Chevrolet Colorado 2.8 LTZ Z71 4x4 6ATรุ่นพิเศษไม่มีในไทย
|
|
เรื่อง - ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ | |
|
|
|
|
|
ตลาดปิกอัพปีนี้น่าจะมีการแข่งขันกันอย่างสนุก เพราะมีตัวเลือกใหม่แบบโมเดลเชนจ์หลายรุ่น โดยมี เชฟโรเลต โคโลราโด เป็นปิกอัพโฉมใหม่รุ่นแรกที่ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย ได้ทดสอบเดี่ยวในปีนี้ เป็นรุ่น X-CAB 2.8 LTZ Z71 4x4 เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด +/- ที่ เชฟโรเลต เรียกว่า Active Select ที่บอกว่าเป็นรุ่นพิเศษ เพราะในเมืองไทยสเปคนี้มีเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ราคา 852,000 บาท ส่วนคันนี้ไม่มีราคาเพราะไม่ได้ทำตลาดในเมืองไทย |
|
|
|
รูปลักษณ์ดุดันลงตัว ภายนอกของ โคโลราโด X-CAB Z71 4x4 ดูสวยงามและดุดันในแบบออฟโรด ด้านหน้าคงเอกลักษณ์ด้วยกระจัง 2 ชั้น เสริมความหรูด้วยคิ้วโครเมียมล้อมรอบซึ่งดูเด่นเมื่ออยู่ในรถสีเข้ม ประกบด้วยไฟหน้าโปรเจ็คเตอร์ มุมกันชนหน้าติดตั้งสปอตไลต์ดวงกลมไว้ในกรอบโครเมียม เข้าชุดกับกรอบกระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว และที่เปิดประตูที่เป็นโครเมียมเช่นกัน
ด้าน ข้างดูสปอร์ตดุดันด้วยโป่งล้อขนาดใหญ่ชิ้นเดียวกับตัวถัง พร้อมยางขนาด 255/65 R17 ล้อมรัดอยู่บนล้อแม็กลายแกร่ง ด้านล่างของตัวถังมีคิ้วกันกระแทกสีดำ ดูโล่งไปนิดเพราะไม่มีบันไดข้าง และต้องออกแรงตะกายนิดหน่อยเวลาจะเข้าไปในรถ แต่ก็ช่วยให้ลุยได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกลัวจะติดบันได กระบะท้ายกับหัวเก๋งมีช่องว่างมากหน่อย เพราะเป็นรุ่น X-CAB หรือแค็บเปิดได้นั่นเอง
ด้าน ท้ายติดกันชนโครเมียมมาให้ ส่งผลให้เพิ่มความยาวจาก 5,250 เป็น 5,347 มิลลิเมตร บังโคลนเป็นยางสีดำธรรมดา แต่กลับดูดีเมื่ออยู่ในรถประเภทนี้เพราะช่วยเพิ่มความดิบให้มุมมอง ชุดไฟท้ายทรงเรียบตรงติดตั้งบนตัวถัง มีลูกเล่นที่ตัวโคมและใช้หลอดไฟท้าย LED ที่เปิดฝาท้ายชุบโครเมียมพร้อมลายเส้นเพิ่มความเฉี่ยว เหนือกระจกหลังมีไฟเบรกดวงที่ 3 |
|
|
|
ภายในอัพเกรดอีกระดับ ถ้า ดูเผินๆ จากรูปประกอบแทบจะไม่รู้เลยว่านี่คือภายในห้องโดยสารของรถปิกอัพ เพราะได้รับความใส่ใจตั้งแต่การออกแบบ การใช้วัสดุคุณภาพดี และการประกอบที่ถือว่าเนี๊ยบกว่าปิกอัพยุคก่อนนี้พอสมควร แม้หลายจุดจะใช้พลาสติกแข็งฉีดขึ้นรูป แต่ก็เลือกใช้สีและปั๊มลายให้ดูดีได้
แผง คอนโซลออกแบบได้อย่างสวยงาม มีทั้งความโค้งมนและเหลี่ยมสัน แต่ไม่ใช่เหลี่ยมทื่อๆ แบบเดิม รุ่นนี้ใช้สีทูโทนดำ-เบจ คอนโซลกลางด้านบนมีช่องใส่ของพร้อมฝาปิด ต้องรู้จังหวะก่อนถึงจะเปิดได้ง่าย ถัดลงมาเป็นไฟฉุกเฉินและชุดเครื่องเสียง Built-in หน้าตาสวิตช์ควบคุมและการแสดงผลสวยงามจนรถเก๋งบางรุ่นต้องอิจฉา ต่อเนื่องด้วยชุดสวิตช์ควบคุมระบบปรับกาศ ซึ่งออกแบบเป็นทรงกลมล้อมกรอบด้วยสีเมทัลลิก ตรงกลางมีจอดิจิตอลแสดงผล
ล่าง สุดเป็นสวิตช์เปิด-ปิดระบบป้องกันการลื่นไถล และช่องจ่ายไฟฟ้า 12 โวลต์พร้อมฝาปิด คอนโซลเกียร์อัตโนมัติพร้อมคันเกียร์โครเมียม เบรกมือแบบดึงขึ้นสไตล์เก๋งอยู่ข้างเบาะ แบะสวิตช์ควบคุมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้สัญลักษณ์ลูกศรชี้ขึ้น หมายถึงขับ 2 ล้อ และขับ 4 ล้อแบบ Hi ส่วนลูกศรชี้ลงหมายถึงขับ 4 ล้อแบบ Low มีไฟดวงเล็กอยู่บนสวิตช์ถ้าใช้งานกลางวันจะมองไม่ค่อยชัด และบนชุดมาตรวัดไม่มีไฟโชว์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ชุดมาตรวัดได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตอย่าง เชฟวี่ คามาโร แบ่งมาตรวัดเป็น 2 ช่องแทรกกลางด้วยจอแสดงผลเอนกประสงค์ DIC-Data Information Center ควบคุมด้วยก้านบนคอพวงมาลัยฝั่งขวาซึ่งเป็นไฟเลี้ยวด้วย ก้านฝั่งขวาเป็นที่ปัดน้ำฝน ส่วนสวิตช์เปิด-ปิดไฟหน้าและสปอตไลต์อยู่บนแผงหน้าปัดฝั่งขวา อยู่รวมกับสวิตช์ปรับความสว่างไฟหน้าปัด และสวิตช์ปรับระดับไฟหน้า ส่วนสวิตช์ปรับและพับกระจกมองข้างติดตั้งที่มุมประตูฝั่งผู้ขับ เวลาพับให้ปรับสวิตช์เลือกซ้าย-ขวาไว้ตรงกลาง แล้วกดสวิตช์ปรับทิศทางลงล่าง
พวง มาลัยปรับสูง-ต่ำหุ้มหนังทรง 3 ก้านค่อนข้างหนาเลยดูสปอร์ตน้อยไปนิด ตกแต่งด้วยโครเมียม ฝั่งซ้ายมีสวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียง และการรับโทรศัพท์ไร้สายที่เชื่อมต่อกับรถด้วย Bluetooth เบาะนั่งทรงค่อนข้างสปอร์ต และโอบกระชับร่างกายพอประมาณ นั่งแล้วไม่เลื่อนไหลแต่ก็ไม่รัดจนอึดอัด ดูเหมือนตั้งใจจะออกแบบพนักพิงให้บางกว่าปกติเล็กน้อยเพิ่มพื้นที่ด้านหลัง ส่วนเบาะนั่งหนานุ่มนั่งสบาย พื้นที่แค็บไม่มีเบาะและพนักพิงมาให้เพราะไม่ได้ตั้งใจให้โดยสาร พื้นแค็บออกแบบให้เป็นช่องเก็บของ 2 ช่อง ประตูแค็บเปิดได้กว้างเกือบ 90 องศาช่วยให้การเคลื่อนย้ายสัมภาระทำได้สะดวก
สะดุด ใจอยู่อย่างเดียวคือ เรื่องการเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ถ้าลากรอบสูงๆ จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างดัง และเมื่อใช้ความเร็วสูงระดับ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะได้ยินเสียงลมปะทะมากไปนิด เข้าใจว่าเป็นรถทรงสูงต้านลม แต่ก็น่าจะเงียบกว่านี้ได้อีกนิด ไม่แน่ใจว่าเป็นเฉพาะคันนี้ หรือเฉพาะรุ่น X-CAB แค็บเปิดได้ |
|
|
|
แรงได้ใจประหยัดพอตัว แม้เทคโนโลยีเครื่องยนต์ยังไม่เป็นแบบก้าวกระโดด เหมือนยุคที่เปลี่ยนมาเป็นคอมมอนเรล แต่เครื่องยนต์รหัส XLD28 ก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้านความแรง สามารถรีดกำลังสูงสุดได้ถึง 132 กิโลวัตต์ หรือ 180 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน VGT-Variable Geometry Turbo พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ความจุ 2,776 ซีซี แรงบิดในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ 47.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที และ 44.9 กก.-ม. ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ
เครื่อง ยนต์ให้การตอบสนองที่ดีตั้งแต่รอบต่ำตามสไตล์ดีเซลเทอร์โบยุคใหม่ ถ้าดูจากกราฟด้านล่าง จะเห็นว่าในช่วง 1,500 - 3,000 รอบต่อนาที จะมีแรงบิดให้ใช้งานแถวๆ 38.7-40.7 กก.-ม. เหลือเฟือสำหรับการขับรถเปล่า และเพียงพอกับการบรรทุก ถ้าเป็นทางลื่นลาดชันก็ยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเป็นกำลังเสริมอีกด้วย จากการทดลองขับใช้งานในเมืองมีทั้งรถติดสาหัสและขับได้คล่องตัว ได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 10 กิโลเมตรต่อลิตร |
|
|
|
ทดสอบ อัตราเร่งด้วยวิธีเดิม จอดรถชิดขอบทางเข้าเกียร์ D แล้วเหยียบเบรกค้างไว้ จากนั้นยกเท้าขวาไปกดคันเร่งสุดแล้วให้เกียร์เปลี่ยนขึ้นสูงไปเรื่อยๆ จนความเร็วไม่เพิ่มขึ้น โดยเกียร์จะเปลี่ยนที่ 4,000 รอบต่อนาที ทำอัตราเร่งได้แบบเกินคาด จากนั้นลองเล่นกับโหมด +/- พบว่าทำเวลาดีขึ้นอีกนิด เพราะสามารถลากรอบไปแตะขีดแดงที่ 4,500 รอบต่อนาทีได้ แต่ต้องกะจังหวะเปลี่ยนเกียร์ให้ดี โดยต้องดันคันเกียร์ไปที่ + ก่อนเข็มวัดรอบจะถึงขีดแดงเล็กน้อย |
|
อัตราเร่งในเกียร์ D และโหมด +/- |
|
ความเร็ว (กม./ชม.) | เวลา (วินาที) | ระยะทาง (เมตร) |
10 | 0.87 / 0.61 | 1.22 / 0.89 |
20 | 1.46 / 1.08 | 3.61 / 2.8 |
30 | 1.98 / 1.58 | 7.25 / 6.31 |
40 | 2.76 / 2.36 | 14.95 / 14.1 |
50 | 3.67 / 3.29 | 26.32 / 25.65 |
60 | 4.6 / 4.22 | 40.48 / 39.9 |
70 | 5.91 / 5.5 | 64.25 / 63.19 |
80 | 7.2 / 6.82 | 91.18 / 90.8 |
90 | 8.62 / 8.26 | 124.83 / 124.76 |
100 | 10.33 / 9.9 | 170.08 / 168.08 |
110 | 12.87 / 12.07 | 243.96 / 231.36 |
120 | 14.79 / 14.35 | 305.34 / 304.23 |
130 | 17.58 / 17.13 | 402.53 / 400.9 |
140 | 21.22 / 20.83 | 539.12 / 540.78 |
150 | 25.58 / 24.7 | 715.12 / 696.68 |
160 | 31.22 / 29.74 | 958.17 / 913.86 |
170 | 41.35 / 40.02 | 1424.11 / 1386.99 |
|
ระยะทาง (เมตร) | เวลา (วินาที) | ความเร็ว (กม./ชม.) |
0-100 | 07.6 | 82.8 |
0-200 | 11.4 | 103.3 |
0-402 | 17.6 | 129.9 |
0-1000 | 32.2 | 161.2 |
|
ความเร็วสูงสุด | 179.0 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
|
|
|
|
ทดสอบ อัตราสิ้นเปลืองบนเส้นทางเดิมในช่วงกลางดึกเพราะรถน้อย และอากาศไม่ร้อนเพราะรถไม่ติดฟิล์ม น้ำหนักคันเร่งกำลังพอเหมาะ ช่วยให้ควบคุมความเร็วได้ง่ายโดยไม่ต้องเกร็งเท้ามากนัก ใช้เส้นทางเดิมทางด่วนต่อด้วยลอยฟ้า รักษาความเร็วที่ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้เกือบตลอดทาง ได้อัตราสิ้นเปลือง 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ในการใช้งานจริงขับรถเปล่าน่าจะได้แถวๆ 12 กิโลเมตรต่อลิตร
ช่วงล่างและเบรก อีกหนึ่งจุดเด่น ระบบกันสะเทือนของ โคโลราโด ยังคงเหมือนปิกอัพทั่วไป ด้านหน้าอิสระ ปีกนก 2 ชั้น ด้านหลังคานแข็ง แหนบวางบนเพลาและช๊อคฯ แก๊ส ระบบเบรกหน้าดิสก์ขนาด 300 มิลลิเมตร มีครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัมขนาด 295 มิลลิเมตร มาพร้อมตัวช่วยอิเล็กทรอนิกส์มากมายเช่น ABS ป้องกันล้อล็อก, EBD กระจายแรงเบรก, TCS ป้องกันล้อหมุนฟรี, ECS รักษาเสถียรภาพ, PBA ช่วยเบรกกะทันหัน โดยจะสั่งงานให้ ABS ทำงานเร็วขึ้น, CBC สร้างสมดุลขณะเบรกในโค้ง, HBA เพิ่มแรงดันน้ำมันเบรกเมื่อเบรกรุนแรงและกะทันหัน และ HBFA ชดเชยแรงดันน้ำมันเบรกเมื่อผู้ขับย้ำเบรกขณะเบรกกะทันหัน
การ ขับใช้งานทั่วไปนับว่ามีความนุ่มนวลเกินคาด ทั้งที่เป็นรถทรงสูงที่ต้องทำช่วงล่างค่อนข้างแข็ง เพื่อลดอาการโคลงเมื่อใช้ความเร็วสูง ขับได้นานโดยไม่เหนื่อยล้ามากนัก การดูดซับแรงกระแทกทำได้ดี แต่ยังมีอาการดีดอยู่บ้าง ถ้าได้ช๊อคฯ ที่หนืดกว่านี้ น่าจะช่วยลดอาการดีดได้มาก
การ ใช้ความเร็วสูงบนทางเรียบตรง ถือว่าให้ความมั่นใจในระดับสูง แต่ถ้าเจอกับถนนที่เป็นคลื่นลอนจะพบว่า ช่วงล่างโดยเฉพาะด้านหน้าจะยืด - ยุบหลายครั้งกว่าจะนิ่ง เหมือนว่าช๊อคฯ มีความหนืดไม่พอที่จะรั้งการเต้นของสปริง ถ้าไม่อยากเสียเงินเปลี่ยนช๊อคฯ ก็แค่ลดความเร็วลง ส่วนระบบเบรกให้ความมั่นใจสุดๆ ในการลดความเร็วทุกช่วงแม้ที่ความเร็วสูง แต่ไม่ได้ลองเบรกหนักๆ ถี่ๆ ที่ความเร็วสูงว่าจะมีอาการเฟดหรือไม่
แม้ จะทำความเร็วสูงสุดได้เกือบ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไม่มีอาการน่าหวาดเสียวเมื่อขับบนทางเรียบตรง แต่ก็ควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินไว้บ้าง ใช้ความเร็วตามกฎหมายจะช่วยให้การบังคับควบคุมมีความผ่อนคลาย ปลอดภัย แถมยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงอีกด้วย
เชฟโรเลต โคโลราโด 2.8 LTZ Z71 4x4 เด่นที่เครื่องยนต์พลังแรง และประหยัดเชื้อเพลิงพอตัว ช่วงล่างและเบรกพร้อมตัวช่วยให้ความมั่นใจสูง เพิ่มความสามารถในการบุกตะลุยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ใช้งานง่ายเพียงแค่หมุนปุ่ม ห้องโดยสารออกแบบสวยงามและเอนกประสงค์ด้วยบานแค็บเปิดได้ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของปิกอัพขับ 4 ล้อที่ไม่ควรมองข้าม
ขอบคุณ: บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เอื้อเฟื้อรถยนต์ในการทดสอบ |
|
| |
|
|
Specification: Chevrolet Colorado 2.8 LTZ Z71 4x4 6AT |
|
แบบตัวถัง | ปิกอัพตอนครึ่ง แค็บเปิดได้ X-CAB |
ยาว x กว้าง x สูง | 5,347 x 1,882 x 1,785 มิลลิเมตร |
ฐานล้อ | 3,096 มิลลิเมตร |
ความกว้างล้อหน้า/หลัง | 1,570/1,570 มิลลิเมตร |
ระยะต่ำสุดจากพื้น | 268 มิลลิเมตร |
แบบเครื่องยนต์ | ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบแปรผัน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว อินเตอร์คูลเลอร์ |
ความจุ | 2,776 ซีซี |
กระบอกสูบ x ช่วงชัก | 94 x 100 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนการอัด | 16.0:1 |
กำลังสูงสุด | 180 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 47.9 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง | อัตโนมัติ 6 จังหวะ Active Select |
ระบบขับเคลื่อน | 4 ล้อ |
ระบบบังคับเลี้ยว | แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ |
ระบบกันสะเทือนหน้า | อิสระ ปีกนก 2 ชั้น |
ระบบกันสะเทือนหลัง | คานแข็ง แหนบวางบนเพลา |
ระบบเบรกหน้า/หลัง | ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัม พร้อมเอบีเอส อีบีดี และพีบีเอ |
ผู้จำหน่าย | บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด |
โทรศัพท์ | (ลูกค้าสัมพันธ์) 1734 และ 0-2791-3400 |
เวบไซต์ | www.chevrolet.co.th |
|
|
|
from : //www.motortrivia.com