ละครเร่ขายฝัน กับการได้ไปดูมาแล้ว

ออกตัวก่อนนะว่าไม่ได้เป็นนักดูละครเวทีตัวยง แต่ที่ไปดูทุกครั้งก็เพราะมีคนที่ตัวเองชอบก็เลยไปดู เรียกง่ายๆว่าไม่ใช่คอละครเวทีก็แล้วกัน ดังนั้นอะไรที่เขียนออกมาจึงเป็นแค่ความรู้สึกของคนๆหนึ่งที่ไม่ควรเอาไปคิดว่าเราเขียนดีหรือไม่ดี เพราะมันมาจากคนที่ไม่ใช่นักดูละครคะ

เมื่อวันอาทิตย์ที่11/10/52 วันนั้นเป็นการตัดสินใจแบบกระทันหันมากๆในการที่จะไปดูละครเร่ขายฝัน เพราะไม่มีการเตรียมตัวล่วงหน้า ไม่ได้นัดกับเพื่อนด้วย ไปดุ่มๆคนเดียว ตั๋วก็ไปซื้อเอาด้ามหน้า รู้แค่ว่าสามพันห้ากับสองพันห้าหมดแล้ว แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรเหลือสองพันก็ยังดี คงไม่ไกลไปหรอกนะที่จะเสพอรรถรสในการชมละคร เมื่อไปถึงก็เข้าไปซื้อตั๋วจากน้องพนักงาน อยากบอกว่าน้องที่ขายตั๋วน่ารักมากๆ ให้คำแนะนำดีมาก ถามว่าตัวพี่ควรจะนั่งทางฝั่งไหนดี น้องพนักงานบอกว่านั่งทางซ้ายจะดีมาก ความจริงมันมีตั๋วสองพันห้าเหลืออยู่ตรงชั้นสองนะ แต่น้องเขาน่ารักมากบอกว่าพี่อย่าเอาเลย ข้างล่างสองพันทดีกว่า นี่ถ้าผู้จัดรู้ว่าน้องคนนี้แนะนำแบบนี้คงโดนแน่ มีหรือแนะให้ซื้อตั๋วสองพันแทนที่จะเป็นสองพันห้าน้องเขาดีจริงๆ

พอเข้ามาสัมผัสบรรยากาศรอบๆก่อนเข้าไปดูละคร บรรยากาศดูดี น่าสนุกมีเกมส์ให้เล่น มีของขายเกี่ยวกับละครแร่ชายฝันตั้งหลายอย่าง นี่ถ้าเรารวยๆจะซื้อทุกอย่างเลย เพราะแต่ละอย่างน่ารักทั้งนั้นล่อตาล่อใจมากๆ เลยไม่ค่อยกล้าเดินเข้าไปใกล้นัก ก็เลยเดินมาดูตามบอร์ดที่เขาจัดไว้เป็นเรื่องราวของผู้จัดละครโต๊ะกลมว่ามีผลงานใดบ้างที่ผ่านมาและกำลังมีอยู่ และก็เรื่องราวของเฉลียงที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆทำให้คนที่อาจเกิดไม่ทันยุดเฉลียงก็จะได้รู้จักเฉลียงมากขึ้น และตามด้วยบอร์ดของนักแสดงละครเร่ขายฝัน

และแล้วละครก็เริ่มเรื่องขึ้นจนกระทั้งจบใช้เวลาสามชั่วโมง สามชั่วโมงแห่งความสนุกและบวกด้วยความสุข เป็นละครที่มีเนื้อหาสาระที่ใช้ได้ทีเดียวมีแง่คิดสอดแทรกตลอด ตัวเองเป็นแฟนเพลงเฉลียง เพราะชอบทั้งดนตรีและคำร้องของเพลงเฉลียง มันฟังง่ายๆและให้ความคิดด้วย แต่จากการไปดูละครเวทีครั้งนี้ ต้องยอมรับว่าถ้าจะไปเพื่อให้ได้ฟังเพลงเฉลียงแบบเต็มๆนั้นก็คงจะไม่ได้อย่างที่หวังแน่ แต่ถ้าเป็นการโยงใยเพลงเฉลียงให้ออกมาเป็นบทละครที่มีเรื่องราวนั้นรับรองว่าคนไปดูจะได้กลับมาแบบเต็มๆ เพราะทุกเรื่องราวที่ผูกพันจนเป็นบทละครนั้นไหลลื่นไม่มีส่วนใดขัดความรู้สึกเลย หรือแม้แต่บทเพลงของเฉลียงที่บางเพลงจะมาทำทำนองใหม่ก็ตาม แต่ในความรู้สึกของเราก็ไม่ได้เลวร้ายหรือแย่กว่าที่เฉลียงเคยร้องไว้ มันก็เพราะไปอีกแบบหนึ่ง

พูดถึงเรื่องฉากทำได้ดีนะ ฉากเมืองเอกเขนกดูสวยงามมากอย่างที่มีคนพูดไว้เลย ฉากในป่าตอนชนะลมจะไปตัดต้นไม้ก็ดูสวยงาม ดูร่มรื่นจริงๆจนอยากตามไปอยู่เมืองเอกเขนกด้วย ส่วนเมืองตรรกะดูเข้มแข็งดี ดูแล้วน่ากลัวว่าถ้าไปอยู่สมองเราคงบวมโตแน่ๆ เพราะมีแต่การใช้เหตุผลตลอดมันคงทำให้คนลืมใช้จิตใจเลย เหมือนอย่างที่พระจันทร์บอกกับพันหนึ่งว่า " ให้ใช้สมองน้อยลง และใช้ใจให้มากขึ้น " ในความเป็นจริงคนเราจะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่ได้ อีกอย่างที่ชอบก็คือตอนที่ทำเป็นเสียงเครื่องบินตก ที่พุ่งออกมาเสียงดังได้ใจมาก ๆ

พูดถึงเรื่องฉากทำได้ดีนะ ฉากเมืองเอกเขนกดูสวยงามมากอย่างที่มีคนพูดไว้เลยฉากใน
ป่าตอนชนะลมจะไปตัดต้นไม้ก็ดูสวยงาม ดูร่มรื่นจริงๆ จนอยากตามไปอยู่เมืองเอกเขนก
ด้วย ส่วนเมืองตรรกะดูเข้มแข็งดี ดูแล้วน่ากลัวว่าถ้าไปอยู่สมองเราคงบวมโตแน่ๆ
เพราะมีแต่การใช้เหตุผลตลอดมันคงทำให้คนลืมใช้จิตใจเลย เหมือนอย่างที่พระจันทร์
บอกกับพันหนึ่งว่า " ให้ใช้สมองน้อยลง และใช้ใจให้มากขึ้น " ในความเป็นจริงคนเรา
จะใช้อย่างใด อย่างหนึ่งคงไม่ได้ อีกอย่างที่ชอบก็คือตอนที่ทำเป็น เสียงเครื่องบินตก
ที่พุ่งออกมาเสียงดังได้ใจมาก ๆ

แต่ฉากที่รู้สึกว่าจะไม่ค่อยถูกใจก็คือ ฉากที่แสนเก้าอยู่ในร้านอาหารกับพายอาร์ และตาม
เสียงและภาพของเครื่องบินที่กำลังบินอยู่ มันขัดอารมณ์กันยังไงไม่รู้ เพราะเข้าใจ
ว่าตอนที่แสนเก้าอยู่กับพายอาร์นั้นแสนเก้า นำเอากล่องเพลงมาให้พายอาร์ซึ่งถือว่าเป็น
การผิดกฎ แต่แสนเก้าก็ยอมทำเพราะรักพายอาร์ ฉากตรงนี้ต้องการสื่อให้เห็นว่า
แสนเก้าจะยอมพายดาร์ แม้ทำผิดกฎก็ยอม แต่ไอ้การสลับฉากกับเครื่องบินนี้สิทำให้
อารมณ์มันไม่ได้รับรู้ว่าแสนเก้ากำลังทำเพื่อพายอาร์อยู่ ความจริงน่าจะตัดฉากเครื่องบิน
ออกไปก่อน และให้เวลา แสนเก้าและพายอาร์ตรงนี้เต็มไม่มีอะไรรบกวนจะดีมากๆเลย

ความจริงใครที่ไดด้ไปดูมาแล้วคงจะบอกได้อย่างเต็มปากว่า นักแสดงทุกคนแสดงได้ดีทุกคน และคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่คุณเสียไป และยิ่งแป็นนักแสดงรุ่นเก่าๆที่เป็นมืออาชีพ
แล้วไม่ต้องพูดเลย ตีบทแจกและส่งอารมณ์กันได้ดีมากๆ ถือเป็นโชคดีของน้องๆเอเอฟ
ที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงที่ถือว่าสุดยอดทุกคน ทำให้ได้ทั้งบทเรียน ประสบการณ์
และเพื่อนใหม่ ถือว่าเป็นของขวัญที่ได้รับจากการเล่นละครเวทีเรื่องนี้ เลยก็ว่าได้

เมื่อดูละครจบความรู้สึกหนึ่งผุดขึ้นมาว่า อยากกลับไปดูอีกรอบ เพราะมันสนุกมาก อยากดูพันหนึ่งในฉากที่ไม่อาจตอบพายอาร์ว่ารักได้ เมื่อใช้ความรู้สึกตอบ
และอยากดูแสนเก้ากับบทเพลงอยู่ที่ใครอีกครั้ง กับชนะลมกับท่าทีที่ตอนเห็นพันหนึ่ง
นอนหนุนตักพระจันทร์ กับบทเพลงฝากเอาไว้ และตี๋ในฉากกล่อมลูกนอน
หรือแม้แต่ชายตาบอดกับเพลงดอกชบา กับเพลงหิ้งห้อย

จากการไปดูครั้งนี้ขอพูดถึงน้องๆบางคนที่เราชื่นชอบนะ

ตี๋ ที่รับบทเป็นพ่อของพระจันทร์ตอนเด็ก ยอมรับว่าไม่เคยดูตี๋เล่นละครเวทีมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ดู ยอมรับว่าทึ่งในการแสดงของตี๋ ไม่คิดว่าคนมาดเข้มอย่างตี๋จะกลายเป็นคนอ่อนโยนไปได้เมื่ออยู่กับเด็กน้อย มันทั้งอ่อนโยนและอบอุ่น ดูแล้วอยากวิ่งเข้าไปนอนหนุนตักตี๋บ้าง555+

พี่นัท ในบทของชนะลม ที่เป็นคนอ่อนไหวกับสิ่งรอบตัว แต่กลับจริงจังกับความรักที่มีต่อพระจันทร์ ชนะลมเป็นคนอ่อนโยน แม้แต่ตอนตัดต้นไม้ ด้วยความคิดวูบแรกว่าจะต้องช่วยพระจันทร์ซ่อมเฉลียงให้ได้ แต่พอได้ยินต้นไม้พูด ก็ทิ้งความตั้งใจไม่ตัดต้นไม้นัททำให้เชื่อในความรู้สึกที่รักพระจันทร์ เพราะทุกการกระทำและสายตาจะคอยมองแต่พระจันทร์ แม้แต่ตอนที่พระจันทร์บอกว่าเชื่อว่าพันหนึ่งเป็นคนดี ไม่ใช่คนร้าย ตอนแรกชนะลมไม่เชื่อ แต่พอพระจันทร์เชื่อ ชนะลมก็เชื่อตาม ซึ่งจริงๆแล้วเราว่าในความรู้สึกของชนะลมยังไม่เชื่อหรอกว่าพันหนึ่งเป็นคนดี เพียงแต่ว่าเพราะพระจันทร์เขาก็เลยต้องเชื่อตาม ในตอนที่ชนะลมจะตาย และได้คุยกับพระจันทร์ ทำให้รู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมคนๆหนึ่งถึงเก็บความรู้สึกรักไว้ได้มากขนาดนั้น พอได้ยินคำร้องคำสุดท้ายของชนะลมที่ว่า " เคยคิด เคยรังเกียจฉันหรือเปล่า " น้ำตาร่วงเลย นัททำให้เกิดความรู้สึกสะเทือนใจมาก และมากพอที่จะเกลียดพันหนึ่งได้ ว่าถ้าพันหนึ่งไม่เข้ามาที่นี่ชนะลมก็คงไม่จบชีวิตแบบนี้ โลกของเขายังสวยงามตลอด แม้พระจันทร์จะไม่รักชนะลมก็ตาม ในบทนี้ของพี่นัท ทำให้รักชนะลมได้ไม่ยาก เพราะความ
น่ารักและความใสๆที่แสดงออกมาทำให้ยิ่งดู ยิ่งรู้สึกอยากเข้าไปหา อยากพูดคุยด้วย มันคงทำให้เรามีความสุขมากๆ

พันหนึ่ง ที่รับบทโดยพี่บอย เป็นคนที่อยู่ในเมืองตรรกะ เป็นผู้นำของเมือง และถูกสอนให้ใช้สมองมากกว่าความรู้สึก ทุกอย่างต้องมีเหตุผลเสมอ ทุกอย่างจึงกลายเป็นชีวิตประจำวันของพันหนึ่งไปแล้ว ด้วยอารมณ์ความรู้สึกของพันหนึ่งไม่ได้ถูกเก็บกดไว้ เพราะจะเห็นได้จากการที่พันหนึ่งไม่ได้อึดอัดที่จะเป็นคนแบบนั้น กลับภาคภูมิใจกับชีวิตแบบนี้ ซึ่งดูได้จากการที่พันหนึ่งหลงเข้าไปที่เมืองเอกเขนกแล้วพบกับวิถีชีวิตอีกแบบหนึ่งทำให้พันหนึ่งรู้สึกว่าเมืองนี้ไร้สาระ แต่พอพระจันทร์สอนให้พันหนึ่งใช้ใจให้มากกว่าสมอง ด้วยเป็นคนที่ไม่ได้ถูกเก็บกดด้วยอารมณ์ต่างๆ พันหนึ่งจึงเปิดรับความรู้สึกที่พระจันทร์บอกให้ลองทำ และสุดท้ายพันหนึ่งก็ยอมใช้หัวใจมากกว่าสมอง บทนี้ชอบบอยแสดงมากเพราะบอยทำให้เห็นความแตกต่างจากพันหนึ่งที่อยู่ในตรรกะนคร กับพันหนึ่งที่กลับมาจากเมืองเอกเขนก มันช่างแตกต่างและเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลิกที่เปลี่ยนไป หรือแม้แต่ตอนอยู่กับพายอาร์แล้วต้องตอบพายอาร์อีกครั้งเกี่ยวกับความรักที่พายอาร์อยากได้ความรู้สึกของพันหนึ่ง ตรงนี้ชอบมากๆบอยแสดงให้เห็นถึงความลังเลและไม่กล้าพูดถึงความรู้สึกของตัวเอง นั้นเป็นเพราะเขาเริ่มใช้ความรู้สึกเข้ามาแล้วในการที่จะต้องตอบพายอาร์ หรือแม้แต่กับแสนเก้าที่ต้องปะทะอารมณ์กันก็ทำได้ดีมากๆ
ชอบสีหน้าของบอยที่ชายตาบอดว่า “พ่อหนุ่ม สิ่งเดียวที่จะดับฝันของเราได้คืออะไรรู้ไหม คือตัวเรา พอตัวเราหยุดมัน ก็จะจบ”

ส่วนแสนเก้า รับบทโตยน้องต้อล ชายที่ถูกประเมินให้มีศักยภาพเท่าๆกับพันหนึ่งแต่แล้วเขากลับไม่ได้เป็นผู้นำ แค่ผู้ใหญ่คนหนึ่งใช้" ดุลยพินิจ" ในการเลือกผู้นำ จึงไม่แปลกใจว่าทำไมแสนเก้าจึงยอมรับไม่ได้ ก็เพราะถูกสอนมาให้ยอมรับในเหตุผล และใช้เหตุผลในการดำรงชีวิต แต่แล้วถูกตัดสิทธิ์ด้วยคำว่าดุลยพินิจ มันก็ต้องมีคำถามในใจอยู่แล้ว และบวกกับความรักที่แสนเก้ามีให้พายอาร์ ยิ่งทำให้เขารู้สึกถึงความไม่ยุติธรรมมากยิ่งขึ้นจนเขาต้องการเรียกร้องมันกลับคืนมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ความจริงแล้วแสนเก้าเป็นคนที่มีอารมณ์เหมือนกัน เพียงแต่มันถูกเก็บกดเอาไว้ เขาจึงมักสับสนเวลาประจันหน้ากับชายตาบอด ที่มองเห็นในส่วนของความรุ้สึกของเขา แต่เขาไม่ยอมรับ เขายอมทำผิดกฏโดยเอากล่องเพลงมาให้พายอาร์ แสดงว่าเขามีความรู้สึกที่อยากให้พายอาร์มองเห็นความดีของเขา ต้อลรับบทนี้ได้อย่างน่าทึ่ง เพราะปกติจะดูต้อลเป็นคนแบบไม่ใช่ร้ายหรือดูดันอะไรมากนัก อาจจะแค่เหวี่ยงๆหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ลักษณะของต้อลที่จะดุดันหรือทำหน้าร้ายแบบนั้น แต่ต้อลก็ทำได้ และทำให้เชื่อว่า ตัวของแสนเก้าอยากจะได้สิ่งต่างๆกลับคืนมา จนวินาทีสุดท้ายที่ไม่เหลือใครเลย ต้อลก็ยังคงแสดงให้รู้สึกสะเทือนใจตามไปด้วยว่า เขาน่าสงสาร ถ้าเพียงแต่เขาเปิดใจรับฟังชายตาบอดให้มากกว่านี้ และรับรู้ถึงความรู้สึกในด้านดีของตัวเองขึ้นอีกนิด เขาก็จะไม่สูญมากขนาดนี้ ความลังเลที่ตอนทหารมาบอกให้เขายืนยันคำสั่งทิ้งระเบิด เขาลังเลมากจนสุดท้ายก็สั่งออกไป
ฉากที่ต้อลร้องเพลงอยู่ที่ใคร มันโดนใจมากคะ และถือว่าเป็นสิ่งที่เราสามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันนะ มันอยู่ที่ใคร ชอบจังคำนี้ และต้อลก็แสดงออกได้ดีกับฉากนี้ ต้อลใช้พลังมากเลยกับการใส่อารมณ์ในฉากนี้ที่ทำให้หลายๆคนอดที่จะชื่นชมไม่ได้

บอกได้ว่าสามชั่วโมงที่นั่งดู มันเต็มอิ่ม มีความสุขมากที่ได้มาดูเรื่องนี้ การเขียนในวันนี้อาจมากมาย หาสาระไม่ได้ แต่ก็อยากเล่าอยากเขียนถึงก็แค่นั้นว่าประทับใจอะไรบ้าง เรื่องการร้องของพวกเขาไม่ต้องพูดถึงร้องได้ดีมากและส่งมาถึงตลอด หลายคนมีพลังมาก ถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปดูดีไหม อยากบอกว่าไปดูเถอะรับรองไม่ผิดหวังแน่ และถ้าใครอยากไปดูอีกหลายรอบ ก็ยิ่งดีเพราะจะได้เก็บรวยละเอียดที่อาจยังคาใจอยู่

ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามอ่านบล็อคของพี่ปลาคนนี้มาโดยตลอดคะ ถ้าจะยังมีความดีอยู่บ้างที่ทำให้หลายคนมีความสุขกับบล็อคนี้ ก็ขอให้ส่วนดีที่ได้รับมาจงตอบสนองกลับไปยังผู้อ่านทุกคนคะ และให้สิ่งดีๆเกิดขึ้นกับคนที่พี่ปลารักทั้งสามคนด้วย ไม่ว่าจะเป็นพี่บอย พี่นัท และน้องต้อลก็ตามให้เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เขาเลือกเดินนี้คะ


Create Date : 14 ตุลาคม 2552
Last Update : 14 ตุลาคม 2552 13:33:28 น. 4 comments
Counter : 629 Pageviews.

 
อยากไปดูจังเลยคับ


รบกวนฝากความฝันของผมกับแฟนด้วยนะคับ


แคมเปญหนังเรื่องใหม่ My Valentine คับเข้าวาเลนไทน์ 2010

จากผู้สร้างเรื่อง Bfore Valentine คับ ถ้าใครยังจำได้

รบกวนฝากสานฝันผมกับแฟนผมและหนังเรื่องนี้ด้วยนะคับ

ผมไม่เคยดูหนังกับแฟนมาก่อนเลย แต่เรื่องนี้คือเรื่องที่เราดูด้วยกันเรื่องแรกคับ ดังนั้นผมจึงหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของหนังอีกผลงานของผู้กำกับคนเดิม

โหวตแล้วโหวตได้อีกทีทุกหกชั่วโมงคับ

ขอกำลังใจและคะแนนโหวตด้วยนะคับ

สละเวลากดโหวตให้ตามลิ้งนี้หน่อยน้า



//www.myvalentinethemovie.com/love.php?id=28



กดโหวตเสร็จแล้วกรุณาเช็คที่ junk หรือ inbox ในเมลล์แล้วกดยืนยันในนั้นนะคับ คะแนนโหวตถึงจะขึ้นที่หน้าเวปอ่าคับ

โหวตได้ทุกหกชั่วโมงคับ

รบกวนหน่อยน้า...ขอบคุณในความกรุณาคับ ขอให้รักสุขสมหวังกันถ้วนหน้านะคับ




โดย: กองพันทหารม้า IP: 192.168.1.108, 58.9.221.46 วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:12:16:53 น.  

 
อยากไปดูมั่งจังค่ะ แต่การเดินทางช่างลำบากสิ้นดี

ตอนนี้ที่เราไม่ได้ตั้งทู้ให้กำลังใจเลยก็เพราะตอนนี้ห้อง AF เขาห้ามบัตรโทรศัพท์โพสต์ค่ะ อมยิ้มขอคืนตั้งนานแล้วก็ยังไม่ได้คืน ถามเหตุผลว่าทำไมยึดไปก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาเลย

ถึงจะไม่มีกระทู้ แต่ความรักที่มีให้พี่บอย นัท ต้อล ของเรายังคงอยู่เหใอนเดิม แต่อีกนานตราบนานนะคะ


โดย: CiaCia วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:17:07:23 น.  

 
ไปดูมาแล้วเช่นกันค่ะ
คิดเหมือนผู้เขียน

ละครเวทีเรื่องนี้ดีที่สุด

อยากดูอีกครั้ง
ชอบทุกคนที่แสดง


โดย: คนดู IP: 203.156.25.120 วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:19:19:19 น.  

 
รอพี่ปลาเล่าเรื่องน้องคุมิค่ะ

เห็นรูปที่พี่นัทกอดคุมิจังแล้วน่ารักกมากกก
ทั้งสองคนเลยค่ะ


โดย: ชาวซุ่ม IP: 192.168.201.99, 58.136.49.60 วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:9:56:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

B. LOVE
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ปรัชญาในใจของเราเอง ชอบข้อความนี้มากเลย
......I am not what I thinK I am
I am not what you think I am
But I am what I think you think I am.....

( มันไม่สำคัญที่ฉันคิดว่าฉันเป็นอะไร
และมันไม่สำคัญที่คุณคิดว่าฉันเป็นอะไร
แต่ที่สำคัญก็คือฉันคิดว่าคุณคิดว่าฉันเป็นอะไร )

อย่ากังวลว่าไม่มีคนรู้จัก แต่ควรทำตัวให้มีคุณค่าน่ารู้จัก
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
14 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add B. LOVE's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.