Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
26 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

9 วัด ในเมืองนนฯ

     ทริปไหว้พระ 9 วัดในจังหวัดนนทบุรี ได้รับการสนับสนุนจาก อบจ.นนทบุรี การเดินทางในครั้งนี้ไปกับหมู่บ้านของน้องสาว วัดแรกของการทำบุญ คือ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ รถสองแถวที่รับมาจากหมู่บ้านนำพวกเรามาส่งที่นี่ หลังจากนั้นก็ต้องมีการลงทะเบียนกันก่อนที่จะลงเรือ เรือโดยสารที่นี่มีเป็นรอบ ออกทุก1/2 ชั่วโมง ได้ลงเรือรอบ 10.30 ระหว่างที่รอเรือออกก็ไหว้พระในโบสถ์ไปก่อน พึ่งสังเกตเห็นว่าที่วัดนี้ไม่มีช่อฟ้า




     เหลือเวลาอีกตั้งนานกว่าเรือจะออก หาข้าวเช้ารองท้องก่อนดีกว่า ที่นี่จะมีตลาดริมน้ำ ผลไม้ราคาถูกอย่างมาก แถมได้ของสวนแท้ๆ อีกต่างหาก เสียดายที่ไม่ใช่หน้าทุเรียน
     เส้นทางการเดินทางไหว้พระในครั้งนี้ ประกอบด้วย วัดใหญ่สว่างอารมณ์ วัดเสาธงทอง วัดไผ่ล้อม วัดปรมัยยิกาวาส วัดฉิมพลี วัดกลางเกร็ด วัดเชิงเลน วัดท่าอิฐ วัดแสงสิริธรรม ระหว่างที่นั่งรอเรือมาเทียบท่า จะมีวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติของวัดต่างๆ จำไม่ค่อยได้ เพราะสนใจแต่ถ่ายรูป สงสัยต้องกลับไปฟังเค้าเล่าใหม่


     เดินสำรวจบริเวณท่าน้ำ แดดกำลังดี ได้แต่ภาวนาในใจขอให้เป็นอย่างนี้ไปทั้งวันทีเถอะ ในที่สุดเรือก็มาเทียบท่า แต่ไม่ใช่ลำที่เห็น เป็นเรือที่ใหญ่กว่านี้ มี 2 ชั้น ขึ้นไปนั่งที่ชั้น 2 เห็น 2 ฝั่งของแล้ว ก็ได้แต่นึกในใจว่าอยากมีบ้านอยู่ริมน้ำกับเค้าบ้าง


     ก่อนหน้านี้เคยมาเที่ยวเกาะเกร็ดครั้งเดียว เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ได้นั่งเรือรอบเกาะ บ้านหลังที่มีเครื่องบินก็เคยเห็นแล้ว แต่พึ่งรู้ในครั้งนี้ว่า แต่ก่อนบ้านหลังนี้เคยเป็นร้านอาหาร แต่ตอนนี้เลิกไปแล้ว เห็นไกด์บอกว่าอย่างนั้น


     เรือที่โดยสารมาส่งเราและชาวคณะที่ท่าเรือของวัดเสาธงทอง จากจุดนี้สามารถเดินเท้าต่อไปยังวัดไผ่ล้อมและวัดปรมัยยิกาวาสได้

     บนซ้ายต้นยางที่วัดเสาธงทอง เห็นแล้วน่ากลัวดี วัดเสาธงทอง เดิมชื่อ "วัดสวนหมาก" สร้างโดยชาวรามัญสมัยกรุงธนบุรี ต่อมาสมัย รัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาอำภา ในรัชกาลที่ 2 และกรมหมื่นภูบาล กรมขุนวรจักร ได้มาปฏิสังขรณ์ให้ถาวรยิ่งขึ้นและเปลี่ยน นามวัดใหม่ว่า "วัดเสาธงทอง"
     ถัดลงมาด้านล่างคือ พระพุทธรูปในพระอุโบสถในวัดเสาธงทอง สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมต้องมีบันไดที่ด้านช้างด้วย
     บนขวาวัดไผ่ล้อม สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย ที่ด้านหลังวัดจะมีเจดีย์ชเวดากองจำลองตั้งอยู่

     จากวัดไผ่ล้อมจะมีทางเดินเล็กๆ สำหรับไปวัดปรมัยยิกาวาส ซึ่งจะมีของขายทั้ง 2 ข้างทาง ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คงหนีไม่พ้นทอดมันหน่อกะลา กับผักประหลาดชุบแป้งทอด และก็ได้ความรู้ใหม่กลับมาว่า ที่ใครต่อใครเรียกว่าหน่อะลานั้น มันไม่ได้เกี่ยวกับมะพร้าวแต่อย่างใด ตอนแรกคิดว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของจาวมะพร้าว แต่พอได้ถามคนที่นี่แล้วปรากฎว่า เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงษ์ขิง ข่า คนที่นี่นิยมนำไปต้มจิ้มกับน้ำพริก ลองซื้อกลับมา 2 กำ รสชาดก็แปลกๆ สำหรับคนที่กินผักค่อนข้างยากอย่างเรา มันเหมือนขมิ้น


     นอกจากของกินแล้ว ยังมีของใช้ ของตกแต่งมากมาย มีอยู่หลายร้านที่น่าสนใจ ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสจะกลับไปนั่งกินขนมจีนที่เกาะเกร็ด วันที่ไปเป็นวันเสาร์ โชคดีที่คนไม่มาก เดินได้อย่างสบายไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร เดินไปชิมไปมีความสุขไปอีกแบบ 555


บนซ้ายพระพุทธรูปในโบสถ์ที่วัดไผ่ล้อม
     บนขวาพระพุทธรูปในโบสถ์วัดปรมัยยิกาวาส
     ล่างซ้ายเจดีย์สัญลักษณ์เกาะเกร็ด
     ล่างซ้ายเจดีย์ชเวดากองด้านหลังโบสถ์วัดไผ่ล้อม

     เพลิดเพลินอยู่กับหมวดช็อปซะเพลิน ย้อนกลับเข้ามาที่หมวดทำบุญต่อดีกว่า แหล่งรวมพลก่อนขึ้นเรือคือ บริเวณท่าน้ำเจดีย์เอียงเกาะเกร็ด เมื่อสมาชิกมากันครบแล้วก็ออกเดินทางไปวัดฉิมพลีกันต่อ


     วัดฉิมพลี หรือ วัดฉิมพลีสุทธาวาส เดิมเป็นวัดโบราณที่ชาวบ้านสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเรียกกันว่า "วัดป่าฝ้าย"


     จากท่าเรือวัดฉิมพลีจะมีเรือพาข้ามฝากไปยังวัดกลางเกร็ด ที่วัดนี้จะมีพระนอน เป็นพระประธานปางมารวิชัย หน้าตัก 3 ศอกคืบ และพระพุทธ ไสยาสน์ ยาว 99 วา สร้างมานานกว่า 100 ปี



     บนซ้าย-ขวาบริเวณของวัดกลางเกร็ด
     ล่างซ้ายพระประธานวัดเชิงเลน
     ล่างขวาหลวงพ่อโต . . . (พลังงานเร่มหมด ไม่ใส่ใจใดๆ ทั้งสิ้น) ประกอบกับไม่ค่อยประทับใจเท่าที่ควรที่วัดนี้ รู้สึกว่าทุกอย่างเริ่มที่จะเป็นธุรกิจมากขึ้น ก็พอที่จะเข้าใจอยู่ว่าการทำบุญต้องทำด้วยจิตใจที่บรสุทธิ์ แต่ที่วัดนี้เริ่มรู้สึกไม่ค่ออยากทำ เป็นตั้งแต่ที่วัดเชิงเลนแล้ว ต้องขออภัยหากเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้ทำให้ศาสนาต้องมัวหมองลง แต่แค่อารมณ์ที่อยากจะบันทึกความรู้สึกที่ได้ไปพบเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่สมควร (อาจคิดไปเอง)

     เริ่มตั้งแต่ที่วัดเชิงเลน พอขึ้นจากเรือก็จะมีพระคุณเจ้ากล่าวต้อนรับ และแนะนำให้เดินไปตามทางเพื่อรับดอกไม้ธูปเทียน ซึ่งก็ใส่ตู้ตามกำลังศรัทธา แต่พอเข้าไปในโบสถ์ (ภาพด้านล่างนี้ที่มีคนอยู่กันเยอะๆ) มีพระคอยสวดเจริญพรให้ แถมท้ายด้วยการเชื้อเชิญให้ทำบุญซื้อที่ดินบริจาคให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว 50 บาท จะได้ใบโฉนดที่ดินให้เอาไปเขียนชื่อบรรพบุรุษแล้วเอาไปเผาไฟอุทิศให้ผู้ล่วงลับ ส่วน 100 บาท ขึ้นไปจะแถมพระพิมพ์ให้ 1 องค์ เดี๋ยวนี้วัดเค้าทำกันอย่างนี้นี่เอง -_-"
     พอมาถึงวัดท่าอิฐ หนักกว่าวัดที่แล้วอีก มีพระอยู่รูปหนึ่งทำหน้าที่กล่าวเชิญชวนให้พุทธศาสนิกชนร่วมกันบริจาคทำบุญ แล้วก็พูดไปเรื่อยเหมือนพยายามเล่าให้ญาติโยมฟังถึงการที่ไม่บริจาคทรัพย์ ไม่ร่วมทำบุญ "ใส่ตู้ดอกไม้ธูปเทียนแล้ว ก็อย่าลืมโพธิ์เงิน โพธิ์ทองนะโยม" เหมือนแกมบังคับเป็นนัยๆ ว่าช่วยติดใบโพธิ์ด้วย เสียความรู้สึกแท้ๆ เลย ยัง ๆไม่จบแค่นั้น ยังเล่าต่อไปว่า "เมื่อาทิตย์ที่แล้ว มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาทำบุญอย่างพวกโยมๆ นี่หล่ะ ช่วงเวลาก็เกือบเย็นๆ อย่างนี้ ฝนก็เริ่มตั้งเค้า อาตมาเห็นเข้าหยิบดอกไม้ธูปเทียนไปบูชาพระแล้ว อาตมาเลยทักเค้าว่า โยมเห็นไม้โพอธิ์มั๊ย เธอคนนั้นก็ตอบว่า เห็น แล้วทำไมเจ้าคะ อาตมาอึ้งเลย หลังจากนั้นโยมก็ไปไหว้พระ พอไหว้เสร็จอาตมาก็ถักเค้าอีกว่าต้นกล้วยสำหรับปักไม้โพธิ์ยังว่างอยู่นะโยม เธอคนนั้นก็ไม่สนใจ แล้วโยมก็เดินออกไป อาตมาก็กำลังจะเดินตามไปส่งที่ท่าเรือ แต่ทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงดังเปรี๊ยง" การที่พระพูดอย่างนี้หมายความว่าไง หมายความว่า การที่โยมคนนั้นไม่ทำบุญด้วยการติดไม้โพธิ์เงินโพธิ์ทองนี่ จะทำให้โยมคนนั้นต้องประสบอุบัติเหตุทันทีเลยเหรอ
     สิ่งที่พระรูปนี้พูดมันทำให้คิดอย่างนั้นจริงๆ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ พระจะพูดอย่างนี้เพื่ออะไร เพื่อให้คนทำบุญให้มากๆ เลยเหรอ ประหลาดเหลือเกินวัดที่นี่ แต่ตอนท้ายก็มาเฉลยด้วยการบอกว่า "เสียงที่ได้ยินดังเปรี๊ยงนั้น คือ ตัวอาตมาสะดุดหกล้มเอง" นี่หรือ คือ พระ?
     การที่เขียนเช่นนี้ไม่ได้มีเจตนาจะหลบหลุ่ศาสนาแต่อย่างใด แต่อยากให้คนเรานับถือศาสนากันด้วยใจมากกว่า มิใช่อาศัยอำนาจเงิน เพราะแท้จริงแล้ว เป้หมายปลายทางของศาสนาพุทธ ก็คือ การนิพพาน หลุดพ้นจากสังสารวัฎ หลุดจากการเวียนว่าย ตาย เกิด ทุกสิ่งล้วนเป็นอนิจจัง แล้วจะไปยึดติดอะไร


     สุดท้ายวัดแสงสิริธรรม และขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม




 

Create Date : 26 กันยายน 2552
2 comments
Last Update : 26 กันยายน 2552 15:21:03 น.
Counter : 988 Pageviews.

 

ว๊าวว สุด ๆ อ่ะ ตั้ง 9 วัดแน่ะ

 

โดย: นายหัว (nindhua ) 3 ตุลาคม 2552 23:18:44 น.  

 

กิน เที่ยว ตลาดริมน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์
ท่ามกลางบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอันร่มรื่น สองข้างทาง ชื่นชมแมกไม้สีเขียว ร้านอาหารและร้านสินค้า OTOP กว่าร้อยร้าน เรียงรายอยู่ภายในวัดใหญ่สว่างอารมณ์ อันเป็นที่ตั้งของตลาดน้องใหม่นาม ‘ตลาดริมน้ำวัดใหญ่สว่างอารมณ์’ และยังสามารถล่องเรือไหว้พระ 9 วัด ฟรี นั้นคือจุดหมายของการท่องเที่ยวในครั้งนี้
มีถึง มกราคม 2553 และวันที่ 1-9 ธันวาคม 2552 มีงานเกริกฟ้าฯจุดพลุ 13 วัดรอบเกาะเกร็ด และต้องขอโทษที่เสียความรู้สึกกับวัดที่ 7 และ 8 ครับให้ถือว่าเป็นคติธรรม

 

โดย: สุขนิรันดร์ ดาวเรือง IP: 125.27.48.229 17 พฤศจิกายน 2552 10:56:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Little_Lek
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




A:hover{color:"#FF00FF";text-decoration: none;position: relative;left: -1px; top: 1;}A:link{color:"#00FFFF";text-decoration:none;}A:visited{color:"#E0FFFF";text-decoration:none;
Friends' blogs
[Add Little_Lek's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.