กรกฏาคม 2551

 
 
1
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
ว่าด้วยเรื่อง Headgear
สืบเรื่องมาจากเมื่อวันจันทรฺ(21/07/08) ก็ได้ไปหาคุณหมอตามนัด วันนี้ใส่เครื่องมือเพิ่มที่ฟันหน้าด้านบนทั้งสองข้าง เป็นเหล็ก+ลวด นอกจากนี้คุณหมอยังให้อุปกรณ์เสริมพิเศษ Headgear (เฮดเกียร์) เพิ่มให้อีก1ชิ้น พร้อมคำแนะนำ ให้ใส่ไว้ตลอดเท่าที่จะทำได้ แต่อณุโลมให้เวลาอยู่นอกบ้านไม่ต้องใส่ อ๊ะ ก็ยังดี^^

แต่เวลานอนนี่สิ ลำบากมาก เป็นอะไรที่น่ารำคาญสุดๆ T_T
- - คืนแรกนี่ ขอบอก.. แสนสาหัส หลับๆ ตื่นๆ อยู่หลายรอบ เพราะเป็นคนนอนตะแคง แต่พอใส่เจ้า Headgear นี่แล้วต้องนอนหงายตลอด โอ๊ะโย๋ว..อยากสวยต้องอดทนนะ- -



********


ความรู้เกี่ยวกับ Headgear

Headgear เป็นเครื่องมือพิเศษที่ช่วยในการจัดฟัน โดยใช้ดันฟันบนไปข้างหลัง หรือใช้เสริมฟันหลัก ใส่ Headgear ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรืออย่างน้อยวันละ 12-14 ชั่วโมง รวมทั้งเวลานอน ไม่มีการใส่ที่มากเกินไป โดยทั่วไปไม่ควรใส่ Headgear เมื่ออยู่นอกบ้านเพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ใส่ headgear ขณะวิ่ง หรือเล่นกีฬา ระวังไม่ให้ผู้อื่นดึง Headgear ขณะที่ใส่อยู่

การถอดใส่ Headgear ควรทำอย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันในปากหลุดหลวม หรือตะขอของ Headgear ทิ่มปาก หน้า หรือตาได้ หากเครื่องมือที่ Headgear เกี่ยวอยู่หลุดหรือหลวม ให้หยุดใช้ Headgear แล้วติดต่อทันตแพทย์ทันที Headgear ชนิดที่ดึงด้วยหนังยาง ให้เปลี่ยนยางทุก ๆ 3-4 วัน ฟันที่ Headgear เกี่ยว อาจมีอาการเจ็บ ๆ เล็กน้อยหลังใส่ Headgear เป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งเป็นปกติ แสดงว่าฟันเริ่มเคลื่อนที่ พยายามใส่ Headgear สม่ำเสมอต่อไป



Create Date : 28 กรกฎาคม 2551
Last Update : 28 กรกฎาคม 2551 14:29:25 น.
Counter : 3375 Pageviews.

1 comments
  
ถามหน่อยคะ พอดีเพิ่งไปจัดฟัน ติดเครื่องมือบนมา หมอให้ใส่headgear เหมือนกันคะ อยากทราบว่า เจ้าของบล็อกใส่นานแค่ไหน หมอถึงให้เอาออกคะ เพิ่งใส่วันแรก ทรมานเวลานอน นอนไม่ได้เลยคะ ใส่ก็ใส่ยากก T^T
โดย: นีโม่ IP: 58.8.161.22 วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:16:55:25 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

namio
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



* * Blog're Mae Nok & Nong Ten * *