Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2555
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 พฤษภาคม 2555
 
All Blogs
 

ไม่ใช่เพียงแต่โลมาสีชมพูที่ขนอม.........

แต่หัวใจของชาวบ้านที่นั้นก็เป็นสีเขียวด้วย

การไปเที่ยวนคร ดินแดนอารยะธรรมแห่งลุ่มน้ำปากพนัง ของผมในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบุพการีของแฟนที่เชียรใหญ่แต่ยังได้มีโอกาสไปชมโลมาสีชมพู ที่เขาบอกกันว่าเป็นดาวเด่นแห่งท้องทะเลขนอม แค่มีโอกาสนะครับ แต่จะได้เจอพวกมันรึเปล่านั้นต้องไปลุ้นเอา

ไม่ผิดหรอกครับถ้าจะบอกว่าเป็นเรื่องของดวง ที่ต้องบอกแบบนั้นก็เพราะว่าปกติถ้าจะไปดูโลมานั้นต้องมาถึงที่ท่าเรือไม่เกินแปดนาฬิกาเช้า แต่เมื่อคืนสังสรรค์เยอะไปหน่อยเลยทำเอาผมกะเพื่อนๆมาถึงเกือบสิบโมง แถมพอมาถึงแล้ว ฟ้าฝนยังไม่เป็นใจอีก ตกกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตาทำเอา ต้นไม้ ใบไม้แถวนั้นโงหัวกันแทบไม่ขึ้นจะ เอาไงดีละเนี้ย สงสัยจะมาเสียเที่ยวซะแล้ว ระหว่างรอแบบสิ้นหวัง ผมก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ แลไปเห็นรูปปั้นปลาโลมา 2 ตัว หันหน้าเค้าหากันเอาละหวา ถ่ายไว้หน่อยไหนๆก็มาแล้ว ไม่ได้เห็นตัวเป็นๆ รูปปั้นก็ยังดี พอเก็บภาพเสร็จ



เหมือนสวรรค์ยังพอมีเมตตาบ้าง ฝนที่ตกเรียงเม็ดค่อยๆหยุด ฟ้าเปิดแสงแดดอ่อนๆ พลางส่องลงมาพร้อมกับเสียงคนเรือ “เราออกเรือได้แล้วครับ” ครึ่งชั่วโมงแห่งการรอคอย จะคุ้มค่าไหม เราจะเจอมันรึเปล่า เรือแล่นไปได้ประมาณ 20 นาทีก็มาถึงจุดที่ปกตินักท่องเที่ยวจะต้องได้เห็นฝูงโลมากว่า 10 ตัวแหวกว่ายโชว์ความน่ารัก แต่พระเจ้า ผมไม่เห็นแม้แต่เงา คนเรือบอกว่า ตรงนี้เมื่อเช้า กลุ่มแรกที่มาเจอเยอะมาก เป็นพวกฝรั่ง ถึงกับดีใจกระโดดโลดเต้น จะลงไปว่ายน้ำกับพวกโลมาให้ได้ แต่ดีที่คนเรือห้ามไว้ทัน เพราะอาจเกิดอันตรายได้ อีกทั้งยังอาจทำให้โลมาเกิดความหวาดกลัวและไม่มาปรากฏตัวใกล้ๆเรืออีก

“สรุปคือไม่เจอ” คำพูดสั้นๆแต่เจือด้วยความผิดหวังของเพื่อนผมก็ผุดขึ้นมา ทุกคนในเรือถึงกับเซ็ง คนเรือจึงรีบตัดบท “ไม่เป็นไรครับเดียวเราจะไปเกาะน้อยที่มีรูปปั้นสมเด็จพะโคะ หรือหลวงปู่ทวดเรา ท่านคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี” ใช่ครับตำนานเหยียบน้ำทะเลจืดเกิดขึ้นที่นี่ บนเกาะนั้นมีบ่อน้ำผุดที่เป็นน้ำจืดด้วยนะครับ “นักทางธรณี เคยเข้ามาตรวจก็พบว่าอาจเป็นน้ำที่ไหลมาตามช่องเขา น่าจะจากเกาะฝั่งขวาโน้น” หลังจากไหว้พระขอพรเสร็จ เราก็เดินทางกลับ ในใจก็คิดเฮ้ย ถ้าเพื่อนๆมันรู้ ว่าเรามาไม่เจอคงสมน้ำหน้าผมเป็นแน่ เพราะตอนอยู่บนฝั่งดันไปกด check in อวดเพื่อนๆ ใน facebook แล้วด้วย
อีก 10 นาทีจะถึงฝั่ง หมดหวังโดยสั้นเชิง ตาพลันไปเห็นทุนลอยปักเขตแดน เหมือนกันพื้นที่ไม่ให้เข้าอะไรสักอย่าง จึงถามคนเรือ “นั้นเป็นเขตอนุรักษ์หญ้าทะเลสำหรับพะยูนครับ เคยพบมันครั้งสุดท้ายก็ตั้งแต่ปี 32” อ้าวแล้วตอนนี้ละครับ “ไม่เห็นแล้วนะ แต่ก็ต้องทำครับเพราะมันเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะใช้ต่อสู้กับพวกนายทุน พวกนั้นพยายามจะมาสร้างท่าเรือ เขนส่งสินค้า ทางบริษัทเค้าเคยมาทำประชาพิจารณ์ ว่าถ้าก่อสร้างจะไม่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านแน่นอน พูดออกมาได้ ขนาดเรือผมลำไม่ใหญ่ไม่โตน้ำลงบางที่ยังติดเลยแล้วประสาอะไรกับเรือขนส่ง” สีหน้าเย้ยหยันของคนเรือ เพิ่มอารมณ์ร่วมให้กับผม “ใช่พี่ ระวางขับน้ำเยอะ จะเข้ามาได้ไงวะ” ฉันก็นักสิ่งแวดล้อมคนหนึ่ง ไอ้พวกนี้หลอกชาวบ้านชัดๆ ถ้ามันจะทำได้ ต้องขุดลอกร่องน้ำกันยาวเลย ปะการัง สัตว์ทะเล โลมาอย่าหวัง ล้มตาย หายเรียบแน่นอน “ใช่ครับพวกเราก็กลัวกัน โชคดีที่ทุกวันนี้โลมายังอยู่ วิธีชีวิตของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง เรายังมีอาชีพมีรายได้เข้ากลุ่มสหกรณ์ซึ่งเป็นรายได้หลักในการเลี้ยงครอบครัวนอกเหนือจากการทำประมง พวกเราก็หวังให้มันคงอยู่ตลอดไป” ยังไม่ทันจะพูดคนเรือก็ส่งโทรศัพท์มือถือให้ดูรูปของโลมาที่ตาย “นี่ครับอายุไม่เท่าไหร่แสดงว่าไม่ได้ตายตามธรรมชาติ” อ้าวแล้วทางราชการมาเอาซากไปตรวจไหมครับ “ตรวจครับ สภาพคือไม่ได้ตายเองน่าจะติดอวน” มีการล่าปลาในเขตนี้เหรอครับ “ใช่ครับทั้งที่พวกเราช่วยกันต่อสู้เรียกร้องจนได้รับทุนจากมูลนิธิโททาล ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาทำทุ่นกำหนดเขตทางทะเลเพื่อการอนุรักษ์โลมาสีชมพู แนวหญ้าทะเล และปะการังชายฝั่ง ใช้ทุ่นทั้งหมด 30 ลูก ระยะทาง 12 กิโลเมตร ตลอดแนวชายฝั่งทะเล



ตั้งแต่บริเวณเกาะผี ไปจนถึงอ่าวท้องโหนด” แล้วใครดูแลทุ่นให้ครับ “ก็พวกเรากันเองแหละครับ แบ่งกันดูแลประจำหนึ่งคนหนึ่งทุ่น แนวทุ่นนี่บอกเขตที่อยู่ และแหล่งหาอาหารของโลมาสีชมพูใช่ไหมครับ “ใช่ๆ แนวทุ่นยังเป็นเขตหลักเพื่อป้องกันเรือประมง และเรือขนส่งขนาดใหญ่ที่จะเข้ารบกวนในบริเวณที่มีโลมาสีชมพูอาศัยอยู่ด้วย แต่ก็นั้นแหละครับเสี่ยงเราออกไปจับเรือบุกรุกก็ต้องระวัง เพราะบางลำมันมีปืน มีอาวุธ อันตรายมาก เมื่อไม่กี่วันนี้ก็พึ่งไปจับมา นี่ขนาดกำหนดเขตแล้วมันยังแอบเข้ามาบุกรุก” แล้วมาจากไหนครับคนพวกนั้น “จริงๆส่วนมากเป็นคนพื้นที่อื่น แต่มีพวกเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันบางคนรวมหัวกับพวกนายทุนก็มี ไม่รู้ว่าพวกเราจะต่อสู้ไปได้นานเท่าไหร่ นี่พวกมันก็วางแผนใหม่ แบบเหนือชั้นอีกแล้ว ทำเป็นจะเข้ามาเปิด ท่าเรือเฟอร์รี่ เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวแต่ที่จริงวางแผนจะขยายเป็นท่าเรือขนส่ง มันเอาทุกทาง แต่ยังไงพวกเราก็จะสู้จนถึงที่สุด”
เสียงคนเรือเงียบลงพร้อมเสียงโวกแหวกโวยวาย ดังสอดขึ้นแทน เพื่อนๆในเรือลำหน้า ผมหันกลับไปก็พบว่าเรามาไม่เสียเที่ยวแล้ว ภาพโลมาสีชมพูวัยกระเตาะกำลังโชว์การต้อนปลาไปยังริมหน้าผาเพื่อยังชีพ ประทับติดตรึงในใจผม โชคดีจังเลยวันนี้ นึกว่าจะไม่เห็นแล้ว สงสัยมันจะตื่นสายนี่จะบ่ายแล้วพึ่งจะออกมาหากิน มาตัวเดียวซะด้วย ผมชื่นชมความน่ารักของมันอยู่ประมาณ 15 นาที แล้วก็เดินทางกลับสู่ฝั่งพร้อมกับรอยยิ้ม

^________________________^



ความรู้สึกประทับใจที่เกิดจากการมาชมโลมาสีชมพูจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือแรงบันดาลใจที่ได้เพื่อใช้ในการทำงานด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมต่อไป “ขนาดชาวขนอมยังร่วมกันต่อสู้จนสุดความสามารถเพื่อรักษาฐานทรัพยากรธรรมชาติของตนไว้ให้ลูกหลานได้มีกินสืบไป ผมเองซึ่งทำงานด้านสิ่งแวดล้อมก็จะขอทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อมไทยให้วัฒนาสืบไปเช่นกัน”
ผมภูมิใจจนเกือบกลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “เพราะไม่ใช่เพียงแต่โลมาสีชมพู แต่มันคือสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อรักษาฐานทรัพยากรและวิถีชีวิตของคนรากหญ้า”

เขียนโดย : เสือยิ้มยาก
เขียนที่ : กันตัง จังหวัดตรัง
9 เมษายน 2555

คำคมคมของคนบนโลก
“คนหากิน สัตว์ก็หากิน ต่างพึ่งพิง อิงอาศัย ร่วมกันไปตลอดกาล”
จตุรวิทย์ บุญพิทักษ์ 2555



ภาพโลมาที่แสนน่ารักวาดโดยคุณบุษ

ขอขอบคุณ
- ครอบครัววัชราภิรักษ์ที่อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
- ประสบการอันมีค่าของพี่แดง คนเรือนักต่อสู้
- ข้อมูลทุนโครงการวิจัยการอนุรักษ์ทรัพยากรทางชีวภาพในเขตพื้นที่ขนอม จาก web ประชาคมวิจัย
//rescom.trf.or.th/display/keydefault.aspx?id_colum=2536
- รูปภาพและวีดีโอของเจ้าโลมาสีชมพู จากน้อง Kik Watcharapirak //www.facebook.com/photo.php?v=3057196716669
- ภาพประกอบจาก //playvolleyball.wordpress.com




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2555
2 comments
Last Update : 14 พฤษภาคม 2555 16:24:05 น.
Counter : 1383 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ

 

โดย: **mp5** 13 พฤษภาคม 2555 14:12:40 น.  

 

คราบขอบคุณคราบ

 

โดย: fordnakrub 14 พฤษภาคม 2555 11:50:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


fordnakrub
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




cursor
Friends' blogs
[Add fordnakrub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.