พื้นที่เล็กๆ:เราใช้จ่ายไปด้วยกัน
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2553
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 

บ้านเก่า





“ไม่ ได้เหงา แต่มีเวลามากเกินไป” ได้ยินเพื่อนบางคนบ่น
ฟังแล้วให้รู้สึกว่า โลกนี้ช่างไม่มีความพอดี
คนที่ว่างก็ว่างเหลือเกินจนไม่รู้จะเอาเวลาไปทำ อะไร คนที่ยุ่งก็ยุ่งจนไม่มีเวลาจะไปทำอะไรเหมือนกัน

ในวัย เด็กเราไม่เคยรู้สึก “เหงา”
และเราไม่เคยรู้จักคำว่า “ว่าง” ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเป็นช่วงวัยที่เรามีเวลาเหลือเฟือกับชีวิตในแต่ละวัน
เลิก เรียนก็เร็ว เสาร์อาทิตย์ก็หยุด ไหนจะมีช่วงปิดเทอมอีกเป็นเดือน
แต่ทำไม เราไม่เคยได้ยินเด็กสักคนเลยบ่นว่า เหงา หรือ มีเวลาว่างมากเกินไป ใน วัยนั้นเราสามารถอยู่กับตัวเองได้ ไม่มีเพื่อนเล่น
เราก็สามารถหยิบ ตุ๊กตุ่นตุ๊กตามาสร้างโลกจินตนาการของเราอยู่คนเดียวได้

เป็น ช่วงเวลาที่เราไม่จำเป็นต้องมีสุขเหลือล้น
หากก็ไม่เคยสำลักความทุกข์

บ้าน หลังเก่าของฉันจัดอยู่ในย่านชานเมืองกรุง
หลังบ้านเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ สุดลุกหูลูกตา ระหว่างบ้านกับทุ่งนี้คั่นด้วยบ่อน้ำเล็ก
ๆ ที่เต็มไปด้วยปลาช่อน ปลาหมอ ปลากัดลูกหม้อ ปลากระดี่ หรือปลาดุก รอบ ๆ
บ้าน รายล้อมไปด้วยต้นมะพร้าว มะม่วง และต้นไม้ใหญ่สารพัดสารพัน
แต่ฉันก็เติบ ใหญ่ขึ้นมาโดยที่ปีนต้นไม้ไม่เป็นเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นต้นอะไร
บ้าน เราเป็นครอบครัวใหญ่ มีทั้งตายาย ลุง น้า ชีวิตในวัยเด็กของ เราก็ช่างมีอิสระ
ด้วยว่าแม่ก็ต้องออกไปทำงาน ยายก็ต้องออกไปขายของ หลังเลิกเรียนฉันและน้อง ๆ
จึงถูกปล่อยให้อยู่กับตา ซึ่งตาก็จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน เราจึงเป็นอิสระเท่าที่จะมีได้ในวัยนั้น

หลัง บ้านเรามีเฉลียงไม้ใต้ต้นฝรั่งขี้นก มีกรงกระต่าย 1 ตัว หนูตะเภา 2 ตัว และนกแก้ว 2 ตัว มีกระรอกอาศัยอยู่บนต้นฝรั่งขี้นกที่ฉันเห็นบ่อยจนทึกทักเอาเองว่าจำมันได้
และ รู้สึกว่า “เรา” รู้จักกัน ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะเป็นคนละตัวก็ได้ เราตั้งชื่อกระต่ายว่า
ไอ้ขาว ด้วยความที่ตัวมันขาวจั๊วนั่นเอง หนูตะเภาตัวหนึ่งชื่อ “ซื่อ” อีกตัวชื่อ “บื้อ”
น้าเป็นคนตั้งให้ ตลกดีเวลาเรียก ส่วนนกแก้วเราก็เรียกมันว่า “ไอ้แก้ว”

จาก เฉลียงนี้มองออกไปจะเห็นฟ้าสีเข้มตัดกับเขียวของทุ่งหญ้ากว้างไกล
มีทิว มะพร้าวอยู่ลิบ ๆ หากไม่ไปช้อนปลา หาตั๊กแตน หรือเล่นดีดลูกแก้ว ฉันมักใช้เวลาอยู่ตรงนี้ครั้งละนาน
ๆ ป้อนหญ้าให้หนูตะเภา กระต่าย และนั่งดูนกแก้วกินพริก ปนความสงสัยทุกคราว่ามันไม่รู้สึกเผ็ดบ้างหรือไร
แดด อ่อนลมพัดมาจากทุ่งเย็นสบาย บางคราก็นั่งมองสีเขียวของใบไม้ ที่เขียวต่างเฉดกันไปในแต่ละใบ
หรือจะนอนมองเมฆบนฟ้า ที่ถูกลมพัดพา จินตนาการเป็นสัตว์ต่าง ๆ นั่นช้าง โน่นปลาวาฬ
ตรงโน้นมังกรไง ฉันเคยเถียงกับน้องแทบเป็นแทบตายเรื่องเมฆที่ฉันเห็นเป็นลิง
ส่วนน้อง เห็นเป็นปลาวาฬ

กับ น้อง ๆ เราชกต่อยกันบ้างบางครั้งด้วยอารมณ์แบบเด็ก
ๆ มีทั้งแย่งของเล่น แย่งกันให้อาหารกระต่าย แย่งที่นั่งหน้ากรงนกแก้ว เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่ยอมพี่น้องก็เลยชกกันเอง
ตัวฉันนั้นก็เก่งแต่กับ น้อง แต่กับเด็กนักเลงแถวบ้านนั้นฉันกลัวจนแทบไม่มองหน้าเลยเวลาเดินผ่าน
กลัว โดนไถเงิน ไถลูกแก้วหรือรูปลอกบ้าง จนไม่กล้าสบตาเวลาผ่านพวกมัน

ช่วง นั้นเด็ก ๆ
กำลังบ้าติดสติ๊กเกอร์ดราก้อนบอล
เราซื้อกันเป็นบ้าเป็น หลังโดยไม่รู้ตัวเลยว่าของรางวัลที่แลกนั้นมีราคาถูกกว่ารูปลอกที่เราซื้อ กันตั้งเยอะ
แต่มันสนุกตอนแกะกล่อง แล้วต้องลุ้นว่าจะได้ใบอะไร ใช่ใบที่ตามหาอยู่หรือไม่ ส่วนใบที่ได้ซ้ำบ่อย
ๆ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรฉันก็เอาไปติดโต๊ะเล่น ติดจนเต็มไปหมด ทุกวันนี้โต๊ะตัวนั้นยังเก็บอยู่ที่บ้านยาย
ทุกครั้งที่มองเห็นรูปลอกขาด วิ่นสีซีดบนโต๊ะตัวนี้ ฉันมักเห็นภาพในตอนนั้น

ใบไม้ แห้งเหี่ยวและผลิใบ เวลาเคลื่อนผ่าน
ฤดูร้อนมาถึงมะม่วงข้างบ้านออกลูก ยายใจร้อนเก็บมาบ่มในโอ่งให้สุกเร็ว ๆ ฉันชอบเอามะม่วงสุกมาหั่นใส่น้ำแข็ง
กิน แล้วเย็นชื่นใจ ฝนแรกผ่านมาหลังจากนั้น น้ำในบ่อล้นเอ่อ เราถือบุ้งกี๋ออกไปจับปลาหมอที่ตื่นน้ำใหม่โดดพรวดพราดขึ้นมาจากบ่อให้จับ ง่าย
ๆ บางปีฟ้าไม่รู้เอาน้ำมาจากไหน ฝนตกจนน้ำจากคลองหน้าบ้านท่วมลอดใต้ถุนจนมาบรรจบกับบ่อหลังบ้าน
ช่วงนี้ เราจะเห็นตะกวดมากมาย กำลังเล่น ๆ น้ำอยู่ พอเห็นตะกวดก็ให้ตกใจกระโดดขึ้นท่ากันแทบไม่ทัน
แม้เราจะเห็นมันไกลถึงคน ละฝั่งคลอง

พ้น ไปลมหนาวพัดมาตามเวลา ไม่เหมือนสมัยนี้
หนาวสมัยนั้นเราต้องใส่เสื้อกัน หนาวไปโรงเรียน บางวันฉันไม่ใส่เสื้อนักเรียน
ใส่เสื้อกันหนาวตัวเดียว รูดซิปจนถึงคอ ตกเย็นเราจะเก็บหญ้ามาสุมใส่กรงหนู
กรงกระต่าย ให้มันซุกกันหนาว เสร็จแล้วเอาขนมมานั่งกิน มองพวกมัน มันก็มองเรา
เบื่อ ๆ ก็นั่งมองฟ้าโปร่งจินตนาการไปถึงมนุษย์ต่างดาวที่เคยดูในโทรทัศน์

ใบไม้ แห้งเหี่ยวและผลิใบ เวลาเคลื่อนผ่าน
ฤดูร้อนมาถึง เมฆฝนผ่านไป เราไม่เคยฉุกคิดเลยว่าสักวันมันจะผ่านพ้นไป
เวลานี้จะมีเพียงครั้งเดียว ในชีวิต ก่อนแปรเปลี่ยนไปเป็นความทรงจำ

ใน หนาวหนึ่งนั่นเอง
ฉันตื่นขึ้นมาเพื่อจะไปโรงเรียน ได้ยินลุงบอกว่าไอ้ขาวตายแล้ว
ฉันรีบลุกไปที่ชานหลังบ้าน กรงกระต่ายว่างเปล่า เหลือบมองไปข้างกรงเห็นตะกร้าเล็ก ๆ ไอ้ขาวนอนนิ่งอยู่ในนั้น ฉันเอามือลูบหัวมัน เหม่อ มองอย่างว่างเปล่า

ฉันรู้จักความเศร้าจริง ๆ ก็วันนั้น




 

Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
6 comments
Last Update : 22 พฤษภาคม 2553 11:04:52 น.
Counter : 1099 Pageviews.

 

อ่านแล้วอุ่น
ชอบจิงๆ

 

โดย: ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว IP: 69.171.163.187 22 พฤษภาคม 2553 13:46:32 น.  

 

เข้ามาอ่านค่ะ เห็นภาพเลยชอบจังค่ะ

 

โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ 22 พฤษภาคม 2553 14:27:06 น.  

 

เห็นเป็นฉากๆเลยค่ะ
ตอนเด็กๆชอบสะสมสติกเกอร์
จากขนมเหมือนกัน ทุกวันนี้ยังอยู่เลยค่ะ ตามตู้เย็นบ้าง ในกล่องบ้าง เห็นก้อนเมฆแล้วจินตนาการเป็นนั่นเป็นนี่ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ค่ะ (ครั้งนึง เกือบขึ้นรถเมล์ไม่ทัน
ก็เพราะมัวยืนดูเมฆนี่แหละค่ะ)^_^

 

โดย: miss winter 22 พฤษภาคม 2553 16:41:01 น.  

 

สวัสดีจ้า น้องแปง ข่าวคราวเงียบหาย

 

โดย: ธีรนร (tirannor ) 22 พฤษภาคม 2553 17:38:43 น.  

 

 

โดย: Nor@ZetH 23 พฤษภาคม 2553 9:14:56 น.  

 

คำเดียวว่า...

คิดถึง...

 

โดย: แดน IP: 202.12.74.246 27 มิถุนายน 2553 20:51:15 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


pangz
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทฤษฎีมีอยู่ว่า...คนเรามีสิทธิ์พบกันและใช้ชีวิตร่วมกัน
อาจจะ3ปี 50ปี 1นาที หรือ 1วินาที ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อน ศัตรู คนรัก พ่อแม่ หรือแม้แต่ตัวเอง ยังไงพวกเขาก็ต้องจากกัน...บางทีก็ดีใจ บางทีก็เศร้า
(ควันใต้หมวก/วิศุทธิ์ พรนิมิตร)
Friends' blogs
[Add pangz's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.