+++++มาชวนอ่านหนังสือค่ะ+++++ สวัสดีค่ะ วันก่อนโน้นนนนนนน เดินไปร้านหนังสือ มีหนังสืออยู่3เล่มที่อยากได้มาก แต่ตังค์ไม่พอ พอแค่สองเล่ม เราก็เลือกไม่ได้ว่าจะเอาเล่มไหนดีก็เลยยังไม่ได้ซื้อ แต่สองในสามเล่มเนี่ยทั้งร้านเป็นเล่มสุดท้าย เราก็เลยจัดการเอาไปซ่อนค่ะ เหอๆๆกลับมาเล่าให้คนที่บ้านฟัง เขาขำแล้วถามว่าเธอกี่ขวบแล้วนี่ วันรุ่งขึ้นเราก็เลยออกไปกดตังค์แล้วก็ไปซื้อค่ะ(จริงๆกดแล้วไปซื้อตั้งแต่วันที่เห็นก็หมดเรื่องแต่ขี้เกียจซะงั้น) แทนที่จะได้3เล่มก็ได้มา4เล่มค่ะ (ที่ร้านเขาซื้อ3แถม1) บอกสามเล่มแรกที่ตั้งใจไปซื้อก่อนก็แล้วกันนะคะ เล่มแรก The Domestic Goddess by Sophie Kensella คงจะคุ้นๆชื่อกับผู้เขียนกันมาบ้าง เพราะเธอคือคนเดียวกันกับที่เขียนซีรีย์ส สาวนักช๊อปจนโด่งดังแต่เรากับไม่ค่อยชอบแฮะ อ่านได้แบบว่าเฉยๆ แต่เรื่องที่โดนเราสุดๆคือ Can you keep a secret? ทั้งๆที่น้ำเน่าสุดแสน แต่ก็ชอบมาก(อยากให้เกิดขึ้นกะเรามั่ง อิอิอิ) เรื่องนี้พล็อตก็คือ ทนายสาวซาแมนต้าผู้มีหน้าที่การงานมั่นคง และไม่เคยเห็นแก่ใคร วันนึงจับพลัดจับผลูไปสมัครงานเป็นเมทแล้วดันได้เสียด้วย!!!! เล่มที่สอง Life Swap by jane Green เป็นเรื่องของผู้หญิงสองคน คนแรกเป็นแม่บ้านเต็มตัว มีลูกมีสามีที่ต้องดูแล แต่เธอก็รู้สึกว่าเวลาที่ผ่านไปแต่ละวันมันช่างสูญปล่าวสิ้นดี อีกคนเป็นบรรณาธิการนิตยสาร เป็นโสด ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เธอก็คิดเสมอว่าเธอยอมละทิ้งทุกอย่างได้เพื่อชีวิตครอบครัว แล้ววันนึงนิตยสารที่เธอทำงานอยู่ เปิดโอกาสให้ผู้อ่านซึ่งมีครอบครัวแล้วได้มาลองสัมผัสกับชีวิตบรรณาธิการคนโสด พูดง่ายๆก็คือลองให้ทั้งสองคนเปลี่ยนตัวกันชั่วคราว แล้วมันจะเป็นยังไงล่ะทีนี้ เล่มที่สาม French Women Don't Get Fat by Mireille Guiliano พอคนที่บ้านเห็นหนังสือเล่มนี่ก็ถามเราทันทีเลยว่า เธอจะลดน้ำหนักเหรอ? เราก็ตอบไปทันมีว่า"เปล่า" แต่เราได้ดูโอปราห์วันที่เขาสัมภาษณ์ผู้เขียน เราว่ามันน่าสนใจดี โอปราห์พูดเสมอว่า "Diet is life style." หนังสือเล่มนี้แหละเป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี วันที่เธอมาสัมภาษณ์ในรายการ โอปราห์บอกว่าตอนที่เธอไปฝรั่งเศสนะเธออยากกินครัวซองมาก แต่เธอก็รอๆๆๆๆจนวันสุดท้ายแล้วก็ไปซื้อมากิน ด้วยความคิดที่ว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วขอกินหน่อยเหอะ ไปๆมาๆจากที่ตั้งใจจะกินแค่ชิ้นเดียว เธอกินไปซะ 3!!!!! ผู้เขียนก็เลยหัวเราะแล้วบอกว่า ไม่เห็นจะต้องอดรอเลย คุณกินได้ทุกวันนั่นแหละแต่แทนที่จะกินชิ้นใหญ่ก็กินชิ้นเล็กสิ แล้วเธอก็แนะนำว่าแทนที่จะขึ้นรถไปโน่นมานี่ตลอดเวลา เราก็เดินเอา (คนยุโรปนี่ชอบเดินกันเหลือหลาย) จากที่เคยขึ้นลิฟท์ เราก็เดินขึ้นเดินลงเอา ทำไปมันก็จะติดเป็นนิสัยและเป็นการออกกำลังกายไปในตัว เรื่องกิน กินได้ทุกอย่างแหละ แต่ดูปริมาณ ความเหมาะสม หรือแม้แต่เวลา (ช็อคโกแลต, ไวน์, ของหวาน กินได้ทั้งนั้นแหละ) เราคิดว่ามันน่าสนใจอย่างแรงสำหรับแนวคิดอันนี้ ว่าแล้วก็เลยสอยมาซะ ส่วนเล่มสุดท้าย A Million Little Pieces by james Frey เล่มนี้วันแรกที่ไปมองๆอยู่ไม่เห็นค่ะแต่วันที่ไปซื้อเห็นพอดีเลยหยิบมาด้วย เล่มนี้ก็ได้รับรู้มาจาก โอปราห์อีกแหละค่ะ เป็นเรื่องของตัวผู้เขียนเอง James Frey ติดยาขนาดหนัก ต้องเข้ารับการบำบัด หนังสือเล่มนี้เห็นหนังสือที่เขาเขียนขึ้นเพื่อหวังจะช่วยเหลือคนที่กำลังตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด ทั้งสี่เล่มนี้ได้มาประมาณสองอาทิตย์แล้ว ยังไม่ได้เริ่มอ่านเลยค่ะ ตอนนี้ยังอ่านหนังสือภาษาไทยที่ยืมมาจากห้องสมุดอยู่ ห้องสมุดที่นี่มีส่วนหนังสือภาษาต่างประเทศอยู่ หนึ่งในจำนวนนั้นก็มีภาษาไทยอยู่ด้วย เลยทำให้เราได้อ่านหนังสือดีๆถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลบ้าน หนังสือบางเล่มเป็นหนังสือที่ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้อ่าน ตอนนี้อ่านนิกกับพิม ของ พระองค์เจ้าวิภาวดี รังสิต อยู่ค่ะ :-) Create Date : 22 พฤศจิกายน 2549 Last Update : 22 พฤศจิกายน 2549 22:26:30 น. 1 comments Counter : 554 Pageviews. Share Tweet ตอนนี้ก็มีหนังสือค้างที่ยังไม่ได้อ่านเหมือนกันค่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวคดีที่ปิดไม่ได้ แต่ยังไม่มีเวลาอ่านเลย โดย: icebridy วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:03:55 น.   ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet