อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กับ ตำนานสาวงาม
ก่อนหน้านี้พาไปเที่ยวเชียงแสน อย่างที่เกริ่นไว้ เจ้าเมืองเชียงแสน มีธิดางดงาม เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในความงาม ชื่อเสียงขจรไกลไปถึงเมือง “ภูกามยาว” หรือ พะเยา ในปัจจุบัน พ่อขุนงำเมือง หรือ พญางำเมืองเจ้าผู้ครองเมืองพะเยา ได้พบพักตร์เป็นครั้งแรก ก็ตกหลุมรัก สู่ขอมาเป็นชายาเคียงคู่ปกครองเมืองมาร่วมกัน
ความเห็นส่วนตัว เวลาที่เราไปเที่ยวที่ไหนก็ตามถ้าได้ทราบประวัติหรือเรื่องราว ของสถานที่นั้นๆจะทำให้การเที่ยวชมมีอรรถรสมากขึ้น อย่าเพียงแต่แวะชม ถ่ายภาพ แล้วกลับ การรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จะไม่ทำให้สิ่งที่พบเห็นเป็นเพียงแค่ความทรงจำแต่จะชัดเจนและจดจำได้แม่นยำ แม้เวลาจะผ่านเลย ไปเที่ยวเหนือคราวนี้ รู้สึกสนุกมากกว่าทุกครั้ง ซึ่งจริงๆก็ไปมาหลายครั้งแล้ว แต่ความรู้สึกที่ได้รับกลับมาไม่เหมือนกัน และสถานที่แต่ละแห่งก็มักมีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกันมา เข้าเรื่องนะคะ ก่อนที่พญางำเมือง จะขึ้นครองราชย์ ได้ไปร่ำเรียนสรรพวิชาที่ “ สำนักสุกทันตฤกษ์เมืองละโว้” หรือ ลพบุรีในปัจจุบัน มีเพื่อนรักร่วมสำนักเดียวกัน คือ “พญาร่วงแห่งสุโขทัย”หรือ ที่รู้จักกันทั่วไป ในพระนาม “พ่อขุนรามคำแหง” มีความสนิทชิดเชื้อไปมาหาสู่กันตลอดจนเส้นทางที่ใช้ดำเนินผ่านเป็นร่องลึก ต่อมาภายหลังรู้จักกันในนาม “แม่ร่องช้าง” ในสงกรานต์ปีหนึ่งพญาร่วง คิดถึงเพื่อนรัก จึงคิดจะไปเยี่ยมเยียน ให้โหรหลวงหาฤกษ์เดินทางโหรได้ทำนายว่า พระองค์ไปคราวนี้ จะเสียชื่อเสียเสียง เพราะเรื่องสตรี แต่พระองค์มิได้ใส่พระทัยอันใดยังคงยืนกรานตามเดิม เมื่อไปถึง พญางำเมืองก็ออกรับเสด็จอย่างสมพระเกียรติ “นางอั้วเชียงแสน” ชายาเมืองพะเยา ลงมือทำแกงอ่อมเลี้ยงแขกวีไอพี ด้วยตัวเอง
พญางำเมืองชิมแกงแล้วตำหนิว่า น้ำแกงเยอะไปรสชาดจืดชืด นางอั้ว ได้ยินน้อยพระทัยสามี ที่ตำหนิฝีมือต่อหน้าแขก ข้างฝ่าย พญาร่วงชิมแล้วชมว่าฝีมือการปรุงของนางนั้น เยี่ยมยอด ภายหลังถัดมา มีคนแอบเห็น พญาร่วงออกมาจากห้องของนางอั้ว เรื่องล่วงรู้ไปถึงหู พญางำเมือง มีเป็นตำนานพื้นบ้านที่เล่าสืบทอดกันมาว่า พญาร่วง แปลงร่างเป็นนกเอี้ยงหนี พญางำเมืองแปลงเป็นนกอินทรีไปตาม (ทั้งสององค์ ต่างก็มีวิชา อิทธิฤทธิ์ เก่งกล้า พอกันเพราะไปร่ำเรียนไปมาด้วยกัน)
ในที่สุดก็จับได้พญางำเมือง มิรู้จะทำเช่นไร หนึ่งคือเพื่อนรัก หนึ่งคือเมียรัก จึงได้เชิญ พญาเม็งราย ซึ่งตามศักดิ์แล้วเป็นพระญาติ สืบเชื้อสายเดียวกัน มาช่วยตัดสิน พญาเม็งรายตัดสินให้พระร่วง เสียเบี้ยปรับ เป็นจำนวน เก้าแสนเก้าหมื่นเบี้ย และทั้งหมดได้ กรีดเลือดให้คำสัตย์ต่อกันว่าจะรักใคร่ปรองดองกัน โดยทั้งสามกษัตริย์ได้ให้คำสัตย์ ณ ริมน้ำอิง (ตามตำนานเล่าว่าทั้งสามองค์นั่งหลังพิงกัน ต่อมาบริเวณนี้จึงถูกเรียกว่า แม่น้ำอิง) ต่อมาพญาร่วง ได้สอนคาถาอาคมให้ พญาเม็งราย ที่ริมน้ำอิงนี้เอง และ สถานที่พำนักของพระร่วงต่อมาเรียกว่า “วังกำ” ภายหลังพญาเม็งราย คิดที่จะสร้างเมืองใหม่ ซึ่งก็คือ เชียงใหม่ ในปัจจุบันได้เชิญพระสหายทั้งสอง มาร่วมกันปรึกษา วางแผน ก่อนกลับ พญาเม็งราย ได้คืนเมืองชายแดนที่ริบมาจาก พญางำเมือง คืนให้ พร้อมมอบ กลุสตรี หนึ่งนางให้เป็นชายา เรื่องชายาองค์ใหม่รู้ถึงหู “นางอั้วเชียงแสน” นางสั่งให้รีบจัดม้า ตามมาเชียงใหม่ หวังจะฆ่าชายาองค์ใหม่ให้สิ้น แต่นางอั้ว ได้เสียชีวิตระหว่างทาง เนื่องจากเสียใจ จนพระทัยแตก พญางำเมือง ทราบเรื่อง รีบเสด็จกลับมาทำพิธีตามประเพณี หลังจากนั้นได้ยกราชสมบัติ ให้พญาคำแดงราชบุตร ส่วนพระองค์เองทรงปล่อยวางกิจต่างๆ ไปพำนัก ณ เมืองพร้าว สิ้นพระชนม์เพราะหมดอายุขัย รวมพระชนม์ชีพ60 พรรษา พญาเม็งรายสิ้นพระชนม์ เนื่องจากอสนีบาต (ฟ้าผ่า) เมื่องพระชนม์เจ็ดสิบสามพรรษา พญาร่วงมิได้กล่าวไว้ว่าเสด็จสิ้นพระชนม์ เมื่อมีพระชนม์เท่าไหร่ (หรือเราหาไม่เจอเอง) ปล.รูปภาพเหล่านี้ ขอยืมมาประกอบเรื่องนะเจ้า ขอบคุณที่ติดตามคะ
Create Date : 26 ตุลาคม 2555 |
Last Update : 27 ตุลาคม 2555 2:20:54 น. |
|
3 comments
|
Counter : 7944 Pageviews. |
|
|
|