Napoleon iN spring!!! When I'm falling in LOVE ^___^
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
1 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

12 จุดเปลี่ยนผัน

ถ้าเพลงไม่เล่นกดเล่นได้เลยนะคะ
ร้องโดย อาซา นางเอกคู่สามผู้รับบทนิกกิ อิอิ..
ไม่มีการตรวจคำผิดนะฮะ อ่านแล้วถ้าติดขัดก็ต้องทำใจนะอิอิ(ปกติก็ไม่ได้ตรวจ) อ่านกันเลย..






ไรอันใช้เวลาทั้งวันกับอลิศ ดีนะที่เขาเอาโน๊ตบุ๊คมาด้วย ถือว่ามาทำงานนอกสถานที่ แถมเลขาอลิศก็ชงกาแฟใช้ได้ พอเสร็จงานทั้งสองก็ออกไปหาอะไรกิน อลิศนับถือความอึดของเขาจริงๆเลย นั่งรอทั้งวันไม่มีบ่น เป็นไปได้ยังไงที่เขาจะนั่งทำงานขลุกอยู่กับเจ้าคอมพิวเตอร์นั่น อย่าบอกนะว่าเวลาเขาทำงานจริงๆเขาก็จริงจัง ไม่กินข้าวกินน้ำอย่างนี้

สามทุ่มแล้วแต่มิมีวี่แววว่าคนบ้านสเปนเซอร์จะเข้านอนกัน พอเข้าถึงในบ้านสมาชิกในบ้านก็กำลังดื่มน้ำชามื้อดึกกันอยู่ นี้ก็คงมาดูข่าวสารบ้านเมืองแล้วก็เม้าท์กัน บ้านใหญ่ๆมันก็มีข้อดีอย่างนี้ ก็คือได้คุยกันแลกเปลี่ยนความคิดกันนี้แหละ

“ไปไหนมากันลูก กลับซะดึกเชียวฮึ” คุณแม่ไรอันถามขึ้นก่อน ลูกชายยิ้มๆ

“พอดีผมไปรับอลิศที่ทำงานน่ะครับ ก็เลยหาอะไรกินกันหน่อย แล้วนี้แม่ยังไม่นอนหรือครับ สามทุ่มแล้วนะ”

“ไม่หรอกจ๊ะ ก็ดูๆตลาดหุ้นกันอยู่น่ะนะ มาเหนื่อยๆให้เด็กมันหาของว่างไปให้กินเล่นๆไหม ดีไหมจ๊ะอลิศ” คุณแม่ช่างใจดีเหลือเกิน

“ขอบคุณค่ะ”

“แหม...คุณพี่ก็กินมาจากข้างนอกแล้ว จะไปหาให้เขากินต่อทำไมละคะ ไม่เห็นหรือว่าเขาไม่อยากจะกินเท่าไหร่ คงอิ่มทิพย์แล้วข้าวปลาไม่อยากจะแตะหรอก” อาถงของไรอันพูดแทรกขึ้นมา หญิงสาวสูดลมหายใจไว้ลึกๆ นั่นมันญาติผู้ใหญ่ต่อให้เขาโขลกสับยังไงก็ต้องทน

“แม่ครับบอกให้คนจัดของว่างเลยนะครับ ไอ้ที่ทำงานหนักๆมาก็อยากจะมาบำรุงเมียนี้แหละครับแม่ เมียผมก็ตัวเท่านี้จะกินได้เท่าไหร่กัน คงไม่ถึงขนาดที่ว่าเงินเดือนของผมทั้งเดือนมันจะหมดไปเพราะแค่ของว่าง” ไรอันพูดตรอกกลับแทนหญิงสาวที่ยืนข้างๆ อาถงทำหน้าเสีย ปกติเธอก็ไม่ถูกกับไรอันอยู่แล้ว หลานคนนี้ดื้อ ขออะไรไม่เคยจะได้ พูดไปเรย์มอนด์ยังดีกว่าอีกเสียดายที่เขาไม่เอาไหน ไปทำบริษัทของปู่เสิน ดันไปเป็นตำรวจกระจอกๆ

“โอ๊ย...ถือหางกันเข้าไป ต่อไปก็คงจะไม่เห็นหัวอาแล้วสินะ”

“ไม่ได้ถือหางใครทั้งนั้น ผมพูดตามเนื้อผ้า แม่ครับผมกับอลิศเหนื่อยแล้ว ขอตัวนะครับ”

“ไปเถอะลูก เดี๋ยวแม่ให้คนยกไปให้นะ อ๋อ..อลิศจ๊ะนิกกิก็อยู่บนห้องนะจ๊ะ ไม่ต้องห่วง” คุณแม่สามีใจดีเวอร์เลย ไม่นึกว่าจะมีคนที่น่ารักขนาดนี้อยู่ในโลก ผิดกับอาถงคนนั้น สายตาแววตาแข็งกร้าวเชียว

“คุณก็อย่าไปสนใจอาถงเลยนะ มีอะไรก็มาบอกผมก็ได้ เดี๋ยวผมจัดการให้”
“แหม..คุณ ฉันไม่ใช่นางเอกขนาดนั้นนะคะ ก็แปลกนะทำไมอาคุณเหมือนไม่ชอบฉันเลย” อลิศพูดออกมาตรงๆ

“คิดเหรอว่าเขาชอบผม ขนาดพ่อผมเขายังไม่ชอบเลยมั๊ง จะเอาอะไรมากกับคนที่ไม่เคยพอ”

“คุณก็พูดไปยังไงท่านก็อาคุณนะ”

“ก็เพราะเป็นอาผมน่ะสิ ผมเลยไม่อยากจะทำอะไรมาก เฮ้อ..ช่างเถอะนะ ไปอาบน้ำอาบท่าซะสิ จะได้นอน”

“ค่ะ”

คราวนี้ว่านอนสอนง่ายเชียว นี้ก็คงเป็นเพราะเหนื่อย อลิศเอ๊ยผู้หญิงอย่างเธอจะมีสักกี่คนในโลก บ้างาน ปากจัด เค็มเป็นเกลือ ผลัดจะทะเลาะกันก็เถียงๆฉอดๆ ผลัดจะพูดกันง่ายก็แสนง่าย ไม่มีโต้เถียงอะไรเลย ตามอารมณ์ไม่ทันจริงๆเลย


บ้านสเปนเซอร์ช่วงดึกช่างเงียบสงัดเหมือนป่าช้าก็ไม่ปาน นี้ถ้าไม่มียามและไฟหน้าบ้าน ใครเขาคงคิดว่านี้เป็นคฤหาสผีสิง อลิศอาบน้ำเสร็จก็เข้ามานั่งที่โต๊ะทำงานใกล้ๆเตียง ไรอันหันไปมองอลิศหลายรอบแต่มิมีท่าทีว่าอีกคนจะสนใจอะไรเลย

“อ่ะ แฮ่มๆ” ชายหนุ่มทำเป็นไอหลายรอบ

“คนจะทำงาน เงียบๆหน่อยได้มะ” ให้ตายเถอะแทนที่จะห่วงกัน ดันมาว่ากันซะได้ ผู้หญิงอะไรไม่มีน้ำใจเลย

“ถ้าเกิดอะไรติดคอผมแล้วชักดิ้นชักงอลงไป คุณจะสนใจไหม” เขาถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“ก็ให้ถึงตอนนั้นก่อน ก็จะเรียกรถพยาบาลก็แค่นั้น”

“คุณนี้มันแม่มดชัดๆเลยนะ เลือดเย็นสุดๆ” นี้ถือว่าด่าหรือเปล่าเนี๊ย

“ขอบคุณ” หญิงสาวยิ้มหน่อยๆ

“รูปงานแต่งงานของเรา ทำไมพวกนักข่าวเขาถ่ายแต่คุณกับเหล่าบรรดากิ๊กเก่าทั้งหลายเนี๊ย” อลิศบ่นเมื่อเปิดเข้าดูเวปไซด์แวดวงไฮโซทั้งหลาย ให้ตายเถอะมันรูปงานแต่งงานของเธอ แต่ในเวปโชว์แต่รูปไรอันกับกิ๊กเก่า

“คาสโนว่าตัวพ่อ ไรอันไม่เกรงใจเมียชวนกิ๊กมางานแต่ง” หญิงสาวอ่านให้ชายหนุ่มที่นั่งดูทีวีฟัง

“ใครจะเขียนอะไรจะไปสนใจทำไมละคุณ”

“ฉันไม่ได้สนใจ แต่คุณก็น่าจะให้เกียรติฉันหน่อยสิ แต่งไม่ทันข้ามวันดันไปพลอดรักกับพวกสาวๆแล้ว เมียหลวงอย่างฉันไม่เสียหน้านะเข้าใจไหม”เหมือนจะหึงๆ แต่ก็ไม่ได้หึงเพียงแต่กลัวเสียหน้าก็เท่านั้นเอง

“ผมก็แค่คุยกับพวกเขาเท่านั้นเอง ไม่เห็นจะได้ไปทำอะไรมากกว่านั้นสักหน่อย”

“กอดกันกลม จนเขาถ่ายรูปมานินะ ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น นี้ถ้าลับตาคนจะไม่ทำมากกว่านี้เหรอ” อลิศเถียง

“ทำอะไรก็เรื่องของผมสิ เกี่ยวอะไรด้วย” กรุณาบอกหน่อยว่านี้มันคืดคำตอบ หนอยคิดหรือว่าจะแคร์ ไม่ได้แคร์เพียงแต่กลัวเสียหน้า

“ฉันก็ไม่ได้อยากจะเกี่ยวหรอกนะ เพียงแต่จะทำอะไรก็อย่าให้เป็นข่าวมากนัก เดี๋ยวคุณปู่ก็จับไต๋ได้หรอก ทีนี้แหละความแตกพอดี”

“นึกว่าอะไรเฮ้อ...” คนพูดถอนหายใจพลาง หยิบขนมเข้าปาก เขาไม่ได้สนใจอะไรมากกว่านี้ พูดกันไปก็มีแต่ทะเลาะกัน เงียบไปจะดีกว่าไม่อยากจะเถียงกับคนปากมากอีกแล้ว

“นี้คุณ..” คราวนี้เป็นฝ่ายอลิศเรียกก่อนบ้าง

“มีอะไร”

“ฉันหิว โทรสั่งของให้กินหน่อยสิ ที่กินมาจากข้างนอกมันย่อยหมดแล้ว สเต๊กอะไรก็ไม่รู้ชิ้นเล็กนิดเดียวแต่ทำไมแพ๊งแพง ฉันอยากจะสั่งเพิ่มนะแต่เห็นราคาแล้วไม่ไหวที่จะสั่งจริงๆ” คนพูดเริ่มบ่นๆ คนฟังหัวเราะชอบใจ ยัยนี้เค็มได้ใจจริงๆ นี้ขนาดของที่กินไปแล้วยังคิดมาเสียดายอีก จ่ายก็ไม่ได้จ่าย บ่นนี้อยู่นั่นแหละ

“นี้ถ้าสมมติว่า ยังมีคนเป็นโรคคอพอกอยู่ ผมว่าจะขอเกลือจากคุณไปให้พวกเขานะ มันเค็มแบบมีสารไอโอดินอยู่ในนั้นเลย"”

“จะถือว่าเป็นคำชมนะ”

“ดึกป่านนี้แล้ว ไม่เกรงใจเขาแล้วเหรอ นี้ในห้องเราก็มีของกินเล่นนี้กับไวท์ ไม่ก็ห้องนั่งเล่นมีกาแฟมีของว่างอยู่ในตู้เย็นตลอด” ที่บอกมาเนี๊ย แสดงว่าให้เดินไปเอาเองใช่ไหม

“คุณหมายความว่าจะให้ฉันไปทำกาแฟคนเดียว ที่ห้องนั่งเล่นใช่ไหม” ชายหนุ่มพยักหน้าพร้อมกับท่าทางไม่สนใจอะไรต่อทั้งนั้น

“จะบ้าเหรอ ให้ผู้หญิงสาวสวยอย่างฉันออกไปยามวิกาลอย่างนี้ได้ไง เกิดมีคนคิดพิสวาสฉันกลางทางฉันก็แย่นะ” เธอพูดปนขำ จริงๆกลัวต่างหาก ข้างนอกมันมืดๆสลัวๆแปลกๆ แถมปู่เสินยังชอบของเก่าอีกด้วย บื้อ...

“ใครจะมาพิสวาสคุณ นอกจากไอ้เรย์มอนด์หือ.... ป่านนี้มันคงนอนน้ำลายยืดไปแล้วล่ะ” ดูพูดเข้าสิ มันน่าฟังซะที่ไหนกันคนบ้าเอ๊ย

“แหมคุณก็” หญิงสาวทำหน้าแห้งๆ อีกคนถอนหายใจ

“อืม งั้นก็รออยู่นี้แล้วกัน ผมต้องไปถามเรโอน่าเรื่องงานเหมือนกัน งั้นก็รอแป๊บนะ แล้วก็ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่ต้องเปิดประตูนะ” ทำอย่างกับว่าบ้านตัวเองเป็นโรงแรมไปได้ ทำเป็นสั่งอ่ะโด่ เธอน่ะจะสามสิบแล้วนะยะ สั่งเหมือนเด็กๆไปได้ อลิศได้แต่คิดไม่อยากจะไปต่อล้อต่อเถียงกับเขา เดี๋ยวจะอดกาแฟ

เมื่อเขาเดินออกจากห้อง อลิศก็รีบลุกขึ้นไปล๊อคขึ้น เหมือนคำสั่งของเขามีมนต์สะกดให้เธอทำตาม เฮ้อ..ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำเวรกรรมอะไรกับเขาไว้ ถึงได้ต้องยอมเขาตลอด หญิงสาวมองไปรอบๆห้อง เพิ่งสังเกตุนะว่ามันใหญ่ใช้ได้ เสียดายตอนนอนเธอนอนไม่ค่อยจะหลับ ทั้งๆที่เตียงมันนุ่มน่านอน ถ้าคนข้างๆไม่ใช่ตาไรอันนั่นก็ดีน่ะสิ จะได้นอนตีพุงให้สบายใจไปเลย
คิดได้เช่นนั้นก็กระโดดขึ้นไปนอนเล่นๆบนเตียง แต่ด้วยความเหนื่อยอลิศจึงเผลอหลับ ให้ตายเถอะเตียงมันสบายจริงๆ...
..................................................................................


ไรอันเข้ามาถามงานกับเรโอน่าที่ห้องของเธอ วันนี้รู้สึกว่าน้องสาวจะไม่สนใจกับสิ่งที่เขาพูดเท่าไหร่ ได้แต่ทำหน้าเหม่อลอยเหมือนคนอยากยา ถามคำก็ตอบคำ ปกติถ้าเป็นเรื่องงานไม่ว่าจะปลุกขึ้นมาถามเธอจะไม่มีอาการงอแงใส่เลย นี้อะไรงานก็ไม่ไปทำแถมยังไม่ได้ปลุกขึ้นมาถามสักหน่อย กลับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“เป็นอะไรไปหรอเร บอกพี่ได้นะ” พี่ชายถามด้วยความเป็นห่วง

“ปะ เปล่าค่ะ พี่ไรอันมีอะไรจะถามเรอีกหรือเปล่าคะ” เออ ที่ถามๆไปนี้ไม่ได้ฟังเลยใช่ไหม

“พี่ว่าพี่ไม่ถามดีกว่านะ ไว้เราสติและอารมณ์ดีๆเมื่อไหร่ค่อยคุยกันก็ได้ พี่ไม่รีบหรอก แต่ถ้าจะให้มันโอเคก่อนวันจันทร์ก็ดีนะ” นี้นะไม่ได้รีบ น้องสาวถอนหายใจ วันนี้ทั้งวันคิดแต่เรื่องของเมื่อคืน

“เอ่อ เรไม่ได้เป็นอะไรนะคะ เพียงแต่ว่าเหนื่อยนิดหน่อยน่ะค่ะ ก่อนวันแต่งพี่เรย์ก็วุ่นๆ พองานแต่งผ่านไปก็เลยแบบว่า เอ่อ” พี่ชายยกมือห้าม พร้อมกับพยักหน้า

“เอาเถอะๆนะ ก็พักผ่อนซะถือว่าพี่ขอบใจเราแล้วกัน ที่เป็นแม่งานให้พี่ โอเค๊ แต่ว่าเรื่องงานของเรามันก็ความรับผิดชอบของเรานะ แล้วพี่ก็คิดว่าโปรเจคนี้เราจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังใช่ไหม วันจันทร์ค่อยคุยกันโอเค๊ ต้องไปทำกาแฟให้ยัยเกลือนั่นก่อน” ยัยเกลือ น้องสาวหูผึ่งเมื่อได้ยินคำนี้

“ใครหรือคะ”

“ก็ใครอีกล่ะ ยัยอลิศน่ะสิเกิดบ้าหิวขึ้นมากลางดึก พี่ก็เห็นว่ามาทางห้องเรแล้วก็เลยหาให้เขาหน่อยก็ดี จะได้หุบปากหน่อยพูดมากน่ารำคาญจริงๆ” คำพูดบอกน่ารำคาญแต่สายตาตอนพูด นี้ไม่ได้บอกเลยนะว่ารำคาญ

“จริงเหรอคะ ปกติพี่ไรอันไม่ชอบให้ใครสั่งนี้คะ แต่ทำไม..” เรโอน่าทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่

“ไม่ต้องมาคิดเลยนะ ฉันไม่ชอบของแปลก ไม่กวนแล้วนะ แล้วคุยกัน” พี่ชายจับไหล่เรโอน่าก่อนออกจากห้อง น้องสาวยิ้มพร้อมกับเดินไปส่งที่ประตู

“ติ๊ดๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หญิงสาวล๊อคประตูแล้วรีบมารับ พระเจ้าช่วย นี้มันพ่อเคนนี่นี้ คิดยังไงถึงได้โทรมาหาเธอ หรือว่าจะจำเรื่องเมื่อคืนได้ แล้วเธอจะพูดกับเขายังไง “ไม่เป็นไรค่ะมันก็แค่คืนเดียว” หรือว่า “เรเข้าใจค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ” อ๊าก จะพูดว่าอะไรดี เจ้าของโทรศัพท์เริ่มสับสน

“ฮัลโหล” เรโอน่าทำเสียงงุนเงีย ประดุจว่าลุกขึ้นมาจากเตียงเพื่อมารับโทรศัพท์เขาโดยเฉพาะ

“คุณเรครับ ผมเคนนี่นะครับ” ไม่บอกก็รู้แล้วย่ะ

“ค่ะ ว่าไงคะ” หญิงสาวกดเสียงเต็มที่

“คือว่าเรื่องเมื่อคืน ผมๆเอ่อ...” เรโอน่าหายใจไม่เต็มท้อง เขาจะพูดอะไร เขาจำได้งั้นเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น

“คะ”

“ผมขอโทษจริงๆนะครับ ผมมันแย่มากๆเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ เรยเข้าใจ”

“แล้วผมจะเอาของไปคืนให้คุณเร ได้ยังไงละครับ” ของเอ๊ะ..ของอะไร หรือว่าเธอลืมอะไรไว้ที่บ้านของเขา หวังว่าคงไม่ใช่ยกทรงหรอกนะ โอว...ไม่

“คะ”

“ก็คุณทำกระเป๋าตังค์หล่นไว้น่ะครับ ผมเพิ่งตื่นตอนหกโมงนี้เอง ตอนแรกก็ไม่เห็นหรอก แม่บ้านเขามาทำความสะอาดเห็นมันตกอยู่ใต้เตียง ต้องขอโทษจริงๆที่ทำให้คุณลำบากมาส่งผม แถมยังแบกผมมาที่เตียงอีก ผมมันแย่มากๆเลย” นี้ไม่ได้รู้เรื่องเลยใช่ไหม

“คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามด้วยความสงสัย

“ไม่ได้ครับ ผมรู้แต่ว่าผมไม่ได้ใส่ชุดเดิม” ชายหนุ่มพูดด้วยความอาย

“เอ่อ...คะ คือ เรมอนด์เป็นคนเปลี่ยนให้น่ะค่ะ ฉันก็ไปกับน้องกับนิกกิ คุณไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะคะ เมื่อคืนฉันล่ะตกใจจริงๆ”

“ครับ ขอบคุณมาก ผมโชคดีมากนะครับที่มีเพื่อนดีๆอย่างคุณ ฝากขอบคุณเรมอนด์ด้วยนะครับ เอาเป็นว่าผมไม่กวนคุณเรแล้วนะครับ ถ้าไงเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอากระเป๋าไปคืนแล้วกันเนอะ กี่โมงผมจะโทรไปบอกอีกทีดีไหมครับ” ที่อยากเอามาคืนเพราะอยากจะเจอฉัน หรืออยากจะเจออลิศกันแน่ หญิงสาวคิดในใจ

“โอเคค่ะ งั้นก็ค่อยเจอกัน บะบายค่ะ ฝันดีนะคะ”

“เหมือนกันนะครับ บะบายครับ” ชายหนุ่มตัดสายพรึ่บ ขณะที่อีกคนยังไม่ได้วางโทรศัพท์ออกจากหู น้ำตามันก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำไม....เธอมีอะไรที่สู้อลิศไม่ได้งั้นเหรอ ทั้งการงาน ฐานะหรือแม้แต่หน้าตาก็ไม่ได้ด้อยกว่าอลิศเลย ทำไมเขาถึงไม่ใช้สายตาที่มองอลิศมองเธอบ้าง พิษของความรักมันช่างทรมาน เจ็บ จนบรรยายออกมาเป็นคำไม่ถูก สรุปความรักมันคืออะไรกันแน่ เป็นดอกไม้ที่หวานหอมหรือว่ายาพิษที่พร้อมจะทำให้เราเจ็บปวดได้ตลอดเวลา ไม่เข้าใจเลยจริงๆ....

.............................................................................


ไรอันเดินเข้ามาพร้อมกาแฟหอมกรุ่น เขาปิ้งขนมปังให้เธอด้วย ให้ตายเถอะทำไมเขาต้องลงทุนอะไรมากมายขนาดนี้ด้วย พอเข้ามาในห้องเห็นร่างน้อยนอนหลับอยู่บนเตียง ชายหนุ่มถึงกับยิ้มกับภาพที่เห็น แม่เสือสาวแถมเค็มตอนนี้เหมือนลูกแมวเชื่องๆที่นอนอ้อนเจ้าของ

ไรอันวางกาแฟแล้วเดินไปที่เตียง หวังจะไปปลุกให้อลิศตื่นมากิน เห็นหิวหนักหนา ถ้ามันเย็นขึ้นมาเขาอีกนั่นแหละจะได้ไปทำให้หล่อนอีก

ชายหนุ่มยื่นมือไปจับไหล่อีกคนเบาๆ เขามองดูใบหน้าหวานปนดุของเธอ ขนตายาวน่ามองผิวก็ขาวอมชมพู แม่เจ้านี้มีของดีอยู่ในมือจริงๆหรือเนี๊ย จะมัวเป็นคนดีอยู่ทำไม

“ฮื้อ..” อลิศค่อยลืมตาขึ้นมา เธอเป็นคนที่มีความรู้สึกไวมากๆ

“อ๊ายยยย ตาบ้า” พอลืมตาขึ้นมาเห็นชายหนุ่มจ่อหน้าเข้ามาใกล้ๆ เธอก็วีนใหญ่ หญิงสาวรีบคว้าผ้าห่มมาห่มไว้แนบตัว ไรอันตกใจเสียงกรี๊ดอีกคนแทบจะตกเตียง

“เป็นบ้าอะไร” เขาถามด้วยน้ำเสียงงุนงง

“ก็คุณจะทำอะไรฉัน ทุเรศจริงๆเลยนะ เผลอไม่ได้เลย” หญิงสาวตอบ

“ยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่จับไหล่” หนอย..จับไหล่

“จับไหล่ กำลังจะถอดเสื้อฉันใช่ไหม นี้แหนะๆๆๆ” อลิศกระโดดเข้าไปจะบีบคออีกคน เอ่อ..ไรอันนิ่งช๊อคกับความคิดของอลิศ เออสมควรแล้วที่ทำงานนิตยาสารเซกซี่เร้าใจ ดูคิดเข้าสิ ถ้ารู้ว่าคิดยังงี้คงทำไปนานแล้ว

“เฮ๊ย ผมแค่จะปลุกให้คุณมากินกาแฟเท่านั้นเอง โวยวายไปทำไม เก็บเสียงไว้ตอนทำจริงๆก็ได้” อีตาบ้า ไอ้ถั่วแดงแมงหื่น ยิ่งพูดยิ่งสาวยิ่งบีบแรงกว่าเดิม

“หายใจไม่ออก”

“ตายไปเลยฉันจะได้สมบัติคนเดียว”

“งั้นก็ตายด้วยกันมา” ไรอันคว้ามือหญิงสาวได้ ก็ใช้พลิกร่างเธอลงอย่างง่ายดาย ต้องเจอของจริงซะแล้วคนแบบนี้

“คุณจะทำอะไรฉัน อื้อส์.........ตาบ้าปล่อยฉันนะ” ชายหนุ่มไม่ทิ้งเวลาให้เสียเปล่า เขากดข้อมืออีกคนแน่นแล้วบรรเลงเพลงจูบลงทั่วใบหน้าและซอกคอให้อีกคนหายบ้า

“อยากตายไม่ใช่เหรอ ตายแบบนี้ได้ขึ้นสวรรค์ด้วยนะ” เขายิ้มอีกรอบ

“คนบ้ากาม” ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุ อลิศถูกสั่งสอนด้วยจูบที่แสนร้อนของไรอัน ทำอีกคนถึงกับเงียบลงไป เหลือแต่เสียงลมหายใจของสองคนเท่านั้น

“ ปล่อยฉันเถอะนะ” อีกคนพูดน้ำเสียงในลำคอ ไรอันยิ้มแล้วพลิกตัวลงนอนใกล้ๆร่างเล็ก อลิศรีบหันหน้าหนี

“นี้ผมไม่ทำอะไรมากกว่านี้หรอกน่า กินกาแฟเร็ว” เขาสะกิดอีกคน

“ฉันไม่หิวแล้ว ฉันนอนดีกว่า”

“เล่นตัวน่า อุตส่าห์ทำให้แล้วไม่กินได้ไง หรือว่าจะให้ผมกินคุณแทน” ฟังดูคำพูดเขาเถอะ มันน่าเตะนักเชียว อลิศรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปที่โซฟา

“แก้วไหนของฉัน”

“แก้วไหนก็ได้เลือกเอา ผมทำแซนวิชให้ด้วยนะ”

“เสื้อไปโดนอะไรมาแดงเหมือนหมูถูกเชือดเลย” อลิศหาทางเปลี่ยนเรื่อง ไรอันมองดูเสื้อ

“ก็ทำแซนวิชให้คุณนั่นแหละ ผมเคยทำซะที่ไหนเล่า ซอสมะเขือเทศน่ะสิ บีบนิดเดียวพุ่งออกมาอย่างกับกระสวยอวกาศ” เอออย่างนี้ก็มีด้วยแหะ
“ต้องให้ฉันขอบคุณคุณหรือเปล่า” อลิศยิ้มๆ

“แล้วแต่นะ ถ้ามีคอมมอนเซนส์พอ” หนอยแหนะจะพูดจาดีๆไม่ได้เลยรึไง

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพูดค่อยๆพร้อมกับกินแซนวิชที่อยู่ข้างหน้า

“ตายแล้วคุณ ฉันลืมงานไว้ในรถ”

“พรุ่งนี้ค่อยเอาก็ได้นี้ มันดึกแล้วนะ” ไรอันมองหน้าอีกคน เดี๋ยวหิวเดี๋ยวลืมของ ยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อยเอาใจยากจริงๆ

“ไม่ได้หรอก เป็นรูปปกใหม่ของหนังสือ นางแบบขายาวสาวๆสวยๆทั้งนั้น”

“งั้นก็ไปเอาเลยป่ะผมไปส่ง” ชายหนุ่มวางถ้วยกาแฟแล้วหยิบเอากุญแจรถทันที หูผึ่งเชียวนพอบอกว่าปกใหม่ของหนังสือ หื่นซะไม่มีเลย

ไรอันเดินนำหน้าอีกคน หญิงสาวพึ่งสังเกตุว่าแผ่นหลังของเขามันกว้างเหมือนกันนะ ซ่อนรูปใช้ได้ ไว้เวลาพวกนายแบบมันเล่นตัว จะติดต่อเขานี้แหละไปถ่ายแบบให้หนังสือ ถึงวันนั้นหนังสือต้องขายดีเป็นสองสามเท่าแน่เลย กำไรทั้งนั้น

“ระวังหน่อยนะ บันไดแล้ว” ไรอันหันบอกคนที่ตามมา อีกคนไม่ทันได้มองชนเขาไว้อย่างจัง อลิศเงยหน้าหวังจะเอาเรื่อง แต่เห็นแววตาอีกคนเธอก็ต้องรีบหันไปมองทางอื่น

“อ๋อ แค่บันไดฉันไม่ใช่เด็กอมมือนะคุณ” เธอพูดเพื่อเลี่ยงความอายให้ตายเถอะ แพ้สายตาๆ พอพูดจบหญิงสาวก็เดินนำหน้าไปก่อน ยังมิทันขาดคำอลิศก็ก้าวพลาด ไรอันมีสติคว้าเธอไว้ได้ทัน

“คุณนี้นะซุ่มซ่ามจังเลย” เขาพูดพร้อมกับรัดเอวอีกคนแน่น แต่ก็มิมีท่าทีว่าอีกคนจะพูดอะไร

“อลิศเป็นอะไรไป” เขาเรียกชื่อเธอเบาๆ

“ไรอันดูนั่นสิ นั่นมันคุณปู่นี้” หญิงสาวชี้ไปที่ชั้นล่าง ไฟสลัวมันทำให้เห็นไม่ชัดเท่าไหร่ ภาพตรงหน้าคือชายแก่ใส่ชุดนอน นอนจมกองเลือดอยู่ด้านล่าง

“คุณปู่” ไรอันรีบวิ่งโร่ลงจากบันไดมาดู

“คุณปู่คะ” อลิศเขย่าอีกคนเบาๆ

“เรียกรถพยาบาลเร็ว” ชายหนุ่มบอกภรรยา อลิศคว้าโทรศัพท์ที่อยู่ใกล้ๆเรียกรถพยาบาล ไรอันกดกริ่งเตือนภัยของบ้าน ทุกคนวิ่งแจ้นออกมาจากห้อง

“ปู่เสิน”

“คุณพ่อ”

เรโอน่ากับเรมอนด์ร้องเสียงหลัง ทุกคนในบ้านต่างมีอาการช๊อคไม่แพ้กัน ไม่นานรถพยาบาลก็มา ไรอันกับเรมอนด์ขึ้นไปบนรถพยาบาลด้วย ไรอันไม่อนุญาติให้ใครตามไปเขาไม่อยากให้เป็นข่าวเดี๋ยวพวกนักข่าวจะไปรบกวน อลิศยืนไม่อยู่ถึงกับจะเป็นลมล้มลงให้ได้ เรโอน่าค่อยประครองเธอมานั่งบนโซฟา

“ทำเป็นดัจจริต แหม...เห็นเลือดแค่นี้เอง” อาถงพูดจาถะถาง

“เกิดอะไรขึ้นหรืออลิศ”

“ฉันก็ไม่รู้ค่ะคุณเร เดินออกมากับคุณไรอันว่าจะไปเอาของที่รถ มาก็เจอคุณปู่นอนจมกองเลือดอยู่ ท่านคงจะพลัดตกบันไดลงมาน่ะค่ะ ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง”

“ถ้าคุณพ่อเป็นอะไรไป งั้นบริษัทก็เป็นของไรอันน่ะสินะ แผนแยบยลดีนะ” ไช่ยั๊วเยิ่นกำมือไว้แน่น เมื่อได้ฟังน้องสาวพูดถึงลูกชายของตนเอง

“ใครเขาจะไปคิดต่ำๆอย่างเธออาถง อย่าลามปามให้มากนะ หลานมันทำงานเหนื่อยแทบตาย มันก็สมควรที่มันจะได้ ใครมันขี้เกียจชอบมาขอบุญคนอื่นก็ไม่ต้องพูดมาก” นานๆคุณพ่อจะออกโรงป้องลูกชายสักกะที แต่เรื่องนี้ไม่ไหวจริงๆ ไม่มีทางที่ลูกชายจะทำเรื่องเลวเช่นนั้นหรอก

“แหมคุณพี่ใครจะไปรู้ละคะ ไรอันก็เป็นคนเจอคุณพ่อคนแรก ปกติถ้าตกบันไดลงมาจริงๆ พ่อก็ต้องร้องแล้ว ไหนจะเลือดอีก สลบไปอย่างนั้นไม่รู้จะรอดหรือเปล่า”

“หยุดคำพูดของเธอได้แล้วนะอาถง ถ้าไม่หยุดจะหาว่าฉันไม่เตือน” ยั๊วเยิ่นยกมือขึ้นเหนือศรีษะหวังจะตบให้อีกคนหายบ้าสักที

“คุณพ่อยังไม่ตายทำไมต้องมาทะเลาะกันแล้ว อาถงเธอก็อย่าคิดให้มันมากนัก เธอก็รู้ว่าหลานเป็นยังไง เอาล่ะๆแยกย้ายกันไปก่อนเถอะนะ ได้ข่าวจากไรอันแล้วจะส่งข่าวให้” คุณนายไช่พูดห้ามสามีกับน้องสาว อาถงนี้ไม่ไหวจริงๆ พ่อยังไม่ตายห่วงเรื่องสมบัตติซะแล้ว

“ก็ได้ไปพวกเรากลับ” เธอบอกสามี

“ไม่ไหวจริงๆเลย นิสัยมันแย่ได้ใครมาก็ไม่รู้” ยั๊วเยิ่นกล่าวพลางส่ายหน้ารับไม่ได้กับน้องสาว

“คุณก็ใจเย็นๆนะคะ ว่าแต่อลิศไม่เป็นอะไรแล้วนะจ๊ะ” แม่สามีหันมาหาลูกสะใภ้ หญิงสาวส่ายหน้า

“หนูตกใจนิดหน่อยน่ะค่ะ คุณแม่หนูว่าจะไปโรงพยาบาลน่ะค่ะ นั่งรออย่างนี้ไม่ไหวจริงๆ ถึงไรอันจะห้ามไมให้ไปก็เถอะ แต่มันอดไม่ได้แล้ว” เรโอน่าเห็นด้วยเธอเองก็นั่งไม่ติดเหมือนกัน

“ก็ดีเหมือนกันนะคะคุณป้า ให้เรไปกับอลิศนะคะเพื่อว่ามีอะไรจะได้ช่วยกัน”
“แต่ไรอันเขาไม่อยากให้ไป ป้าเองก็ไม่อยากจะขัดเขาเท่าไหร่”

“คุณป้าคะ ไรอันเขาไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ นะคะเดี๋ยวหนูจัดการเอง คุณเรคะไปแต่งตัวกันค่ะ” อลิศไม่รอฟังคำตอบจากแม่สามี เธอรวบรวมแรงได้ก็เดินจ้ำเข้าไปแต่งตัวที่ห้อง นิกกิขอไปด้วยเธอไม่อยากจะอยู่บ้านนี้คนเดียว ดูมันวังเวงอย่างไงก็ไม่รู้ บ้านใหญ่แต่คนมีแต่แปลกๆทั้งนั้น นี้ถ้าไม่มีพ่อและแม่ไรอันกับแม่ของเรโอน่า เธอต้องอยู่ไม่ได้แน่ๆ

อลิศขับรถด้วยความเร็ว เกิดมาก็เพิ่งเคยเหยียบแบบนี้แหละครั้งแรก คุณปู่ต้องไม่เป็นอะไร มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลังจากงานแต่งเธอเพียงวันเดียวเท่านั้น คุณปู่ก็มาเป็นอย่างนี้ มันต้องไม่ใช่อุบัติเหตุอย่างแน่นอน หรือจะเป็นการฆาตกรรมอย่างที่อาถงกล่าว

ถ้าปู่เสินเกิดเป็นขึ้นอะไรมาจริงๆ ตามพินัยกรรมที่ปู่เคยบอกไว้ หุ้นใหญ่ทั้งหมดยกให้หลานชายคนแรก ส่วนบริษัทฝั่งจีนยกให้เรมอนด์และเรโอน่า งั้นไรอันก็เป็นคนที่ได้มากที่สุดน่ะสิ

“เสื้อไปโดนอะไรมาแดงเหมือนหมูถูกเชือดเลย”

“ก็ทำแซนวิชให้คุณนั่นแหละ ผมเคยทำซะที่ไหนเล่า ซอสมะเขือเทศน่ะสิ บีบนิดเดียวพุ่งออกมาอย่างกับกระสวยอวกาศ”

หรือว่าไรอันจะเป็นตัวการทั้งหมด ปกติเขาไม่ชอบให้ใครสั่ง แต่วันนี้เธอสั่งอะไรเขาก็ทำตาม แถมยังไปนานด้วย กลับมาเสื้อก็มีรอยเปื้อนสีแดง พอตอนเดินมาเอาของคุณปู่ก็อยู่นอนจมอยู่ในกองเลือด หรือว่าจะเป็นเขาจริงๆ ก่อนแต่งงานคุณปู่ก็ยื่นคำขาดว่าถ้าไม่แต่งจะไม่ยกหุ้นให้ สุดท้ายเขาก็ยอมแต่ง

“อลิศระวัง” เรโอน่าเรียกเสียงหลง อลิศมัวแต่คิดจนลืมมองทาง

“เอี๊ยด” หญิงสาวเหยียบเบรกอย่างแรง

“เป็นอะไรไปอลิศ เป็นอะไรหรือเปล่า” คนนั่งข้างๆเห็นคนขับเหงื่อโชกเต็มตัว

“ไม่เป็นอะไรค่ะ ขอโทษนะคะคุณเร”

“เป็นห่วงคุณปู่ใช่ไหม ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ ถึงมือหมอแล้วไม่ต้องห่วงหรอกนะ” เรโอน่าทำเป็นพูดดี แต่จริงๆเธอก็ห่วงคุณปู่ไม่แพ้ใครเลย

“ค่ะ ค่ะ”

ถึงโรงพยาบาลอลิศกับเรโอน่าก็วิ่งหอบเข้ามา ไรอันกับเรมอนด์ยืนวกไปวนมาที่หน้าห้อง ICU แม้นคุณปู่จะเคยเข้าไปในนั้นมาแล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา อลิศไม่เคยเห็นไรอันทำหน้าเครียดอย่างนี้มาก่อน หรือเบื้องหลังหน้าตาเครียดเหล่านั้นจะเป็นการแสดง เป็นหน้ากากที่เขาสร้างมันขึ้นมา

“บอกแล้วไงว่าไม่ให้มา” ไรอันพูดเสียงเข้ม

“ก็คนมันเป็นห่วง จะไม่ให้มาได้ยังไง” เรโอน่าก้มหน้าก้มตาเพราะกลัวสายตาพิฆาตของไรอัน อลิศจึงออกหน้าแทน

“กลับไปเลยไป”

“ไม่กลับ ก็รออยู่ด้วยกันนี้แหละ หรือว่าคุณกลัวอะไร” คำพูดของอลิศมันทำให้คนฟังขัดหูขึ้นมา

“เธอพูดอย่างนี้หมายความว่าไง”

“ฉันหมายความว่ายังไง ใครฟังเข้าใจก็ตีความหมายเอาเอง”

“เธอ...” ไรอันกำลังจะโผลเข้าไปเอาเรื่องหญิงสาว แต่เรมอนด์เอาตัวบังไว้ก่อน ขณะที่กำลังชุลมุนอยู่นั้น คุณหมอก็เดินออกมา

“คุณหมอครับ ปู่เสินเป็นยังไงบ้างครับ” เรมอนด์กับไรอันถามพร้อมกัน

“ศรีษะของปู่เสินถูกกระแทรกอย่างแรง แต่ว่าตรงกำบังลมของปู่เสินถูกแทงสามสี่ครั้ง ตัวผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ช่วยอะไรท่านไม่ได้ ปู่เสินมาถึงมือหมอช้าไปจริงๆครับ ผมขอโทษด้วย”

“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง” เรมอนด์ดึงคอเสื้อหมอ เรโอน่าต้องรีบห้ามไว้

“ผมเสียใจด้วยครับ ปู่เสินท่านไปสบายแล้ว”

“เสียแล้ว” ไรอันล้มลงกับที่ เรโอน่าก็ยืนไม่ไหว เรมอนด์ประคองพี่สาวไปนั่งลงก่อน อลิศมองคนที่นั่งอยู่กับพื้น เธอค่อยๆยื่นมือไปแตะไล่เขาเบาๆ จะให้ไปพูดกระทบกระทั่งประชดเขามันก็กระไรอยู่ หากไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเขาก็คงจะเสียใจมากในตอนนี้

“ถ้าคุณอยากจะร้องไห้ก็ร้องออกมาเถอะนะ” เขาเองก็คน จะมามัวตีหน้าทำเข้มแข็งตลอดมันก็เป็นไปไม่ได้

“คุณ.....” ไรอันลุกขึ้นมา ด้วยแววตากร้าว เขาไม่ได้เป็นคนอ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย เขาไม่ต้องการคำปลอบใจจากใครทั้งนั้น

“ร้องออกมาเถอะนะ มันจะได้ระบาย” หญิงสาวยิ้มให้ ชายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ รวบคนตรงหน้ามากอดแน่น นี้คงเป็นครั้งแรกกระมังที่อลิศกอดเขาตอบ

“ผม....รู้สึกแย่มาก” ไรอันพูดเบาๆ พร้อมกับร้องไห้ออกมา อลิศยิ้มดีใจที่เขาไว้ใจเธอ ถึงเขาจะไม่ค่อยกินเส้นกับเธอเท่าไหร่ แต่บ่าของเธอก็ยินดีต้อนรับเขา ถ้านี้คือการเล่นละครมันก็คงเป็นการเล่นละครที่เนียนมากๆ อลิศเริ่มสับสน ไรอันคุณเป็นคนยังไงกันแน่....แล้วคุณปู่เสียได้ยังไง ใครฆาตกร คำถามหลายเรื่องมันผุดขึ้นมา ไม่ได้การแล้วสิเธอต้องรู้ให้ได้ว่าใครคือต้นตอทั้งหมด....เรื่องสนุกที่เดิมพันด้วยชีวิตมันกำลังเกิดขึ้นแล้วสินะ
...............................................................


ติดตามตอนต่อไปนะฮะ จะพยายามไม่ดองละ เด๋วจะอร่อยเกินไปอิอิ
ถ้าเพลงไม่ขึ้นกดเลยนะ..


Get this widget | Track details | eSnips Social DNA




 

Create Date : 01 มิถุนายน 2552
18 comments
Last Update : 1 มิถุนายน 2552 0:14:24 น.
Counter : 521 Pageviews.

 

ก่อนนอน...

ฝากรูปอลิศคนฉวย ..

มีแต่เรื่องเหวอๆช่วงนี้โหะๆๆ

 

โดย: Napoleonquz 1 มิถุนายน 2552 0:38:31 น.  

 

Photobucket

 

โดย: Napoleonquz 1 มิถุนายน 2552 0:39:13 น.  

 

อ่านเรียบร้อย คนแรกเพราะเราขี้โกงแอบอ่านตั้งแต่อยู่ที่ทำงาน อิอิ จากการสันนิษฐานคาดว่าข้าวสารจะยังดิบอยู่ ฮ่าๆ ก็เพราะว่าพี่เคนนี่ เฉาก๊วยยังใส่เสื้อผ้าชุดที่ตาเรย์มอนช่วยเปลี่ยนให้ อันนี้เดาจากที่พี่เคนนี่โทรมาบอกว่าจะเอากระเป๋าตังค์มาคืนหนูเรย์ ก็คุณพี่ก็บอกว่า “ไม่ได้ครับ ผมรู้แต่ว่าผมไม่ได้ใส่ชุดเดิม” เสื้อผ้ายังอยู่ครบแบบนี้ เป็นอันว่าข้าวสารยังดิบอยู่ อิอิ

แต่ตอนนี้คุณปู่เสียแล้ว ใครหนอที่เป็นคนลงมือ นักสืบอริสเตรียมลุยแล้วค่ะ แต่พี่ไรอันกลับถูกสงสัยไปซะแล้ว ไม่จริงๆพี่ไรอันไม่ได้ทำหรอก อริสตั้งสติไว้ดีๆนะค่ะ ซอสมะเขือเทศ ไม่ใช่เลือดนะค่ะ อย่าคิดฟุ้งซ่าน เดี๋ยวจะปล่อยให้คนร้ายตัวจจริงลอยนวลไปได้นะค่ะ

เอ่อ...รู้สึกว่ามีฉากก่อไฟกันตั้ง 2 คู่ Oh...No!!

 

โดย: ทับทิม IP: 125.26.42.195 1 มิถุนายน 2552 19:55:01 น.  

 

โอ้วว ยาวมากค่ะ ตั้ง 2 ตอน อ่านมาราธอนเลย

เห็นด้วยกะทับทิม คาดว่าข้าวสารยังไม่กลายเป็นข้าวสุกสำหรับคู่คุณเรกับเคนนี่ เพราะ ทั้งสองคนไม่รู้สึกมีอะไรผิดปกติเลยค่ะ ดังนั้น คุณเรต้องสู้ต่อไป

สงสารไรอัลจังค่ะ วันแต่งานแท้ๆ อลิสยังไปทำงานอีก แถมให้นั่งเฝ้าจ๋องเป็นลูกแมวด้วย เสียชื่อคาสโนว่าโม้ดดดดด แต่ก็นะ รักแท้ย่อมทำให้คนเปลี่ยนไปได้

ส่วนนิกกิกับเรย์มอนด์ มันส์กะตบจูบๆมากค่ะ ตอนหน้าขอแบ่งมาให้คู่พี่ๆบ้างนะจ๊ะ จะเหี่ยวเฉาแย่แล้วววว

ในที่สุดปู่เสินก็ไปซะแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าปู่จะมาจากไปง่ายๆแบบนี้ อดเลี้ยงแฝดห้าเลยอ่ะ แล้วอลิสหน้ออลิส แม้จะยังไม่รู้จักไรอัลดี แต่ก็ช่างสงสัยสามีได้ลงคอ ใจร้ายนะเนี่ย สงสารไรอัล รักปู่เสินมากด้วย มาเสียปู่ไป แถมยังเป็นผู้ต้องสงสัยอีก คนอื่นสงสัยไม่เป็นไร แต่ภริยามาสงสัยไปด้วยนี่ ถ้าไรอัลรู้คงเสียใจนะเนี่ย เอาใจช่วยให้หาฆาตกรได้ไวๆ และอลิศก็รอบคอบ ใช้ความฉลาดให้เป็นประโยชน์นะคะ

 

โดย: หลินอี้ 1 มิถุนายน 2552 22:18:39 น.  

 

แวะมาทักทายจ้า n'mare ไม่ยักรู้ว่าน้องเราฝีมือแต่งฟิคใช้ได้เลยนะเนี่ย

 

โดย: Hanazawa Rui 1 มิถุนายน 2552 23:07:01 น.  

 

โอ๊ยตายๆ นี่มันคุณไรอัลหรือว่านาซีฮ่องกงเนี่ย โคตรเผด็จการเลย ทำไรเคยถามสักคำก่อนไหม โอววว ก๊อด (แต่ก็ถูกใจค่ะ คนอ่านแอบซาดิส หุๆ เหมือนคนเขียน) อ๊ายยยให้พี่ชายหล่อเหมือนแบร๊ดพริกเลยเหรอคะคุณน้อง (อ่านแล้วก็ขำ หรูไปหรือเปล่าคร่า แต่ก็นะ ถ้าเอาตามมาตรฐานซ้อแต๋ม จื้อหลินหล่อกว่าแบร๊ดพริกรวมกันสามคนซะอีก โหะๆๆ)

อ๊ากกก นายเรย์บ้ากรามอ่ะ ตกใจหมดเลย นึกว่าจะมีฉากหุงข้าวของรุ่นน้องด้วย ฟิ้วววว รอดไป (แต่สำหรับคู่หนูเร แต๋มว่าน่าจะสุกไปเรียบร้อยแล้วนะคะ)

โธ่กำลังขำๆ กับมุขจู๋จี๋ของอลิศกับคุณไรอัลอยู่ดีๆ มาเจอข่าวการจากไปของปู่เสินซะแล้ว น่าสงสารปู่จังเลยค่ะ เป็นตัวละครที่น่ารักมาก ไม่อยากให้จากไปเลย อุตส่าห์เป็นกามเทพให้อลิศกับคุณไรอัล ฮือๆๆๆ อลิศอย่าเข้าใจพี่อัลผิดนานนะคะ สงสารคนหล่อแก้มบุ๋ม

พี่ไรอัลน้องรอน้องลิศทำงาน
v
v

 

โดย: realtomtam 1 มิถุนายน 2552 23:56:37 น.  

 

อ่านตอนที่สิบเอ็ดต้องตะลึง คิดไม่ถึงว่าเรย์มอนด์จะเล่นจู่โจมถึงห้องแบบนี้

แต่พออ่านตอนที่สิบสองตะลึงยิ่งกว่า ไม่คิดว่าจะมีคนตายอ่ะ แงๆๆๆๆ
เอาใจช่วยให้อลิศตามหาคนร้ายตัวจริงเจอเร็วๆ นะคะ พี่ไรอันจะได้พ้นข้อสงสัยสักที

ว่าแต่ข้าวสารสุกหรือยังคะเนี่ย????
แต่คุณหนูเรเล่นหลับถึงห้าโมงเย็น ส่วนคุณเคนนี่ก้อหลับถึงหกโมงเย็น ถ้าข้าวสารยังไม่สุกเนี่ย แสดงว่าเหล้าต้องมีฤทธิ์ดีเยี่ยมเลยนะเนี่ย หุหุ

 

โดย: Cipher IP: 58.8.144.81 1 มิถุนายน 2552 23:56:44 น.  

 

ไม่นะไม่ ปู่เสิ่นยังไม่ทันได้เห็นหลานอีกสองคนแต่งงาน เหลนก็ยังไม่ได้อุ้ม ปู่จะมาด่วนจากไปก่อนไม่ได้นะคะ ไม่จริงใช่มั้ย ผกก จะใจร้ายกับปู่เสิ่นเกินไปรึเปล่า ไม่ยอมค่ะ ไม่ยอม

 

โดย: O-yohyo 6 มิถุนายน 2552 17:22:55 น.  

 

เรื่องหุงข้าวของผู้กองเคนนี่กับหนูเรก็ยังไม่กระจ่างอยู่ดี ตกลงยังไงคะเนี่ย รอมา 3 เดือน อาแมรกลับมาเคลียร์ต่อด่วนเลย แต่ถ้าให้พี่เดา ที่ผู้กองยังใส่เสื้อผ้าอยู่ แสดงว่าเมาหลับไปซะก่อน ก็เมาหนักขนาดนั้น คาดว่าไฟคงโดนตัดก่อนเป็นแน่

 

โดย: O-yohyo 6 มิถุนายน 2552 17:26:33 น.  

 

เฮียไรอันก็ช่างเป็นสามีตัวอย่าง อิอิ . . เฝ้าภรรยาทำงานซะด้วย แบบนี้ต้องให้ได้ฮันนีมูนเป็นรางวัลนะคะ แต่คิดว่าคงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ใช่ป่ะ ก็มีเรื่องของปู่เสิ่นซะก่อน น้อยใจแทนเฮียไรอันนะเนี่ย ที่เจ๊อลิศมาสงสัยกันอย่างนี้ แบบนี้ต้องให้จุ๊บสั่งสอนค่ะ

 

โดย: O-yohyo 6 มิถุนายน 2552 17:28:14 น.  

 

คู่เล็กซี่มาแรงกว่า แต่ถ้าพี่พูดกันตามจริงนะ ถ้านี่เป็นเรื่องจริงมิใช่ฟิค คาดว่านิกิคงย้ายบ้านหนีแน่ๆ ค่ะ ก็คนไม่รู้จัก คนที่เห็นเป็นศัตรูมาลวนลามกันแบบนี้ เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆ อยู่บ้านพี่เขยต่อไปเป็นอันตรายอย่างยิ่ง สมควรย้ายบ้านหนีค่ะ ถ้าไม่ย้ายก็แสดงว่ามีใจแล้วล่ะ

 

โดย: O-yohyo 6 มิถุนายน 2552 17:30:12 น.  

 

แล้วก็ขอทวงบทให้ฟงกับแซมมวลด้วยค่ะ พอดีย้อนไปดูตอนเก่าๆ ก็เลยเห็นว่า เฮ้ย . . มีบทของสองคนนี้ด้วยนี่หน่า ผ่านมาเกือบปีแล้ว สองคนนี้ยังไม่ได้ออกเลย อยากให้มีบทบาทบ้างจ้า

ที่สำคัญอยากอ่านตอนต่อไปค่ะ อยากอ่าน อยากอ่าน ต้องจุดไฟให้อาแมรซะหน่อย

 

โดย: O-yohyo 6 มิถุนายน 2552 17:32:26 น.  

 

กลับไปอ่านฉากนั้นอีกรอบ คิดว่าหนูเรไม่น่ารอดแล้วนะคะ มีไฟอะไรปรารถนาๆ ลุกๆ ไม่เชื่อลองอ่านดูเอง

“ฉันก็รักคุณ” เธอตอบเขาเบาๆ เคนนี่ยิ้มก่อนจะหาความหอมหวานจากซอกคอของอีกคนอีกรอบ ไฟที่หัวเตียงดับลงพร้อมกับความไฟปราถนาของทั้งสองที่กำลังเริ่มขึ้น(โอว..) ณ เวลานี้เรโอน่าไม่สนแล้วว่า เขาจะคิดว่าเธอเป็นอลิศหรือเป็นใครก็ช่าง ตอนนี้มันเป็นเวลาที่เธอกำลังจะมีความสุข แม้มันจะเป็นความทุกข์ของเธอเองในวันพรุ่งนี้ก็เถอะ ไม่สนแล้วจริงๆ

 

โดย: realtomtam 7 มิถุนายน 2552 22:35:37 น.  

 

ไม่นะไม่ . . แต๋มอย่ามาพูดให้ไขว้เขวซี่คะ นั่งท่องอยู่ตั้งนานว่า . .

เมาหนัก ไฟดับ ข้าวไม่สุก . . คนเมาสติย่อมลางเลือน ง่วงหลับไปก่อนเป็นธรรมดา เพราะงั้นข้าวไม่สุกค่ะ หลับก่อน โอม หลับไปเลยนะผู้กองนะ


แฟนคลับเรโอน่าให้เกียรติพี่ไรอัน เป็นผู้จุดไฟหุงข้าวกับเจ๊อลิศก่อนนะคะ ไว้ให้คู่พี่ชายหุงข้าวสำเร็จ คู่น้องค่อยตามมาค่ะ ตามธรรมเนียมน้องห้ามหุงข้าวสุกก่อนพี่ค่ะ

 

โดย: O-yohyo 8 มิถุนายน 2552 20:25:49 น.  

 

haha แต่ละคน...เรื่องข้าวสารข้าวสุก

อยากรู้ใช่ไหมฮะ .... มันอยู่ในใจนี้แหละแล้วแต่ใครจะคิดนะฮะ เด๋วคำเฉลยมันก็จะมาเอง จริงๆแมร์ก็เขียนเคลียร์แล้วนะ หรือว่ายังไงก๊ากกกกก พี่โยว่อย่าบีบคอนะ

พี่โยว่แมรยังไม่ลืมสองคนนั่นหรอกค่ะ ฟิคมันนานเฉยๆจริงๆมันมีแต่สิบตอนเองนะฮะโหะๆๆ ชอบดอง แต่จะไม่ดองแล้ว..เดี๋ยวไม่ทันจางงี้ รายนั้นอ่านไม่ทันเลย นี้ก็เพิ่งตามอ่านอิอิ

 

โดย: Napoleonquz 9 มิถุนายน 2552 21:54:58 น.  

 

คู่เล็กของเค้าแรงค่ะ เรมอนด์มันถอดด้ามจากพี่ชายมาไม่มีผิดฮ่ะ รุนแรงค๊อดๆแต่หนูแมร์ก็รักโครตๆๆๆๆๆอิอิ
ตอนนี้นิกกิปากดีไม่ค่อยออกแล้วฮ่ะ
ถ้าเป็นในชิวิตจริง แมร์จะแจ้งตำรวจจับด้วยซ้ำ ลองมาปล้ำเราดูเด่แหม๋...
แต่ถ้าหล่อแบบชอน หนูแมร์ไม่ต้องปล้ำให้เสียเวลา จับชอนปลั้มแทนก๊าก หื่นๆๆ



แต่ยังไง เรมอนด์เค้าก็รักคนนี้..

 

โดย: Napoleonquz 9 มิถุนายน 2552 21:58:03 น.  

 

ปู่เสินไปดีแล้วฮ่ะ .... ปู่ตายเท่ห์มากตกบันไดตาย

วันนี้แหละ นักสืบอลิซพร้อมละฮ่ะ
มีชื่อในวงการว่า นักสือเกลือ

 

โดย: Napoleonquz 9 มิถุนายน 2552 22:00:27 น.  

 

 

โดย: Napoleonquz 9 มิถุนายน 2552 22:01:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Napoleonquz
Location :
เวสเทินเจ้าค่ะ Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อกแห่งนี้เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
Friends' blogs
[Add Napoleonquz's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.