|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เพราะสิ่งแวดล้อมคือเรา
ความรักในสิ่งแวดล้อมล้อมและความรู้ทางพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์นั้นโดยปกติแล้วมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคนอาจจะเกิดจากประสบการณ์ การเรียนรู้ หรือถูกสั่งสอน แต่พวกเราเองไม่ค่อยสังเกตเห็น อาจเพราะเคยชินกับสังคมในยุคปัจจุบันที่เอาปัญหาสิ่งแวดล้อมมาพูดกันอย่างกว้างขวาง ดูเหมือนทุกสื่อจะเอาจริงเอาจังแต่แค่พูดถึง ไม่ได้ทำ จึงไม่ได้ส่งผลอะไรกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนไม่ว่าจะในเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือการใช้ทรัพยากร ผิดกับคนรุ่นก่อนๆที่มีภูมิปัญญาในการใช้และจัดการทรัพยากร ตอนเด็กๆ ผมเคยเรียนบทเรียนขั้นพื้นฐานในโรงเรียนอนุบาลและจดจำได้เสมอว่า ชาวเขาเป็นสาเหตุสำคัญให้จำนวนเปอร์เซ็นต์พื้นที่ป่าลดลงจากการทำไร่เลื่อนลอย แต่เมื่อโตขึ้นและได้เข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา ผมจึงพบว่ามันเป็นความเข้าใจผิดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ และงงว่าทำไมแบบเรียนของประเทศนี้จึงยังคงปลูกฝังความเชื่อผิดๆ เพราะวิถีชีวิตของชาวเขานั้นเป็นภูมิปัญญาที่ใช้ในการพื้นฟูธรรมชาติและพื้นที่ทำกิน โดยการทำกสิกรรมในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วเปลี่ยนพื้นที่ไปโดยมีปัจจัย 2 อย่างปัจจัยแรกคือคือใช้พื้นที่และไม่ให้ดินโทรมเกินไป ทำการฟื้นฟูดินโดยการเผาวัชพืชหรือซากพืชที่เหลือจากการเพาะปลูกเพื่อให้เกิดขึ้นเถาและทำให้ดินมีสภาพเป็นเบสและเหมาะต่อการดูดซับและแลกเปลี่ยนประจุ และปัจจัยที่สองคือ ตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรคและไข่แมลงศัตรูพืชในดินด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้ดินอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมที่จะใช้ในการเพาะปลูกครั้งต่อไป เมื่อย้ายไปทำกสิกรรมในพื้นที่อื่น พอหมดฤดูการปลูกก็จะกลับมาทำกสิกรรมในพื้นที่เดิมซึ่งจะพร้อมต่อการเพาะปลูกในฤดูถัดไปแล้ว ไม่ได้เป็นการทำไร่เลื่อนลอยไปเรื่อยๆแต่เป็นการหมุนเวียนเพื่อให้พื้นที่เพาะปลูกเกิดความสมบูรณ์ซะมากว่า
และเมื่อไม่นานมานี้ผมกลับบ้านเพื่อไปเยี่ยมพ่อ แม่และยายต้องขอบอกว่ากว่า 10 ปีที่ไม่ได้กลับซึ่งช่วงที่กลับไปเป็นช่วงใกล้เทศกาลออกพรรษาพอดี และประเพณีดั่งเดิมของทางเหนือต้องมีการทานขันข้าว (ทำกับข้าวใส่ปิ่นโตและข้าวตอกดอกไม้ไปถวายพระ) ผมก็ถามคุณยายว่าปีนี้จะทำกับข้าวอะไรไปทำบุญยายบอกว่าทำเสร็จเรียบร้อยไปแล้วล่ะ เราก็แปลกใจ ถามว่าทำไมละ อีกตั้ง 4 วันไม่ใช่เหรอครับ ยายก็ยิ้มและตอบว่าสมัยนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนคนเยอะขึ้น คนทำบุญก็มากถ้ารอไปทำบุญถวายวันเดียวกัน ของที่ถวายก็จะเยอะเกินจำนวนที่พระฉันท์และของนั้นก็จะต้องเน่าเสียไปเนื่องจากเป็นของสด “อย่าไปยึดติดเลยว่าต้องเป็นเฉพาะวันนั้น ดูที่เจตนาดีกว่า ได้บุญแถมยังได้ช่วยโลกด้วยด้วย” ได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากคนอายุ 75 ทำให้ผมรู้สึกปีติ และคิดว่า ที่จริงแล้วคนเราสามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ต่างๆได้ตามสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแต่มันขึ้นอยู่กับว่าคนๆนั้นจะคิดรึเปล่า ……..
- ทำไมเราต้องบิดผ้า ในเมื่อมันทำให้ผ้ายับและเราต้องรีดรอยยับนั้น ทั้งที่ประเทศของเราเป็นเมืองร้อนมีจำนวนชั่วโมงและความเข้มแสงมากพอที่จะทำให้ผ้าแห้งภายใน 2 ชั่วโมงเลยไม่ต้องรีบเพราะไม่ต้องบิดผ้า - ทำไมเราจึงยังให้เด็กใส่เสื้อขาวมาเรียนทั้งที่มันไม่ไม่ได้ช่วยให้การเรียนดีขึ้น การให้เด็กใส่เสื้อผ้าสีขาวทั้งที่มันดูแลรักษายาก เก่าง่าย และเปลืองทรัพยากรในการดูแลรักษามากกว่ามากกว่า - ทำไมเรายังใส่นาฬิกาที่ใช้แบตเตอรี่ทั้งที่เมื่อหมดพลังงานแล้วแบตเตอรี่เหล่านั้นกลายเป็นขยะพิษ - ทำไมเรายังกินอาการในห้างสรรพสินค้าทั้งที่ร้านเหล่านั้นมีการปรุงอาหารในห้องปรับอากาศ ก่อให้เกิดการใช้พลังงานที่ขัดแย้งกัน เป็นกิจกรรมที่สิ้นเปลืองพลังงานเป็นอย่างมาก
เหล่านี้คือตัวอย่างที่เราทำตามกันมา เชื่อกันมา โดยมิได้มีการสังเกตหรือคิดให้ดีว่าสิ่งที่ทำนั้นเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นปัจจุบันหรือไม่และเราควรจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรเพื่อที่จะทำให้มันดีขึ้น การช่วยโลกมิได้เพียงแต่พูดหรือรอให้มีคนคิดว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ถูกแต่เราต้องรู้จักที่จะสังเกตและคิดด้วยตัวเองว่าเราจะสามารถช่วยโลกได้อย่างไรและลงมือทำมันอย่างจริงจังเสียที่ ยังไม่สายหากคุณเริ่มคิด ด้วยตัวคุณเอง สัญชาตญาณในการรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ความตระหนักในทรัพยากรมีอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน ผมเชื่ออย่างนั้นเพราะเราไม่สามารถแยกออกจากสิ่งแวดล้อมได้ ถ้าเราดูและมันดีชีวิตเราก็ดีขึ้นเพราะทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
เขียนโดย : เสือยิ้มยาก เขียนที่ : คุ้มบุญพิทักษ์ แพร่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
คำคมคม ของคนบนโลก
มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีที่สุดในโลก นิรนาม
Create Date : 10 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 4 มีนาคม 2554 14:28:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 506 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|