Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
ตอนที่ ๔ โอ๊ย! ลาเตะ

ขณะที่ผม กับแม่ไทก์น้อย กำลังเที่ยวท่องอยู่ในทุ่งหญ้า


ในเช้าฤดูใบไม้ผลิวันหนึ่ง โดยผมนั่งอยู่บนหลังม้า ข้างๆ มีเจ้าลา "บอนนี่"

วิ่งควบตามกันไปอย่างร่าเริง เพื่อรับแสงตะวันอันสุกสว่าง

บอนนี่ หนึ่งในเพื่อนเล่น ที่แม่ไทก์โปรดปราน ดูท่าทางจะมีความสุขเป็นพิเศษ

มันกระโดดโลดเต้นไปมา พร้อมกับยกขาหลังขึ้นปะทะสายลม

เมื่อขาทั้งสองสัมผัสกับพื้นดิน มันก็จะดีดตัวขึ้นสูงอีกครั้ง ผมแทบไม่ได้สังเกตว่า

แม่ไทก์น้อยกำลังสนุก ไปกับการกระทำของบอนนี่อย่างนั้นด้วย

จนในวินาที ที่กีบเท้าของบอนนี่ ซัดเข้าอย่างจัง เข้าที่ขากรรไกรล่าง

ของแม่ไทก์น้อย มันทรุดฮวบลงกับพื้นดิน คล้ายวัวที่ถูกเตะ

เลือดสดๆ ไหลออกจากปากของมัน ท่วมไปหมด ผมรีบวิ่งไปข้างๆ มัน

พบว่าฟันของมันหลุดไปหลายซี่ ยังดี ที่ขากรรไกรไม่หักไปเสียก่อน

เลือดที่ไหลออกมามากนั้น ส่วนใหญ่มาจากบาดแผลที่ลิ้นนั่นเอง

ผมชำระบาดแผลของมัน ด้วยน้ำเย็นจากลำธารใกล้ๆ เมื่อมันเริ่มรู้สึกตัว

สัญชาตญาณทำให้มันตะเกียกตะกาย เช็ดเลือดที่ปาก ด้วยขาหน้าที่เหลือ

ฝูงม้าและบอนนี่ ต่างรุมล้อมดูผมปฐมพยาบาลแม่ไทก์น้อย พวกมันดูซึมเศร้า

และรู้สึกเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ผมกังวลว่า แม่ไทก์น้อยจะไม่ยกโทษให้บอนนี่

แต่แล้วความกังวลของผม ก็หมดไป ชั่วสองสามนาที

ผมก็สามารถนำขบวนนักเดินทางทั้งหลาย กลับสู่ฟาร์มของเราได้ปลอดภัย



ต่อมา เราได้สังเกตว่า มีถุงนุ่มๆ ขึ้นรอบขากรรไกรของแม่ไทก์น้อย


ข้างในดูเหมือนจะมีน้ำอยู่ ผมกับมาร์กาเร็ต ตัดสินใจพามันไปพบสัตวแพทย์

และเมื่อคุณหมอมาถึงรถของเรา เขาตบหลังแม่ไทก์น้อยเบาๆ

อย่างที่เคยทำทุกครั้ง เมื่อเขาสัมผัสกับถุงเล็กๆ นั่น คุณหมอถึงกับร้อง

ว่า "ผมต้องจัดการกับมันซะแล้ว" จากนั้น คุณหมอก็ได้กลับไปนำเครื่องมือแพทย์

เพื่อผ่าตัดมัน เมื่อเขากลับมาที่รถอีกครั้ง ก็พบแม่ไทก์น้อยในสภาพหวาดกลัว

สังเกตได้ จากหูที่ลีบติดศีรษะทั้งสองข้าง มันแยกเขี้ยวขู่หมอ

มิให้เข้าใกล้มัน พร้อมกับสะบัดหน้าไปมาอย่างหงุดหงิด

ไม่ยอมให้ใครเข้ามาทำอะไร ผมรีบเข้าไปขวางคุณหมอไว้

ด้วยกลัวว่าจะเกิดอันตรายขึ้น เมื่อผมจ้องมองเข้าไปที่นัยน์ตา

ของแม่ไทก์น้อย ก็พบว่า รูม่านตาของมัน ห่อเล็กเท่ารูเข็มเลยทีเดียว

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมรู้ได้ทันทีว่า มันกำลังเครียดหนัก

แต่หลังจากที่คุณหมอตบเบาๆ อย่างเคยอีกครั้ง

คุณหมอทราบได้ทันทีว่า สัตว์นั้นมีสัญชาตญาณพิเศษ

ในการรับรู้ด้วยตัวของมันเอง



หลายอาทิตย์ผ่านไป ผมกลับมาพบสัตวแพทย์อีกครั้ง


เพื่อให้เขาตรวจถุงน้ำ ที่ยังคงอยู่ที่บริเวณขากรรไกรนั้น เราใช้เจ้าลิงแสนรู้เป็นสื่อ

อุ้มไปให้มันเป็นเพื่อนเล่น กับแม่ไทก์น้อย

ขณะเดียวกัน คุณหมอก็ค่อยๆ ลูบหัวมันเบาๆ คลำเรื่อยๆ ไปยังถุงน้ำนั้น

ผมถึงกับอึ้ง เมื่อคุณหมอบอกผมว่า ขณะนี้ ต่อมน้ำลายของแม่ไทก์น้อยปริออก

และถุงที่เกิดมานั้น เป็นหนทางของธรรมชาติ ที่จะหยุดการหลั่งของน้ำลาย

เพื่อรอให้บาดแผลที่ต่อมสมาน หากเราตัดถุงนั่นออกไป ก็เท่ากับว่าเราไปขวางกั้น

มิให้ต่อมสมานตัว ทางที่ดี เราควรจะปล่อยให้ธรรมชาติ

รักษาด้วยตัวของมันเองจะดีกว่า เป็นอันว่า

ผู้ที่จะรักษาแม่ไทก์น้อยได้ดีที่สุด ก็คือตัวของมันเอง



หลังจากที่เหตุการณ์เลวร้าย ได้ผ่านไป ทำให้เรารู้ว่า


แม่ไทก์น้อยไม่ได้ผูกพยาบาทใคร แม้ว่า มันจะถูกทำให้บาดเจ็บก็ตาม

มันยังคงเป็นมิตร กับนานาสัตว์ทั่วไปในฟาร์ม รวมทั้งเจ้าบอนนี่

ที่เคยให้บาดแผลแก่มันด้วย



Create Date : 05 มีนาคม 2552
Last Update : 5 มีนาคม 2552 8:03:11 น. 0 comments
Counter : 262 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เหม่ยหลิงจัง
Location :
ราชบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




สวัสดีค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักทุก ๆ คนเลยนะคะ...♥

www.musicradio.in.th
Friends' blogs
[Add เหม่ยหลิงจัง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.