วันสบายๆที่เสม็ด
หลีกหนีความวุ่นวายแบบชีวิตคนเมือง แล้วมุ่งหน้าสู่ทางธรรมชาติที่น่าอภิรมณ์นั้นถือเป็นความคิดที่ไม่เลวเลยทีเดียว หากแต่ด้วยความเป็นผู้หญิง การเดินทางโดยลำพังนั้น คนรอบข้างที่เป็นห่วงเป็นใยก็มากมายเสียเหลือเกิน ที่สำคัญ ถ้าพ่อรู้ ก็คงไม่ให้ไปเป็นแน่แท้ เพื่อนร่วมทางซักคนที่รู้ใจ ไปไหนไปกัน เอาไงเอากัน ก็น่าจะดี... วันศุกร์บ่ายๆ สำหรับคนทำงานอย่างเรา ช่างเป็นช่วงเวลาที่วุ่นวายเสียยิ่งกระไร จับนั่นทำนี่หวังให้ภารกิจเสร็จสิ้นโดยเร็ว แต่กระนั้นสมองก็ยังคงวนเวียนคิดแต่เรื่องเที่ยวซะนี่ หันมองดูนาฬิกาเก่าๆที่แขวนอยู่ข้างผนังหลังโต๊ะทำงาน บอกเวลา อีกห้านาที ห้าโมง ...และแล้ว ภาพเก่าๆของสถานที่แห่งหนึ่ง ก้อแว่บเข้าสู่ห้วงความคิด เกาะเสม็ด ณ ที่แห่งนี้ แม้จะมีความหลังสุขปนเศร้าเคล้าน้ำตาร่วมกันกับเพื่อนพ้องโซดาสิงห์ แต่เกาะเสม็ด ก็ใช่ว่าจะไร้ซึ่งเสน่ห์ชวนให้ไประลึกความหลังซะทีเดียว สองวันกับหนึ่งคืน ที่เกาะเสม็ด ก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ... เมื่อคิดได้ดังนั้น มือก็เริ่มกดหมายเลขเก้าหลักหาเพื่อน นิ้ง ตรงประเด็นและเรียบง่ายที่สุดที่พูดออกไป นิ้ง ไปเสม็ดกันมั้ยเพื่อน วันไหน เพื่อน นิ้งถามกลับบ้าง พรุ่งนี้ เรารอตอบอย่างใจจดใจจ่อว่า เพื่อนจะว่าอย่างไร หา! ว่าไงนะ พรุ่งนี้เหรอ เฮ้ย งั้นแกรอเดี๋ยว ถามแม่ก่อน เสียงเพื่อนหันไปกึ่งงถามกึ่งมัดมือชกกับแม่ ไม่ถึงสิบวินาที ก็มาตอบ เออ ไปก็ไป กี่โมงวะ กลับวันไหน เดี๋ยวชั้นไปรับแกประมาณเที่ยงละกัน กลับอาทิตย์ว่ะ เจอกันพรุ่งนี้เพื่อน วางหูด้วยความสบายใจ ว่าพรุ่งนี้ได้ไปแน่นอน ภาวนาอย่าให้มีอะไรทำให้เสียแผนอีกเลย... ตอนเช้า เตรียมสัมภาระพร้อม ไม่มีอะไรมาก แค่เป้หนึ่งใบใส่เสื้อผ้าและของใช้เท่าที่จำเป็น รองเท้าแตะคู่เก่ง และมือถือเก่าๆหน้าจอขาวดำเครื่องหนึ่ง กับรถคู่ชีพ ก็พร้อมออกเดินทางแล้ว โทรไปบอกเพื่อน ว่าจะไปรับเร็วขึ้น เก้าโมงถึงบ้านเพื่อน และเริ่มออกเดินทางสู่เสม็ดเจ็ดอ่าวดัง ฟังเราชวนเพื่อนเที่ยวเสม็ด เพื่อนๆหลายคน คงคิดว่าเราบ้าไปแล้ว ไปเสม็ดนะ ไม่ได้ชวนกันไปกินข้าวมันไก่วังหิน แต่อารมณ์คนเสพติดการท่องเที่ยวอย่างเรา เรื่องเหนือความคาดหมายมักเกิดขึ้นได้เสมอ ...ไปถึงเสม็ด บ่ายสองยี่สิบ เข้าจอดรถและซื้อตั๋วลงเรือที่ท่าเรือเพ (ตามข้อมูลนายรอบรู้) เราเลือกไปลงที่ท่าหน้าด่านก่อน เพราะคิดไว้ว่า จะค่อยๆไล่ดูไปทีละอ่าว ชอบใจที่ไหนค่อยลงหลักปักตอม่อที่นั้น ทริปเสม็ดสบายๆสไตล์ LoveError ก็เริ่มขึ้น ณ บัดนั้น ตามข้อมูลที่ได้ หาดทรายแก้ว ยอดนิยม หาดทรายยาวสวย ทรายขาวละเอียดดี กิจกรรมทางน้ำเพียบ แต่คนพลุกพล่าน มองหน้าจองตากับเพื่อน แม้ไม่ต้องเอ่ยวาจา ก็คิดตรงกัน...ไม่เอา...ไปต่อดีกว่า อ่าววงเดือน น้ำใสดี ไม่ลึก กิจกรรมทางน้ำมีให้เลือก เหมือนหาดทรายแก้ว คนก็พลุกพล่านเหมือนหาดทรายแก้วอีกเช่นกัน เพราะฉะนั้น..เราทั้งคู่เลือกไปต่อ อ่าวแสงเทียน บรรยากาศดี แต่ชายหาดและเม็ดทราย สู้หาดทรายแก้วกับอ่าววงเดือนไม่ได้ ผู้คนมีมากพอสมควร บ้านพัก บังกาโล หลายแห่ง เรียงไล่ไปตามแนวหาด แต่ถนนหนทางรถยนต์ จากอ่าววงเดือนไปอ่าวแสงเทียนนี่ ได้ใจมากๆ ทำให้นึกถึงตอนที่ไปทีลอซูเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ยังไงยังงั้นเลย อ่าวลุงดำ เข้าใจว่าเป็นอ่าวที่ต่อมาจากอ่าวแสงเทียน ที่นี่ไม่ค่อยมีคน ค่อนข้างเงียบ สงบดี บ้านพักมีไม่เยอะ ถ้าเทียบกับหลายๆอ่าวก่อนหน้านี้ ไม่มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกมากนัก เท่าที่เห็นก็มี ดำน้ำตื้น ไม่มีร้านอินเตอร์เน็ต ไม่มีร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ อ่าวหวาย อยู่ห่างจากอ่าวลุงดำประมาณ 1 กม. พวกเราลงรถที่ลุงดำ แล้วเดินข้ามเขาเล็กๆ 1 ลูก เพื่อไปสำรวจบรรยากาศที่อ่าวหวาย ใช้เวลาอยู่ที่อ่าวหวาย ประมาณเกือบ 15 นาที บ้านพักเยอะ ที่เพิ่งสร้างอีกแยะ หาดสวย ทรายขาวสะอาดดี ฝรั่งเยอะ คนไทยก็มาก ดูมีชีวิตชีวาดี แต่ก็พลุกพล่านไม่น้อย มาตอนนี้ ตัดสินใจยากจัง เลือกไม่ถูก ระหว่าง อ่าวหวาย กับอ่าวลุงดำ และแล้ว พวกเราก็เห็นพ้องต้องกันว่า อารมณ์นี้อยากสบายๆผ่อนคลายมากกว่าเอากิจกรรม ก็เลยข้ามเขากลับมาที่อ่าวลุงดำ เพื่อนเลือกพักบนบ้านต้นไม้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เปลี่ยนบรรยากาศมั่ง บ้านพักที่ไหนก็มี ซึ่งเราก็เห็นด้วย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เอาไงเอาด้วย บ้านต้นไม้ติดทะเล มี 2 หลัง หลังใหญ่ฝรั่งพักยาวมาก่อนหลายคืน พวกเราก็เลยได้หลังเล็กไปโดยปริยาย บ้านหลังเล็กพอดีตัว ข้างในไม่มีอะไรเลยนอกจากฟูก หมอน 3 ใบ ผ้าห่ม 1 ผืน ส่วนห้องน้ำอยู่ด้านนอก เดินบันไดลงมาจากตัวบ้าน ชอบตรงที่ดีไซน์หน้าต่างแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เลื่อนเปิดรับลมได้ กิ๊บเก๋ดี ด้านหน้าที่หันหาทะเล มีเตียงผ้าใบ ให้นอนรับลมอย่างมีความสุข ได้วิวจากที่สูงดี ข้างๆพอจะมีทางเดินอยู่บ้าง แต่เดินได้ทีละคน ไอ้ตอนไปถึงไม่ยักกะถ่ายรูปก่อน นอนจนผ้ายับค่อยมาคิดถ่ายรูป ธ่อ... นั่งที่เก้าอี้ผ้าใบแล้วมองขึ้นไป ได้มุมมองนี้ล่ะ มุมมองจากบนบ้านต้นไม้ ได้วิวสะพานคลาสสิคดีจัง อดใจไม่ไหวก้อเลยเดินไปเก็บวิวที่สะพาน มีโป๊ะลอยด้วยล่ะ เค้าเอาไว้ทำไรหว่า นายแบบจำเป็นค่ะ เอ..รึว่านางแบบหว่า ไม่รุเหมือนกัน พอดีเจอแต่ไม่ได้คุยกันง่ะ รูปนี้ชอบมั่กๆๆๆๆๆ สะพานไม้จากอีกมุมมองนึง เวลาพอมี ก่อนพลบค่ำ ก็เก็บรูป ตามคอนเซ็ปต์ แอบถ่ายชาวบ้านเค้า ไม่รุเค้าจะผ่านมาเจอป่าวน้อ... ไงๆก้อขอแปะไว้ละกัน เพราะชอบจังดูมีชีวิตชีวาดี บรรยากาศตอนโพล้เพล้นี่ งามเหลือเกิน คนน้อย สงบดี ช้อบชอบล่ะ ตอนค่ำ ก้อเลยจองตรงนี้ กินบรรยากาศมากกว่ากินมื้อค่ำ(เพราะมันมะหร่อยน่ะ) กลางคืนเรานอนเตียงผ้าใบที่เฉลียง แล้วยกห้องให้เพื่อนไปเลย ได้บรรยากาศมากมาย ยุงก็ไม่มี สบายจะตาย แต่ใกล้รุ่ง อากาศเย็นใช้ได้เลยล่ะ ตื่นเช้า เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น สวยจับจิตเลยทีเดียว อากาศยามเช้ากำลังดี วิวก็สวย (สวยกว่ารูปที่ถ่าย แต่มีปัญญาถ่ายมาได้แค่เนี้ยน่ะ) ระหว่างที่รอเพื่อนอาบน้ำ เราก็เดินซึมซับบรรยากาศไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีคนตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น ซักเท่าไหร่ ส่วนนึง คงเพราะคนที่มากินเหล้า กว่าจะหลับนอนกันก็เกือบเช้ามั้ง ก็ดี หาดนี้เป็นของเรา หลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ กับเพื่อนนี่ทางใครทางมัน เดินเก็บภาพอีกซักเล็กน้อย แบบว่าอารมณ์นี้เลยอ่ะ รวมมิตรป้าย ตามคอนเซ็ปต์ เก็บทุกป้าย แล้วก็เก็บภาพระแวกรีสอร์ทอีกซักเล็กน้อย บ้านพักก้อมีนะ แนวๆนี้ล่ะ ขากลับ ตอนแรกกะจะเหมารถให้มารับที่อ่าวลุงดำ แล้วไปส่งที่ท่าหน้าด่าน แต่น้องปอ หนุ่มบางนา ตาหวาน อยู่ระยองตามคุณย่ามากว่า 30 ปี ดันไม่รับโทรฯเรา ก็เลยขี้เกียจรอ เลยตัดสินใจเดินจากอ่าวลุงดำ มาขึ้นเรือที่อ่าววงเดือน จิงๆก็ไม่ไกลหรอก แต่กระเป๋าหนักขึ้น เพราะชุดขามาเปียกน้ำน่ะสิ น้องปอสุดหล่อโทรฯมาตอนเดินใกล้จะถึงอ่าววงเดือนอยู่แล้ว แหม! ช้าไปแล้วไอ้น้อง...พี่ไม่รอแล้วจ้า
เลยมาโซ้ยมื้อเช้าที่อ่าววงเดือนรอเรือ เดินไปเห็นเค้าก่อกองทรายแล้วก้ออยากแจมด้วยตะหงิดๆ
กว่าจะได้ขึ้นเรือก็เที่ยงเศษ ขากลับใช้เวลาเดินทางนานกว่าขามาเกือบครึ่งชั่วโมงแนะ
...ก็ขอจบทริป ไว้แค่นี้...
Apache Grand View Tel: 089-0986663 ต้นหาดบังกะโล Tel: 081-435-8900 แมงกะพรุนไฟ Tel: 081-458-8430
Create Date : 27 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 27 กันยายน 2551 15:21:44 น. |
|
13 comments
|
Counter : 10110 Pageviews. |
|
|
เอาใจช่วย
ช่วงนี้บ้านเมืองเครียดเป็นห่วงสุขภาพเพื่อนๆ
เลยเอาวิธีนอนให้หลับสบายมาฝากอิอิ
คลิกได้เยย