|
กุ้ง ตะกั่ว กับความรู้อันไม่มีที่สิ้นสุด
เมื่อซักสัปดาห์ก่อน ได้อ่านกระทู้แนะนำที่ห้องก้นครัว เรื่องกุ้งยัดตะกั่ว จากกระทู้นี้ ของคุณ nanokacha
//www.pantip.com/cafe/food/topic/D7633005/D7633005.html
อ่านแล้วก็เห็นใจเจ้าของกระทู้มาก เพราะเวลาเราซื้ออะไรมา เราก็ต้องอยากได้ของดีที่สุด
อย่างกุ้งที่เค้าซื้อมา มันก็ไม่ใช่ถูกอ่ะนะ ผ่ามาเจอแท่งตะกั่วก็คงเซ็ง 'รมณ์เสีย
แล้วก็คิดว่า ทำไมรัฐบาลยังปล่อยให้มีของแบบนี้อยู่ในตลาดอีก สุขภาพของผู้บริโภคนี่ไม่คำนึงกันเลยหรอ
อย่างผู้ค้าเองก็ไม่มีจรรยาบรรณเอาซะเลย (หมายถึงคนที่ตั้งใจอ่ะนะ) ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร
. .
ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ก็เกิดกระทู้ที่ให้ความรู้การยัดตะกั่วลงหัวกุ้ง กระทู้นี้ ของคุณ จะเก็บเธออยู่ในใจเสมอ
//www.pantip.com/cafe/food/topic/D7658454/D7658454.html
กล่าวโดยสรุปคือ จนท. จะยัดแท่งตะกั่วเข้าทางปาก ซึ่งเป็นบริเวณขา ทำให้สังเกตยาก
นุ้ยก็ไม่รู้ว่า ถ้าไปซื้อจะพลิกปากกุ้งดูแล้วจะเห็นหรือเปล่า ยังไงก็ดูที่กระทู้นะคะ มีภาพอธิบายชัดเจนเลย
จริงๆ ก็มีอีกหลายท่านที่ให้คำตอบ เช่นคุณสีฟ้าของน้ำทะเล หรืออีกหลายๆ ท่านที่ไม่ได้เอ่ยชื่อ
เห็นว่ามีประโยชน์ดี ก็เลยนำมากระจายกันทั่วๆ ขอบพระคุณมากๆ ค่ะ
. .
อีกเรื่องที่มันสะกิดใจเราเหลือ.... เกิน ก็คือกระทู้เก่านั่นแหละ
มีบางคนคิดว่า เจ้าของกระทู้เป็นคนยัดตะกั่วซะเอง เพราะตัวเองคิดว่า ไม่น่าทำได้
อืม... จริงๆ ก็เป็นสิทธิของเค้าสินะ ที่จะคิดว่าสิ่งใดทำได้หรือไม่ได้
ซึ่งการถกเถียงกันเพื่อให้เกิดความรู้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่เราควรจะพูดอย่างไรล่ะ?
. .
เค้าว่ากันว่า เด็กนอกไม่เหมือนเด็กไทย สงสัยอะไรก็ถาม สามารถแสดงความคิดเห็นได้
ซึ่งมันก็จริงอ่ะนะ แต่มันก็ต้องอยู่ใน ขอบเขต ไม่ไปจำกัดสิทธิของคนอื่นเช่นกัน
แรกๆ ที่มาเรียนที่นี่ก็รู้สึกแปลกๆ ที่เด็กยกมือค้านกับความเห็นของอาจารย์
แต่อาจารย์ก็ใจกว้างพอที่จะ ฟัง และให้เด็กได้พูดในสิ่งที่ตัวเองอยากถามและสงสัย
ซึ่ง... เด็กเองก็ไม่ได้พูดในลักษณะก้าวร้าวเลย และถ้าอาจารย์ตอบข้อสงสัยได้ ก็ยอมรับกัน
สิ่งเหล่านี้หรือเปล่า ที่สังคมไทย ตอนนี้โหยหา
. .
ในแง่ของผู้ประกอบการรายย่อย (จิ๊บจิ๋ว) อยากเห็นตรงนี้มากที่สุด
กว่าที่จะสอนให้เด็กจบใหม่ ได้ คิด เป็น แบบยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น นั้น ต้องอาศัยเวลาหลายปี
ในขณะที่ สังคมฝรั่ง ปลูกฝังนิสัยนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว เวลาทำงานก็ง่ายขึ้น
ที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้บอกว่า ฝรั่งขี้หอม เลวๆ ก็มีเยอะแยะไป
เพียงแต่... ถ้าสังคมเปิดรับความเห็นกันมากขึ้น บ้านเมืองเราคงพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้
. .
สุดท้ายนี้ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้องกับบล๊อคนี้ทั้งหมด
จขบ. ไม่ได้มีเจตนาในการลอกเลียนเนื้อหาเพื่อประโยชน์ต่อตนเองใดๆ ทั้งสิ้น
เพียงต้องการจะเผยแพร่วิธีสังเกตกุ้งเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเอง
ยังไงซะ ก็ยังอยากกินกุ้งหัวเยิ้มๆ อ่า อยากกินๆๆ
แล้วเจอกันนะ เจ้ากุ้งยักษ์
Create Date : 24 มีนาคม 2552 |
|
15 comments |
Last Update : 25 มีนาคม 2552 5:44:59 น. |
Counter : 1338 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 24 มีนาคม 2552 15:07:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: Dr.Manta 25 มีนาคม 2552 13:01:41 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 25 มีนาคม 2552 14:03:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 26 มีนาคม 2552 8:48:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) 26 มีนาคม 2552 22:53:25 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
Västerås Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนเราต้องเติบโตขึ้น
ต้องเดินต่อไป
ทุกอย่างเราเลือกเอง
และเราต้องทำให้ดีที่สุด
.....................................................
สองคน ยลตามช่อง
คนหนึ่งมอง เห็นโคลนตม
อีกคน ตาแหลมคม
เห็นดวงดาว อยู่พราวพราย
โดย ท่านภราดา ฟ. ฮีแรห์ แห่งโรงเรียนอัสสัมชัญ
ขอบคุณ...http://www.navy34.com/board342550/index.php?topic=721.0
|
|
|
|
|
|
|
เห็นด้วยว่าเด็กฝรั่งกล้าพูดกล้าคิดกล้าถาม และก็กล้ารับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
แต่ว่าผู้ใหญ่ ที่โตรอนโต ไม่ค่อยไหวเท่าไรค่ะ เพราะว่าคนส่วนมาก เป็นอิมมิเกรชั่นมาจากประเทศอื่น เอานิสัยส่วนตัวมาจากประเทศตัวเองด้วย ทำงานด้วยลำบากค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจีน-อินเดีย-ศรีลังกา-กาน่า-อัลมาเนีย-และประเทศเกิดใหม่ทั้งหลาย ทำงานด้วยยากๆ ค่ะ
แต่ว่าก็ยังดีอย่างที่ กฏเกณฑ์เค้าวางไว้ดี เลย จัดการกับพวกคนเหล่านี้ได้ง่ายหน่อย แต่..เอ...ไม่ใช่จัดการสิ เป็นการทำให้เค้าสงบปาก สงบกิริยาได้มากกว่าค่ะ
ส่วนลูกๆ หรือว่าเด็กที่เกิดหรือมามาเรียน ตั้งแต่ระดับประถมที่นี่จะดีกว่าพ่อแม่ เพราะว่าได้รับการปลูกฝักด้วยระบบการศึกษาของที่นี่เลยเป็นนิสัยแคเนเดี้ยนมากกว่าพ่อ-แม่ค่ะ