italy : ผิดแผน ที่ vicenza กับ เพื่อนหายไปไหน !!
จากที่ตั้งใจเที่ยวมาตลอดหลายวัน แต่แล้วมาสติแตกที่ venice ไปแล้ว ได้ช้อป....เลยพอจะทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจขึ้นมาบ้าง... อิ อิ วันรุ่งขึ้น ก็ออกเดินทางต่อตามแผน ซึ่งตั้งใจที่จะแวะ 2 เมืองก่อนที่จะเข้า milan เมืองแรก ก็ vicenza ซึ่งไม่ไกลจาก venice นัก และจะแวะอีกเมืองก็คือ verona ก็อยุ่ประมาณครึ่งทางหน่ะ ทีนี้เราก็กะว่า จะเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่สถานีรถไฟ.....คือ...จากประสบการณ์อันน้อยนิด ก็คิดว่าต้องมีที่ให้ฝากของหรืออย่างน้อยก็น่าจะมี locker แน่ๆ พอไปถึง vicenza ปรากฏว่า.... ไม่มี อะไร ใดใด ไม่มีจุดฝากกระเป๋า ไม่มี locker เลยตกที่นั่งลำบาก..ต้องคิดว่าจะเอาไงดีล่ะเนี่ย... เลยคิดว่า ว่าจะไป verona เลยดีไม๊ ??? คิดว่าเอาเถอะ...คลาดนิดหน่อย skip ไปเลย จะดีอ่ะ เปล่า??? หรือ อาจฝากกระเป๋าที่ verona แล้วค่อยกลับมาจะเสียเวลาไม๊ คิด นู่นนี่ discuss กันใหญ่..แล้วก็มีเพื่อนคนนึงบอกว่า...ตะกี้ไปถามลุงเจ้าหน้าที่มา เค้าบอกว่าที่ verona ก็ไม่มีที่ฝากของเหมือนกัน!!!!!!!!!! โห ทีนี้ไปกันใหญ่ ทำไงดีล่ะ จะเอาของไปเที่ยวในเมืองด้วยไม่ไหวแน่ๆๆๆ ในเสี้ยววินาทีนั้น ในฐานะผู้นำ (กรุณาอ่านโดยทำน้ำเสียงเข้มขรึม แบบมีวิญญาณผู้บริหารชั้นนำเข้าสิง)เราเลยตัดสินใจ อย่างเฉียบขาด....เข้า milan กันเถอะเพื่อนๆ ดังสายฟ้าฟาด ...เวอร์ไปไม๊เนี่ย....จัดแจงแยกย้ายกำลังพลจัดการเรื่องตั่ว เช็ครถไฟเที่ยวถัดไป เอ้าเร็วไปซื้อตั๋ว เฮ้ยยยย มันเหลือเวลาแค่นิดเดียวไม่ถึง 5 นาที รถไฟจะมาแล้ว...เอ้าพวกที่ไม่ได้ซื้อตั๋วรีบข้ามไปชานชลาเร็วเข้า ไปหยุดรถไฟไว้ก่อนก็ยังดี น่าน เวอร์ซะ แต่ตอนนั้นคิดงี้จริงๆนะเนี่ยะ!! เหลือกระเป๋าพวกที่ไปซื้อตั๋วอยู่ที่เรา 2 ใบ พวกไปซื้อตั๋ววิ่งกลับมา... เฮ้ ได้ตั๋วแล้วนี่...วิ่งหอบกระเป๋าลงบันไดข้ามไปอีก 2 ชานชลา ขึ้นบันไดมา อ้าววว รถไฟจอดพอดี....เห็นเช่นนั้น ก็กระโดดขึ้นรถไฟไปทันที...เย้ เย้ เย้ ขึ้นมาจัดแจงเก็บวางข้าวของ แล้วก็เดินตามหาเพื่อนที่เหลือ .......หาไปหามาอ้าววววทำไมไม่ครบล่ะ..... หายไปไหนกัน ก็พวกนั้นเดินมาก่อนเรานี่นา... เอีะ เราขึ้นผิดขบวนเหรอ??? ถามคุณฝรั่งข้างๆ ก็เปล่านี่ ขึ้นถูกแล้ว.....อ้าวววว แล้วพวกนั้นหายไปไหน...ตอนรถออกจากท่าตรงชานชลาก็ไม่เห็นใครนี่..ชะโงกดูนิดนึงแล้วด้วยนะ แตถ้าไม่อยู่บนรถไฟคงเป็นอื่นไปไม่ได้.....ว่าแล้ว.ไม่อยากจะเชื่อเลยยย....พวกนั้น ตกรถไฟแน่ๆ!!! สงสัยไม่หายว่าเป็นไปได้ไง ก็เดินมาก่อนเราแท้ๆ ทีนี้เอาไงต่อดีล่ะ... คิดแล้ว ช่างมัน........เอ้ยย ไม่ใช่ คิดแล้วจึงเห็นว่าในเมื่อเค้าตกรถไฟ พวกเค้าก็ควรจะตามมาให้ถึงจุดหมาย นั่นแหละ คิดได้เท่านั้น...นกกระจอกก็นั่งเม้าท์สัพเพเหระ เลิกคิดถึงพวกตกรถทันที เอิ้ก..เอิ้ก...พอถึง milan ก็เดินเล่นดูว่า ว่าพวกนั้นจะมาถึงกี่โมง จะมาลงชาน ไหน พอได้เวลา เราก็ไปยืนรอรับทีหัวขบวน...ต้นชานชลา...นั้นไง.... มาแล้ววว....เพื่อนฉัน อิ อิ อิ พวกเรามายืนโบกมือไหวๆ กระโดดเหยงๆ ส่งเสียงเรียก วิ่งเข้ากอด ทำยังกะไม่ได้เจอกันมานาน จนคุณฝรั่งมองกันเกลียวทีเดียว สุดท้ายเลยได้รู้ ที่จริงเค้าก็มายืนรอก่อนที่รถไฟจะเทียบท่าตั้งแต่ก่อนเราวิ่งมา หน่ะถูกแล้ว แต่ไม่กล้าขึ้น เพราะกลัวว่าจะซื้อตั๋วไม่ทัน เดี๋ยวขึ้นไปไม่มีตั๋วจะโดนปรับ แถมไม่เห็นตอนเราวิ่งมาบนชานชลาด้วย (แต่เราก็ไม่เห็นเค้าเหมือนกันนี่นา อุตส่าห์ชะโงกออกไปดูว่าไม่มีใครแล้วนะ) อ้าวววว......แต่ไงก็เป็นความผิดเราเองแหละ... ที่กระโดดขึ้นรถไฟไปอย่างรวดเร็ว (ก็กลัวไม่ทันหง่ะ) .....เลยไม่ได้ดูเพื่อนๆให้ดีซะก่อน..(ก็ว่าดูแล้วนะ).........ก็ไม่คิดว่าเพื่อนๆจะรอบคอบขนาดไม่ยอมขึ้นรถหน่ะซี้.....เฮ้อ.... ตอนนี้ไม่มีรูปหล่ะนะ..ไว้มาเมาท์ต่อจ้า.....
ป.ล. อัพบล็อกภูฏานตอนล่าสุดแล้วค่ะ