เช้าวันใหม่มาแร๊น...นนนน...นนนตอนแรกคิดว่าไปเที่ยวคงจะขี้เกียจ เอาเข้าจริงก็ตื่นเช้าได้ทุกวัน พระอาทิตย์ก็ดวงเดิมกับที่กรุงเทพฯ (ซึ่งไม่ค่อยอยากทักทายกันเท่าไหร่....ณ. สถานที่นั้น) แต่พออยู่ที่นี่......กลับอยากตื่นมาชื่นชม...ในมุมที่แตกต่างของเขา เจ้าลูกกลมโตผู้ให้พลังงานแก่ชีวิต คงต้องบอกว่า......"ที่ภูเก็ต.......เรากับพระอาทิตย์สนิทกันนะ"แดดค่อยๆไล่มา ทางฝั่งขวามือของที่พักซึ่งติดกับภูเขา.....พระอาทิตย์ให้พลังงานมากขึ้น อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ในที่สุดก็..."หิว".....ลงไปกินข้าวเช้าดีกว่า สระบัวล้อมรอบส่วนทานอาหาร....สวย นิ่ง หยิ่ง และ เกร๋อาหารรสชาติดี โดยเฉพาะเขมนิจ ( แพนเค๊ก) ราดน้ำผึ้งอืม...มมมม...แต่ในภาพเป็นไข่คนนี่นา...แพนเค๊กคงเป็นจานที่สาม ที่สี่ ที่กินไปแล้วแต่ลืมถ่ายไว้นะ...อิอิอิจากนั้นแยกย้ายพักผ่อนตามจิตพึงประสงค์ ( จิตพึงประสงค์ เป็นญาติกับอัธยาศัย ที่กรุ๊ปทัวร์ชอบใช้บอกลูกทัวร์ เวลาที่ไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำเป็นพิเศษ )บ้างไปเดินเล่นชายหาด บ้างขึ้นไปอาบน้ำบนห้องต่อให้เรียบร้อย บ้างไปเติมหน้าตาต่อ และ บ้างขึ้นไปเกาะติดสถานการณ์ข่าวแบบนาทีต่อนาที......สองบ้างหลังนี่ไม่ระบุชื่อผู้ทำกิจกรรมล่ะนะ...กลัวถึงแก่ชีวิตบ่ายแล้ว....เข้าเมืองไปหาของกินมื้อบ่ายย้อยกันเต๊อะเราไปทานข้าวกันที่ร้าน "ระย้า" ซึ่งเขาว่าเป็นร้านดังของภูเก็ต และเนื่องจากพวกเราเป็น Aliens....ก็คนมาจากที่อื่นไง.....เลยหาทางไปร้านโน้น ร้านนี้ ยากพอควร ทั้งที่มีแผนที่ในมือ....แต่ทุกคนก็รู้นิว่า ..."ความจริงที่ถูกย่อส่วน"....มีผลทำให้มองอะไรผิดรูป ผิดร่างไปได้มากทีเดียวนะอารมณ์เวลาหาทางไปไม่เจอนี่ วุ่นวายและตึงเครียดดีแท้ พร้อมๆกับรู้สึกว่าตัวเองไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง เพราะไม่ช่วยอะไรใครเค้าเล๊ยแต่ก็ไม่โวยวายโหวกเหวกกดดันคนอื่น...เพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้รถตู้ระอุขึ้นหรอกนะร้านเป็นลักษณะบ้านไม้กึ่งปูนสองชั้น ตกแต่งแบบย้อนยุค โดยคงรูปแบบเดิมๆของบ้านสมัยก่อนเอาไว้.....สวยน่านั่งดี ( และทุกคนชอบ)จานแรก "กุ้งซอสมะขาม" หน้าตาดี และ ข้างในก็ผ่องแผ้วนพคุณมาก ( คนอื่นบอกนะ...เรากินกุ้งไม่ได้) ตอนสั่งจานนี้ มีแต่คนพูดว่า "เออ....พี่มณีรุ้งกินกุ้งไม่ได้นี่หว่า....จะสั่งอะไร" เราเลยตอบไปว่า "ส่งกุ้งก็สั่งไปเถอะ....มีอะไรในโลกที่ป้ากินได้อีกตั้งเยอะนะ"เราว่า การอยู่ร่วมกันคือการใส่ใจคนที่เราอยู่ด้วย มากกว่าที่จะรู้แค่ว่า "เราต้องการอะไร" หรือ "ห้ามทำในสิ่งที่เราทำไม่ได้" แบบนี้มีความสุขมากกว่านะจานที่สอง "น้ำพริกกุ้งเสียบ" อร่อยอีกแล้ว รสชาติพอดีๆ ต่างจากเย็นวันก่อนที่กินมื้อเย็นร้าน "ป่าหล่าย" เค้าทำเหมือนมีแต่กุ้ง แล้วโดนน้ำพริกกะปิโต๊ะข้างๆหยดมาใส่ถ้วยเรา...แห้งแล้งน้ำเหลือเกินจานที่สาม "แกงเผ็ดปู" ( จำชื่อแน่นอนไม่ได้) อร่อยอีกแล้ว ปูเป็นปูจริงๆ เต็มถ้วยตักเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ถึงราคาจะดูว่าแพง แต่ใช้ของดีและให้เยอะ....ถือว่าสมเหตุสมผลนะนอกนั้นก็มีไข่เจียวกากหมู ผัดผักรวมมิตร แล้วก็อะไรอีกสองสามอย่างนี่แหล่ะ ( สักเหมือนกันอย่างละสองจาน) ก็คณะทัวร์กลุ่มนี้มีแต่ตัวใหญ่ๆอะอิ่มจนพุงปลิ้น...แต่ก็ต้องหาอะไรตบตรูดอยู่ดีหากาแฟกินกันต่อเป็นร้านเล็กๆที่อยู่ภายในบริเวณร้านระย้า แอบถามน้องพนักงานแล้วว่าเจ้าของคนเดียวกันร้านแต่งแบบบ้านเล็กๆและมีของเล่นโบราณเต็มร้านเลย....น่ารัก"ลาเต้" ของเฮียพี่ต้น...ออร่าเปล่งประกายด้วย"มอคค่า" ของข้าพเจ้า...ถ่ายได้เบลอมากเพราะมือสั่น...อยากเสพคาเฟอีนและแล้วพอแม่เห็นว่ากาแฟถ้วยใหญ่เกิน( คะเนว่ากินไม่หมด)......ก็สะกิดน้องชาย ( ที่ยังไม่ได้สั่ง) แล้วกระซิบเบาๆว่า...."แบ่งกินกับแม่นะ..."ตามจริงแม่ต้องตกลงกับเค้าแต่แรกก่อนสั่งนะเนี่ย...น้องจะได้เลือกว่าจะกินอะไร ( อ้าว....ก็จะแชร์กัน....ก็ต้องร่วมตัดสินใจแรกเริ่มด้วยกันสินะ...นี่มัดมือชกนี่นา...) แล้วก็ไปลั๊ลลา...ล๊ลลา...ก่อนกลับที่พักกัน.....เดี๋ยวมาเขียนต่อนะ
เที่ยวหนุกหนาน หนุกหนาน นิ มีความสุขน๊า
เที่ยวเพลิน อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยน๊า