8. เด็กปีหนึ่ง
วันนี้มาแนะนำเพียงเรื่องเดียวค่ะ พอดีเพิ่งอ่านจบสดๆร้อนๆ ไม่อยากทิ้งไว้ค่อยมาพิมพ์ กลัวจะถูกความรู้สึกอื่นกลบไปเสียก่อน
หน้าปกอย่างนี้เลยค่ะ เพิ่งซื้อมาจากงานหนังสือเมื่อวาน ซื้อมา 9 เล่ม แต่หยิบเรื่องนี้มาอ่านก่อนเรื่องอื่นเพราะเคยได้ยินชื่อเรื่องจากเพื่อนมาน่ะค่ะ
พออ่านแล้วก็รู้สึกว่า มันคล้ายๆกับ "วิมานใจ" (อ่านใน Blog "บทประพันธ์ของ วลัย นวาระ") เลย คล้ายๆในหลายๆเหตุการณ์ แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว เช่น พระเอกไม่ได้ปิดบังนางเอกว่าเป็นหมออยู่ที่รพ. เพราะนางเอกรู้แต่แรกแล้ว เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เราชอบ "วิมานใจ" มากกว่าเยอะ เพราะอ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นใจมากกว่า เรื่องนี้พระเอกโผล่เข้ามาเป็นระยะๆ แล้วก็คล้ายๆกับเรื่องที่เคยอ่านมาก่อน เช่น มาคอยเป็นกำลังใจให้นางเอกตอนอยู่กับผู้ป่วยสิ้นใจครั้งแรก, ไปติดต่อพ่อแม่นางเอกก่อนมาหานางเอกในตอนท้าย อะไรอย่างนี้....
ที่จริงอ่านก็ชอบนะคะ แต่จะขัดตาตรงการกระทำของนางเอก ที่ออกจะ "ฝรั่ง" ไปนิด ซึ่งก็เข้าใจว่าผู้เขียนอยู่ต่างประเทศและคุ้นเคยกับวรรณกรรมต่างประเทศ... เช่น ตอนที่นางเอกอยู่กับพระเอกแค่สองคน ทำไมนางเอกถึงกล้าจับมือพระเอก และบอกว่า "ฉันคิดถึงคุณมาก" ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้อะไรกัน ไม่ได้ยอมรับว่ารักเขาด้วยซ้ำ และยังต้องเคารพว่าเป็นหมออาวุโส... แถมพระเอกยังตอบกลับว่า "ผมก็คิดถึงคุณมาก" มันก็เลยแอบขัดๆตาค่ะ ว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะพูดแบบนี้
อีกนิดนึงที่ขัดๆคือคำว่า "เจมมี่ ยอดรัก" ซึ่งออกจะเป็นคำฝรั่ง โดยน่าจะมาจาก "Oh! Dear!" อะไรแบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าคนไทยสมัยก่อนใช้รึเปล่า แต่มันคล้ายนิยายแปลที่เราอ่านมาก ที่เขาจะใช้คำพูดอะไรแบบนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นเพียงสิ่งที่ขัดตาค่ะ (และเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของเราด้วย) โดยรวมก็ยังชอบนิยายอย่างนี้อยู่นั่นเอง คือ มีเหตุการณ์เกิดในรพ. มีรายละเอียดการทำงานของพยาบาลและหมอ ยิ่งว่าหนูเพิ่งกลับมาจากการไปสังเกตการณ์ที่รพ.ชุมชนมาเมื่อวันก่อนยิ่งนึกภาพได้ดียิ่งขึ้นเลยค่ะ (แต่ก็ต่างกันเยอะ เพราะรพ.ใหญ่กับรพ.ชุมชน พยาบาลทำงานไม่เหมือนกัน..
อย่างรพ.ชุมชนเดี๋ยวนี้ พยาบาลทำได้แทบทุกอย่าง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆจะไม่เรียกแพทย์เวรเลยค่ะ วินิจฉัย รักษา ฉีดยา ทำเองหมด ทำคลอดยังทำเองเลย นอกจากจะมีอะไรที่พยาบาลไม่แน่ใจหรือซับซ้อนเกินไปเท่านั้นถึงจะเรียกแพทย์เวร อย่างนี้เป็นต้น)
โดยสรุป ให้คะแนนเรื่องนี้ 6.5/10 ค่ะ ชอบมากกว่าเรื่อง หมอกมธุรส ชอบใกล้เคียงกับ ดอกรักสีขาว หมอกสีชมพู และเมฆบังใจ แต่น้อยกว่าเรื่อง วิมานใจ ดาวแข่งเดือน กับ วิหคเหินฟ้า
อาจเพราะมาอ่านทีหลังเลยเห็นมุกซ้ำค่อนข้างเยอะ และตอนจบก็ประทับใจน้อยเพราะมันสั้นและกะทันหันมาก ตัดฉึบไปหน่อย เลยอ่านแล้วหงุดหงิดก็เป็นได้ 555+
เรื่องต่อไปจะลองอ่านเรื่อง "รักแรก" ค่ะ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 9 เล่มที่ซื้อมา... เป็นยังไงคงจะนำมาระบายให้อ่านกันอีก
***************
ลืมบอกไปค่ะ สำหรับเรื่องนี้....
นางเอกเป็นนักเรียนพยาบาลปี 1 ชื่อ ไหมทอง ทองสว่าง อายุ 19-20 ปี
พระเอกเป็นหัวหน้าแพทย์ อายุรกรรม (เป็นแพทย์อาวุโส) ชื่อ นพ.จามีกร กุศลวัต (เจมมี่) อายุ 36 ปี
นางเอกก็เป็นคนธรรมดาๆเนี่ยแหละ อยากเป็นพยาบาลเพราะอยากเป็น เธอรักและเอาใจใส่งานมาก อยากทำงานพยาบาลไปตลอดชีวิต อยากเรียนให้จบเอาปริญญาให้ได้ และไม่มีทางจะลาออกไปแต่งงานก่อนเรียนจบเด็ดขาด เป็นคนเรียนเก่งด้านพยาบาล พวก Anatomy, Physiology อาจไม่ค่อยถนัด แต่เรื่องพยาบาลนี่ได้ท็อปเหมือนกัน โดยสรุุป เธอเป็นคนธรรมดาๆที่น่ารักมากเลยค่ะ รักและดูแลคนไข้ดีมาก
พระเอกเป็นหัวหน้าแพทย์ทางด้านอายุรกรรม (เป็น resident?) เป็นคนพูดน้อย อยู่เงียบๆได้นานๆ (ชอบเข้ามาแบบเงียบๆ นางเอกไม่รู้ตัว) เป็นคนอบอุ่นเหมือนกัน แบบที่เราชอบ และนางเอกก็ชอบ... เพียงแต่จะมีช่วงนึงที่เงียบๆขรึมๆกว่าปกติ ดูเศร้า เพราะอกหักจากนางเอก (แต่ไม่ได้บอกใคร) เนื่องจากคิดว่านางเอกเป็นแฟนกับหมอจลา (แพทย์ประจำบ้าน?? ที่อาวุโสน้อยกว่าเยอะเลย...) และด้วยความเป็นผู้ใหญ่เลยมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดี มี Maturity มากกว่าหมอจลา...
เป็นคนเอาใจใส่ต่องานไม่แพ้นางเอกค่ะ ทุ่มทั้งตัวและหัวใจเหมือนกัน ก็เลยเข้ากันกับนางเอกได้ในเรื่องนี้ นับว่าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากคู่หนึ่งเลย :)
****************
ตอนนี้เห็นทีคงต้องรีบไปสะสางงานที่คั่งค้างไว้ให้เสร็จเสียก่อน
อีกอย่าง เสาร์นี้จะสอบ IELTS ครั้งแรก ยังไม่ได้อ่านเท่าไรเลย ตายแน่ๆ
ตั้งแต่กลับจากรพ.ชุมชนมาก็มัวดู "คุณชายธราธร" แล้วก็ติดซีรีส์จีนเรื่อง "Gong เจ้าหญิงทวิภพ" พอไปงานหนังสือเมื่อวานมา ก็ดันมานั่งอ่านนิยายต่ออีกแน่ะ!
เห็นทีนิยายเรื่องถัดไป คงต้องเก็บไว้ก่อน รอให้งานที่ได้รับมอบหมายเคลียร์เสียก่อน... ไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือ 'ปิดเทอม' ตารางแน่นเอี้ยด (แต่ก็ยังมีเวลาอ่านนิยาย)
บ่นพอหอมปากหอมคอค่ะ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ
มีอะไรสงสัยก็ฝากคำถามไว้ได้ค่ะ
ปล. งานหนังสือมีถึงวันที่ 8 เมษายน ใครที่ยังอยากเป็นเจ้าของหนังสือของ "วลัย นวาระ" รวมทั้งผลงานของเธอในนามปากกาอื่นๆ แวะไปดูได้ที่ บูธ O43 ที่ zone C1 นะคะ... ไปแล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ เราโชคดีมีคนแนะนำมาจากบูธอื่น ไม่งั้นคงเดินหานานเลย
ขอบคุณที่แนะนำนะคะ