19 กพ67 คอร์สปฏิบัติธรรมอินเดีย 27 มค - 3 กพ 67 Ep 2                     คอร์สปฏิบัติธรรมครั้งนี้  ใช้เวลานั่งสมาธิภาวนาส่วนใหญ่ในบริเวณพุทธคยา วันละ 3 เวลา 1.  4.30 น.กลับ 6.30  พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโตแสดงพระธรรมเทศนา 2.  13.30  กลับ 16.00 3.  16.30 น. กลับประมาณ 20 น. พระอาจารย์ครรชิต สุทธิจิตโต แสดงพระธรรมเทศนา                  รอบเช้า เย็นของทุกวันที่ไม่ได้เดินทางไปที่อื่น  พระอาจารย์จะแสดงพระธรรมเทศนาที่ปริมณฑลเจดีย์พุทธคยา  อากาศเวลาเช้าประมาณ 8-10 C เวลาเย็น ประมาณ 12-18 C                           คยาไม่ใช่เมืองใหญ่  มีเพียงของใช้จำเป็นพื้นฐาน ไม่มีร้านสะดวกซื้อที่มีขายทุกอย่าง  หาซื้อยากแม้แต่กระดาษทิชชูเปียกทิชชูแห้ง   โชคดีที่เตรียมอุปกรณ์ป้องกันยุงเต้นท์นั่งสมาธิไปจากเมืองไทย    ยุงที่นั่นดุมาก มาเป็นฝูงใหญ่                   สัมภาระจัดไปน้อย  ทัวร์ให้น้ำหนักกระเป๋าแค่ 20 กก. ข้าวของที่อยากเอาไปต้องหยิบออก ยามเช้าอากาศหนาว เสื้อheattechตัวในใส่ซ้อนกันสองชั้นมีไปแค่4ตัว ใส่ซ้ำหลายวันจนปลายแขนเสื้อดำถึงกับต้องซักตาก                   ชีวิตส่วนใหญ่ปฏิบัติภาวนาบริเวณเจดีย์พุทธคยา ซึ่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าไป  กล้องถ่ายภาพนั้นไม่ได้นำไปเพราะเป็นทริปภาวนาไม่ได้ท่องเที่ยว  จึงแทบไม่มีภาพถ่ายจนกระทั่งวันท้ายๆเห็นว่ามีช่วงเวลาบ่ายที่ปล่อยส่วนตัวอยากมีภาพถ่ายเก็บไว้บ้าง                  จนท.ทัวร์ท้องถิ่น  ช่วยพาไปหาซื้อกล้องถ่ายภาพ  เมืองคยา เป็นเมืองเล็กๆไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว  ไม่มีร้านขายกล้องถ่ายภาพแน่ๆ   เขาพยายามพาเดินไปหาตามซอกซอยมีร้านขายของทุกอย่างเป็นร้านเล็กๆใกล้เจดีย์  มีอยู่ร้านหนึ่งมีกล้องถ่ายภาพแคนนอนคอมแพคเก่ามากหนึ่งตัว จะขายราคา 7,500 บาท (โหดมาก )โชคดีที่มีแบตเตอรี่เต็ม  เขาให้เช่าวันละ 1,000 ต้องคืนก่อน 3ทุ่มวันนี้รวมต้องซื้อเมม 64GB  2,000 บาท อารามดีใจได้กล้องมาก็กดถ่ายภาพไปเรื่อย ไม่ได้สังเกตตั้งขนาดภาพได้มั้ย  ผลคือได้ภาพเล็กจิ๋วเบลอๆ แต่ก็ดีกว่าไม่มี                       พุทธคยาเปิด 5 น.ปิด 21 น. ทุกวัน  ทุกเช้าที่ไม่ได้ไปที่อื่น พระอาจารย์จะแสดงธรรมที่บริเวณเจดีย์   รถบัสออกจากที่พัก  4.30 น. ไปถึงยืนเข้าแถวรอ  5.00 น.เครื่องสแกนและเจ้าหน้าที่ตรวจค้นร่างกายเริ่มทำงาน  มีการตรวจค้นสองครั้ง  กลุ่มเรามีเครื่องรับฟังเสียงไมโครโฟนบรรยายของพระอาจารย์ซึ่งต้องขออนุญาตการใช้เป็นลายลักษณ์อักษรไว้ล่วงหน้า     ขออนุญาตนำภาพถ่าย 2 ภาพจากคณะศิษย์ที่นำกล้องถ่ายภาพเข้าไป เพื่อประกอบคำอธิบายบรรยากาศการแสดงธรรมะ  บริเวณใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ในเวลาเช้าของบางวัน                                    ยามเย็น คณะของเรามักจับจองได้พื้นที่รอบเจดีย์อีกด้านหนึ่ง   หลับตาภาวนาพิจารณาภายในจิตใจตนเองตามคำเทศนาของพระอาจารย์   ลืมตาขึ้นเมื่อถึงเวลากลับ  จึงได้เห็นว่ามีการตกแต่งไฟแสงสีประดับพระเจดีย์    ยิ่งดูยิ่งสวยงามมีเสน่ห์แปลกตาชวนประทับใจ  พร้อมกับความสงสัยตั้งแต่เด็กหายไป ที่มักพบเห็นการจำลองพระเจดีย์พุทธคยาไปยังวัดต่างๆ                เรื่องการถ่ายภาพก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเหมือนเราจะปรุโปร่งบริเวณพุทธคยา และชอบที่นี่อยู่มากพอควร ถ้ามีโอกาสและสามารถลงทะเบียนได้ก่อนเต็มตั้งใจจะมาภาวนากับพระอาจารย์ทุกปี       Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2567 10 comments Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2567 22:25:41 น. Counter : 779 Pageviews. Share Tweet

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณhaiku, คุณnewyorknurse, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณปัญญา Dh, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณดอยสะเก็ด, คุณอุ้มสี

อนุโมทนาบุญด้วยครับ ได้อ่านประวัติพระอาจารย์พ่อครรชิต ท่านได้รู้จนสิ้นสงสัย   โดย: สองแผ่นดิน 19 กุมภาพันธ์ 2567 23:20:21 น.

พิมพ์ผิดขออภัยครับ หลวงพ่อครรชิต   โดย: สองแผ่นดิน 19 กุมภาพันธ์ 2567 23:22:05 น.

ถือเป็นประสบการณ์อย่างหนึ่งครับ แม้จะมีเรื่องที่ไม่ได้ดังใจบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาในโลกนี้   โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 กุมภาพันธ์ 2567 0:01:41 น.

อรุณสวัสดิ์ครับคุณเย็น ราคาค่าเช่ากล้องว่าโหด ราคาเมมโมรี่การ์ดโหดกว่าเยอะเลยครับ ผมจำได้ว่าครั้งก่อนที่ไป เรานำกล้องเข้าไปกี่ตัว ต้องแจ้งและจ่ายเงินก่อนเข้า ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นเราใช้กล้องเกินที่แจ้ง ต้องจ่ายเงินเพิ่ม และถ้าเป็นกล้องถ่ายภาพยนตร์จะเสียเงินแพงมากครับ คนไทยเราไปปฏิบัติธรรมที่พุทธคยาเยอะมากจริงๆ คุณเย็นปฏิบัติวันละ 3 รอบ ถือว่าเข้มข้นมากจริงๆครับ ตอนผมไปนั้น ปฏิบัติธรรมสองวัน วันละครั้งเดียวครับ ใครอยากไปรอบค่ำ ทางคณะก็จัดรถไว้ให้ แต่ผมไปรอบเดียวครับ ได้ลองนั่งสมาธิตรงช่องกำแพงด้านริมรั้วซึ่งไม่มีคน ก็พบว่าสงบและเย็นสบายมากๆเลยครับ แต่คณะทั้งหมดทำสมาธิกันที่ใต้ต้นโพธิ น่าจะเป็นบริเวณเดียวกันกับที่คณะของคุณเย็นนั่งปฏิบัติธรรมเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 20 กุมภาพันธ์ 2567 5:07:28 น.

เวลาสุข คนเราก็ไม่สนใจอะไร เดินหน้าเข้าหาสุข แต่พอทุกข์ ก็ชักจะคิดถึงธรรมนะครับ ผมเชือ่เรื่องกรรมมากๆเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเด็ก ผมชอบทรมานสัตว์ สุดท้ายสิ่งที่ทำไว้กับสัตว์ ก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองแบบเดียวกัน ตั้งแต่นั้นผมก็เลิกทารุณสัตว์ตลอดมาเลยครับ   โดย: กะว่าก๋า 20 กุมภาพันธ์ 2567 19:41:54 น.

อรุณสวัสดิ์ครับคุณเย็น   โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2567 4:24:38 น.

แวะมาอ่านเรื่องราวของคุณเย็นจ้า   โดย: หอมกร 21 กุมภาพันธ์ 2567 7:25:21 น.

เห็นด้วยเลยครับคุณเย็น ธรรมะเหมือนการขับรถหรือทำอาหาร อ่านแต่ตำราไม่มีวันทำได้แน่ๆครับ ต้องลงมือทำด้วยตนเองจึงจะรู้และเข้าใจจริงๆครับ   โดย: กะว่าก๋า 21 กุมภาพันธ์ 2567 15:18:19 น.

อรุณสวัสดิ์ครับคุณเย็น   โดย: กะว่าก๋า 22 กุมภาพันธ์ 2567 4:36:17 น.

สาธุ สาธุ สาธุ   โดย: อุ้มสี 24 กุมภาพันธ์ 2567 11:46:29 น.