กลับมาอีกครั้ง กับการรวมพลคนรักการผจญภัย คราวนี้เป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก

สมาชิกทริปนี้นับได้ 8 ชิวิต โดยแบ่งกลุ่มย่อยๆได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มละอ่อนตอนต้น และ กลุ่มละอ่อนตอนปลาย หรือแบ่งง่ายๆ below 30 กับ above 30 ใครอยู่กลุ่มไหน ประเมินเอาจากหน้าตาท่าทางกันเอาเองน้า คริ คริ

มาเริ่มกันที่ วันแรกของการเดินทาง (25 กค.52)

ใช้บริการรถตู้ NGV 14 ที่นั่ง โดยนัดรถมารับ 2 จุด จุดแรก 7.30 น. ที่ซ.รางน้ำ ฝั่งถ.พญาไท และ จุดที่สอง 8.00 น. ป้ายรถเมล์หลักสี่ ริมถ.วิภาวดี สำหรับทริปนี้ สมาชิก on time กันทุกคน ดีมาก ขอปรบมือให้ แปะๆๆๆ

หลังจากขึ้นรถครบ หมู่เฮาก้อมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่ อ.เมือง พิษณุโลก โดยมีแวะโซ๊ยมื้อเช้ากันกลางทาง เป็นร้านข้าวแกง-เตี๋ยวเรือ อยู่ในปั๊ม ปตท. เส้นอยุธยา แต่ถามไปถามมา หาคนจำชื่อร้านได้ ไม่มีซ๊ากคน สมาชิกเน้นกิน ไม่เน้นจำ ไอ้เรามาคราวนี้ เกิดเมมน้อยซะงั้น มื้อเช้าฟาดไปแค่เบาะๆ ทั้งข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีบ ขนมถ้วย ยังไปไม่ถึงไหนกันเร้ย คิดถูกคิดผิดหว่าเนี่ย เอาอนาคตของชาติมาเที่ยวด้วย เฮ้อ...

หลังจากอิ่มหนำ ตอนแรกว่าจะนอนเก็บแรงซะหน่อย พวกขนหนังมาเพียบ ดูแผ่นแรก Iron Man ก้อยังพอโออยู่หรอก แต่แผ่นถัดมานี่สิ สี่แพร่งค้าบ ใครเคยดู คงรุใช่มะว่าตอนสามน่ะ...คราวนี้มีหลอนนนนนน ความคิดใครเนี่ย ฮึ!

และแม้ ในรถจะเมามันส์กะเพลงกะหนังขนาดไหน พี่ใหญ่ของทริป แกก้อยังปลีกวิเวกได้แฮะ โอว...นับถือๆ

ก่อนไปผจญภัยกัน ก้อควรมากราบพระขอพรเอาฤกษ์เอาชัยใช่ปะ ใครได้ผ่านมาพิดโลก คงไม่พลาดวัดคู่บ้านคู่เมืองนี้ละมั้ง พวกเราก็เช่นกัน แม้บางคนเคยมาแล้ว ก้ออยากมาอีก (บางคนในที่นี้มีเรารวมอยู่ด้วยล่ะ)

วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือที่ชาวเรารู้จักกันดีในชื่อ "วัดใหญ่" สร้างขึ้นสมัยพระมหาธรรมราชาลิไทแห่งสุโขทัย ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของ พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ความงดงามวิจิตรของพระพุทธชินราช ได้รับการยกย่องว่าเป็นงานช่างบรมครู จนเกิดความเชื่อกันว่า เทวดาแปลงกายเป็นชีปะขาวมาช่วยหล่อพระจนแล้วเสร็จ

ในสมัยธนบุรี พม่าโดยอะแซหวุ่นกี้ยกทัพมาทำศึกกับสยาม ได้เผาทำลายวัดวาอารามเสียหายทั้งหมด เหลือไว้เพียงแต่วัดใหญ่แห่งนี้เท่านั้น ที่ไม่ถูกเผาทำลาย ทำให้นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่า เพราะความงามของพระพุทธชินราชองค์นี้ ที่ทำให้พม่าละเว้นไม่เผาทำลายวัดใหญ่ไปด้วยนั่นเอง

หลังจากกราบพระขอพรพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก้อใช้เวลาเดินสำรวจชื่นชมความงามรอบๆวัดกันซักครู่ใหญ่ๆ

เค้ามาเป็นคู่ๆ ตาร้อนค่ะตาร้อน

แม้แต่ในวัด มันก้อไม่เว้น ม้านหวีตไปทั่ว ชิ!

ไม่เข้าใจ ทำไมต้องถ่ายรูปกะน้ำตาลสด

ไม่ลืมรูปหมู่ พี่ใหญ่ของทริปขอนำเสนอไอติมรถเข็นทางเข้าลานจอดรถ บอกหร่อยเริ่ด หมู่เฮาเลยไม่พลาด ซื้อกินทั้งก่อนเข้าวัดและก่อนขึ้นรถกลับ

จากนั้นแวะ โรงเจไซ้ทีฮุกติ๊ง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสมอแคลง อ.วังทอง บนทางหลวงสาย 12 วิวบนยอดเขาสวยดี อากาศวันที่ไป ครึ้มฟ้าครึ้มฝน เย็นสบายดี

เห็นว่าเค้าเพิ่งมีกิจกรรมเก็บศพไร้ญาติ ล้างป่าช้า เมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา มีบอร์ดติดรูปกิจกรรมด้วยล่ะ ละอ่อนตอนต้นเค้าไปดูบอร์ดกัน ละอ่อนตอนปลายขอบาย กลัวเจี๊ยะมื้อเย็นไม่ลง จะเสียเปรียบเอา

นางแบบเค้าแอ๊บสุดฤทธิ์ล่ะ

เอ่อ...คุณน้องพลอยคะ ทำงี้ได้ไงคะ คุณน้องเล่นชิงพื้นที่ข่าวก่อนงี้ คุณพี่ๆปีเถาะทั้งหลาย หน้าไหนมันจะกล้าเข้ามาโพสต์ท่าถ่ายกะป้ายปีเกิดล่ะคะ ก้อน๊อครอบซะขนาดนั้น

ดู่ดู๊ ดู ดู มัน ทำ

รวมตัวถ่ายรูปหมู่ก่อนไปต่อ

ใกล้ๆกับโรงเจไซ้ทีฮุกติ๊งคือ วัดราชคีรีหิรัญยาราม เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งแกะจากหยกขาวที่วัดพระแม่กวนอิม เมืองหางโจวประเทศจีน จากนั้นจึงอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้

หลังจากไหว้พระแม่กวนอิม เสี่ยงเซียมซีกันถ้วนหน้าแล้ว ไม่ลืมคอนเซ็ปต์เก็บภาพหมู่ร่วมกัน ก่อนไปต่อจุดหมายปลายทางของเรา

จากเขาสมอแคลงไปอีกไม่ไกลก้อถึงรีสอร์ท คนขับเพลินไปหน่อยขับเลยไปจอดหน้าวนธาราเฉยเลย ไม่ใช่ค่ะ พวกเราไม่ได้พักที่นี่นะคะ อีตอนเค้าขับ พวกเราเอาแต่ดูหนัง ไม่มีใครดูทางเลยน่ะสิ ต้องโทรถามกับทางรีสอร์ท ได้ความว่า "คุณขับเลยแล้วค่ะ ขับย้อนกลับมาจะเจอน้ำตกแก่งซองนะคะ ให้ตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร จะถึงรีสอร์ทเราแล้วค่ะ" เหอ...เหอ... ตกม้าตายกะเรื่องง่ายๆเงี้ย

จริงๆ ป้ายมันก้ออกจะสูงเด่นเป็นสง่า มายคนขับมันไม่เห็นว้า เอ...พี่เค้าแอบดูหนังพร้อมๆกะพวกเราป่าวหว่า

จากราคาแพ็คเกจล่องแก่ง เพิ่มอีกคนละ 300 บาท เพื่ออัพเกรดจากบ้านพักสุพีเรียเป็นเรน ฟอเรสท์ สวีท

เค้าบอกไม่มีรองเท้าอ่ะ 555 ขำๆเด้อ เข้าใจว่า ติดไว้หน้าบ้านทุกหลังนะ

หลังจากเดินสำรวจห้องหับกันจนหนำใจแล้ว ก้อหิวค่ะ อาหารเย็นนัดไว้ตอนหกโมง ก่อนที่แร้งจะลงกัน ต้องขอให้อดใจรอเก็บภาพนีสนึง อาหารมีทั้งหมด 5 อย่าง ประกอบด้วย ปลาเผาเกลือ แกงส้มชะอมทอดไข่ น้ำพริกกะปิ ผัดผักรวมมิตร ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ตบท้ายด้วยผลไม้อีก 2 อย่าง คือ สัปรดและแก้วมังกร แต่ด้วยวัยกำลังกินกำลังนอนของสมาชิกบางราย ทำให้ต้องสั่งอาหารสิ้นคิดเพิ่มอีก 2 อย่าง คือ ไข่เจียว แอบมีเถียงๆกันเล็กน้อย ว่าสั่งไข่เจียวธรรมดา หรือ ไข่เจียวหมูสับ แต่ได้แบบธรรมดามา แล้วจะกินมะ ไม่กินก้อคืนเค้าไป 555 อีกจานคือทะเลผัดกระเพรา แล้วก้อเป็นไปตามคาด ได้แบบแช่แข็งมา อันนี้ต้องโทษคนสั่งไม่คิด มาเที่ยวภูเขาลำธาร ดั๊นแดะสั่งอาหารทะเล หุหุ อยากสมน้ำหน้าคนสั่ง ถ้าไม่ติดว่าต้องโดนจับหารด้วย

จริงๆก้ออิ่มอ่ะนะ แต่กระนั้น ก้อยังมีปิดท้ายรอบดึกด้วยอาหารว่างดังรูป และจากรูปที่เห็นคงเดาได้ไม่ยากเนอะ เอามาปิ้งๆย่างๆกินเปล่าๆก้อใช่ที่ใช่มะ มีสิคะ มีแน่นอน มีทั้ง 100, Ben, Barcadi, Coke, 7up, Soda อีกเพียบ แต่รับรอง ไม่มีเสียงดังรบกวนบ้านใกล้เรือนเคียงเพราะไม่ใช่ฉิ่งฉับทัวร์ จริงๆมีเกมส์เอามาให้เล่นหนุกๆ น้องชายตัวดีอุตส่าห์หอบเอาเหรียญมาให้แลกตั้ง 400 บาทแน่ะ แต่พอได้เวลา AF ทุกคนพร้อมใจกันหยุดทุกกิจกรรม แฟนคลับ AF นั่งหน้าสลอนเกาะขอบจอรอเชียร์ หลังจบ AF ก้อตัวมันตัวเผือก แยกย้ายห้องใครห้องมันเตียงใครเตียงมัน เจอกันอีกทีพรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์

วันที่สอง (26 กค.52)

นัดรวมพลตอนประมาณ 8 โมงหลังอาหารเช้า ใครตื่นก่อนมีเวลาก้อไปเดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆรีสอร์ท สำหรับอาหารเช้าตามแพ็คเกจ ให้เลือกระหว่าง ABF กับ ข้าวต้ม หมู,ไก่,ปลา คราวนี้อีกเช่นกัน ที่แบ่งฟากกันชัดเจน หนุ่มๆสาวๆเลือก ABF ล้วน ส่วนอาวุโสเลือก ข้าวต้มปลา มีสลัดผักที่ตักเอาเองตามใจชอบ มีบริการกาแฟและโอวัลติน

8 โมงกว่าๆ รถมารอรับเพื่อล่องแก่ง ของมีค่า อาทิ กระเป๋าตัง นาฬิกา กล้องถ่ายรูป เก็บไว้ในบ้านไม่หาย หรือจะฝากที่เคาเตอร์รีสอร์ทก้อได้ พวกเราเอาเก็บไว้ในห้องล็อคประตู จริงๆในบ้านมีตู้เซฟ แต่ดูเหมือนจะใช้การไม่ได้ล่ะ

ก่อนขึ้นรถ เราแจ้งกับทางรีสอร์ทจะเอาถ่ายรูปด้วย เค้าคิด 700 บาทได้ CD 1 แผ่น ตามที่เค้าบอกเรา จะได้รูปประมาณ 70-90 รูป แต่เรามานับทีหลังได้มา 115 รูป

ก่อนลงน้ำ มีถ่ายรูปที่ป้าย บรีฟทักษะการพาย เรือลำนึงเพื่อความปลอดภัย เค้าให้นั่งได้เต็มที่ 9 คนไม่รวมคัดท้ายและหัวเรืออีก 2 คน เรามากัน 8 คน ได้เรือหนึ่งลำไม่ต้องรวมกับใคร สีเรือแจ่มใสบาดตา นี่ถ้าได้หมวกสีเขียวสะท้อนแสงของอิกกรุ๊ปนึงด้วย จะยิ่งแหล่มกว่านี้อิก แอบเสียดายเล็กๆ

ล่องแก่งลำน้ำเข็กวันนี้ พวกเราต้องล่องผ่านแก่งระดับความรุนแรง 1-5 สลับกันไป ประกอบด้วย 14 แก่งและเวฟเล็กๆอีก 4 ระยะทางรวม 8 กม. ใช้เวลาล่องราวๆ 3 ชม. มีจุดที่น้ำนิ่ง ให้พวกเราโดดลงแช่น้ำเล่นประมาณ 10 นาที ถามคัดท้ายเรื่องระดับน้ำวันนี้ ได้ความว่าอยู่ที่ระดับ 300 น้อยกว่าเมื่อวานที่ระดับ 500 ทำให้สมาชิกบางคนบ่นอุ่บ ประมาณว่า เห็นมะ บอกแล้วให้ล่องวันแรก แต่พวกที่โหวตล่องวันที่สอง ใช้สิทธิ์ยกมือขึ้นค้านว่า ล่องวันที่สองดีกว่าที่ไม่ร้อน เอาเหอะ มาถึงตอนนี้ได้แค่บ่นล่ะ เพราะกรุ๊ปเราเลือดประชาธิปไตยเกินร้อย ให้โหวตกันตั้งแต่ก่อนมาแล้วนี่ ว่าจะล่องกันวันไหน ซึ่งผลโหวต 5 ต่อ 3 เอาล่องภาคเช้าของวันที่สอง เป็นอัน จบข่าว

รายชื่อแก่งทั้ง 14 มีดังนี้ แก่งท่าข้าม เป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่ง แก่งไทร แก่งมรดกป่า แก่งปากยาง แก่งหินลาด แก่งสบยาง แก่งสวนรัชมังคลา แก่งซาง แก่งโสภาราม แก่งดงสัก แก่งนางคอย แก่งยาว แก่งวังน้ำเย็น แก่งทับขุนไทร

แก่งส่วนใหญ่ความรุนแรงอยู่ในระดับ 2-3 สำหรับแก่งที่มีความรุนแรงระดับ 5 คือ แก่งซาง แก่งนางคอย และแก่งยาว

ช่วงต้นทางประมาณเกือบๆ 700 เมตร ไม่ค่อยมีไรหวือหวาเท่าไหร่ ก้อนั่งเมาส์ชิวๆกันไป ที่ถูกใจคือหัวเรือมาดนิ่ง หน้าตายแต่มุกเยอะโคดๆ เล่นเอาพวกเราฮาได้ไม่มีต้องเบื่อ เค้าว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พานักท่องเที่ยวมาล่องแก่ง ที่ผ่านมาได้อ่านเอาแต่ในตำรา ทริปวันนี้ได้เปิดหูเปิดตาซักที ส่วนสถานการณ์ที่อ่านขาดได้นี่เพราะท่องจำมาจากตำราแบบบรรทัดต่อบรรทัด เอาว่ามุกประมาณนี้+หน้าเดียวตลอดตั้งกะต้นจนจบ พี่แกเลยกลายเป็นขวัญใจชาวเราไปในบัดดล

แก่งระดับ 3 ที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด จื๊ดจ๊าด ซื๊ดซ๊าด ได้เห็นจะเป็นแก่งหินลาด

เล่นเอาน้องสาวคนสวยที่แสนจะบอบบางกระเด้งลงไปกองกับพื้นท้องเรือซะงั้น โปรดสังเกตุ she เอามันส์ก่อนเพื่อนคนเดียวเลยนะนั่น

สำหรับการจัดระดับความยากง่ายของแก่ง พี่ไทยใช้มาตราฐานของมะกันเค้า American White Water Affiliation แบ่งเป็น 6 ระดับ คือ

ระดับ 1 ง่ายมาก - น้ำไหลเร็ว เป็นเกลียว อุปสรรคสิ่งกีดขวางน้อย มองเห็นชัดเจน หลบเลี่ยงง่าย

ระดับ 2 ธรรมดา - มีแก่งทอดตัวเบื้องหน้า ช่องกว้างให้เรือผ่านง่าย ไม่ต้องไปสำรวจก่อน มีอุปสรรคบ้าง เช่นก้อนหิน หรือคลื่นขนาดกลาง ต้องอาศัยการหลบหลีก แต่ผ่านไปได้ไม่ยาก

ระดับ 3 ปานกลาง - มีแก่งและคลื่นขนาดกลางให้ต้องใช้ทักษะหลบหลีกที่ซับซ้อนมากขึ้นในกระแสน้ำเชี่ยว ใช้ทักษะการบังคับเรือยางให้ผ่านช่องทางเฉพาะเจาะจง

ระดับ 4 ยาก - แก่งรุนแรงและทรงพลัง แต่ยังอยู่ในวิสัยที่คาดการณ์ได้ การบังคับเรือยางต้องกระชับและแม่นยำอย่างมาก ความยากของระดับนี้ ยังต้องดูลักษณะของแม่น้ำสายนั้นๆเพื่อประเมินสถานการณ์ แก่งระดับนี้ จัดว่าเริ่มมีระดับความเสี่ยงอันตรายที่ต้องพยายามหาทางป้องกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการสำรวจแก่งก่อนที่จะลงเป็นครั้งแรก ความเสี่ยงอาจอยู่ที่อาจได้รับบาดเจ็บจากการต้องลอยตัวอยู่น้ำที่มีระดับปานกลางถึงสูง และยังยากต่อการช่วยเหลือตัวเอง

ระดับ 5 ยากมาก - แก่งที่มีระดับความรุนแรงสูง ความเชี่ยวของกระแสน้ำแรง ความรุนแรงต่อเนื่องระยะทางของอุปสรรคนาน อาจผ่านช่องชั้นของน้ำตก การลอยตัวอยู่ในน้ำเป็นเรื่องอันตราย การให้ความช่วยเหลือทำได้ยาก การล่องแก่งระดับนี้ จำเป็นต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ความปลอดภัยอย่างครบถ้วนและเหมาะสม ทีมงานต้องมีทักษะและประสบการณ์สูง

ระดับ 6 อันตราย - ยากมากและอันตรายเกินกว่าจะล่อง

ตอนไปทริปล่องแก่งที่เมกา จำได้ว่าเค้าค่อนข้างซีเรียส ต้องนั่งเรียนเป็นเรื่องเป็นราวก่อนล่องจริง มีเรียนตั้งแต่ Class I, II, III, IV, และ V พอล่องเสร็จปลอดภัยมาก้อจะได้ใบหน้าตาแบบนี้แหละ ล่องแก่งน้ำเข็ก เราว่าความปลอดภัยอยู่ในระดับที่ดีนะ เค้าน่าจะมีให้ใบประกาศแบบนี้มั่ง เอาแบบขำๆเก็บเป็นที่ระลึกก้อยังดี

ด้วยความสามารถ ทักษะของทีมงานบังคับเรือ และด้วยความสมัครสมานสามัคคีของฝีพายทุกคน ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดและรวดเร็ว ทำให้การล่องแก่งน้ำเข็กคราวนี้ ประสบความสำเร็จ สนุกสนานและปลอดภัย ไม่มีใครต้องกระเด็นตกเรือ มีแต่กระดอนมากองรวมกันในเรือ แค่นั้น เอิ้ก เอิ้ก

จบแก่งสุดท้าย ทับขุนไทร แล้วมาขึ้นบกที่ท่าหลังออฟฟิศ บ.ใหญ่ทัวร์ มีกาแฟและชานมแสนอร่อยเสริฟปิดท้าย ขอบอกว่าล่องแก่งน้ำเข็กครั้งนี้ "สุดยอด" จริงๆๆๆๆๆๆ

หลังจากหนุกหนานกับการผจญภัยไปแล้ว ก้อหิวค่ะ ถึงเวลากินมื้อเที่ยงตามแพ็คเกจกันแล้ว มื้อนี้ประกอบด้วย แก่งป่าไก่-หมู ยำผักบุ้งทอดกรอบ ผัดผักรวมมิตร ปลาสามรส ยำตะไคร้หมูสามชั้น ล้างปากด้วยผลไม้

ส่วนเด็กๆวัยกำลังโต ซัดไอติมอีกคนละอันสองอัน เอ้า! เต็มที่ครับ

หลังอาหารยังพอมีเวลาอีกนิดหน่อย ให้เดินเก็บบรรยากาศรีสอร์ทเฮือกสุดท้าย ก่อนเช็คเอาท์อย่างเป็นทางการ และเนื่องจากวันเช็คเอาท์ของพวกเราเป็นวันอาทิตย์ คาดว่าวันจันทร์ไม่มีใครพักบ้านหลังนี้ต่อ ทางรีสอร์ทก้อเลยอนุญาตให้เลทเช็คเอาท์ได้ถึงเกือบๆบ่ายสาม

ไม่ลืมคอนเซปต์เก็บป้ายเหมือนเคย ว่าแต่ไอ้นี่มันครายยยยหว่า แกอย่าไปเที่ยวป่าวประกาศกะใครเค้าว่าเป็นน้องชั้นเชียวนะ อายเค้าว่ะ

เราก้อไม่ยอมพลาดป้ายเหมือนกัน

แล้วก้อรูปหมู่กับป้าย แหะ แหะ

ปิดท้ายทริปด้วยรูปหมู่บนรถก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

แพ็คเกจทริปล่องแก่ง คนละ 1,750 อาหาร 3 มื้อ พัก 1 คืน บ้านเรน ฟอเรสท์ สวีท - เรน ฟอเรสท์ รีสอร์ท www.rainforestthailand.com

(ถ้าเลือกพักบ้านสุพีเรีย ราคาอยู่ที่คนละ 1,450)

บ.ทัวร์นำล่องแก่ง - ใหญ่ทัวร์ลำน้ำเข็ก T.087-8435255, 085-7290391 (ตอนแรกกะว่าจะรีเควสท์ ลุงหนวดทัวร์ หรือไม่ก้อป๊อปทัวร์ ตามความนิยม แต่ด้วยความที่อยากลองใช้บริการเจ้าอื่นดูมั่ง จะได้รู้ว่าเป็นไง ก้อเลยไว้ใจให้ทางรีสอร์ทจัดมา ผลออกมาว่าประทับใจนะ ทั้งเรื่องการเอ็นเตอร์เทนลูกค้าและทักษะการประเมินสถานการณ์ ถือว่าสอบผ่านนะ) ขอขอบคุณทีมงานทั้ง 2 คน คุณวิเชียร และ คุณชิ้น ที่ทำให้ทริปล่องแก่งครั้งนี้ โหด มันส์ ฮา สมกับที่ตั้งความหวังไว้

รถเช่า NGV - โตโยต้า คอมมิวเตอร์ใหม่ สะอาด คนขับดี คุยง่าย ใจเย็น ชื่อ คุณบี ติดต่อผ่าน //www.rodtungv.com คุณต้า 0802944442 ใครจะใช้บริการที่นี่ ไม่ต้องตกใจถ้าเค้าบอกว่า คนขับจะติดต่อมาก่อนวันเดินทาง 1 วัน ตอนแรกเราก้อใจตุ๊มๆต่อมๆเอามากเหมือนกัน กลัวเค้าเบี้ยวงาน จบเห่ เจ๊งโบ๊ะกันพอดี แต่ก้ออิกนั่นแหละ เป็นคนชอบลอง เลยเสี่ยงดู ปรากฏไม่มีปัญหา ไว้ใจได้ ไร้กังวลค่ะ

Create Date : 29 กรกฎาคม 2552
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 10:51:32 น.		18 comments
Counter : 10408 Pageviews.
Share Tweet