เมษายน 2556
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
8 เมษายน 2556
 
 

วันแรก 8 April 2012 (BKK -> Doha -> Heathrow -> Oxford)

ครบ 1 ปีพอดี (เขียน Blog ช้าไปไหม?) แต่ประสบการณ์วันนั้น เรายังจำได้ดี


วันนั้นเราขึ้นเครื่องสายการบิน Qatar Airways ที่สนามบินสุวรรณภูมิ Flight 2:50 am แต่ไปถึงสนามบินตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่ม โดยมีแม่น้องสาว กับคนขับรถมาส่ง... ที่ต้องไปเร็วเพราะไม่อยากให้ดึกเกิน

...ไปก่อน Counter Check-in จะเปิดเสียอีกค่ะ!



ก่อนเข้าไปด้านในก็ไปปิดเครือข่ายโทรศัพท์ซะเรียบร้อย
เข้าไปก็เลยนั่งแหง่วอยู่คนเดียวเกือบ 5 ชม.เชียวค่ะ! (เดินทางคนเดียวเป็นครั้งแรก!)

ก็เลยถ่ายรูปไปเรื่อย



ด้านในสนามบินสุวรรณภูมินี่งดงามจริงๆค่ะ 

สักพักใหญ่ เขาจึงประกาศ Gate เราถึงได้เดินไปที่ Gate เพราะไม่มีอะไรทำ...
และ Gate ส่วนใหญ่ที่เดินผ่านก็เป็นเช่นนี้...


แต่เงียบสงบแบบนี้ดีค่ะ เราชอบ
พอไปถึงก็เปิด MacBook ค่ะ ตั้งใจจะนั่งเขียน Portfolio ให้เสร็จ
(พอดีว่า คณะเราบังคับให้ทำ Portfolio ตามแบบฟอร์ม... เขียนให้ได้ Outcome ต่างๆให้ครบก่อนเรียนจบค่ะ) เพราะกลัวใกล้กำหนดส่งแล้วจะเขียนไม่ทันเพราะไม่มีโอกาสเขียนตอนอยู่ที่อังกฤษ...

แต่สุดท้ายก็เบื่อค่ะ เขียนไม่เสร็จ จะงีบก็งีบไม่ได้ ต้องดูข้าวของให้ดี กลัวหาย >.<

และแล้วในที่สุด ก็ถึงเวลาขึ้นเครื่องค่ะ ....ตอนนี้ก็อีกเช่นกัน จะเข้าห้องน้ำ แต่ไม่กล้าวางกระเป๋าทิ้งไว้ (นี่คือข้อเสียของการเดินทางคนเดียว) ก็เลยต้องลากกระเป๋าเดินทางใบเล็ก (ที่จะเอาขึ้นเครื่อง) เข้าห้องน้ำไปด้วยซะเลย... 55+


ถ้าเล่าทุกเหตุการณ์กระทั่งขึ้นเครื่อง สงสัยจะยาว (เพราะบรรยายให้สั้นไม่เป็นเสียด้วย) เอาเป็นว่า สุดท้ายก็ขึ้นเครื่องไปค่ะ

ที่นั่ง เราเลือกที่ติดหน้าต่างเพราะชอบดูวิว... ทีนี้ เราก็เป็นคนที่มักพะวงเรื่องเข้าห้องน้ำด้วย ก็เลยเป็นปัญหานิดนึงตรงที่ลุกเข้าห้องน้ำไม่สะดวก... หรือบางทีก็เกรงใจคนข้างๆที่นอนหลับอยู่ ถ้าไม่ปวดจริงๆก็ทนเอา T^T
โชคดีที่ขาไป ครึ่งแรก เรานั่งแถวที่มีคนนั่งเพียง 2 คน ก็เลยรบกวนคนแค่คนเดียว
ผู้หญิงคนที่นั่งข้างๆเรา ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่หน่อย ตอนแรกเราก็ชวนคุย แต่เรื่อยๆไปดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยอยากคุยกับเรามากนัก (เราพูดมากไปสินะ T^T) ก็เลยต้องเงียบเอา เฮ้อ!

สายการบิน Qatar นี่ดีเหลือเกิน (สายการบินอื่นก็คงดีเหมือนกันแหละ แต่เราเคยขึ้นไม่กี่สายการบิน และที่แน่ๆ Qatar ก็ยังถูกอีกด้วย...) พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินค่อนข้างเอาใจใส่ดี มีการให้แปะสติ๊กเกอร์ที่เบาะด้วยว่า ถ้าอาหารมาจะให้ปลุก หรือเปล่า ไรงี้... และแน่นอน เนื่องจากเราเป็นคนค่อนข้างห่วงกิน (เลยอ้วนไง) ก็เลยต้องแปะไว้ด้วย เวลานอนจะได้ไม่พะวงว่าจะพลาดอาหาร! 555

แต่สุดท้าย เราก็ตื่นก่อนมีคนมาปลุกทุกที.. สงสัยเพราะจมูกไว ได้กลิ่นอาหารปุ๊บตื่นปั๊บเลย 555

ส่วนตอนที่เราไม่ง่วง และไม่ได้ทานอาหาร เราก็มองด้านนอกค่ะ เนื่องจากเราเดินทางตอนกลางคืน แถมเครื่องบินยังบินสวนกับทิศที่โลกหมุน ก็เลยอยู่กับกลางคืนค่อนข้างนาน และเราก็เป็นคนที่หลงใหลในดวงจันทร์และดวงดาวด้วย เลยนั่งมองท้องฟ้า ดูดาว ดื่มด่ำกับบรรยากาศไปเรื่อยๆค่ะ

หลับไปเมื่อไรไม่ทราบ (หลับๆตื่นๆ) พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง มองออกนอกหน้าต่าง... โอ้ว.... อดไม่ได้ ต้องหยิบกล้องขึ้นมาค่ะ (พอดีเอากระเป๋ากล้องใบกะทัดรัด แลดูคล้ายกระเป๋าสะพายธรรมดามาไว้ที่เบาะด้วย แอบๆไว้ ไม่รู้ว่าแอร์ฯเขาว่ารึเปล่านะคะ แต่ไม่อยากเอาห่างตัวก็เลยต้องแอบๆไว้ก่อน หุหุ)







สักพัก เครื่องบินก็ Landing ค่ะ
ที่ Doha, Qatar (มา transfer เครื่องค่ะ) 5:40 ที่โดฮา = 9:40 am ประเทศเราค่ะ
รวมเวลาเดินทางจาก BKK ก็ 7 ชม.ได้ค่ะ

ระหว่างเดินจากเครื่องบินไปรถที่เขามารอรับ เราก็มองเห็นภาพๆหนึ่งซึ่งสวยมาก เลยรีบคว้ากล้องมาถ่ายค่ะ ทันใดนั้นเอง คนหน้าดุๆที่นั่นก็ยืนขวางมาในเฟรมภาพ บอกว่าห้ามถ่าย (ไม่ทราบว่าเขาพูดว่าอะไร เพราะฟังไม่รู้เรื่อง) เราก็เลยต้องเอากล้องลง ภาพที่ได้มายังไม่ทันปรับแสง เลยต้องมาแก้ไขในคอมฯค่ะ ได้ออกมาเป็นเช่นนี้



(ของจริงงดงามกว่านี้ค่ะ ยืนยัน!)

จากนั้นก็ขึ้นรถ (ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร เป็นรถที่รับจากเครื่องบินไปส่งที่สนามบินน่ะค่ะ)


เดี๋ยวมาเล่าต่อนะคะ ต้องออกจากบ้านแล้ว

อยากจะเล่าตอนที่ถึงตรงตรวจคนเข้าเมืองมากๆ เพราะมีเหตุการณ์ประทับใจตรงนั้นค่ะ ><"



ขอบคุณที่อ่านจนถึงตรงนี้ค่ะ



****************

มาเขียนต่อแล้วค่าาา

แม้ว่าจะยังไม่มีคอมเมนท์ ก็ขอเขียนต่อไปเรื่อยๆละกันเนาะ
ตอนนี้อาจยังไม่มีประโยชน์ แต่เดี๋ยวพอถึงอังกฤษ ที่เราไปเที่ยวเองบางที่ อาจเป็นประโยชน์ก็ได้ค่ะ แต่ตอนนี้ขออนุญาตเล่าไปเรื่อยๆ เพื่อระลึกถึงความหลังก่อนก็แล้วกันนะคะ ^^

Transfer เครื่องที่โดฮา ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชม.ค่ะ อันที่จริงคือ พอเข้าไปในสนามบิน ก็แทบจะได้ขึ้นเครื่องในทันทีเลยค่ะ (ได้นั่งแค่แปบเดียว)

พอขึ้นเครื่องแล้ว ก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพต่อค่ะ


มันคืออะไรไม่ทราบ แต่เห็นหน้าตาประหลาดและสวยงามดี เลยถ่ายมาด้วย...


พอพ้นเมฆมา ก็ถ่ายได้แต่เมฆแล้วค่ะ... ตอนนี้ตอนกลางวัน ก็เลยไม่ได้นั่งชมดาว แต่มองเมฆแทน



เครื่องออกจากโดฮา 7:55 และน่าจะถึงลอนดอน (ตามตารางบิน) 13:15 ค่ะ
เช็คจากตารางบินปีนี้ เพราะจำของปีที่แล้วไม่ได้ (น่าจะเหมือนกันนะ)

เที่ยวบินนี้ ได้เพื่อนนั่งข้างๆเป็นคนอินเดียค่ะ แต่อาศัยอยู่สิงคโปร์นะ รู้สึกว่าจะไปเรียนต่อ/เรียนอะไรสักอย่างที่อังกฤษ 1 ปีหรือไงเนี่ยแหละค่ะ (จำไม่ได้ละ) แต่เป็นมิตรและน่ารักมากๆเลย คนนี้คุยด้วยได้ตลอดทาง ไม่เหมือนคนไทยที่นั่งมาด้วยกันตอนแรกที่ท่าทางไม่อยากคุยกับเราสักเท่าไร ^^"



จากที่นี่ไปลอนดอน ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. แต่เที่ยวนี้เราไม่ค่อยหลับค่ะ
เพราะว่า มันเช้าแล้ว... ก็เลยเปิดหนังดูค่ะ (รู้สึกว่าจะเพิ่งค้นพบในเที่ยวบินนี้ หรือเมื่อตอนใกล้จะลงจากเที่ยวบินที่แล้วเนี่ยแหละค่ะ)

จำได้ว่า ดูหนังได้ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ Lion King ค่ะ เรื่องนี้ดูจนจบเลย สนุกมากกกก ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า ทั้งสนุก หลายความรู้สึกปนกันเลย... น่าแปลกว่า ตั้งแต่เกิดมา เราเพิ่งดู Lion King จริงๆก็หนนี้หนแรก ทั้งๆที่รู้จักชื่อมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว!

เรื่องที่สองคือ Beauty and the Beast มั้งคะ แต่ตอนดูไม่ค่อยมีสมาธิแล้วล่ะ แถมดูไม่จบด้วย เครื่องลงซะก่อน... และก็ได้มาดูต่อนะคะ ขากลับน่ะค่ะ

บนเครื่องก็ไม่มีอะไร นอกจากกินกับดูหนัง แล้วก็คุยกับเพื่อนใหม่ข้างๆ... อ่อใช่ รู้สึกว่าจะท้องเสียด้วย แต่แค่ครั้งสองครั้ง เข้าห้องน้ำนานมากกกก ก็เกรงใจเหมือนกัน โชคดี ตอนนั้นไม่ใช่ตอนหลังอาหาร เลยคนรอคิวไม่เยอะ ^^"


ในที่สุดก็ถึงสนามบิน Heathrow ค่า!
ไปถึงก็ เข้าห้องน้ำก่อนเป็นอย่างแรก!! แล้วก็ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย 555+



เอ๊ะ! ที่กดไม่มี... รู้สึกว่าพอลุกขึ้นมามันก็กดชักโครกเองอัติโนมัติเลยรึเปล่าน้าาาา? จำไม่ได้ละค่ะ แต่จากภาพ มันไม่มีที่กดจริงๆนะ ^^"


จากนั้นก็ไปตรงด่านตรวจคนเข้าเมืองค่าาาา
คนไม่เยอะเท่าไร
ที่จริงต้องบอกว่าคนน้อยมากๆ บรรยากาศออกจะวังเวงด้วยซ้ำ
ไม่รู้เป็นเพราะวันหยุดหรืออย่างไร? (8 เมษาปีที่แล้วตรงกับวันอาทิตย์ ที่เป็นวันหยุดต่อเนื่องมาจากวันอีสเตอร์ หรือไงนี่แหละค่ะ) ความรู้เราก็ไม่มีด้วยสิ แค่ฟังเขามาผ่านๆ ^^"

ที่จริง อยากถ่ายภาพบรรยากาศเก็บเป็นที่ระลึก เกรงแต่ว่า บริเวณนั้นน่าจะห้ามถ่ายภาพ เพราะเป็นด่านตรวจคนเข้าเมือง... ขืนเรายกกล้องขึ้นถ่าย อาจโดนไม่ให้เข้าประเทศได้... รึเปล่า? >O<"

ก่อนมา คุณแม่ก็ได้เตี๊ยมและคุยกับเราว่า ตอนถึงด่านตรวจคนเข้าเมือง ให้เตรียมคำตอบไว้นะ เผื่อเขาถาม บลาๆๆ ซึ่งเราก็ไม่กลัวมาก เพราะเราไปเรียน มีเอกสารอะไรพร้อมอยู่แล้ว ตอบอะไรก็ตอบตามจริงนั่นแหละ

ทีนี้ พอเข้าไปจริงๆ ก็เจอผู้หญิงดำๆหน่อย อ้วนนิดๆ หน้าตาดุๆ ก็เลยฟีบเลยค่ะ

ปรากฎว่า เค้าก็พูดอะไรไม่รู้ เราก็เลยถามว่า Pardon?
แล้วเธอก็พูดอีกรอบว่า "Happy Birthday" โอร้วววว งง+ตกใจมากค่ะ 555+

เราก็เลยยิ้มให้แล้วรีบตอบ "Thank you" แล้วก็รีบเดินผ่านไป ฮ่าๆ

พอดีเดินทางในวันเกิดตัวเอง แถมขึ้นเครื่องบินคนเดียวเป็นครั้งแรก
มาอังกฤษเป็นครั้งแรก แหม่ ตื่นเต้นเหลือเกิน
พอเจอ Immigration บอก Happy Birthday โดยไม่ถามอะไรเลยก็ซาบซึ้งเหลือเกิน Smiley

จากนั้นก็ผ่านเข้าไป แล้วก็เห็นว่า เพื่อนชาวอินเดียยังไม่ออกมา หายเข้าไปในห้องหนึ่งๆ นานมาก เราก็เหลือบไปเห็น Counter หนึ่ง น่าจะเป็นของธนาคาร ก็เลยตรงเข้าไปขอแลกเงิน

ก่อนหน้าจะคุยด้วย ก็มีผู้ชายคนนึง เพิ่งเดินออกจากเคาท์เตอร์ จะไปลงบันไดเลื่อนจากไป แต่ปรากฏว่า เขาลืมพาสปอร์ตวางทิ้งไว้ที่เคาท์เตอร์... พี่ที่เคาท์เตอร์เรียกก็ไม่ได้ยิน เราเลยวิ่งตามไปบอกเขาว่า เขาลืมพาสปอร์ตทิ้งไว้... เป็นอันว่าโชคดีไปที่เรียกทัน ^^"

แล้วเราก็ทำธุรกรรมที่เคาท์เตอร์นั้นค่ะ 

เดินทางครั้งนี้ ป๊าให้ Dollar มา 10 ใบ ตอนแรกเราก็กล้าๆกลัวๆเข้าไปถามว่า จะแลกเนี่ย ต้องเสียค่าธรรมเนียมมั้ย เค้าก็บอกว่า ต้องไม่ต่ำกว่า 300 Dollar ถึงไม่เสียค่าธรรมเนียม เราก็... เอ่อ งั้นขอแลก 600 Dollar (รู้สึกจะเท่านี้นะคะ) ได้เป็นเงินปอนด์มาเท่าไรจำไม่ได้ แต่พี่ที่เคาท์เตอร์ก็น่ารัก แนะนำว่า พกเงินขนาดนี้ไป อันตรายนะ ให้เป็นบัตรไปดีกว่า และทำบัตรเนี่ย ก็ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไร
(ต้องพกเยอะเพราะจะอยู่ตั้งเดือนครึ่งค่ะ)

เราก็ตอบตกลงเลยค่ะ  เอาเงินส่วนหนึ่งเก็บไว้ในบัตร ถือเงินสดแค่ส่วนหนึ่ง

แล้วก็ถามรายละเอียดว่าจะใช้บัตรนั้นยังไง ซึ่งก็สะดวกดี เพราะที่ UK นี้ รูดการ์ดได้แทบทุกที่โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม (แต่มีค่าขั้นต่ำเหมือนกัน ซึ่งก็ต่ำมาก) อย่างจะซื้อ MacDonald แค่ 1.99 pound ก็สามารถรูดการ์ดได้... สะดวกมากเลย

เงินไม่พอก็ไปตู้ ATM ของ HSBC แล้วก็กดเอาเงินออกมาได้ด้วย เช็คเงินก็เช็คจากตู้นี้ ตู้ของธนาคารอื่นเราไม่กล้ากด เพราะกลัวจะเสียค่าธรรมเนียม และตู้ HSBC ก็มีแทบทุกที่อยู่แล้วด้วย หุหุ (เราจำชื่อธนาคารถูกรึเปล่านะ? แหะๆ)

แล้วพอเรากรอกข้อมูลทำบัตร พี่ที่เคาท์เตอร์ก็ "Happy Birthday" เหมือนกัน ตอนที่เธอเหลือบไปเห็นวันเกิดเรา ฮ่าๆ คนที่นี่น่ารักกันจังเลย >///<

อ่าใช่ และระหว่างที่เราแลกเงินอยู่นั้น คนอินเดียก็ออกมา เราเลยถามว่าทำไมเข้าไปนานจัง เขาก็บอกว่า เพราะเขามาเรียนเป็นระยะเวลานานเกินกี่เดือนเนี่ยแหละค่ะ เลยต้องตรวจสุขภาพเพิ่มเติม... เราก็ อ้ออออ

แล้วเขาก็ขอตัวไปก่อน

ก็เลยต้อง Say Goodbye กับเขาตรงนั้น จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกค่ะ
ที่จริงเขาให้อีเมล์ไว้ด้วย บอกว่า อยากได้ภาพท้องฟ้าที่เราถ่ายบนเครื่องบิน
unfortunately, I lost it! ทำอีเมล์หายค่ะ เลยไม่ได้ส่งให้เลย T^T


พอเสร็จจากเคาท์เตอร์ เราก็ไปเอากระเป๋ามั่งค่ะ

รอไม่นานกระเป๋าก็มา ใบใหญ่เหลือเกิน บวกกับใบเล็กที่พกติดตัวอยู่แล้ว รวมทั้งกระเป๋าสะพายข้างที่ตัว ก็ค่อนข้างทุลักทุเลเลยทีเดียว ^^"

เอ... แต่ถ้าจำไม่ผิด รถเข็นกระเป๋าเดินทางที่โน่นเขาไม่ต้องหยอดเหรียญเหมือนในประเทศอื่นๆในยุโรปนะคะ... (จำได้ว่าที่ออสเตรียต้องหยอดเหรียญ) แต่ไม่แน่ใจว่าจำผิดรึเปล่า

จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราได้ใช้รถเข็นนั้นรึเปล่า (นานแล้วจริงๆเนาะ)
เพราะว่ากระเป๋าใบใหญ่ของเราเป็นกระเป๋า 4 ล้อ ใบเล็กก็ 2 ล้อ ก็เลยวางซ้อนกันแล้วดันไปได้ ฮ่าๆๆ ทุลักทุเลเล็กน้อย แต่ก็รอดไปได้ค่ะ!

ทีนี้ปัญหาก็คือ... เราจะไปตรงไหนต่อ?!

เนื่องจากก่อนมาประมาณเดือนสองเดือนกว่า เราได้เตรียมแพลนไว้ให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เลยไปได้ตลอดรอดฝั่ง แต่ก็งงๆไม่น้อยค่ะ ฮ่าๆๆ

(ที่ต้องเตรียมตัวล่วงหน้านานขนาดนั้น เพราะว่า เราสอบปลายภาคเสร็จวันพฤหัสที่ 5 เมษา, 6 เมษามีนัดเที่ยวกับเพื่อน (แต่สุดท้ายก็ไม่ไป เพราะไม่มีอารมณ์ไป) 7 เมษาก็ต้องจัดกระเป๋าให้พร้อมแล้วเดินทางในค่ำวันนั้น... ก็เลยมีเวลาเตรียมตัวใกล้ๆน้อยมากกกกก)

คงต้องขอไปหาแพลนที่เคยเตรียมไว้มาดูประกอบการเขียน Blog แล้วล่ะค่ะ... เพราะจำรายละเอียดไม่ได้ละ ^^"

(เดี๋ยวมาต่อนะ ยังไงก็อยากให้จบวันนี้ อิอิ) เห็นทีคงไม่ทันละค่ะ
เดี๋ยวจะมาต่อภาค 2 นะคะ ถ้าพรุ่งนี้กลับบ้านไม่ดึกมาก


ใครที่ได้อ่านยังไงก็ รบกวนคอมเมนท์ไว้บ้างสักเล็กน้อยนะคะ
จะได้รู้ว่าพอมีคนสนใจบ้างไหม ^^

ขอบพระคุณค่ะ 




 

Create Date : 08 เมษายน 2556
9 comments
Last Update : 8 เมษายน 2556 23:38:40 น.
Counter : 2210 Pageviews.

 

อ่านเพลินเลยค่ะเขียนได้ละเอียดมากขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่นำมาแบ่งปัน

 

โดย: momnic IP: 1.2.179.65 10 เมษายน 2556 15:28:45 น.  

 

เย่ๆ มีคนมาคอมเมนท์แล้ว ขอบคุณมากค่ะที่อ่านจนจบ ^/\\^

ถ้าเป็นไปได้ (ถ้าวันนี้เสร็จธุระทันก่อนดึก) จะรีบมาเขียนของวันแรกต่อให้จบภายในคืนนี้นะคะ :)))

 

โดย: MorganaArtemisCynthia 10 เมษายน 2556 16:44:45 น.  

 

ภาพท้องฟ้ายามเช้าสวยมากค่ะ
ภาพที่คล้ายดอไม้ยื่นไปในทะเล น่าจะเป็นการถามทะเลเพื่อสร้างเมืองใหม่ เหมือนที่ดูไบ...
ส่วนห้องน้ำ...บางทีที่พื้นมีปุ่มสีดำให้ใช้เท้าเหยียบ...ลองหาดูนะคะ

ขอให้เที่ยวให้สนุก เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เยอะ ๆ นะคะ

 

โดย: Maeboon 10 เมษายน 2556 21:27:02 น.  

 

ภาพถ่ายตอนเช้าสวยมากค่ะ
เข้ามาอ่านจนจบ น่าสนใจดีค่ะ
เดินทางคนเดียว เก่งจังเลยนะคะ

แวะมาสวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

 

โดย: ดาวริมทะเล 11 เมษายน 2556 23:56:09 น.  

 

อ่านจบแล้วก็เพลินดีเหมือนกัน

 

โดย: kriangsak IP: 113.53.32.90 13 เมษายน 2556 9:49:16 น.  

 

ไม่ได้เหยียบ heathrow มาสิบกว่าปีละ (บ่งบอกความแก่)

ที่ชักโครกแต่ละประเทศก็ทำเอาปวดหัวนะ อย่าว่าแต่ชักโครกเลย ที่ซื้อตั๋วรถไฟก็ทำหน้าแตกหลายหน

ไปเที่ยวเอาเองคนเดียวเหรอคะ เก่งจังค่ะ

 

โดย: พี่หมูน้อย IP: 202.28.248.42 18 เมษายน 2556 15:42:30 น.  

 

ที่จริงไม่ใช่แค่ไปเที่ยวหรอกค่ะ

ไปด้วยจุดประสงค์อื่น
เดี๋ยวมาเฉลยนะคะ อิอิ ^___^

 

โดย: MorganaArtemisCynthia 30 เมษายน 2556 16:57:30 น.  

 

อ่านเพลินดีค่ะ มีประโยชน์มาก พี่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศคนเดียว
เช่นกัน สายการบินการ์ต้า tranfer ที่โดฮา ชอบคุ่ะ มีประโยชน์มาก

 

โดย: pooky IP: 122.154.136.28 30 พฤษภาคม 2556 10:33:20 น.  

 

ขอบคุณทุกท่านนะคะที่เข้ามาอ่านและมา Comment ^^

และขอโทษด้วยจริง ๆ ที่ไม่ได้มาเขียนภาคต่อเสียที

ปีนี้ เรียนหนักมาก และพอว่างเมื่อไร ก็ไปเที่ยวทุกที เลยไม่มีเวลาอยู่กับบ้านให้นั่งเขียนเลยค่ะ
แต่นี่ก็เริ่มทยอยเขียนบ้างแล้ว

ว่าง ๆ ก็เข้าไปอ่านทริปญี่ปุ่นกันได้นะคะ :D

 

โดย: MorganaArtemisCynthia 30 ธันวาคม 2556 23:54:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

MorganaArtemisCynthia
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add MorganaArtemisCynthia's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com