรวยจริงๆมีไม่มาก เพราะขาดการกระทำ"
พระธรรมากิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช)




 

Create Date : 09 สิงหาคม 2554
1 comments
Last Update : 9 สิงหาคม 2554 19:32:33 น.
Counter : 1053 Pageviews.

 
 
 
 
ทิฎฐธัมมิกัตถประโยชน์ (ทิด ถะ ทำ มิ กัด ถะ ประ โหยด)
คือ ประโยชน์ในภพนี้ (ประโยชน์ในปัจจุบัน) มี ๔ อย่าง
๑. อุฏถานะสัมปะทา (อุด ถา นะ สัม ปะ ทา) คือ ถึงพร้อมด้วยความหมั่น
๒. อารักขสัมปทา (อา รัก ขา สัม ปะ ทา) ถึงพร้อมด้วยการรักษา
๓. กัลยาณมิตตตา (กัน ละ ยา นะ มิด ตะ ตา) คือ ความมีเพื่อนที่ดี
๔. สมชีวิตา (สะ มะ ชี วิ ตา) ความมีชีวิตเหมาะสม

เจ้าคุณโชดก ธีรราชมุณี เทศน์ว่า
๑. ขยันหา
๒. เก็บรักษา
๓. คบคน(เพื่อน)ดี
๔. ดำเนินชีวิตดี พอดี เหมาะสม

ในหลวง พระบรมราโชวาท
"วิถีทางดำเนินบ้านเมือง ประชาชน มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด เนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีเศรษฐกิจ สังคมการเมือง และอื่นๆของโลก ยากที่เราจะเลี่ยงได้ จึงต้องระมัดระวังประคับประคองตัวเราให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเป็นอยู่อย่างประหยัด เพื่อจะให้เราอยู่รอดและก้าวหน้าต่อไปโดยสวัสดี"

ใจความเท่ากัน แล้วแต่ว่าจะเทศน์ หรือ ให้โอวาทอย่างไร
 
 

โดย: oozing (oozingplanet ) วันที่: 9 สิงหาคม 2554 เวลา:19:46:45 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

oozingplanet
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ร้อนหนาวอยู่ที่กาย สุขทุกข์อยู่ที่ใจ
[Add oozingplanet's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com