น า ง ฟ้ า ห น้ า ห ม ว ย
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
23 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
กว่าที่ดอกบัวจะบาน...อีกนานแค่ไหนนะ ?





ก้าวแรกในทางธรรม เริ่มต้นจากชื่อจริงที่เป็นมงคล ซึ่งมีความหมายคือ ดอกบัว...ดอกไม้ที่ใช้บูชาพระ พ่อบอกกับเราอย่างนี้ เวลาที่เราถาม คำตอบนั้นง่ายๆ สั้นๆ แต่กว่าจะรู้ซึ้งถึงความหมายได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ ก็ใช้เวลานานนับสิบกว่าปี


ดอกบัว...คือสัญลักษณ์แห่งการตื่นรู้ ดอกบัวกลายเป็นดอกไม้ที่สวยที่สุดในใจเรา นับตั้งแต่วันที่เราได้รู้จักพระพุทธศาสนา และยอมรับประกาศตัวเองเป็นพุทธมามกะอย่างเต็มภาคภูมิ


ชีวิตวัยเด็กเรา เริ่มต้นจากโรงเรียนคาทอลิกที่สอนให้รู้จักพระเยซูคริสต์ พระแม่มารี นักบุญต่างๆ เราสวดมนต์เช้า-เย็นท่องได้อย่างขึ้นใจ จดจำในสิ่งที่พระเจ้าสอนว่า จงรักผู้อื่น ดุจรักตัวเอง เราเป็นตัวแทนเด็กพุทธที่เข้าร่วมพิธีมิซซาในโบสถ์ทุกปี


ศรัทธาของเรา...เติบกล้าจากที่นี่ แม้ว่าเรายังไม่เข้าใจอะไรดีนัก แต่เรารู้ว่า ศาสนาคริสต์ได้ปูพื้นฐานความดีงามในจิตใจให้ตัวเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยที่จะเอ่ยถึง


เส้นทางธรรมของเราดำเนินมาถึงเมื่อเราย้ายโรงเรียน จำได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คุ้นเคย เราต้องกลับมาสวดมนต์ภาษาบาลี ที่ยากจะจดจำ เรายืนเงียบกับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ท่องอะไรไม่ได้เลยแม้เป็นชาวพุทธ แล้วยังต้องไปเข้าร่วมพิธีประกาศตนเป็นพุทธมามกะที่แสนจะน่าเบื่อ...
ผิดกับการร้องเพลงประสานเสียงสนุกสนานในโบสถ์ลิบลับ


แต่ที่นี่...เราได้พบครูทางธรรมที่สอนนอกเหนือไปจากวิชาดนตรีไทย อาจารย์ของเราเป็นหญิงสาวที่งดงาม ทั้งกายและใจ กิริยามารยาทอ่อนช้อย อาจารย์มักจะเล่าเรื่องธรรมะ กฎแห่งกรรม สิ่งลี้ลับให้นักเรียนฟังด้วยความหูผึ่ง และ...สอนให้เรารู้จักการนั่งสมาธิ


วิชาดนตรีไทย กลายเป็นวิชาที่แสนสนุก และนักเรียนก็ชอบที่จะฟังอาจารย์สอน


...ส่วนเราได้รู้จริตตัวเองตอนอายุ 12 ว่าเราสนใจทางด้านนี้ แต่ตอนนั้น ความเข้าใจคือการสงบจิตให้นิ่ง เรายังไม่รู้ลึกไปถึงการพิจารณาอะไรมากมาย รู้แต่ว่า...จิตมันดิ่ง สงบ ว่านอนสอนง่ายมาก เรารู้อยู่แค่นั้นจริงๆ และคิดไปว่า นั่งสมาธิให้จิตนิ่งๆ แล้วจะได้บุญ ชีวิตจะดีขึ้น


สิ่งที่พิสูจน์ได้จากการนั่งสมาธิคือ ผลการเรียนที่เป็นเลิศ เราสอบผ่านวิชาทางโลก เป็นที่ยอมรับในหมู่เพื่อนร่วมชั้นเรียนเสมอ...


ชีวิตเราดำเนินมาจากนั้นอีกหลายปี จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เราเจอมรสุมชีวิตลูกใหญ่ (ในขณะนั้น) จนทำให้เราท้อแท้จนคิดจะลาออกเมื่อตอนปี 3 โดยเฉพาะเรื่องกลุ่มเพื่อนที่ผิดใจกันรุนแรง
จากเพื่อนรักมาก กลายเป็นคนอีกคนที่เราไม่รู้จัก ฆ่าเราทั้งเป็น ผลกระทบนั้นคือคำพูดไม่จริงของเขาที่ทำให้เพื่อนๆ ทุกคนหมางเมิน การเรียนและสุขภาพจิตย่ำแย่จนไม่อยากไปเรียนหนังสือ


เรื่องจริงที่ปวดใจตามมาเป็นระลอก แต่คงไม่เขียนในรายละเอียด รู้แต่ว่า...เราไม่อยากมีชีวิตอยู่
เจอหน้าใคร ส่วนทางบ้าน เราไม่กล้าเล่าอะไรมากเพราะกลัวพ่อกับแม่จะเป็นทุกข์
จึงได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ลำพัง


เราได้เงินมากมายจากการรับสอนพิเศษ ความสุขจากการมีเงินจับจ่าย ไม่ได้ช่วยอะไรเลย...


การปฎิบัติสมาธิที่เราฝึก เราก็ห่างเหินไปนานในช่วงนั้น เราหลงลืมธรรมะไปพักใหญ่ แต่พอจะกู้กลับคืน สิ่งที่เราเคยรู้จากสมถะกรรมฐาน ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตเพราะเราเรียนรู้แต่ความสงบ แต่ไม่ได้"ปัญญา" เห็นจริง


ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรไป เราจำได้ว่า กำเงินส่วนหนึ่งไปบริจาคทาน อธิษฐานจิตขอให้ทุกอย่างคลี่คลาย และเราก็ได้พบหนังสือธรรมะที่บ้านซึ่งเป็นของพ่อ เราไม่เคยสนใจอ่านโดยเฉพาะบทเทศนาพื้นๆ ของพระอริยะ แต่เป็นบทความที่กระทบใจเรามาก...ราวกับหยั่งรู้ !


เราเริ่มสนใจศึกษาความจรืงของชีวิต จากการอ่าน ทำความเข้าใจกับมัน โดยเฉพาะเรื่องของการปล่อยวาง การมองทุกข์ การให้อภัย เราศึกษาไปถึงเรื่องของบาปบุญคุณโทษ ไม่มีเหตุใดเกิดขึ้นลอยๆ เราได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย...มาจากกรรมของเราทั้งสิ้น


พอเริ่มปล่อยวาง ไม่เอาเรื่องอดีตมาคิด แผ่เมตตาแก่คนที่ไม่ประสงค์ดี สถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลาย เพื่อนที่ดีก็หันกลับมาทำความเข้าใจกัน คนที่ทำร้ายก็ได้เห็นกรรมของเขาทันตาในเวลาต่อมา เราเรียนหนังสือต่อโดยระงับความคิดลาออกไว้ แม้จะกระท่อนกระแท่นและเหนือยยากจนต้องน้ำตานองหลายครั้ง กับเรื่องต่างๆ ก็ผ่านพ้นมาได้


และในที่สุด...เราก็รับปริญญาพร้อมกับเกียรตินิยมมาครองได้สำเร็จ


จนวันนี้...เราหันไปมองเรื่องวันนั้นเหลือเศษเท่าขี้ผง แต่คนไม่เจอ...ก็ไม่มีทางเข้าใจว่าแม้เพียงหนึ่งวันที่ผ่าน ก็ช่างยาวนานเหลือเกิน ถ้าเราตัดสินใจหุนหัน และ...ไม่มีธรรมะมาโอบอุ้มเราไว้ เราคงไม่เป็นเหมือนอย่างทุกวันนี้


ขอบคุณ...ศาสนาที่สอนให้เรามีศรัทธาตั้งมั่น และศาสนาที่สอนให้เรามีปัญญาแก้ปัญหาได้


ขอบคุณ...ความทุกข์และความสุขที่แวะเข้ามาพิสูจน์ความแกร่งของจิตใจ


กราบแทบเท้า...ครูบาอาจารย์ทางธรรมทุกท่าน ที่ปลุกจิตวิญญาณให้ตื่นรู้ ทั้งครูที่พบเจอตัวจริงๆ และครูที่ผ่านมาทางตัวอักษร


"กว่าที่ดอกบัวจะบาน...อีกนานแค่ไหนนะ ?"
ก็ยังคงเป็นคำถามที่เวียนวนอยู่ในสมอง แต่เราก็แอบมีความหวังเล็กๆ ว่า ตราบใดที่ไม่ละความเพียรที่จะล่วงทุกข์


ดอกบัวดอกนี้...ก็คงจะต้องเบ่งบานในวันหนึี่ง !




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2551 1:11:24 น. 7 comments
Counter : 1308 Pageviews.

 
เมเปิลก็ชอบดอกบัวค่ะ

สวยดีค่ะ


โดย: เมเปิล (หนูเมเปิล ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:33:27 น.  

 
เรียนเก่งอะครับ ได้เกียรตินิยมด้วย

ส่วนผมเป็นพวกเกรดนิยมครับ สองปลายๆ สามต้นๆ นิยมจบกันเยอะ อิอิอิ

เข้าเรื่องๆ การปล่อยวางนี่ก็ใช่เลยนะครับ เพราะตอนนี้คนเราต่างยึดมั่นถือมั่นในตัวกูของกู จนบ้านเมืองวุ่นวาย ต่างคนคิดว่าข้าใหญ่คับฟ้า ร่ำรวยมหาศาล แต่ลืมคิดไปว่า สุดท้ายแล้วทุกคนก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรไปกว่าพื้นที่ 1 วา 2 ศอกของโลงศพเลย เงินทองที่มีมากมายก็เอาไปไม่ได้ ขนาดที่ว่า เงินอมไว้ในปาก ก็ยังเอาไปไม่ได้เลย ตัวเราทุกวันนี้ก็ล้วนไม่ใช่ของเรา จะโดนทวงคืนจากธรรมชาติเมื่อไรก็ยังไม่รู้เลยครับ เหมือนคำว่า "สี่คนหาม สามคนแห่ คนเดียวนั่งแคร่ สองคนเดินตาม"

สี่คนหาม - ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ประกอบกันขึ้นมา
สามคนแห่ - อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
คนเดียวนั่งแคร่ - เวลาตาย ก็ไปคนเดียว
สองคนเดินตาม - มีแต่ความดีความชั่ว ที่ติดตัวเราไป

ชีวิตเรามันก็แค่นี้จริงๆครับ

ปล วันนี้บ่นเหมือนคนแก่เลยเนาะ แหะๆๆ


โดย: helldiver วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:48:00 น.  

 
ชื่อเรามีความหมายเดียวกันค่ะ เคยเรียนตอนปี 2 อาจารย์ ถามว่า ชื่อเราหมายถึงอะไร เราก็ตอบได้เพียงว่าเป็นดอกบัว แต่อาจารย์ท่านนี้ท่านได้แนะ และทำให้เราจำขึ้นใจ ท่านบอกว่า พ่อเธอนะตั้งชื่อเธอได้ดีมาก ความหมายของชื่อเธอนะ คือ ดอกบัวที่บานแล้ว กำลังเบ่งบานสดใส ตอนนั้นเราก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย ท่านบอกแต่เพียงว่า ขอให้เราเป็นดอกบัวที่บานแล้วเหมือนชื่อ ยังจำชื่ออาจารย์ได้ และภูมิใจที่ได้มีโอกาส ให้ท่านสั่งสอนค่ะ

คืนนี้ฝันดีค่ะ


โดย: LooKPat วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:46:15 น.  

 
สวัสดีครับคุณนางฟ้าฯ :}


แอบรอ Group Blog นี้มาซักพักนึงแล้ว... อยากคุยด้วยหลายครั้งแล้วครับ แต่ไม่มีประสบการณ์อื่นๆ สอดคล้องกับคุณเลย อย่างน้อยก็ในปัจจุบัน ก่อนผมปฏิบัติ อาจจะคุยกันเรื่องแต่งนิยายกันรู้เรื่องบ้าง... ชอบนิยายวิทยาศาสตร์ครับ แบบ เหนือจินตนาการหน่อยๆ ชิงไหวชิงพริบกัน เริ่มเขียนได้ 1-2 บท... ก็เลิกซะแหล่ว

อีกอย่าง... ผมรู้สึกว่า ผมมีไอเดียในการใช้ชีวิต ที่อยากนำมาแบ่งปันให้ผู้อื่นรับรู้บ้าง... การรู้จักมองย้อนไปหาเหตุ เราจะเข้าใจ อารมณ์ ความรู้สึก คนรอบข้างมากขึ้น แล้วเราก็จะใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และ ชาญฉลาด... ร่างได้ซักครึ่งเล่ม ก็เลิกอีกแล้ว...

เพราะตั้งแต่ศึกษาธรรมะ เป็นอะไรที่มากกว่านั้นมาก เป็นสิ่งที่สูงกว่านั้นมาก สิ่งที่ผมรู้ ผมเข้านั้น มันแทบจะมีค่าเป็น 0 เลยทีเดียว... ผมจึงเก็บทุกอย่างไว้ในชั้น... นานๆ ทีจะหันไปมองมัน ด้วยความเป็นกลาง... ไม่อยากเขียนอีก และก็ไม่ได้อยากเอาไปทิ้ง... มันเฉยๆ ซะแล้ว


แอบลุ้นอยู่ว่า คุณนางฟ้าจะเข้าใจการทำความสงบ กับการเจริญปัญญารึเปล่า... อนุโมทนาด้วยนะครับ ลองดูครับ ที่ blog มี web link ครูบาอาจารย์ผมหลายๆ ท่านอยู่ครับ...


อย่างนี้แหละครับ คนที่เคยทำมาในอดีตชาติ มักจะมีเหตุ ให้หันมาหาธรรมได้ไม่ยาก... ผมเองก็มีครับ สมัยประถมครั้งนึง แล้วก็สมัยอยู่มหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่งเช่นกันกับคุณ... แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้หันมาปฏิบัติจริงจังเท่าไร ...จนถึงเวลากรรมเก่าให้ผลเต็มที่ ไม่ได้มีทุกข์ ไม่ได้มีอะไรมาผลักดันมากมาย เพียงแต่ได้อ่าน "เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน" แล้วมันปิ้งขึ้นมาเองครับ...

ลองดูนะครับ มีอะไรก็มาแลกเปลี่ยนกันครับ


โดย: เบียร์ (Pormaid ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:59:06 น.  

 
พี่อ้อว่าดอกบัวดอกนี้บานแล้วค่ะ

อ่านแล้วอมยิ้ม รู้สึกถึงความนิ่ง สงบ ที่น้องสาวหน้าใส ระลึกและพิจารณาความเป็นตัวตนของตัวเอง

หวังว่าดอกบัวดอกนี้จะเบ่งบานอย่างงดงามต่อไปในอนาคต
หนทางยังอีกยาวไกล...

ยินดีกับกรุ๊ปบล็อกใหม่ค่ะ ...


โดย: พรายทราย วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:54:41 น.  

 
อนุโมทนาจ่ะ....เพือนรัก
หวังว่าจะช่วยให้คนที่กำลังทุกข์
ได้พบกับทางสว่างนะ :0)


โดย: ยู้ IP: 203.144.240.229 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:46:39 น.  

 
รู้ว่า ดอกบัวอยากจะบานเหมือนกันค่ะ

แต่พระอาจารย์บอกว่า ยิ่งอยาก จะ ยิ่งไม่ได้ ต้องไม่อยาก
เฮ้อ

ก็ต้องพยายามต่อไป ตั้งใจแค่ ว่า วันนี้จะปฏิบัติธรรม เป็นพุทธบูชา (ไม่หวังผล) ขอให้ได้ทำ


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:8:47:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บินปร๋อ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




นางฟ้าหน้าหมวย...

ผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้เดินตามความฝันตัวเอง ติดปีก บินปร๋อละล่อง ท่องโลกไปด้วยใจรัก มีงานอดิเรกคือการเขียนหนังสือ บทกวี นิยาย เรื่องสั้น ฯลฯ

สมัครใจที่จะเป็นพุทธบริษัทที่ดี เดินตามรอยพระพุทธองค์ ใช้ธรรมะในการดำเนินชีวิต แม้สิบกว่าปีผ่านไปก็ยังคงออกตัวว่าเตาะแตะนักในทางธรรม

และกำลังพยายามที่จะจัดการชีวิตอันมีค่านี้ ให้เข้ารูปเข้ารอยอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมบล็อคและทำให้เจ้าของยิ้มหวานและหายเหนื่อยได้หลังเครื่อง Landing ... มิตรภาพไซเบอร์น่ารักอย่างนี้นี่เอง ^^





Friends' blogs
[Add บินปร๋อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.