ใช้ชีวิตให้คุ้ม อิสระในทุกมุมมอง
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
อันดามัน ฉันรักเธอ - snorkle หมู่เกาะสุรินทร์

ปกติเป็นโรคกลัวแดด ไม่อยากโดนแสงเพราะห่วงสวย แม้จะห่วงไปก้อเท่านั้น เพราะไงก้อคงไม่มีวันสวยไปกว่านี้หรอก แต่ก้ออ่ะนะ ซักนิสนึงตามประสาผู้ยิ๊งผู้ยิ๋ง


ก้อไม่รุเป็นไง กลัวแดดน่ะเรื่องจริง แต่ไอ้กิจกรรมที่โปรดนักโปรดหนาน่ะ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมกลางแจ้งเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ซะงั้น


ยิ่งดำน้ำนี่ ยิ่งของชอบล่ะ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ดำบ่อยๆซักเท่าไหร่ก้อเหอะ สน็อคนี่ไปมาก้อหลายที่ ทั้งกระบี่ พังงา ภูเก็ต เกาะช้าง หรือใกล้ๆอย่างพัทยา ระยอง แต่ก้อไม่ได้ประทับจิตประทับใจถึงขั้นอยากไปซ้ำซักที่


เมื่อปีที่แล้วช่วงก่อนวันแรงงาน ได้รวมแก๊งดำน้ำขนาดย่อมๆไปกันที่หมู่เกาะสุรินทร์ ที่เค้าว่าเป็นสถานที่สน็อคสวยงามอันดับต้นๆของโลกเลยก้อว่าได้ ซึ่งจากที่ได้ไปมา เรียกว่าไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ไปแล้วก้อยังอยากไปซ้ำอีกหลายๆรอบเลยล่ะ


ทริปหมู่เกาะสุรินทร์ 3 วัน 2 คืน กับก๊วนแก๊งรวม 4 ชีวิต


เดินทางจากกรุงเทพฯวัน ค่ำวันพฤ.ที่ 27 โดยรถปรับอากาศ กรุงเทพฯ-คุระบุรี ถึงเช้าวันศุกร์ที่ 28 มีรถของคุระบุรีกรีนวิวมารับไปยังท่าเรือ จากนั้นก้อกินมื้อเช้า เตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูปให้พร้อมเสร็จก้อลง speedboat ตอน 9 โมงไปยังเกาะสุรินทร์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที



speedboat จอดให้นักท่องเที่ยวลงดำน้ำจุดแรกที่อ่าวแม่ยาย ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานเกาะเหนือ ทันทีที่หัวพวกเราจมน้ำ สิ่งมีชีวิตอันดับต้นๆที่แหวกว่ายมาอวดโฉมประหนึ่งว่ามาต้อนรับขับสู้ผู้มาเยือนก้อคือ ฝูงปลากระตับลายหางแถบ


พวกเรางี้ตื่นเต้นกันใหญ่เลย น้ำทะเลใสม๊ากกกก ขนาดมองจากผิวน้ำยังเห็นตัวปลาชัดแจ๋วเลย ทะเลมีคลื่นอยู่บ้างเนื่องจากใกล้ฤดูมรสุมแล้ว แต่ก้อยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย พวกเราก้อสบายใจหายห่วง เพลิดเพลินกะการดำน้ำ ที่อ่าวแม่ยายนี้ ทีมยังสามัคคีกันดีอยู่ ประมาณว่าไปไหนก้อสะกิดกันไปเป็นทีม แต่อย่าถามถึงอ่าวต่อๆไปละกัน เพราะมีแบ่งข้างพันธมิตร กะ นปช ล่ะ อุ๊ปส์! หุหุหุ



ที่อ่าวแม่ยายความลึกประมาณ 20-25 เมตร จุดเด่นของอ่าวนี้คือ สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่เรียกว่า ปะการัง เพราะมีเยอะมั่กๆๆๆๆ ส่วนใหญ่จะเป็นปะการังก้อนรูปทรงต่างๆกับปะการังเขากวาง สัตว์ทะเลอื่นๆไม่ค่อยหลากหลาย เดาเอาว่าเพราะปะการังที่เป็นทั้งแหล่งอาศัยและแหล่งอาหารมันไม่หลากหลายน่ะเอง





ดำผุดดำว่ายอยู่ดีๆ หันไปจ๊ะเอ๋ตัวข้างๆนี่ซะได้ อุ๋ยต๊าย นึกว่าตัวไร ที่แท้ก้อบั๊ดดี้คุณพี่เกลอเราน่ะเอง เลยแอบถ่ายได้มาหนึ่งรูป ส่วนอีกสองหนุ่มที่มาด้วย ก้อกะลังขมักเขม้นขมีขมัน ฝึกซ้อมมุดน้ำ ดำลงไปถ่ายรูปเป็นการใหญ่ จริงๆมุดน่ะไม่ยากหรอก ถ้าไม่ใส่ wetsuit อ่ะนะ แต่พวกเราเล่นแต่งองค์ซะเต็มยศ ก้อมิใช่ไรหรอก ด้วยเหตุกลัวดำเพราะรักสวยรักงามยกแก๊งน่ะสิ อิอิ


คุณพี่บัดดี้คนนี้นี่ เบื้องหลังน่ะ เป็นโรคกลัวน้ำขั้นวิกฤตินะ ประมาณเห็นน้ำแล้วหัวใจเต้นตึ้กตั้ก หนักๆนี่ถึงขั้นหยุดเต้นได้ง่ายๆ ยิ่งกว่าเจอออแลนโด้ บลูมซะอิก แต่ที่มาเนี่ย เพราะชื่อเสียงอันเลื่องลือในความงดงามใต้ทะเลของหมู่เกาะสุรินทร์น่ะเอ๊ง พี่เค้าว่าฝาหรั่งยังอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเล้ย เราคนไทยแท้ๆจะยอมแพ้ได้ไงได้ไง


ที่อ่าวประเดิมนี่ บอกตรงๆ แทบถ่ายรูปกุ้ง หอย ปู ปลา ไรไม่ได้เลย ไม่ใช่เกาะสุรินทร์จะสิ้นลุคส์แล้วหรอกนะ แต่แบบว่า พวกเรากะลังตื่นอยู่น่ะ พายามทำความคุ้นเคยกะการถ่ายรูปใต้น้ำน่ะ เพราะก่อนมาทริปนี้มีถอยกล้องพร้อมhousing ใหม่เอี่ยมอ่องมาลองเทสด้วยจิ


อยู่ดำผุดดำว่ายได้ซัก 40 นาที กรรมการก้อเป่านกหวีด ปี๊ดดดดดดดดดดดดด เรียกขึ้นเรือซะแร้ว จากนั้นก้อพากันไปกินมื้อกลางวันที่ทึกทักกันเอาเองว่าเป็นโรงอาหารที่ทำการอุทยานบนเกาะเหนือ อิ่มท้องแล้วก้อจัดแจงหอบหิ้วสัมภาระเข้าเต้นท์ฟากกระโน้นที่อยู่ระหว่างอ่าวช่องขาดกะอ่าวไม้งาม นัดเจอกันอีกทีก้อตอนบ่ายโมงตรง ลงเรือไปจุดดำน้ำที่สองที่ อ่าวสุเทพ อยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะสุรินทร์ จุดเด่นของอ่าวสุเทพก้อยังคงเป็นปะการังรูปทรงแปลกตา มีปลาเล็กปลาน้อยให้เห็นเป็นว่าเล่น





เจ้านีโม่กลุ่มนี้ เจอที่อ่าวสุเทพนี่แหละ มาดำน้ำตื้นแล้ว โอกาสจะไม่ได้เห็นนีโม่นี่น้อยกว่าโอกาสจะได้เจอพี่หลามวาฬซะอิก อุอุ ว่าเข้านั่นเลยแฮะเรา ใช้เวลาที่อ่าวสุเทพซักครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้ ก้อไปต่อจุดดำน้ำที่ 3 ที่เกาะมังกร หรือ ปาจุมบาในภาษามอแกน เกาะนี้อยู่ไม่ไกลจากอ่าวสุเทพ เรียกว่าถ้าจะมาก้อมาแพ็คคู่ได้เลย ไกด์บอกว่า จุดเด่นของเกาะมังกรคือ มีปะการังก้อนใหญ่มหึมาแถมเป็นชั้นๆอย่างกะต้นคริสต์มาส ซอกหลืบของปะการังเป็นแหล่งอาศัยของกุ้งมังกรจำนวนมาก เค้าก้อเลยเรียกเกาะนี้ว่าเกาะมังกรไง แต่พวกเราโชคไม่ดีเลยที่เจอน้ำขุ่น ถึงจะไม่คลั่กเท่าแสมสาร สัตหีบ แต่ก้อทำให้ไม่เห็นอะไรซักเท่าไหร่ ก้อเลยหนักเล่นกันเองซะมากกว่า ว้า... คอนโดกุ้งมังกร สงสัยต้องมาซ่อมคราวหน้าซะละมั้ง



ปลาการ์ตูนส้ม-ขาว (Clown Anemonefish)


แหล่งอาศัย: ทะเลอันดามันที่ความลึก 1-25 เมตร มักอยู่ร่วมกับดอกไม้ทะเลแบบพึ่งพาซึ่งกันและกัน อาหารคือแพลงก์ตอน


กิจกรรมดำน้ำของวันแรกเป็นอันสิ้นสุดกันที่เกาะมังกรแห่งนี้นี่เอง พอเรือถึงฝั่ง แก๊งเราก้อรีบจ้ำอ้าวไปอาบน้ำอาบท่าอย่างรวดเร็ว ก้อกะว่าจะเดินสำรวจหาดก่อนมื้อเย็นซักกะหน่อย อีกอย่างเรือเริ่มทยอยกลับฝั่งแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่า มัวชักช้าอาจได้ดองเค็มถึงกลางดึกอ่ะดี๊






เมื่อหิวโซซะขนาด ก้อเลยสวาปามมื้อเย็นกันซะ...อาหารหร่อยถูกปากเชียว สาบานได้ไม่ใช่เพราะหิว แต่รสชาดเผ็ดร้อนของแกงส้มปลา(ไรก้อไม่รุ)มันช่างปักษ์ใต้ซะจิงจิ๊ง หลังมื้อเย็นแล้วก้อต้องเดินย่อยซักเล็กน้อยก่อนเข้านอน กะลังเดินอย่างเพลิดเพลินใจ ไม่ทันไร ฝนดั๊น! เทลงมา 4 เกลอเลยพากันมุดเต้น เออ...นอนก้อได้ฟะ


ตื่นเช้ามาหน้าตาแจ่มใส เตรียมสัมภาระ กินมื้อเช้าแล้วลงเรือ วันนี้วาระเช้ามีดำน้ำ 2 จุด คือ อ่าวผักกาด และ อ่าวเต่า นั่งเรือหางยาวประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้ ก้อมาถึงที่หมายแรกของวัน อ่าวผักกาด อ่านชื่ออ่าวแล้วเดาว่า แรกเริ่มเดิมทีชาวเลที่นี่ทำสวนผักกาดก่อนผันตัวเป็นชาวประมง อุ๊ย! ม่ายช่ายนาค๊า เรื่องจริงมีอยู่ว่า ที่อ่าวนี้น่ะ แม้จะเป็นอ่าวเล็กๆ แต่ก้อเต็มไปด้วยสีสันใต้ท้องทะเลอื้อซ่าเชียวนะ ปะการังที่อ่าวนี้ส่วนใหญ่มีรูปร่างลักษณะคล้ายผักกาด ก้อเลยได้ชื่อว่า อ่าวผักกาด ด้วยประการละฉะนี้





ปลาผีเสื้อคอขาว (White-Collared Butterflyfish)


แหล่งอาศัย: เฉพาะทะเลอันดามัน ที่ความลึก 1-20 เมตร ชอบลอยตัวอยู่เป็นฝูงใต้ปะการังแผ่นขนาดใหญ่ อาหารคือแพลงก์ตอน


นอกจากอ่าวผักกาดจะเต็มไปด้วยปะการังผักกาดสมชื่อแล้วเนี่ย ถัดจากแนวปะการังผักกาดออกไปก้อยังเป็นดงของเขากวางอีกด้วย มีทั้งแบบก้านสั้นและก้านยาว(ชนิดของปะการังนะคะ ไม่ใช่พันธุ์ทุเรียน) ที่อ่าวผักกาดนี่ต้องเรียกว่า จิ๋วแต่แจ๋ว เพราะนอกจากปะการังจะอยู่กันอย่างหนาแน่นแล้ว ปลาทะเลสวยๆก้อมีไม่ใช่น้อย ที่เห็นๆเลยก้อเช่น ปลาสินสมุทร ปลาผีเสื้อก้อมีมาอวดโฉมเป็นดาราหน้ากล้องอยู่ 2-3 ฝูง






 


ปลาขี้ตังเบ็ดน้ำเงินหลังเหลือง (Powder-Blue Surgeonfish)


แหล่งอาศัย: ทะเลอันดามัน ที่ความลึก 2-40 เมตร ไม่พบในอ่าวไทย อาหาร คือ สัตว์และพืชเกาะติด





ปลานกแก้วแก้มเขียว (Greenthroat Parrot)


แหล่งอาศัย: ตามแนวปะการังทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน อาหารคือ ปะการัง สาหร่ายเคลือบ



เพลิดเพลินกับความงามของอ่าวผักกาดยังไม่หนำใจเลย โดนเรียกขึ้นเรือเพื่อไปจุดดำน้ำที่ 2 ของภาคเช้า นั่นคือ อ่าวเต่า ที่อ่าวนี้ดาราชูโรงจะเป็นอย่างอื่นไปเสียไม่ได้ ก้อชื่อมันก้อบอกอยู่แล้วนี่นะ ว่าต้องเป็นพี่เต่ากระ ดาราดังของอ่าวนั่นเอง นอกจากเต่ากระแล้ว ไกด์ว่า กระเบนราหูก้อมาเป็นแขกประจำของอ่าวนี้เหมือนกัน เคยมีนักท่องเที่ยวดำสน็อคเจอพี่หลามวาฬด้วย แต่คงนานมาแล้วล่ะ ก่อนหน้านี้มีหลายคนเคยยกให้เกาะตอรินล่าสวยมาวินอันดับหนึ่ง แต่หลังสึนามิ ต่างลงความเห็นว่าอ่าวเต่าสิเริ่ดสุด อืม...พวกเรายังไม่ได้ไปซะด้วยสิ ตอรินล่านั่นน่ะ เด๋วพรุ่งนี้เป็นรู้กัน ว่าเต่ากะตอรินล่า ที่ไหนจะแจ่มกว่ากันแน่



ปลาสาก (Baracuda) แหล่งอาศัย: อ่าวไทยและอันดามัน ที่ความลึก 1-100 เมตร เป็นปลากลางน้ำหากินบนพื้น อาหารคือปลาต่างๆ




ปลาไหลมอเร่ย์ (Giant Morey) แหล่งอาศัย: ตามกองหินทั้งอ่าวไทยและอันดามัน อาหารคือกุ้งและปลาขนาดเล็ก



ประทับใจค่ะ อ่าวเต่า ชอบมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะสวยมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่อ่าวนี้ก๊วนแก๊งเกิดแตกสามัคคี มีหายไปคนละทิศละทาง เพราะต้องมนต์แห่งท้องทะเล ขนาดคุณพี่บัดดี้ที่กลัวน้ำขึ้นสมอง ยังลืมตัวมัวแต่ชมความงามเบื้องล่าง จนลืมว่าตัวน่ะขี้กั๊วขี้กัว(ทะเล)แค่ไหน คุณพี่ตื่นเต้นชี้นิ้วให้ดูนั่นดูนี่วุ่ยวายไปโม้ดดด เอาว่าแค่ลอยตัวอยู่นิ่งๆ ทำตัวเสมือนปลาใหญ่ใจดี ซักพักก้อจะมีแสดงโชว์ใต้น้ำให้ดูเป็นระยะๆ


ซักประมาณ 11 โมง กิจกรรมดำน้ำภาคเช้าเป็นอันสิ้นสุด เรือพากลับฝั่งกินมื้อเที่ยง จากนั้นบ่ายโมงรวมพลอีกที รอบนี้ดำน้ำอีก 2 จุดที่ อ่าวจาก และ เกาะสตอร์ค


นั่งเรือประมาณ 40 นาทีเห็นจะได้ ไปยัง อ่าวจาก จัดว่าเป็นอ่าวที่อยู่ไกลที่สุดในบรรดาอ่าวทั้งหลายของหมู่เกาะสุรินทร์ อ่าวจากค่อนข้างใหญ่ ปะการังแยะ สูสีกับอ่าวสุเทพ(เราว่านะ) ถ้าใครชื่นชอบการชมสวนใต้น้ำล่ะก้อ น่าจะถูกใจอ่าวจากนะ ส่วนปลาที่อ่าวจากนี้ ส่วนใหญ่ประเภทปลาสวยงามตัวเล็กตัวน้อย ทริปเราที่อ่าวจาก ไม่ได้เห็นปลาตัวใหญ่เลย




ที่มีให้เห็นค่อนข้างเยอะ ก้อจำพวกปลาผีเสื้อคอขาวเจ้าเก่า(รูปซ้ายมือ) และปลาประจำหมู่เกาะสุรินทร์อย่างปลากุสลาดจุดฟ้า ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามแนวปะการัง(รูปเล็กของภาพข้างบน) มีปลาสลิดทะเลเหลืองตาดำ ร่วมด้วยปลาผีเสื้อเทวรูป(รูปล่าง)


ปลากุดสลาดจุดฟ้า (Squaretail Coralgrouper) แหล่งอาศัย: ทั้งอ่าวไทยและอันดามัน บริเวณแนวปะการังที่สมบูรณ์ อาหารคือปลาตัวเล็ก




ปลาสลิดทะเลเหลืองตาดำ (Blackeye Rabbitfish) แหล่งอาศัย: อ่าวไทยและอันดามัน พบเห็นได้ทั่วไปตามแนวปะการัง อาหารคือปะการังและพืชทะเล


ปลาผีเสื้อเทวรูป (Moorish Idol) แหล่งอาศัย: พบเฉพาะฝั่งอันดามัน ตามแนวปะการัง ที่ความลึก 1-40 เมตร อาหารคือ สัตว์น้ำเกาะติดขนาดเล็ก


ไม่ไกลจากอ่าวจากคือ เกาะสตอร์ค ที่หมายสุดท้ายของวัน ที่นี่น้ำทะเลใสกิ๊ก ตอนไปคลื่นนิ่งมาก ไกด์บอกว่า ที่เกาะสตอร์คนี้ มีนักดำน้ำเห็นพี่หลามวาฬบ่อยสุด ถ้าโชคดีแค่สน็อคผิวน้ำก้ออาจเจอ นอกจากพี่หลามวาฬแล้ว ไกด์ว่าแมนต้าก้อมีมาให้เห็นด้วยนะ พวกเราได้ยินงั้นก้อตื่นเต้นแต่ไม่คาดหวัง เพราะมั่นใจว่ามาเอาป่านนี้ มีโอกาสเจอแทบเป็นศูนย์ ถ้าจะให้หวังอีกที ปีหน้าอาจมาสกูบ้ามั่งดีกว่า





ปะการังส่วนใหญ่ก้อเหมือนอ่าวอื่นๆ ก้อน เขากวาง มีที่สีสันสวยงามเป็นหย่อมๆ ปลาเล็กปลาน้อยมีให้เห็นหลายๆฝูง ดำน้ำมาตั้งหลายอ่าวเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่มีรูปหมู่กัน ก้อเลยเอาซะโหน่ย


บ่ายสามโมงกว่าๆ นกหวีดก้อดังขึ้นอีกครั้ง เป็นสัญญาณรู้กันว่า times up แร่วจ้า ก้อต้องจำใจลาจากเกาะสตอร์คไว้แต่เพียงเท่านี้ กลับถึงฝั่งแล้วเวลาที่เหลือจากนี้ ก้อตามอัธยาศัยมุมใครมุมมัน เจอกันอีกทีเวลาดี อาหารเย็นตอนหกโมง ค่ำนี้มีทริปไฟลท์พิเศษ พี่ไกด์พาไปดูปูไก่ อยู่ไม่ไกลแต่ก้อต้องนั่งเรือออกไปเล็กน้อย ปูไก่เป็นปูอาศัยในน้ำจืดตามป่าใกล้ชายหาด ไอ้เรื่องไปดูปูก้อดีอยู่หรอกเพราะเกิดมายังไม่เคยได้เห็น แต่ที่ต้องส่องไฟฉายหรือยิงแฟลชเพื่อถ่ายรูปเนี่ยสิ มันสะเทือนใจไปนี๊ดนึงเหมือนกัน เพราะแสงไฟที่ส่องไปอาจทำให้ปูไก่ถึงตาบอดได้เลยนะ เพราะงั้นเราว่าดูเฉยๆก้อพอ หรืออยากถ่ายรูปก้อใช้โหมดกลางคืนซะหน่อยจะดีกว่า สงสารปู เค้าจะได้อยู่คู่ป่าคู่ทะเลไปนานๆ เนอะ รูปปูรูปนี้ ออกตัวเลยว่าไม่ได้ถ่ายเอง ขอรูปจากเพื่อนมาอีกที แค่เอามาให้ดูแต่ไม่ได้หนับหนุนเน่อ




เช้าสุดท้ายที่ อช.หมู่เกาะสุรินทร์ หลังอาหารก้อพร้อมกันที่เรือลำเดิม โปรแกรมแรกของวันนี้แวะที่ หมู่บ้านมอแกน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ก่อนสึนามิ ชาวมอแกนอาศัยอยู่บนเรือปลูกชายทะเล จนกระทั่งสึนามิได้หอบคลื่นยักษ์มาพัดเอาหมู่บ้านหายวับชั่วพริบตา ชาวมอแกนก้อเลยอพยพมาสร้างหลักปักฐานกันบนฝั่ง ดำรงชีพด้วยการทำประมง มีบ้างที่ทำหัตกรรมพื้นบ้าน ขายแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้าน ชาวมอแกนมีภาษาพูดเฉพาะถิ่น แต่ก้อมีบางคนที่พูดภาษายาวี ภาษาไทยก้อมีที่พูดให้ได้ยินอยู่บ้างเหมือนกัน




ใช้เวลาที่หมู่บ้านมอแกนไม่นานนัก ก้อโบกมือบ๊ายบายน้องนู๋มอแกนทั้งหลาย เพื่อไปดำน้ำอำลาหมู่เกาะสุรินทร์ที่ เกาะตอรินลา เค้าว่ากันว่า ถ้าไม่แวะเกาะตอรินลา ถือว่ามาไม่ถึงหมู่เกาะสุรินทร์ ที่เกาะแห่งนี้ ได้ยินไกด์เตือนอย่าห่างเรือ เพราะน้ำแรงอาจหลุดไปไกลได้ อ่ะฮ่า กลัวซะที่ไหน ไม่กลัวแต่ก้อไม่กล้าไปไกลร้อก หุหุ ตอรินล่าสมดั่งคำล่ำลือจริงๆ น้ำใส ปะการังสวย อุดมด้วยปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด แจ่มค่ะ




ปลาปักเป้าลายดำ (Black-Lined Blowfish)   แหล่งอาศัย: อ่าวไทยและอันดามัน บริเวณพื้นดินปนทราย  อาหารคือสัตว์ทะเลขนาดเล็ก


ปลาปักเป้าหน้าหมา (Spotted Pufferfish)   แหล่งอาศัย: พบบ่อยฝั่งอันดามัน อ่าวไทยพบเห็นน้อย อยู่ใกล้พื้นที่ความลึก 5-20 เมตร   อาหารคือ หอย กุ้ง สัตว์ขนาดเล็ก




ปลาอินเดียนแดงท้องเหลือง (Skunk-Striped Anemonefish)   แหล่งอาศัย: พบเฉพาะทะเลอันดามัน ที่ความลึก 3-20 เมตร มักอยู่รวมกลุ่ม 2-5 ตัว อยู่ร่วมกับดอกไม้ทะเลตามกองหินใต้น้ำ อาหารคือแพลงก์ตอน




ปลานกแก้ว (parrotfish)  แหล่งอาศัย: พื้นทะเลทั่วไปตามแนวปะการัง ที่ความลึก 1-20 เมตร  อาหารคือปะการังและสาหร่ายเคลือบ




ปลาการ์ตูนลายปล้อง (Clark's Anemonefish)  แหล่งอาศัย: เฉพาะทะเลอันดามัน พบเห็นได้ทั่วไปในแนวราบ แนวสัน และแนวหักชัน ที่ความลึก 1-55 เมตร ชอบอยู่รวมกลุ่มขนาดเล็ก 2-7 ตัว อยู่ร่วมกับดอกไม้ทะเล อาหารคือแพลงก์ตอน




ปลาการ์ตูนปานดำ (Red Saddleback Anemonefish)   แหล่งอาศัย: ทะเลอันดามัน ที่ความลึก 1-30 เมตร มักอยู่ร่วมกับดอกไม้ทะเลหนวดปมและปะการังเขากวาง อาหารคือแพลงก์ตอน




ปลาวัวไตตัน (Titan Triggerfish)   แหล่งอาศัย: ทะเลไทยทั่วไป ตามแหล่งสาหร่ายชุกชุม  อาหารคือปะการังและสาหร่าย




 


ที่ต้องเก็บเป็นความทรงจำมิรุลืมเลย คือการไล่กวดปลาวัวไตตัน ที่นักดำน้ำขนานนามว่า ปลาวัวอำมหิต นามนี้เจ้าได้แต่ใดมาฤา จากคำบอกเล่าปากต่อปากกันมาถึงความดุร้ายของปลาวัวชนิดนี้ ว่าหวงถิ่นยิ่งนัก ใครอาจหาญล่วงล้ำอาณาเขต ทั่นพี่อำมหิต ติดจรวดไล่กวดทันที อาจมีต้องสปีดหนีเป็นสิบๆเมตร แต่ ณ ตอนนั้น วันนั้น ไม่รุเรากะบัดดี้คู่ซี้ เกิดคึกบ้าไรกัน เห็นมันอยู่เงียบๆเรียบร้อย คิดว่าเอาน่าขอมีรูปไว้ประดับบารมีซักหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง โชคยังดีที่ทั่นอำมหิตวันนั้น เกิดเซื่องเชื่องอย่างไร้เหตุผล เรา 2 คน ก้อเลยรอดจากการจู่โจมทักทายสบายแฮ... อ๊ะๆๆๆ แต่ไม่ขอแนะนำให้ทำตามนะคะ ก้ออย่างที่บอก วันนั้นโชคดี แต่แบบนี้คงไม่ได้มีบ่อยๆ เพราะงั้นอย่าประมาทอาจดีกว่าค่ะ


เป็นอันว่า จบทริปดำน้ำกันไว้ที่เกาะตอรินล่า ที่สวยอย่างน่าพิศวงสมคำล่ำลือจริงๆ แล้วก้อเห็นด้วยเต็มร้อยเลยว่า ที่นี่คือสวรรค์ของการดำน้ำตื้นอย่างที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าคิดจะดำน้ำ โปรดอย่ามองข้ามหมู่เกาะสุรินทร์



เรือออกจากท่าเกาะสุรินทร์ตอนบ่ายสองครึ่ง พร้อมเมฆฝนกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ถึงคุระบุรี ระหว่างรอรถ บขส.กลับกรุงเทพฯ แวะกินอาหารตามสั่งร้านไม่มีชื่อแต่อาหารหร่อยเริ่ด ถามพนักงานที่ห้องขายตั๋วได้ ร้านนี้เป็นที่รู้จัก แต่ติดอยู่อย่าง เค้าทำอาหารค่อนข้างช้า ถ้าอยากกินให้หร่อยต้องเผื่อเวลาซักหน่อย ไม่งั้นนอกจากไม่หร่อยอาจกร่อยเพราะต้องรีบกิน


...และแล้วพวกเราทั้งสี่ ก้อเดินทางถึงกรุงเทพฯโดยสวสดิภาพกันทุกคน








Create Date : 28 สิงหาคม 2551
Last Update : 28 กันยายน 2551 0:22:56 น. 8 comments
Counter : 2783 Pageviews.

 
ทริปหมู่เกาะสุรินทร์ 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายคนละประมาณเท่าไหร่ ขอบคุณค้าบ



โดย: ม้านค้าบ IP: 202.149.24.161 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:23:15:55 น.  

 
ผมไปเดินงานท่องเที่ยวที่ผ่านมา ว่าจะซื้อทริปเกาะสุรินทร์อยู่เหมือนกัน แต่มันแพงอ่ะ เกือบๆ ห้าพันก็เลยเปลี่ยนใจ แต่พอมาอ่านเรื่องดูรูปของคุณ รู้สึกเสียดายที่เปลี่ยนใจไม่ซื้อครับ




โดย: ม้านค้าบ IP: 202.149.25.234 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:23:21:51 น.  

 

ตอนเราไป แพ็คเกจคนละ 3000 รวมทุกอย่าง ยกเว้นค่าเดินทางจาก กท.ถึงคุระบุรีค่ะ ตอนงานท่องเที่ยวก้อไปลองถามๆราคาดูเหมือนกัน เลยรุว่าราคาแพงขึ้นเป็นพัน เค้าว่าเพราะน้ำมันแพงอ่ะค่ะ




โดย: LoveError วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:11:20:46 น.  

 
ภาพสวยงามครับ


โดย: ลุง500 IP: 125.24.183.142 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:13:18:11 น.  

 
Hello hello,
Mai Chuan Tu Mung Loeyyyy :(
I won't miss it for a next trip!
Miss ya,
A+


โดย: Ped Jung IP: 125.24.4.240 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:20:43:54 น.  

 
ใต้ท้องทะเลนี่น่าเที่ยวน่าดูมากเลยครับดูสวยงามทุกแห่งปลาก็สวยประกาลังก็งาม

ขอบคุณครับที่แบ่งปันความรู้แบ่งปันรูปสวยๆสถานที่เที่ยวได้สัมผัส


โดย: อนันต์ครับ วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:8:52:38 น.  

 
ยิ่งกว่า สารคดี แต่มีสีสันกว่า


โดย: oh_my_ip IP: 124.121.184.42 วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:13:14:16 น.  

 
สวยดีจังเลยครับ
ขอบคุณนะครับที่ลง URL ไว้ให้
ผมก็อยากถ่ายใต้น้ำ แต่ไม่มีกล้องที่จะถ่ายใต้น้ำหนะ แถมอยู่ในน้ำนานๆแล้วปวดหัวครับ


โดย: Max Guy IP: 124.120.156.45 วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:16:28:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LoveError
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





No title

 

 

 


Friends' blogs
[Add LoveError's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.