Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 

::เลยไป........ เลย ชมผีตาโขน::








เทศกาลงานบุญผีตาโขนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ “ งานบุญหลวง” ซึ่งถือเป็นงานบุญใหญ่ประจำปีของท้องถิ่น โดยรวมเอา”งานบุญพระเวส” (ฮีตเดือนสี่)และ”งานบุญบั้งไฟ” (ฮีตเดือนหก) เข้าไว้เป็นงานบุญเดียวกัน งานบุญพระเวสนั้นเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อฟังเทศน์มหาชาติทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ซึ่งเชื่อว่าจะได้อนิสงค์แรงกล้า บันดาลให้พบพระศรีอาริยเมตไตรยในชาติหน้าส่วยงานบุญบั้งไฟเป็นงานบุญที่จัดขึ้นเพื่อบูชาอารักษ์หลักเมืองและถือเป็นประเพณีการแห่ขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาลในงานบุญหลวงนี้จะมี “ผีตาโขน” ออกวาดลวดลายทั่วเมืองด่านซ้าย ร่วมสร้างความสนุกสนานครื้นเครงไปในขบวนแห่ด้วย

ที่มาของคำว่า “ ผีตาโขน” นั้น บ้างก็ว่าน่าจะมาจากการที่ผีเหล่านี้สวมหน้ากากคล้ายลักษณะของหัวโขนแต่เดิมบางคนเรียก “ผีตาขน” แต่ก็หาความหมายไม่ได้ชัดแจ้ง และจากคำบอกเล่าของเจ้าพ่อกวน(ผู้นำทางพิธีกรรมของชาวด่านซ้าย)ขณะเข้าทรงว่า”ผีตาคน”มางามบุญต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “ผีตาโขน”



พิธีในวันแรก เริ่มเวลาประมาณ ๓ นาฬิกาด้วยพิธีเบิกพระอุปคุต โดยคณะของแสนจะนำอุปกรณ์คือ มีด ดาบ หอก ฉัตร ถือเดินนำขบวนจากวัดโพนชัยไปริมแม่น้ำหมันเพื่อเชิญ พระอุปคุต (คือก้อนกรวดสีขาว)ในแม่น้ำ เล่าขานกันว่าเมื่อมีงานบุญใหญ่มักจะมีพวกมารมาผจญ จึงต้องเชิญพระอุปคุตมาเพื่อช่วยปราบมารให้ราบคาบเมื่อได้พระอุปคุตมาแล้วจะนำใส่หาบเคลื่อนขบวนมาทำพิธีที่หอพระอุปคุตวัดโพนชัย

วันที่หนึ่ง ในตอนรุ่งเช้าจะมีการทำบุญตักบาตรที่วัดโพนชัย หลังจากนั้นตอนสายจะมีขบวนแห่ไปบ้านเจ้าพ่อกวน เพื่อทำพิธีบายศรีสู่ขวัญให้แก่เจ้าพ่อกวนและเจ้าแม่นางเทียม เมื่อได้เวลาอันสมควร เจ้าพ่อกวน เจ้าแม่นางเทียม คณะแสน นางแต่ง รวมถึงบรรดาผีตาโขนใหญ่ ผีตาโขนน้อย ทั้งหลาย ตลอดจนขบวนเซิ้งจะร่วมกันเคลื่อนขบวนแห่ไปยังวัดโพนชัย เวียนรอบอุโบสถ ๓ รอบ ซึ่งจะมีผีตาโขนเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆเที่ยวหลอกล้อผู้คนที่มาร่วมงามอย่างสนุกสนาน



วันที่สอง บรรดาผีตาโขนจะเริ่มเล่นกันตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่จะรวมกลุ่มกันอยู่ที่วัดโพนชัยเต้นตามจังหวะดนตรีจนถึงเวลาประมาณเวลา ๑๕ นาฬิกา จะเป็นพิธี ”แห่พระเวสสันดรเข้าเมือง” (แห่พระ) ในขบวนแห่นี้ประกอบด้วย แสนด่าน (หัวหน้า คณะแสน)ถือพานบายศรีนำหน้า ตามด้วยขบวนพระพุทธรูป ๑ องค์ พระสงค์ ๔ รูป และเจ้าพ่อกวนนั่งบนบั้งไฟ โดยมีเจ้าแม่นางเทียม แสน นางแต่ง และประชาชนทั่วไปเดินตามขบวนที่ขาดไม่ได้ก็คือ ผีตาโขน น้อยใหญ่ทั้งหลาย เมื่อขบวนแห่ถึงวัดโพนชัยจะเดินเวียนรอบโบสถ์ ๓ รอบ ในระหว่างเคลื่อนขบวนจะมีการโปรยกัลปพฤกษ์ (เป็นเงินเหรียญห่อกระดาษเงิน กระดาษทอง)ทั้งเด็กและผู้ใหญ่จะแย่งกันเก็บเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองเป็นที่สนุกสนาน

หลังจากนั้นบรรดาผู้เล่นผีตาโขนจะนำชุดและอุปกรณ์ที่ใช้เล่นไปทิ้งลงแม่น้ำหมัน ถือเป็นการลอยเคราะห์ให้ไหลล่องไปกับแม่น้ำ(แต่ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ใช้ประดับบ้านหรือเก็บไว้เล่นอีกในปีหน้า)และที่บริเวณด้านหลังของวัดโพนชัยจะเป็นพิธีจุดบั้งไฟเพื่อขอฝนเมื่อเสร็จแล้วต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และออกมาฟังเทศน์พระมาลัยหมื่นพระมาลัยแสนที่วัดโพนชัยในตอนค่ำ

วันที่สาม จะเป็นการฟังเทศน์มหาชาติตลอดทั้งวัน ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อกล่อมเกลาจิตใจและได้อานิสงค์ผลบุญอันแรงกล้า เป็นอันเสร็จพิธี



ลักษณะผีตาโขน :




ผีตาโขนแต่งกายด้วยชุดทำจากเศษผ้านำมาเย็บติดกันมี "หมากกะแหล่ง" (ลักษณะคล้ายกระดิ่ง ใช้แหวนคอกระบือ)หรือกระดิ่ง กระพรวน กระป๋องผูกติดกับบั้นเอว แขวนคอ หรืเคาะเขย่า เพื่อให้เกิดจังหวะและมีเสียงดังเวลาเดินแบบขย่มตัว ส่ายสะโพก โขยกขา และขยับเอว
ผีตาโขนทุกตัวมีอาวุธประจำกาย เป็น ดาบ หรือ ง้าว ซึ่งทำจากไม้เนื้ออ่อน โดยจะทำให้มีลักษณะคล้ายอวัยวะเพศขายและทาสีแดงตรงปลายเอาไว้หยอกล้อเพื่อให้เกิดความตื่นเต้น ขบขัน และสนุกสนาน มิได้ถือเป็นเรื่องอุจาดลามก หรือหยาบคายแต่อย่างใด

การทำหน้ากากผีตาโขน :

ส่วนหัวของหน้ากากผีตาโขนทำด้วยหวดนึ่งข้าวเหนียว
นำมาหักพับขึ้นให้มีลักษณะคล้ายหมวก ส่วนหน้าทำจากโคนก้านมะพร้าว ถากเป็นรูปหน้ากาก แล้วเจาะช่องตา สำหรับจมูกของผีตาโขนนั้น ในสมัยก่อนจะมีขนาดเล็กคล้ายจมูกของ
คนธรรมดาทั่วไป แต่ในปัจจุบันมักทำในลัษณะยาวแหลมคล้าย
งวงช้าง โดยทำจากไม้นุ่นซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน นำมาแกะเป็นรูปทรงต่างๆ ส่วนเขาทำจากปลีมะพร้าวแห้ง นำมาตัดเป็นขนาดและรูปทรงตามต้องการ
การประกอบส่วนต่างๆ ของหน้ากากนั้น ส่วนหัว หน้าและเขา
ก็จะใช้เชือกเย็บติดเข้าด้วยกัน ส่วนจมูกจะยึดติดกับหน้ากาก โดย
จะใช้ตะปูตียึดจากด้านใน การตกแต่งลวดลายต่างๆในปัจจุบัน
นิยมใช้สีน้ำมัน ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีสีน้ำมัน จะใช้สีจากธรรมชาติ
เช่น ขมิ้น ปูนขาว ขี้เถ้า ปูนแดง เขม่าไฟ เมื่อตกแต่งลวดลาย
เสร็จแล้ว ด้านหลัง จะใช้เศษผ้าเย็บต่อจากหน้ากากและหวดให้คลุมส่วนคอจนถึงไหล่

การทำหน้ากากผีตาโขนเป็นงานศิลปะพื้นบ้าน ที่ถูกถ่ายทอด
สู่ลูกหลานรุ่นแล้วรุ่นเล่า โดยมีรูปแบบที่หลากหลายตามจินตนาการ
ของผู้ทำและตามอิทธิพลต่างๆ ที่ได้รับ แต่ก็ยัง คงรักษาเอกรักษ์
ของความเป็นผีตาโขน ไว้ได้เป็นอย่างดี










 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2549
19 comments
Last Update : 7 กรกฎาคม 2549 23:00:44 น.
Counter : 2302 Pageviews.

 

อยากไปดูของจริงจังเลยค่ะ

 

โดย: มี้ลีโอ....มาทักทายค่า (between us ) 8 กรกฎาคม 2549 12:33:58 น.  

 

ได้ความรู้ดีจังค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบ้านนะคะ

 

โดย: ทะเลอาบแสงจันทร์ 8 กรกฎาคม 2549 15:52:04 น.  

 

happy holiday คับ
มีความสุขมากๆในช่วงวันหยุดนะคับ



ผีตาโขนนี่ดูแล้วน่าสนใจดีนะคับ

 

โดย: mingky 8 กรกฎาคม 2549 17:24:45 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ
เคยเป็นนักเรียนภูกระดึงด้วยแต่ไม่เคยไปด่านซ้าย
อดดูผีตาโขนเลย

 

โดย: menzel 8 กรกฎาคม 2549 23:39:58 น.  

 

เห็นว่างานผีตาโขน แต่ละปียิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ น่าไปเที่ยวดูบ้างจังเลยน้อง
ขอบคุณนะจ้ะที่นำมาให้ชมกัน

 

โดย: อินทรีทองคำ 10 กรกฎาคม 2549 5:22:42 น.  

 

ยังไม่เคยดูของจริงเลยอะ

 

โดย: cosmic_boy (cosmic_boy ) 10 กรกฎาคม 2549 10:30:23 น.  

 

ขอบคุณค่ะ มี้ลีโอ พลาดไปมีโอกาสใหม่ปีหน้าค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณทะเลอาบแสงจันทร์

Happy Happyเช่นกันค่ะ คุณmingkyแต่ว่าวันหยุด ไม่ได้หยุด ค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณmenzelที่แวะมาเยี่ยมเยียน จะว่าไป เลย มีที่เที่ยวเยอะเที่ยวไม่หมดเลยนะคะ


ขอบคุณค่ะ พี่อินทรีทองคำ งานเทศกาลนี้มีสีสันเป็นเอกลักษณ์มากๆเลยนะคะ




 

โดย: noojew 10 กรกฎาคม 2549 10:32:00 น.  

 

ยังไม่เคยไปเที่ยวเทศกาลนี้เลยค่ะ
จริงๆ ก็ไม่ได้ไปเลยมานานมากๆ แล้ว

 

โดย: rebel 11 กรกฎาคม 2549 19:51:41 น.  

 

น่ากัว

 

โดย: ช้างบางนา (ช้างบางนา ) 13 กรกฎาคม 2549 10:14:04 น.  

 

ว่าไปแล้ว ก็ไม่ได้ไปเลยนานๆมากเหมือนกันค่ะ คุณrebel

อย่างนี้ต้องไปดูที่เลยนะคุณช้างบางนา

 

โดย: noojew 13 กรกฎาคม 2549 21:30:23 น.  

 

อยาปายยยบ้าง

 

โดย: Claire_plastic 16 กรกฎาคม 2549 9:11:02 น.  

 

ไปเลย ไปกันเลยค่ะ อิอิ คุณ Claire_plastic

 

โดย: noojew 19 กรกฎาคม 2549 16:23:01 น.  

 

อยากไปบ้างจังเลย
..
..

 

โดย: ระเบียงดอกไม้ 23 กรกฎาคม 2549 8:26:22 น.  

 

ไป เลย ไม่เลยไปอย่างชื่อ
มีที่น่าเที่ยวเยอะเลยนะคะ คุณระเบียงดอกไม้

 

โดย: noojew 23 กรกฎาคม 2549 10:07:45 น.  

 

สวัสดีค่ะ ... โห ได้ความรู้มากๆ เลย ได้รู้ข้อมูลอย่างนี้แล้วอยากไปเห็นกับตาจังเลยค่ะ เพราะเมือก่อนนี้เป็นเด็กมักจะกลัว เพราะหน้ากากที่ใส่หน้าแปลกๆ น่ากลัวด้วยอ่ะค่ะ แต่โตมาแล้ว ได้ฟังข้อมุล แนะนำว่าน่าไปเที่ยว ก็เลยอยากไปเลย

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะจ้ะวันนี้ มีความสุขมากๆ เหมือนกันค่ะ

 

โดย: JewNid 23 กรกฎาคม 2549 16:38:58 น.  

 


แวะมาเยี่ยมครับผม

 

โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) 26 กรกฎาคม 2549 13:53:46 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณนิด
ขอบคุณค่ะ คุณหนุ่มร้อยปี

 

โดย: noojew 30 กรกฎาคม 2549 11:07:06 น.  

 

ฟังเพลง ดูภาพประกอบ ได้บรรยากาศจริงๆครับ

 

โดย: ตงเหลงฉ่า 2 สิงหาคม 2549 22:20:11 น.  

 

เก็บมาไว้ฟังค่ะคุณตงเหลงฉ่า
พอดีเข้ากะเมืองเลย..เลยนะคะ

 

โดย: noojew 2 สิงหาคม 2549 22:30:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


noojew
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






"noojew"ชื่อในพันทิบมาตั้งแต่ยังใช้อมยิ้มรุ่นเก่าค่ะ แวะเข้าไปหลายห้องแต่พักนี้ส่วนมากจะชอบเข้ามาที่
จตุจักรเรือนกล้วยไม้ กับ ห้องต้นไม้
ทำงานประจำ แต่ชอบทำงานอดิเรกมากกว่า ชอบทำหลากหลายอย่าง สนใจไปหมด.........แต่คงไม่มีอะไรดีซักอย่าง
อาศัยว่าทำแล้วสบายใจก็พอ บล๊อกนี้เลยค่อนข้างสารพัดเรื่องตามใจคนเขียนค่ะ
เก็บโน่นเก็บนี่มาลง มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง
ขอบคุณที่แวะมาชมนะคะ



clocksforwebFree!







Friends' blogs
[Add noojew's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.