Khaoyai-Pingdao
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2550
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
28 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
ตอนที่3 ความกลัว-หนี้ที่ไม่มีวันใช่หมด-จะมีใครที่เข้าใจผมบ้าง

เพื่อนๆ เคยมีความกลัวกันบ้างไหมครับ แต่ผมว่าทุกคนก็ย่อมมีความกลัวกัน แต่ไม่ทราบว่ากลัวเรื่องอะไรกันบ้าง แต่สำหรับผมนั้น เท่าที่รู้สึกตอนนี้ผมมีความกลัวอยู่ 2 เรื่อง

เรื่องแรกคือ เรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่ ทุกครั้งที่ผมพาแม่ไปโรงพยาบาลผมอยากจะร้องไห้ทุกครั้ง เพราะว่าผมไม่มีเงินพอที่จะออกค่ารักษาพยาบาลให้แม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว ผมรู้สึกละอายใจอย่างมาก “แค่เงินรักษาพยาบาลค่ายาแม่ ผมยังไม่มีปัญญาหามาให้ได้”

มีครั้งล่าสุดที่แม่เข้าโรงพยาบาลพี่ชายคนโตซึ่งเป็นคนที่ไม่ค่อยจะถูกกับผมพูดง่ายๆคือไม่เคยลงรอยกันซักครั้งเดียวตั้งแต่เกิดและไม่เคยช่วยเหลืออะไรในชีวิตผมแม้แต่ครั้งเดียว ส่งบิลเงินค่ารักษาพยาบาลของแม่มาให้ผมแล้วก็ถามผมว่าจะช่วยออกเท่าไร ซึ่งเขาก็รู้เรื่องของผมทุกอย่างว่าผมไม่มีเงินแต่เขาก็ถามผมอย่างนั้น ว่ามึงจะช่วยออกเท่าไร ผมมองดูบิลใบเป็นเงินจำนวน 500,000กว่า บาท นั้นแล้วก็ตอบตกลงว่าจะช่วยออกให้

ซึ่งเงินที่ผมจะช่วยออกให้ก็คือเงินเก็บสะสมมาตลอด 2 ปี ที่ไว้ก่อสร้างบ้านพักผิงดาว ผมก็บอกกับภรรยาว่าเดี๋ยวบ้านค่อยสร้างจ่ายค่ารักษาแม่ก่อน แล้วค่อยเก็บเงินกันใหม่ ซึ่งเงินรักษาพยาบาลนั้นก็ช่วยกันออก เป็นพี่ชายคนโตออกเป็นเงินประมาณ 200,000 บาท พี่ชายคนที่ 2 ไม่ทราบว่าเท่าไร น้องคนเล็กคนเล็กก็ไม่ทราบว่าเท่าไร พ่อผมก็เหมือนกันไม่ทราบว่าเท่าไร

และผมประมาณ 10,000 บาท จากเงินเก็บ 35,000 บาท แต่วันที่ผมนำเงินมาให้แม่ แม่ผมกลับไม่รับเงินของผม เพราะว่าแม่ผมรู้ดีว่าเป็นเงินที่ผมเก็บสะสมไว้สร้างบ้าน ตอนหลังผมทราบว่าเงิน 200,000 กว่าบาทในส่วนพี่ชายคนโตนั้นเป็นเงินพี่ชายคนโตยืมแม่ผมไป 100,000 บาท แล้วนำมาใช้คืนเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ผมเอง เหมือนอัดยายซื้อขนมยาย เท่ากับว่าแม่ผมออกค่ารักษาพยาบาลตัวเอง โดยพี่ชายคนโตออกเงินไป 100,000 บาท เรื่องนี้ไม่ค่อยมีใครรู้ภายในบ้านมีรู้กันแค่ไม่กี่คน ทั้งๆที่พี่ชายคนโต มีรายได้ในส่วนที่ญาติฝ่ายพ่อให้ขายของในที่ผมเคยขาย น่าจะมีกำไลต่อวันผมคิดว่าน่าจะวันละ 5,000 กว่าบาทขึ้นไป

และก็บอกกับญาติคนอื่นว่าช่วยออกค่ารักษาพยาบาลแม่ไป 200,000 กว่า และบอกว่าผมไม่เคยช่วยเงินค่ารักษาพยาบาลแม่ ก็ผมไม่มีเงินนี้ครับและก็เป็นเรื่องจริงที่ผม ต้องยอมรับว่าผมไม่มีเงิน นั้นเป็นเรื่องแรก

ส่วนเรื่องที่ผมกลัวเรื่องที่ 2 คือ กลัวไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกทาน สาเหตุไม่ต้องอธิบายมากครับ ผมกลัวแค่ 2 เรื่องนี้ แต่ตอนนี้เหลือแค่เรื่องที่ 2 เรื่องเดี่ยวแล้วครับ ส่วนแม่ผมก็ สามวันดี สี่วันไข้ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น

จนแม่ผมรู้สึกท้อแท้กับชีวิตจากคนแข็งแรงกับเป็นคนไม่แข็งแรง และเป็นห่วง ผมเสมอ จะต้องโทรศัพท์มาถามผมตลอดว่า วันนี้ขายของดีไหม เก็บเงินได้เท่าไรแล้ว เงินพอใช้ไหม ฯลฯ ตามประสาที่แม่เป็นห่วงลูกคนหนึ่ง ต้องการให้ผมไปหาแม่บ้าง แต่ตัวผมต้องทำงาน คือผมเคยคิดว่าถ้าออกจากงานที่ทำแล้วชาตินี้จะไม่ขอไปเป็นลูกจ้างใครอีก จะออกมาเปิดร้านอาหารเอง

แต่แล้วสุดท้ายด้วยค่าใช้จ่ายภาระ ผมต้องออกหางานทำอีกครั้งโดยให้ภรรยาขายอาหารอยู่ที่บ้าน ส่วนตัวผมออกไปหางานทำเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะว่าลำพัง แค่ค่าขายอาหารก็ไม่พอค่านมลูกแล้วครับ บ้างวันขายอาหารทั้งวันยังไม่ถึง 500 บาท ผมจึงต้องออกไปหางานทำเพื่อใช้จ่ายภายในครอบครัวอีกครับจึงจะพอ งานที่ทำก็ไม่ได้เงินดีอะไรครับประมาณเดือน 4,000 กว่าบาท แต่ต้องทำเพราะว่าต้องนำเงินมาใช้เลี้ยงครอบครัว ต้องทำครับ ทำทุกอย่างเพื่อจะได้มีเงิน ไม่เลือกงาน งานอะไรก็ได้ที่สุจริต และได้เงิน ผมทำหมดครับ พูดง่ายๆ ถึงเงินน้อยก็จะทำเพื่อให้ได้เงินครับ แต่ก่อนที่ตั้งร้านอาหารผมเป็นป่ารกๆ ผมยังทำซะเป็นที่โล่ง ตัดต้นไม้เองกับ ภรรยา จัดสวนเอง ทำเองทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพราะไม่มีเงินจ้างคนมาทำไงครับ

จากแต่ก่อนจะทำอะไรจ้างเขาหมด ออกแต่ความคิดอย่างเดียว แต่พอไม่มีเงินแล้ว ก็ต้องออกความคิดเอง ทำเองทุกอย่าง ทำกันแค่ 2 คน ครั้งจะไปขอยืมเงินใครเขาก็ไม่กล้าเพราะว่ายังไม่ปัญญาไปใช้เขา แต่ถ้ามีรายได้แล้วก็กล้าที่จะไปยิบยืมคนอื่นได้บ้างครับ ถ้าคิดว่าใช้หนี้เขาไหว

แต่นั้นเป็นทางออกสุดท้ายเท่านั้น ถ้าไม่จนตรอกจริงๆ เพราะว่าโบราณเขาว่าไว้ “เป็นหนี้อะไรก็เป็นได้ แต่อย่าไปเป็นหนี้บุญคุณใคร ชาตินี้ทั้งชาติก็ใช้เขาไม่หมด” ผมก็ว่าจริงๆ ครับ ตัวอย่าง ญาติฝ่ายพ่อผมไง ไม่ว่าอะไรก็บุญคุณทั้งนั้น ผิดถูกไม่สำคัญ สำคัญแต่ว่าเราเป็นหนี้บุญคุณเขา เขามีบุญคุณกับเรา เราต้องใช้เขา ถึงจะถูกแต่ก็ต้องเป็นผิด

ผมก็ทำงานเรื่อยมาภรรยาก็ขายอาหารมาเรื่อยๆ แม่ของผมก็จะโทรมาถามตลอดว่าเป็นไงบ้าง ขายของดีไหม เก็บเงินได้เท่าไรแล้ว เป็นอย่างนี้ตลอด บ้างครั้งผมก็พูดตามความจริงว่าขายไม่ค่อยดี แต่ส่วนมากผมจะพูดโกหกว่าขายดีได้เงินมาก กลัวแม่จะเป็นห่วง เวลาแม่โทรมาหาผมก็จะให้ผมไปหาที่มวกเหล็กที่บ้านแม่ผมพักอยู่แต่ด้วยผมติดงานไหนจะต้องขายอาหารอีก จึงไม่ค่อยมีเวลาไปหาแม่เท่าไร บ้างครั้งก็จะบอกว่าจะไปหาวันนั้นบ้างวันนี้บ้างแต่ก็ไม่ได้ไป ทำให้แม่ผมเป็นแม่สายบัวรอเก้อ เป็นประจำ นั้นละครับการกระทำที่ทำให้ผมเสียใจที่สุดในชีวิตจนถึงทุกวันนี้ผมเพราะว่าอะไรเดี๋ยวได้รู้กันครับ

ผมกับภรรยาขายอาหารกับทำงานเรื่อยๆมาจนพอมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งก็คิดว่า จะทำบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่เขาใหญ่ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ ก็ได้เริ่มต้นการก่อสร้างบ้านพักผิงดาว ซึ่งเกิดจากความตั้งใจน้ำพักน้ำแรงผมกับภรรยาจริงๆ จนก่อสร้างเสร็จ ก็เปิดบริการได้ เป็นบ้านหลังแรกในชีวิตที่ผมได้ก่อสร้างขึ้นมาเองกับมือ และความตั้งใจของผมกับภรรยา ผมเริ่มเก็บเงินอีกครั้งเพื่อสร้างบ้านพักผิงดาว 2 อีกแม่ของผมก็จะโทรมาถามว่าเมื่อไรจะกลับไปอยู่กับแม่ที่มวกเหล็ก ผมก็ได้แต่ตอบว่า ไว้รอสร้างบ้านพักอีกหนึ่งหลังให้เสร็จก่อนก็คงจะใช้เวลาอีกประมาณ 2-3 ปี ตอนนี้เก็บเงินพอสร้างชั้นล่างได้แล้ว จะต้องเก็บเงินต่อเพื่อสร้างชั้นบน ถ้าสร้างเสร็จแล้วจะไปอยู่กับแม่ ก็อีกประมาณสัก 5 ปี

ตลอดเวลาแม่ผมจะถามว่าเมื่อไร จะกลับมาอยู่กับแม่ตลอด และแม่ได้บอกให้พ่อสร้างร้านขายของอยู่ที่หน้าบ้านของแม่ เพื่อหวังจะให้ผมกับภรรยามาขายของด้วย แต่ผมก็บอกว่ายังเข้ามาอยู่ไม่ได้ บ้างครั้งก็จะบอกกับผมว่าขาดเงินอยู่เท่าไรผมก็ได้แต่ตอบกลับไปเล่นๆว่า จะให้ยืมเงินเหรอ แม่ผมก็บอกว่าเออ ผมก็หัวเราะ และพูดว่าอี้จะหาเงินที่ให้ให้ผมได้ แม่ผมก็บอกว่า เออกูมีก็แล้วกัน แล้วผมก็หัวเราะเพราะว่าผมก็รู้อยู่แล้วว่าแม่ผมไม่มีเงิน ที่มีก็เก็บไว้รักษาตัว แม่ผมมักจะบอกกับผมแบบนี้ประจำ แต่ผมก็ได้ไม่ได้คิดอะไรมากแต่ผมก็จะบอกแม่ประจำว่าต้องรอให้ที่ร้านและบ้านพักเขาใหญ่อยู่ตัวก่อน แล้วจะมาอยู่ด้วย

มีอยู่เหตุการณ์หนึ่งแม่ผมก็ได้นำทองมาแบ่งให้กับลูกๆทุกคน ผมก็เข้าใจว่านี้คงจะเป็นเงินที่แม่ผมบอกว่าจะนำมาให้เป็นทุนในการก่อสร้างบ้านพักของผม โดยพี่ชายผมได้โทรศัพท์มาบอกผมว่าให้ไปรับทองที่แม่แบ่งไว้ให้ได้รับกันทุกคน แต่ผมก็บอกกับพี่ชายผมว่าทองที่ได้มาก็ให้เก็บไว้เป็นค่ารักษาแม่ก็แล้วกัน พี่ชายผมบอกว่าให้มารับทองเพราะว่าเดี๋ยวแม่จะโกรธ ผมก็เลยไปรับทองที่แม่แบ่งไว้ให้ และก็คิดว่าไม่มีอะไรมาก

แต่เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น ญาติฝ่ายพ่อผมกับมาต่อว่าพ่อผมว่ารีบแบ่งทองให้กับพวกลูกๆไปทำไม และก็ไปต่อว่าแม่ของผมอีกว่าทำไมไม่เก็บไว้เป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ผม “เดี๋ยวไอ้พงษ์(หมายถึงผม)ก็นำไปล้างไปผลาญ หมดไม่มีประโยชน์” แต่ญาติฝ่ายพ่อผมหารู้ไมว่าความคิดที่จะนำทองมารวมกันแล้วเก็บไว้รักษาตัวแม่ผมนั้นเป็นความคิดผมเอง ที่ผมได้บอกพี่ชายแต่แรก จนทุกคนเห็นดีด้วย ผมได้บอกพี่ชายว่าทองที่แม่ให้นั้นถ้าจะขายไปรักษาตัวแม่ผม

ในส่วนของผมที่แม่แบ่งไว้ให้นั้นผมจะไม่ขายแต่จะนำไปจำนำแทน และพอถ้ามีเงินก็จะไปไถ่คืนเองเพื่อมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกขอแค่ให้บอกว่าในส่วนของผมจะนำไปจำนำร้านไหนผมจะไปไถ่คืนเอง ส่วนของคนอื่นถ้าจะขายก็ให้คิดดูก่อนว่าจะจำนำหรือขาย เพราะว่าทองที่แม่ให้นั้นหาไม่ได้ตามท้องตลาดเพราะว่าเป็นทองที่แม่ให้ไม่เหมือนกับทองที่หาซื้อเองได้ คุณค่าทางใจต่างกัน แต่ทุกคนก็บอกว่าจะขายหมดไม่ต้องการเสียดอกเบี้ย ซึ่งต่างกับผมที่ไม่ต้องการขายแต่จะจำนำยอมเสียดอกเบี้ยเอง เพื่อที่จะได้ทองของแม่กลับคืนมา

พ่อของผมก็ได้บอกผมว่าให้นำทองมาคืนที่พี่ชายเพื่อไว้ขายเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ ผมไม่ยอมคืนเพราะว่าพี่ชายของผมเคยบอกว่าถ้าแม่ไม่สบายจะนำทองไปขายเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ให้หมดไม่จำนำ

ผมเลยไม่ยอมคือ แต่ผมก็บอกกับพี่ชายว่าถ้าแม่ไม่สบายก็บอกว่าขาดเงินเท่าไรจะนำทองไปจำนำ เพื่อนำเงินตามต้องการมาให้ แต่สุดท้ายความซวยก็ตกมาอยู่ที่ผมอีกว่าทำไมผมไม่ยอมคืนทองผมก็โดนต่อว่าอีกจากทุกคนทั้งที่ผมก็ได้อธิบายไปหมดแล้วว่าผมคิดเช่นไรแต่ไม่มีใครเข้าใจผมสักคน คิดแต่ว่าผมต้องการทองของแม่

ผมก็ได้แต่ทำใจไม่มีใครเข้าใจก็ไม่เป็นไร รู้อยู่คนเดียวก็พอ แต่สุดท้ายพ่อก็โทรมาบอกผมอีกว่าให้นำทองไปคืน ผมต้องนำไปคืนให้กับพี่ชาย และย้ำกับพี่ชายว่าในส่วนของผมถ้าจะขายก็บอกว่าร้านไหนผมจะหาเงินไปซื้อคืนหรือถ้าจะจำนำให้ในส่วนของผมก็บอกมาว่าร้านไหนจะไปไถ่คืนจะไม่ยอมเสียทองของแม่ผมไปอย่างเด็ดขาด.....ตอนที่4 ผมขอเวลาเรียบเรียงถ้อยคำสักนิด



Create Date : 28 ธันวาคม 2550
Last Update : 28 สิงหาคม 2553 9:46:45 น. 4 comments
Counter : 402 Pageviews.

 
พี่เป็นคนดีที่น่านับถือจริงๆค่ะ
หนูใหม่อ่านไป ก็คิดตามค่ะ
ทุกอย่างที่พี่ทำ ล้วนมีเหตุผลจริงๆ

ถ้ามีโอกาสหนูจะไปช่วยอุดหนุนที่พักบ้านพี่นะคะ



โดย: numainew วันที่: 5 มกราคม 2551 เวลา:9:06:26 น.  

 
มีญาติแย่ก็อย่างนี้แหล่ะค่ะ แต่รบกวนช่วยพิมพ์เว้นบรรทัดได้หรือป่าวคะ ฮิฮิฮินู๋อ่านไป ตาลายไป อ่ะค่ะ

~ สู้ต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ~


โดย: เด็กน้อยตัวแสบ วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:10:02:49 น.  

 
น่านับถือ ชื่นชม จริงๆค่ะ ไว้มีโอกาสจะไปพักแน่ๆเลยค่ะ แล้วจะไปเยี่ยมนะคะ
ด้วยความนับถือ
แดง


โดย: แดง IP: 118.175.64.157 วันที่: 2 ธันวาคม 2551 เวลา:18:42:53 น.  

 
ไปๆ จะไปบ้านนี้ล่ะ
น่ารักดี ชอบๆ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคะ


โดย: ผักปิง IP: 58.9.164.224 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:15:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

peterkun
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




สวัสดีครับขอบคุณที่เข้ามาชมกันแนะนำติชมกันได้นะครับเพื่อที่จะได้พัฒนาต่อไปครับ
Pingdao Khaoyai

สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง
Click to play khaow
Create your own scrapbook - Powered by Smilebox
Make a Smilebox scrapbook



New Comments
Friends' blogs
[Add peterkun's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.