ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 ตุลาคม 2552
 
 

คำถามที่พบมากๆในศาสนาพุทธ

1. เคยได้ยินมาว่า การนึกถึงนิพพาน การอยากไปนิพพานเป็นกิเลสใช่หรือไม่
ตอบ/ การนึกถึงนิพพาน และอยากไปนิพพาน พระพุทธเจ้าเรียกว่า อุปสมานุสติกรรมฐาน 1ในกรรมฐาน40แบบ คนที่จะเข้าใจกรรมฐานกองนี้ต้องเป็นพระโสดาบันขึ้นไป ถ้าไม่ใช่พระโสดาบันจะฝึกกรรมฐานกองนี้ไม่ได้ มันไม่ถูกจริต กรรมฐานกองนี้กำลังใจต้องสูงจริงๆที่จะฝึก เพราะคนที่กำลังใจไม่ถึงฝึกไปก็ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นย้ำอีกทีว่าไม่ใช่กิเลศ ตราบใดที่เรายังไม่เป็นพระอรหันต์ อารมณ์อยาก มีมาเสมอ แต่อยากในสิ่งที่เป็นฝ่ายกุศลก็ใช้ได้

2. เคยไปเห็นคนที่เขาสัก แล้วของขึ้น ดีรึเปล่าครับ
ตอบ/ในขณะที่ของขึ้น จิตของคนที่ขึ้น เข้าสู่อุปจาระสมาธิ(สมาธิเล็กน้อย) ซึ่งในใจผู้ที่สักนึกถึงครูบาอาจารย์ ถ้านึกถึงพระที่สักเป็นสังฆานุสติ ถ้านึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นพุทธานุสติ ถ้านึกถึงรูปเทพที่สักเป็นเทวตานุสติ แบบนี้ลงนรกไม่ได้ ตายตอนนี้พอดีลงนรกไม่ได้เขาไม่ให้ลง แต่เวลาของขึ้นอย่าไปโดนหูละ หายทันที

3.วิปัสนาและสมถะภาวนาคืออะไร
ตอบ/ สมมุติว่าเราอยู่ในสนามรบ ข้าศึกของเรามีฐานทัพอยุ่เป็นเมือง วิปัสนาดุจดั่งการทำลายฐานที่มั่นข้าศึก คือทำลายสิ่งปลูกสร้างของข้าศึก ทำลายแหล่งข้าวทำลายแหล่งน้ำ ส่วนสมถะภาวนา ดุจดั่งการสังหารทหารของข้าศึก
ทั้ง2อย่างต้องทำคู่กัน ขาดสักอย่างไม่ได้เลย ขาดวิปัสนาข้าศึกก็ผลิตทหารออกมาได้เรื่อยๆ ขาดสมถะภาวนา เราก็ไม่มีแรงทำลายฐานที่มั่น เพราะโดนข้าศึกตีตลอดเวลา
สรุปง่ายๆก็คือสมถะภาวนา เราใช้ระงับกิเลสชั่วคราว ส่วนวิปัสนาเราทำลายที่ต้นเหตุของกิเลส

4.ฝึกวิปัสนาและสมถะภาวนาอย่างไร
วิปัสนา
วิธีฝึกคือการหาความจริงว่าเกิดเป็นคนมันทุกข์จริงๆ หิวก็ทุกข์ เสียของที่รักก็ทุกข์ คนที่เรารักตายก็ทุกข์ เราป่วยไข้ไม่สบายก็ทุกข์ หิวก็ทุกข์ ทำงานทำมาหากินก็ทุกข์ เกิดเป็นคนมันทุกข์จริงๆ มองตามจริงนะ และสิ่งที่เห็นว่าสวยงามมันสวยจริงรึเปล่าผมสะอาดไหม น้ำเหลืองสะอาดไหม เครื่องในสะอาดไหม ขี้หูขี้ตาขี้ปากขี้ฟัน อุจจาระมันดีไหม แล้วมันมาจากใหนล่ะมันก็มาจากร่างกายที่เราคิดว่าสวยนั่นเอง และที่เราต้องมาเกิดเป็นคนเพราะอาศัยความโง่เป็นเหตุ หลงว่าร่างกายมันดี มันมีความสุข หลงว่าร่างกายผู้อื่นมันดี มีความพอใจในร่างกาย พอตอนตายอาศัยจิตที่มันรักในร่างกาย(เขาเรียกว่าโง่) ก็เลยมาเกิดอีกไม่มีสิ้นสุด ไปเกิดเป็นเทวดามีความสุขก็จริง พอหมดบุญก็พุ่งหลาวลงนรก เกิดในพรหมโลกมีความสุขกว่าเทวดาก็จริง แต่พอหมดบุญก็พุ่งหลาวลงนรกเช่นกัน เราไม่อยากเกิดอีกต่อไป จุดเดียวที่เราต้องการคือ นิพพานเท่านั้น
คิดแบบนี้ทุกวัน ให้เบื่อในการเกิด ถ้านั่งสมาธิจนละลึกชาติได้ก็ดูว่าเราเกิดมากี่ล้านชาติแล้ว แล้วมีชาติใหนบ้างที่เราไม่ตาย เราไม่ทุกข์ ให้เกิดอาการเบื่อ และเห็นความจริงแห่งความทุกข์
สมถะภาวนา
สมถะภาวนา พระพุทธเจ้าสอนไว้40แบบ เพื่อรองรับความแตกต่างของอารมณ์ของคน แต่กรรมฐานทุกอย่าง เพื่อการละกิเลศชั่วคราวพอเลิกแล้วกิเลศก็กลับมาอีก เอาการฝึกง่ายๆสัก2-3แบบนะครับ
อศุภะกรรมฐาน(มี10ใน40แบบที่พระพุทธเจ้าสอน) คือการเพ่งซากศพ หลายๆชนิด ซึ่งการเพ่งซากศพนี่เอง เราจะรุ้สึกทันทีว่าเราเกิดมาไม่นายเราก็เป็นไปตามศพ คือตายเหมือนกัน อารมณ์แบบนี้ กิเลศจะหายเลย ก็คิดดูเองว่าคนตายเอาอะไรไปได้บ้าง
หรือตัวอย่างต่อมา การนึกถึงอนุสติต่างๆเช่น การนึกถึงเทวดา หรือเทวตานุสติ การนึกถึงพระพุทธเจ้าหรือพุทธานุสติ การนึกถึงความตาย หรือมรณานุสติ เหล่านี้เวลาที่เราคิด กิเลศจะเข้าทำอะไรเราไม่ได้ เพราะอารมณ์เราน้อมกุศลอยู่ อกุศลเข้าไม่ได้
หรืออาปานานุสติกรรมฐาน คือการจับลมหายใจรับรู้ลมหายใจ กิเลศก็เข้าไม่ได้ เพราะเราจับลมหายใจอยู่
และแทบทุกกรรมฐานจะต้องมีบทภาวนาด้วยเสมอ และต้องอาศัยลมหายใจเป็นหลัก ถ้าไม่จับลมหายใจกรรมฐานทั้ง40แบบ ฝึกไปไม่ได้ผล ส่วนบทภาวนาใช้อะไรก็ได้ตามสะดวก เช่นหายใจเข้า พุทธ หายใจออกโธ หายใจเข้า สัมมา หายใจออกอรหัง แต่คำภาวนานี่ไม่สมควรเปลี่ยน ชินอันไหนก็ใช้อันนั้นไปตลอดชีวิต จะได้ชิน เวลาก่อนตายจะได้นึกทัน

5.แล้วฝึกไปทำไมทั้งสมถะภาวนา และวิปัสนา แล้วจะได้อานิสงค์เหรอ แค่อยุ่เฉยๆ
ตอบ/ ฝึกเพื่อตัดกิเลศ ต่างๆ และถ้ากิเลศหมด ก็ไปนิพพาน ถ้ากิเลศลดลงมาก็อาจจะเกิดอีกไม่กี่ชาติก็ไปนิพพาน เพราะการไปนิพพานนี่ต้องบริสุทธิ์จริงๆ คือไม่มีกิเลศเลย พระอรหันต์ต้องชำนาญทั้ง2อย่างจนไม่มีกิเลศเลย
ส่วนอานิสงค์ของการทำกรรมฐานทั้งวิปัสนาและสมถะภาวนา ต่างจากการให้ทานกล่าวคือ
การให้ทาน-ชาติหน้าจะทำให้เราร่ำรวย
การรักษาศีล-ชาติหน้าทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์100% ไม่เป็นบ้าไม่พิการ ไม่ตายก่อนวัยอันควร มีปัจจัย4ครบถ้วน
กรรมฐาน-ทำให้เราฉลาดขึ้น มีปัญญามากขึ้น และบรรลุมรรคผลในที่สุด และจุดหมายสูงสุดคือนิพพาน และไม่ต้องรอชาติหน้าหรอก ถ้าทำดีๆก็ไปชาตินี้แหละ

6.เรื่องเล่าเรื่องอรูปพรหม
อรูปพรหมคือ การที่คนฝึกอรูปฌาน เช่นการเพ่งอากาศ เพ่งความว่างเปล่า เห็นทุกอย่าว่างเปล่า จนชิน แต่ไม่ได้จับอารมณ์นิพพาน พอตอนใกล้จะตายก็ไปเพ่งความว่างเปล่าอีก ตายไปก็ว่างเปล่าซะเลย ไปเป็นอรูปพรหม
กล่าวคือเหมือนหลับไปเฉยๆ ไม่มีความรุ้สึกเหมือนถูกปิดหูปิดตา แต่มีความสุขในความว่างเปล่านั้น เหมือนจะดีเลยนะ แต่เสียอย่างเดียวพอหมดบุญปั๊บ ลงนรกทันที ไม่มีโอกาศมาเกิดเพื่อต่อบุญเลย นี่ละมั้งที่บางคนคิดว่านี่คือนิพพาน ความจริงไม่ใช่
พระพุทธเจ้าบอกว่าเมื่อพระอรหันต์มรณะภาพ ร่างกายเท่านั้นที่ดับ แต่จิตยังไม่ดับ
คิดเองละกันครับ ว่าจิตไม่ดับแล้วไปใหน
หลวงปู่เกษม/ ตอนนี้พระพุทธเจ้าไม่ได้อยุ่บนโลก ท่านอยู่นอกจักรวาล (แล้วท่านก็ชี้มือ)
พลวงพ่อโต/นิพพาน คือว่างจากกิเลส จิตวิญญาณของพระอรหันต์ไม่สูญ ที่วิญญาณสูญนั่นคือวิญญาณในขันธ์ ๕ เท่านั้น
หลวงปู่มั่น/สรณะทั้ง ๓ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญอันตรธานไปไหน ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดยึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่ในกลางป่า หรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้งสามก็ปรากฏแก่เราอยู่ทุกเมื่อ"
พระราชพรหมยาน/องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า ...โมกขราช เรากล่าวว่า นิพพานนั้นหมายถึงกิเลสดับ และขันธ์ ๕ ดับ... พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า จิตดับ"
หลวงปู่บุดดา/นิพพานไม่สูญ เป็นแต่อาสวะกิเลสสูญ อวิชชา ตัณหา อุปาทาน กรรม วิบาก มันสูญ แต่ สังคตะธรรม อสังคะธรรม วิราคะธรรม มันไม่ได้หมดไปด้วย

หลวงปู่ชอบ ฐานสโม /"นิพพานไม่ได้สูญ ไม่ได้อยู่ตามที่โลกคาดคะเนหรือเดากัน ทำจริงจะได้เห็นของจริง รู้จริง และจะเห็นนิพพานเอง เห็นพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เห็นครูบาอาจารย์ที่ท่านบริสุทธิ์เอง และหายสงสัยโดยประการทั้งปวง"
อดีตพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสโส) /" พระธรรมกาย ได้เแก่พระกายอันบริสุทธิ์ ไม่สาธารณะแก่เทวา และมนุษย์ หมายถึงจิตที่พ้นจากกิเลสแล้ว เป็นพระกายที่เที่ยงแท้ไม่สูญสลาย อินทรีย์ของพระอรหันต์ประณีตสุขุม แม้ตาทิพย์ของเทวดาก็มองไม่เห็น"
+คำถามมีอยุ่ว่า ในเมื่อจิตไม่มีวันดับ แล้วพอไปนิพพาน จะไปใหนละ+

7.เล่าเรื่อง ความละเอียดของกายทิพย์
ตาของมนุษย์เลวมาก แม้แต่ตาของหมายังดีกว่า เพราะหมามองเห็น เปรต อสุรกายได้
เปรต อสุรกาย สัตว์นรก ไม่สามารถมองเห็นเทวดาได้ เพราะเทวดาละเอียดกว่า แต่เทวดาสามารถทำให้เปรต อสุรกาย สัตว์นรกเห็นได้
เทวดาไม่สามารถมองเห็น พรหมได้ เพราะกายทิพย์พรหมละเอียดกว่าเทวดา แต่พรหมทำให้เทวดามองเห็นได้ถ้าอยากให้เห็น
พรหมไม่สามารถมองพระนิพพาน หรือพระวิสุทธิเทพได้ ถ้าพระนิพพานไม่อยากให้เห็น แต่พระนิพพานทำให้พรหมเห็นได้ ถ้าอยากให้เห็น
คนที่ได้ฌานไม่สามารถมองเห็น พระนิพพานได้ จำเป็นต้องได้โสดาบันก่อนจึงจะเห็นได้




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2552
2 comments
Last Update : 29 ตุลาคม 2552 15:36:41 น.
Counter : 847 Pageviews.

 

มาทักทายค่า (^^')

 

โดย: onedermore 29 ตุลาคม 2552 15:57:36 น.  

 

สาธุ ดีแท้ๆเนาะ

 

โดย: นายมโน IP: 101.51.122.74 25 พฤษภาคม 2556 13:53:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

nong_arch2
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add nong_arch2's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com