กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
11 กันยายน 2555

ณ วัดหนึ่ง กลางป่า

ความตั้งใจเดิมจะเขียนรีวิวเกี่ยวกับโรงแรมเล็กๆ ที่ได้บังเอิญ เรียกว่าบังเอิญไม่ได้ ตั้งใจจะไปพักที่นี่แหละเพราะเนื่องจากอยู่ในเมือง เดินทางสะดวก และราคาย่อมเยาว์ยิ่งสำหรับเราที่เป็นผู้หญิงเดินทางไปต่างเมือง อย่างน้อยก็ขอให้เดินทางสะดวกและก็มีความปลอดภัยพอสมควร ยังไม่บอกนะคะว่าที่ไหนเพราะตอนนี้ความตั้งใจเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ใช้ความว่าบังเอิญได้แล้ว เนื่องจากไม่ได้อยู่ลิสต์การเดินทางแต่แรกใกล้จะกลับเจ้าภาพเห็นว่าชอบทำบุญ จึงอาสาจะพาไปไหว้พระ ทางเราก็คิดว่าคงจะใกล้ๆ ก็ไป ไม่ได้สอบถามอะไรมาก เพราะไปในฐานะผู้ติดตามเขาไปไหนเราไปด้วย เหมือนเดิมที่บอกไว้เสมอ เล่าเหมือนเพื่อนเล่าสู่กันฟังนะคะ

ทางที่เราจะไปต้องผ่านที่นี่คะ แวะสักหน่อยนะ นิดหนึ่งแบบว่าชะโงกทั่ว ณ ตอนนี้เวลาประมาณ 11 โมงเช้า


สวยไหม


ถนนนี้ไปไหนไม่ทราบได้ มีเหล็กกั้นไม่ให้รถเข้าแต่ถ้าเดินทางผ่านได้คะ นักท่องเที่ยวน้อยคะ แดดจ้า ร้อนดีเลย แต่ก็ยังสวยอยู่

ชมวิวกันไปเรื่อยๆนะคะ ชะโงกทัวร์คะ น้ำใส่เชียว


 ทำไมถึงเรียกกุ้ยหลินเมืองไทย คงเพราะภูเขาเหมือน


ถ้าเปรียบที่นี่เป็นหญิงสาวก็ต้องบอกว่าสวยทุกมุม

เคยอ่านประวัติก่อนสร้างเขื่อนฟังแล้วเศร้า เอ้าเกือบลืมบอก เลยประตูใหญ่หน้าเขื่อนออกมาแล้วกำลังจะลงเขาจะมีขายพวกปลาสด เขาแวะกันเราในฐานะผู้ติดตามก็แวะด้วย มีขายปลาสด กะปิ เห็นชมกันใหญ่บอกว่าหอมมาก ทำจากกุ้งล้วน ไม่ผสมแป้ง ขายในราคา โลละ 120 บาทตามสไลต์หญิงงกอย่างเราต่อไป 100 ถ้วน แม่ค้าอ้ำอึ้งสักพัก ก็ได้ งั้นจัดมา 5 โล บอกไว้ก่อน เพื่อนๆที่รักของฝากงวดนี้กะปิเท่านั้น (อร่อยหรือเปล่าไม่รู้ยังไม่ได้ชิม แต่แค่อยากบอกว่า ถ้าแพงกว่านี้อย่าซื้อ)


นั่งรถไปเรื่อยๆยังไม่มีวีแววว่าจะถึง พวกบนรถก็หลับๆตื่นๆ เราเองหลังจะตื่นเต็มตาก็นั่งตาแป๋ว คิดว่าเมืองไทยเราทำไมสวยจัง ผ่านป่า ผ่านเข้า ขับรถจากถนนใหญ่ เข้าถนนย่อย แล้วก็ย่อยอีกข้างทางมีแต่ป่ายาง นานจะเจอบ้านคน นานจะเจอรถสวนมา คิดว่าถ้ามาเองจะมาถูกไหม สักพัก เราก็เห็นประตูวัดแบบนี้คะ ทำจากอิฐสีชมพู


ตรงกลางลานวัด

หันมาทางด้านซ้ายเป็นศาลาขนาดใหญ่

ถ่ายใกล้ๆ อยู่กลางป่า กลางเขาแบบนี้ แต่พื้นสะอาดมันแว้บ ศาลาปล่อยโล่ง ตอนนี้ประมาณ บ่ายสองแล้วคะ  แดดจัด แต่ลมแรงเชียว

เข้ามาในศาลาก็เจอหลวงพ่อนั่งอยู่ ก็เข้าไปกราบท่าน ท่านก็เมตตาเล่าประวัติวัดให้ฟัง ทราบว่า เมื่อก่อนที่ตรงนี้เป็นฐานคอมมิวนิสต์เก่า ต่อมาก็เป็นที่สงวนของหมู่บ้านท่านธุดงค์มาเห็นว่าเงียบสงบเหมาะกับการปฏิบัติ ท่านก็สอน หลายอย่าง ขณะท่านเทศน์สอน เราก็หันไปถ่ายนั่นถ่ายนี้ฟังได้ไม่ปะติดปะตอ มีช่วงหนึ่งจับใจความได้ว่าท่านเทศน์บอกว่า ชาตินี้ได้เกิดเป็นคน ยังไงก็ทำต่อไปให้ได้เป็นมนุษย์ ทรัพย์สินเงินทอง เอามาก็แก้ทุกข์ไม่ได้ อยากแก้ทุกข์ให้แก่ที่ใจ นรก สวรรค์มีจริง ฤทธิ์มีจริง แต่ก็แก้ทุกข์ไม่ได้เหมือนกัน พอท่านเล่าถึงตรงนี้หูผึ่ง ชอบฟังจัง เลยถามท่านว่าระลึกชาติได้มีจริงไหมคะ ท่านหันมาถามว่าอยากจะรู้ไปทำไม มันไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่ถ้าถามก็บอกว่ามี สมัยท่านยังไม่ได้บวชพอจิตมันรวมก็เห็น ทำให้เกิดความกลัว กลัวนรก เทวดาก็มีที่วัดนี้เยอะแยะ เรื่องฤทธิ์ ได้มาก็ทำให้พ้นทุกข์ไม่ได้ เหมือนโยมจะไปกรุงเทพยังไงก็ต้องผ่าน ชุมพร หลังสวน ฤทธิ์ก็เหมือนกันเป็นทางผ่าน แต่บางคนก็ติดอยู่ ไปไม่ถึงจุดหมาย


หลังจากนั้นท่านก็เมตตา พาไปชมวัด เดินอ้อมศาลามา เจอนี่คะ

เป็นต้นตะเคียนล้มพิงภูเขา จึงเป็นที่มาของคำว่า เคียนพิง


ลองดูนะว่าพิงเขาจริงไหม ซูมคะ เห็นเหมือนรอยไม้แตก คิดเองว่าตอนล้มคงแรง ปลายไม้แตก
ละเอียด แต่ต้นไม่ตาย ยังแตกต่อ

อีกรูป

และอีกรูป

แต่ต้นยังไม่ตายไปแตกต่อ

ด้านล่าง ถามท่านว่าล้มนานแล้วหรือคะ ท่านก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน มีอยู่ก่อนท่านมา ถามชาวบ้านเขาก็บอกว่าเกิดมาก็เห็นแล้ว

ข้างต้นมีป้ายนี้แสดงว่าคงเคยมีคนมาขอหวย

เจอตอไม้ที่ถูกตัดก็ถามท่านเมื่อก่อนมีพวกลักตัดไม้หรือคะ ท่านบอก ฉันให้ตัดเอง ต้นนี้มันใหญ่ไปเบียดต้นตะเคียนเป็นแผลใหญ่ฉันก็ต้องเลือกที่จะรักษาสัญลักษณ์ของวัดไว้


ดูบนนั้นสิเราก็ซูมๆ เอ้อใหญ่จริง

เราไปกันต่อคะขึ้นเขาหน่อย

เดินตามกันไป

ระหว่างทางเจอนี่คล้ายๆ มะพร้าวแต่ไม่ใช้ ยังอ่อนอยู่สีเขียว เหมือนมะพร้าวเปล่า

อันนี้แก่แล้ว

ทางเดินก็เลาะริมเขาไป

ไปถึงมีทางแยกไปซ้ายกุฏิพระสงฆ์ เดินลงไปเราจะไปถ้ำ

พวกเราเดินลงคะ เนื่องจากตอนนี้มี ที่กุฏิมีพระสงฆ์อยู่ สีกาไม่ควรเข้าไป


ด้านหลังพระเป็นทางไปถ้ำ แต่พวกเราไม่ได้ไปคะ เพราะต้องเดินทางไต่บรรไดไม้ไปอีก ประมาณครึ่งกิโล พวกเราต้องรีบไปที่อื่นก็เลยคิดว่าไม่ไปดีกว่า บ่ายกว่า แต่ยังร่มรื่นย์ ไม่ร้อน


ทางที่จะไปกุฏิพระก็ต้องขึ้นบันไดไม้ไปสูงคะ

ระหว่างนั้นก็มีเจ้านี่โผล่มา หมาวัด น่ารักเชียว หลวงพ่อบอก มันหลงมา


กลับทางเดิมเลียบริมเขาไปเรื่อยๆ  อยู่ในวัดสงบจัง

ต้นอะไรไม่รู้ขึ้นอยู่ตลอดทาง

กล้วยอะไรคะใช่กล้วยป่าไหม คงไม่ใช่กล้วยปลูก เพราะขึ้นอยู่ริมผา

ลงเขามายังสงสัยเรื่องต้นตะเคียน มองไม่เห็นยอด ก็ซูมเอาแล้วดูจากกล้อง ต้นไปแตกต่อบนเขาจริงๆด้วย

เดินเลยจากเขามาเป็นส่วนของที่พักแม่ชีและผู้หญิงคะ

โล่งโปรง กุฏิอยู่กลางสวนยาง

อีกหลัง


นี่ก็ใช่

นี่ด้วย

อันนี้น่าจะเป็นห้องน้ำ

เจอแม่ชี ท่านอนุญาตให้ขึ้นมาข้างบน  เรียบง่าย มีแค่นี้

ทางเดินออกไประเบียง

 ถ่ายจากบริเวณระเบียง

หลังนี่คะที่เราเข้าไป ยังไม่เสร็จเรียบร้อย อันนี้สำหรับแม่ชี หรือ ผู้หญิงอยู่แยกสัดส่วนกันชัดเจน พระจะอยู่ขึ้นไปบนเขา ทางที่เมื่อกี้เราไปกัน ผู้หญิงอยู่ด้านล่างเลยออกมาเยอะ


เดินผ่านต้นนี้สวยดี ต้นอะไรเอย

กำลังก่อสร้างฐานวางเป็นอิฐสีชมพูคะ เห็นท่านบอกไม่รีบโยม ช่วงไหนมีก็สร้าง ช่วงไหนไม่มีก็หยุด

กลับไปลาท่านจะกลับแล้ว ท่านก็เมตตามอบหนังสือธรรมะกับพระให้ ท่านก็บอกว่า บารมีมีกันทุกคนมากน้อยแตกต่างกันไป แต่เราสร้างได้ ท่านชี้ไปที่หน้าอกท่านหมั่นทำให้มันสม่ำเสมอโยม แล้วจะรู้จะเห็นเอง ไม่ต้องให้ใครมาบอก ทำทุกวันนะโยมเริ่มเลย เราก็มัวแต่ถ่ายรูปดูน้องหมาตามหลวงพ่อท่านตลอด แต่มีมารยาทคะ จะอยู่ไกลๆ ไม่วุ่นวาย หลวงพ่อหันมา เอาโยมคนนี้ ก็มัวแต่ถ่ายรูปมาเอา เอ้าเอาไป  ก็ค่อยๆ วางกล้องลง คลานเข้าไปรับ


กลับออกมาขอถ่ายน้องหมาอีกสักที


ลาไปแล้วด้วยรูปนี้หลังศาลา เป็นต้นตะเคียนคะ ใครได้ผ่านไปแวะดูคะ ก่อนกลับท่านยังบอกมีเวลามาปฏิบัติที่นี่ก่อนได้ ไม่สะดวกให้ทำที่บ้าน สำคัญต้องทำสม่ำเสมอ แต่วัดนี้เหมาะมากสำหรับการปฏิบัติ เป็นสถานที่สัปปายะ อากาศดี ข้างๆเป็นสวนยาง รอบๆเป็นเขา ก็เป็นป่าแบบทางใต้ แบบดิบชื้น อากาศเลยไม่ร้อน ยังถามท่านท่านบอกที่นี่อากาศเย็นๆ กลางคืนก็ไม่หนาวมาก กลางวันก็ไม่ร้อนมาก

เคยคิดว่าถ้าอยากจะหาวัด ที่วิเวก สงบ เหมาะแก่การปฏิบัติ ต้องเป็นทางภาคอีสาน วันนี้เห็นว่าภาคใต้ก็มีวัดแบบนี้คะอากาศทางใต้จะเย็นๆ เหมาะมาก สำหรับผู้เริ่มต้น ฝึกใหม่ จิตใจที่พยศ ฝึกยากห่างไกล ผู้คนและความเจริญ จะสงบระงับได้เร็ว สถานที่พร้อมแล้ว อาจารย์ที่จะสั่งสอนก็มีแล้ว ขาดแต่เราพร้อมที่จะก้าวหรือยัง




Create Date : 11 กันยายน 2555
Last Update : 11 กันยายน 2555 23:30:01 น. 2 comments
Counter : 2583 Pageviews.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 12 กันยายน 2555 เวลา:7:35:14 น.  

 
ขออนุญาติเก็บภาพบางภาพนะค่ะ ถ่ายออกมาสวยมากค่ะ ถ้ามีโอกาสก็กลับไปเยี่ยมที่วัดอีกนะค่ะ


โดย: ่ำ่jeje IP: 118.175.95.99 วันที่: 5 กรกฎาคม 2556 เวลา:12:31:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สายลมยามค่ำคืน
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?]




แบ่งปันเรื่องราว เล่าสู่กันฟัง
โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง และโปรดใช้ถ้อยคำสุภาพในการแสดงความคิดเห็น
New Comments
[Add สายลมยามค่ำคืน's blog to your web]