พระวิสุทธิเทพ องด์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีธรรมบิดา และการอธิษฐานจิต
พระวิสุทธิเทพ พระบรมธรรมบิดา สมเด็จพระบรมธรรมบิดา สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีธรรมบิดา องด์สมเด็จพระวิสุทธิพุทธรังษีธรรมบิดา
คำว่า เทวะ หรือ เทพ นั้นมี 3 ประการ คือ 1. สมมุตติเทพ ได้แก่ ผู้เป็นเทพโดยสมมติ ได้แก่ พระราชา มหากษัตริย์ต่างๆ ที่ปกครองบ้านเมือง 2. อุปัตติเทพ ได้แก่ เทวบุตร เทวธิดาทั้งหลาย ที่สถิตในสวรรค์เทวโลก ซึ่งอุบัติขึ้นเอง 3. วิสุทธิเทพ ได้แก่ พระอริยบุคคลที่หมดกิเลส หรือพระอรหันต์
"ผู้จบกิจในศาสนา หากยังดำรงชีพอยู่ เรียกว่า พระอรหันต์ หากสิ้นชีพและไปอยู่ที่ พระนิพพานแล้ว เรียกว่า พระวิสุทธิเทพ ฉะนั้น พระวิสุทธิเทพ คือ ผู้ที่อยู่บนพระนิพพาน ทุก ๆ พระองค์ ทั้งสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า ทั้งหลาย รวมถึงพระอรหันต์ ทุก ๆ พระองค์ ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว รูปเคารพที่บูชากันมาทุกวันนี้ เป็นพระวิสุทธิเทพที่ไม่ได้ จำเพาะเจาะจงลงไปว่าเป็นท่านใด"
การอธิษฐานจิต ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ 1. นึกถึงภาพพระบรมธรรมบิดาประทับไว้บนศีรษะ 2. นึกถึงดวงแก้วใส ว่าเป็นดวงจิตของเรา 3. น้อมเอาดวงแก้วใจ คือจิตของเรานั้น ลอยเข้าไปอยู่ในพระอุทร (ท้อง)ของพระองค์ฯ ที่เรานึกไว้บนศีรษะอยู่ในขณะนี้ 4. หมุนดวงจิตแก้วแววสดใสของเรานั้น เวียนขวา เป็นทักษิณาวัตร พร้อมกับเปล่งประกายแสงร่วมกับแสงทิพย์นิพพาน และแสงฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการ 5. นึกแผ่เมตตาไปให้สรรพสัตว์ทั่วไตรภพ ** ในการหมุนดวงจิต ถือเป็นการหมุนเพิ่มเอาบุญบารมีแห่งแสงทิพย์นิพพาน เพื่อให้บุญบารมีของเราเต็มเร็วไว ** หมุนเพื่อกำจัดกิเลส ตัญหา อุปาทาน อวิชชา อกุศลกรรม ให้หมดเร็วไว ** จิตของเราจะสะอาดสว่างใส เป็นจิตนิพพาน อยู่เบื้องบนพระนิพพาน ตลอดเวลา นี่เป็นการแยกจิตออกจากกายได้ดีที่สุด ** ส่วนจิตในกายเราขอไว้เพียงควบคุมกาย วาจา ใจเขาเราให้อยู่ในสัมมาทิฏฐิ ** อธิษฐานขอเมตตา เวลาลูกจะตายขอให้ลูกมีสติระลึกถึงพระนิพพาน ระลึกถึงพระบรมธรรมบิดาพระพุทธเจ้าได้ ขอพระองค์ได้โปรดมารับจิตของลูกกลับคืนสู่บ้านพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้ ด้วยเถิด....
องค์สมเด็จพระบรมธรรมบิดาฯ ตรัสตอบว่า "ยังมีดวงจิตที่ไม่เคยลงมาเกิดเลยในภพภูมิใด ๆ ไม่เคยเกิดเป็นพรหม ไม่เคยเกิดเป็นเทวดาบนสวรรค์ ไม่เคยเกิดเป็นมนุษย์ ไม่เคยเกิดเป็นสัตว์ในอบายภูมิทั้งสี่ ท่านเหล่านั้นไม่เคยมีกรรมอันเป็นบุญหรือบาปที่จะต้องมาเวียนว่ายตายเกิด ท่านเหล่านั้นไม่ต้องลงมาเกิด คือ จิตทิพย์นิพพาน ในพระนิพพาน ที่ไม่ปรารถนาลงไปเรียนรู้การเกิดในภพภูมิต่าง ๆ"
Create Date : 19 มิถุนายน 2558 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2558 14:38:25 น. |
|
1 comments
|
Counter : 15174 Pageviews. |
|
|
|
มรรคญาณ
ผมอธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต หวังแก่ตายไป
๑. ได้พบพระพุทธเจ้าชั้นดาว วึงส์ สร้างบุญกับพระพุทธองค์
๒. ผมได้ให้ธรรมทานพิเศษ ที่ยอดเยี่ยม เพื่อบูชาพระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ท่าน กับ บัณฑิตท่านในราชสกุลกษัตริย์ เพราะท่านสงสัยเรื่องมรรคญาณ ผมอธิบาย ว่าคือ พระสัพพัญญุญาณ มีในพระพุทธเจ้าเท่านั้น เป็นปัญญาญาณที่พระองค์ทรงใช้ตรวจสอบ เวไนยสัตว์ ว่ามีอินทรีย์แก่กล้า ขั้นไหน และสมควรแสดงธรรมโปรดเมื่อไร ที่ไหน อย่างไร เรื่องอะไร เพื่อให้ได้บรรลุมรรค ผล นิพพาน เป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ตามพระองค์ไป และทรงมีญาณอื่นอื่นอีกมากมายที่เป็นอจินไตย ไม่สามารถ คาดเดา หรือ หยั่งไปถึงได้
๓. ผมสร้างพระทองคำให้บัณฑิตนั้น สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเหมือนผมในอนาคต ผมเห็นนาข้าว พระโพฺธิสัตว์มหาสัตว์ท่านทรงสุกงอมแล้ว
๔. ผมอธิษฐานพบพระศรีอารย์พระพุทธเจ้าในอนาคต ร่วมสร้างกองทาน มหากุศลกับพระพุทธเจ้า เพื่ออธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้า โปรดสรรพสัตว์ ออกจาก อบายภูมิ ๔ และ ข้ามห้วงมหรรณพใหญ่ สู่ฝั่ง มหาอมตะนิพพาน
เทพญาณ๑๙